พรรคการเมืองไม่ควรได้เงินจากรัฐ

สำนักข่าวมติชนรายงานว่าสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.พรรคการเมืองคือ:

ให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยให้สมาชิกพรรคต้องจ่ายค่าสมาชิกพรรคปีละไม่เกิน 200 บาท และรัฐต้องอุดหนุนเงินให้พรรคการเมืองอีก 1 เท่าของเงินค่าธรรมเนียมที่พรรคได้จากสมาชิกพรรค เช่น พรรคก.เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกพรรค 100 บาท จากสมาชิกพรรคได้ 1 ล้านบาท รัฐจะอุดหนุนเงินให้พรรคการเมืองนั้นอีก 1 ล้านบาท รวมเป็น 2 ล้านบาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พรรคการเมืองหาคนดี มีความสามารถมาร่วมพรรค เพื่อให้ประชาชนอยากมาเป็นสมาชิก จากเดิมที่สมาชิกพรรคไม่ต้องเสียค่าการเป็นสมาชิกพรรค

ก่อนอื่นเลย เข้าใจว่าทำไมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ถึงมีไอเดียนี้ ที่ผ่านมาหนึ่งในปัญหาใหญ่ของการเมืองไทยคือพรรคการเมืองเป็นของนายทุนพรรค คงไม่ต้องพูดชื่อก็รู้จักกันดีอยู่ พรรคพวกนี้เป็นเหมือนของเล่น เหมือนเครื่องมือของเจ้าของพรรค อิงตัวบุคคล ใช้เพื่อหาอำนาจ หาผลประโยชน์ ไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนจริงๆ

คำตอบที่ใครๆ ก็เห็นด้วยคือการให้ประชาชนทั่วไปมีส่วมร่วมมากขึ้น ซึ่งพรบ. นี้ก็เน้นไปที่การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคที่จ่ายค่าสมาชิก เป็นเหมือนเจ้าของรายเล็ก เหมือนผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งจขกท. ก็เห็นด้วยกับแนวคิด เพราะมันจะช่วยให้สมาชิกพรรคมีอำนาจภายในพรรคมากขึ้น แต่มองว่าวิถีการนั้นผิด



ถามว่าทำไมผิด? ง่ายๆ เลยคือพรบ. นี้ถ้าผ่านเป็นกฏหมาย จะกลายมาเป็นการ นำเงินส่วนร่วมมาสนับสนุนทางเลือกส่วนตัว
เราทุกคนเข้าใจดีว่าเงินของรัฐ ก็คือเงินภาษี เงินภาษี ก็คือเงินจากประชาชน เงินของทุกคน ใช้ร่วมกัน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ถ้ารัฐจะให้เงินอุดหนุนพรรคการเมืองตามจำนวนเงินที่พรรคหาได้จากสมาชิก ก็แปลว่ารัฐบาลกำลังนำเงินภาษีของทุกคนมาให้กับพรรคการเมืองตามความชอบส่วนตัวของแต่ละคน นี่ขัดกับหลักการการใช่เงินภาษีอย่างชัดเจน การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว การให้เงินพรรคการเมืองไม่ใช่ประโยชน์ส่วนรวม ทำไมพรรคการเมืองถึงควรได้เงินภาษี?

กฏหมายนี้จะเป็นการให้สิทธิพิเศษกับผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อภรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง เพราะมันทำให้คนเหล่านี้มีสิทธินำเงินของส่วนรวมมาให้กับพรรคที่ตัวเองชื่นชอบเป็นการส่วนตัว ส่วนพวกที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เพราะไม่มีพรรคที่ตัวเองชอบเป็นพิเศษ กลับต้องยอมเสียเงินส่วนรวม (เงินภาษี) ที่ตัวเองช่วยจ่าย ไปให้กับคนอื่น โดยที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลย แค่เพราะใครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ได้แปลว่าผู้นั้นควรมีสิทธินำเงินส่วนร่วมไปให้กับพรรคการเมืองที่ตัวเองเป็นสมาชิกพรรค

แบบนี้มันยุติธรรมไหมครับ? มันชอบธรรมไหมครับ?

ผมเข้าใจดีถึงเจตนา เห็นด้วยกับเจตนา แต่เราไม่ควรพยายามแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมภายในพรรคการเมือง ด้วยการสร้างความไม่เท่าเทียมในหมู่ประชาชน ผมสนับสนุนความพยายามที่จะให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในพรรคการเมืองมากขึ้น แต่พรบ. นี้ ผมไม่เห็นด้วยเป็นที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่