ยายไล่หลานออกจากบ้านเพราะจะขายแต่หลานไม่มีที่ไปควรจะทำใงดี

ขอเริ่มต้นที่ตรงนี้ก่อนนะครับ
คือบ้านผมอยู่กันหลายคนจนวันนึงคุณแม่เสียชีวิตในบ้าน
พอหลังทำพิธีอะไรเสร็จแล้วก็ตกลงว่าจะย้ายไปอยู่บ้านป้ากันทั้งหมด เพราะคุณแม่ไม่อยู่ดูแลคุณยายแล้ว
ตอนแรกก็จะตามไปดูแลคุณยายด้วยแต่ว่าโดนคุณป้าชอบทวงบุญคุณ ว่าช่วยเหลืองานแม่อย่างนู้นอย่างนี้
ผมก็เลยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านหลังเดิมหลังที่คุณแม่เสียชีวิต    ผมได้รับมรดก 300,000 บาท จากคุณแม่
และคุณป้ามาขอกู้เงิน 100,000 บาทไป ผมก็เลยคิดว่า ก็ดีเหมือนกันท่าป้ากู้เงิน 100,000 บาทไปก็จะได้ดอกเบี้ย
แต่เงินก้อนนี่ ผมบอกกับคุณป้าว่า เงิน100,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย ยกให้คุณยายทั้งหมด เพื่อที่ว่าคุณยายจะได้พอใช้พอกิน
เพราะผมไม่สามารถไปหาคุณยายได้บ่อยๆเพราะเดินทางก็ไกลอยู่

หลังจากนั้น 2-3 อาทิต  ผมก็กลับไปหาคุณยายที่บ้านป้า ถามว่ายาย เป็นใงบ้างเงินพอใช้ป่าว ยายบอกว่าไม่พอใช้ (ผมคิดในใจมันแปลกๆ)
เลยถามไปว่า แล้วป้าให้เงินยายเท่าไหร่ 3,000 /เดือน
(เดี่ยวนะ 3,000  ก็คืออย่างน้อยป้าต้องออกเงินให้ยายบ้าง ก็เลยคิดว่าเงิน 100,000บาทอยู่ส่วนไหนของ 3,000
หรือ 3,000 ทั้งหมดแล้วแล้วคุณป้าไม่+เงินให้คุณยายสักลาทเลยเหรอหรือใงไม่กล้าถาม)
ก็เลยถามอีกแล้วลุงที่ต่างจังหวัดให้เงินเท่าไหร่เรอครับ 2,000   รวมแล้ว 5,000บาทต่อเดือน  

หลังจากนั้นอีกไม่นานคุณยายก็ด่าผมต่างๆนาๆว่าไม่ดูแลยายอย่างนู้นอย่างนี้   ใจจริงผมก็อยากจะดูแล
แต่ไม่OK กับคุณป้าที่ ทางนั้นเขาก็มี ป้า ลุงเขย ลูกพี่ลูกน้อง แถมหลานอีกคน   คนเยอะจะตาย แถมเงินผมก็ทิ้งไว้ให้
ผมอยู่บ้านที่คุณแม่เสีย ก็สบายดีไม่เจอผีไม่เจออะไร ผมก็พึ่งจะได้งานมาไม่นานมานี้ ก็คิดอยู่ว่า ท่ามีเงินเดือนจะได้ส่งตังให้เพิ่มอีก
เพราะผมคิดว่ากว่า เงิน 100,000 นั้นชาตินี่ก็คิดว่า คุณยายไม่พอใช้พอดีป้าให้แค่ 3,000ต่อเดือนเนี่ย  
เพราะอยากให้คุณยายซื้อของที่ชอบของที่อยากกิน  
อีกอย่างผมไปบ้านป้าทีไร จะเห็นแต่จดหมายทวงหนี้เป็นตั้งเลย  ผมเริ่มสังหรณ์ใจ ไม่ดีแล้ว

จนถึงเดือน กันยา 59 นี้  คุณยายประกาศขายบ้านและให้ผมออกไปหาที่อยู่เองเมื่อขายบ้านได้ เล่นขายผ่านnetกันเลย
ญาติหลายๆคนก็ไม่เห็นด้วยกับการขายบ้าน  แค่คุณป้าเห็นด้วยว่าให้ขายเพราะเขาจะบกว่า ขายๆเหอะยายจะได้มีตัง
ผมนี่พูดอะไรไม่อกเลย  และเขาบกว่าไม่ยอมมาอยู่บ้านป้าเอง (อ่าวก็คนเราจะให้อาใสกันก็ต้องมีความสบายใจสิครับ)
คุณยายก็แก่มากแล้ว80กว่าแล้ว หลงๆลืมๆ  ผมพูดอะไรไปแกก็ไม่ฟังผมพูดว่าเดี่ยวทำบ้านเช่าให้จะได้มีรายได้
คุณยายตอบว่าขี้เกียจซ่อมแซม  ผมบอกว่าเดี่ยวจัดการให้ คุณยายก็พูดอีกว่า แล้วทำห้องเช่าได้เหรอ ตอบเต็มคำว่าได้เพราะแม่สอนมา
แต่คุณยายบอกว่า จะเก็บไว้ทำไมบ้านอะ ผมก็บอกว่า คิดถึงตาสร้างบ้านให้อยู่  แต่คุณยายบอกว่าสร้างให้อยู่จริง
แต่ตาไม่อยู่แล้ว แม่ไม่อยู่แล้ว บ้านหลังนี่คือสิทของยาย ผมนี่พูดไม่ออกเลยทีเดียว ก็เลยตอนนี่นั่งเครียดอยู่ว่า
จะอยู่ได้นานอีกเท่าไหร่และท่ายายขายบ้านได้เนี่ย  เงินขายบ้านนั้นจะแบ่งหรือป่าว  แต่ผมคิดว่าไม่นะเพราะคุณยายเล่นให้ไปหาที่อยู่เอาเอง
หรือผมคิดมากไป พอผมดื้อที่จะอยู่กับโดนคุณป้าด่าว่าหลานเนรคุณ  ทำแบบนี่แม่ที่เสียไปจะดีใจแล้วหรอ
ผมนี่คิดในใจเลยว่าเวรกำอะไรกันเนี่ย แล้วจะไปอยู่ที่ไหน แลดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่คุณยายอยู่บ้านป้ามาเนี่ยคุยแต่เรื่องตัวเลขทั้งนั้น
เหมือนว่าคุณยาย หน้ามือกลายเป็นหลังมือเลย ชื่อที่ดินที่บ้านที่คุณแม่เสียชีวิตคือชื่อของคุณยาย ด้วยสิครับ

ผมควรทำอย่างไรดี    
สมมุติว่าผมเป็นลูกของคุณ  คุณจะช่วยลูกของคุณอย่างไรทั้งๆที่คุณก็ไม่มีเงิน
และความจริงคือยายจะขายบ้านอย่างเดียวเลยไม่เปลี่ยนใจด้วย ครับ  //ตอนนี่รู้สึกแย่มากครับงานก็ฟรีแลนซ์ไปวันๆบ้านก็จะไม่มีให้อยู่
(หาแนวทางใหม่ๆ)
มี กฎหมายคุ้มครองในกรณีแบบนี้ป่าวครับใน
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ย้ายออกไปซะไปหาหอพักหรือเช่าบ้านอยู่ ถ้าทำสัญญาจะเรียกคืนจากป้าหรือไม่แล้วแต่คุณ
หรือจะคิดว่าให้ยายก็แล้วแต่คุณ อย่าไปมองเรื่องเนรคุณเพราะยายให้คุณไปเอง ลูกเขามี
ก็ให้เขาดูและกันไป   ลูกผู้ชายต้องไม่กลัว คุณยังดีมีเงินติดตัวไปบ้างถือไปสร้างอนาคตเอา
ต่อไปยายลำบากหรืออย่างไรก็มากันว่ากัน ค่อยไปแก้ปัญหาตอนนั้น แม่เขาถ้าเขาเลี้ยงไม่ได้ก็ไม่เกี่ยวอะไร
กับคุณ. เขาก็ไม่ได้ถือคุณเป็นลูกหลานสักเท่าไร แล้วคุณจะไปสนใจอะไร เขาก็บอกว่าแม่คุณตายไปแล้ว
ก็แค่นั้น   ลูกผู้ชายเดินออกไปสร้างอนาคตของตัวเองเลย อยู่ไปเขาก็ดูถูกเอา เท่าทีอ่านขายบ้านก็คงได้
ไม่กี่ตังค์. อย่าไปสนใจเขาจะแบ่งให้หรือเปล่า ถ้าแบ่งจะเป็นบุญคุณกันไม่รู้จักจบสิ้น.
    เรื่องแบบนี้กฎหมายไม่คุ้มครองหรอก  และมีปัญหาไปก็ไม่คุ้ม ถ้าร้อยล้านพันล้านค่อย
น่าสน  เดินออกไปเถอะอย่าคิดมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่