۞۞۞۞ :: ขอรู้สึกเศร้าใจกับเวนิสแห่งตะวันออกครับ ::۞۞۞۞ ไทโรครับ

กรุงเทพและไทยเคยได้ชื่อว่าเป็นเวนิสตะวันออก กรุงเทพฯคือศูยน์กลางของประเทศเราสังคมเรา หากสังคมเรามีความแปรปรวนไป ก็เป็นสิ่งที่มักเกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในกรุงเทพฯนั้นเอง แต่เวลานี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผมนึกบทละครพระราชนิพนธ์เรื่อง "เวนิสวาณิช"

เรื่องเวนิสวาณิชเป็นบทพระราชนิพนธ์ที่แปลและแต่งมาจากเรื่อง "the merchant of venice" ของ "วิลเลียม  เชกสเปียร์" ผู้มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ  แต่งขึ้นในค.ศ.1595-1597 ในเนื้อเรื่องนอกจากจะกล่าวถึงความรักของหนุ่มสาว ความรักต่อเพื่อน ยังกล่าวถึงความยุติธรรมและไหวพริบของนางเอกในเรื่อง

ในส่วนที่เกี่ยวกับความยุติธรรม บทละครเวนิสวาณิชนั้น เป็นเรื่องที่  บัสสานิโยซึ่งชอบอยู่กับนางเปอร์เชีย(นางเอก)จึงคิดจะไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย  อันโตนิโยซึ่งมีเงินไม่มาก  จึงไปขอยืมเงิน"ไชล็อก"  พ่อค้าเงินกู้หน้าเลือดชาวยิว  ผู้เป็นศัตรูของอันโตนิโย  จำนวน3,000เหรียญ  แต่มีเงื่อนไขว่า "หากอันโตนิโยหาเงินมาคืนภายใน3เดือนไม่ได้  ข้าก็จะขอเนื้อ1ปอนด์จากร่างกายอันโตนิโย"

เรือสินค้าของอันโตนิโยอับปาง อันโตนิโยไม่มีเงินจะไปจ่ายไชล็อคตามสัญญา บัสสานิโยจึงนำเรื่องไปบอกแก่นางเปอร์เชีย นางจึงมอบเงินแก่บัสสานิโย20เท่าเพื่อนำไปใช้หนี้ไชล็อก   แต่ไชล็อกไม่ต้องการ  เพราะในในคิดว่านี้เป็นโอกาสดีที่จะได้แก้แค้นอันโตนิโยที่เคยด่าว่าและทำร้ายตน

นางเปอร์เชียจึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นบัลถะสาร์ททนายความมาช่วยว่าความให้ ในคดีนั้นนางกล่าวว่า
"ไชล็อกสามารถตัดเนื้อไปจากร่างกายอันโตนิโยได้  แต่ห้ามนำเลือดจากตัวอันโตนิโยไปแม้แต่หยดเดียว  เพราะนั่นไม่มีในสัญญา    และถ้าทำเช่นนั้นจะถูกริบทรัพย์  และถ้าตัดเนื้อน้อยหรือมากว่า1ปอนด์ที่ตกลงไว้  ก็จะถูกประหารชีวิตและถูกริบทรัพย์"  

ไชล็อกจึงยอมแพ้และขอลากลับบ้าน  เพราะรู้ว่าอย่างไรตนก็ต้องแพ้ความ เพราะไม่อาจจะตัดเนื้อออกไปโดยไม่ให้มีเลือดอันโตนิโอติดไปได้ และไม่อาจจะตัดให้พอดีไม่น้อยหรือมากว่า1ปอนด์ที่ตกลงไว้ ทำแบบนั้นไม่ได้

ฉันใดก็ฉันนั้น การที่สังคมหนึ่งๆ จะลงโทษผู้คนในสังคมโดยมิใช่กระบวนการยุติธรรม แต่ตัดสินกันเอาเองแล้วบังคับให้เป็นไปตามนั้น .......มันเป็นธรรมแล้วหรือ  หากแม้เขาผิดจริง แต่รู้ได้อย่างไรว่าเขาต้องชำระเท่านั้นเท่านี้บาท คิดมาจากไหนกัน จำเลยได้มีโอกาสต่อสูคดีหรือไม่ ที่น่าสนใจ หากคิดผิดพลาดไป คิดเกินหรือคิดขาดไปอย่างกรณีไชล็อคนั้น ทำไมจึงไม่ต้องรับโทษ และเช่นนี้จะมีควาเมป็นธรรมดังเวนิสวาณิช ในบทพระราชนิพนธ์หรือ ?

ขอทิ้งท้ายบทกลอนอันเลื่องลือในบทละครนี้ บทที่มีชื่อเสียงในเรื่องนี้ก็คือ

The quality of mercy is not strain'd,
It droppeth as the gentle rain from heaven
ทรงพระราชนิพนธ์แปลความได้ว่า
อันว่าความกรุณาปรานี    จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ    จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน


.......
หากจะไม่กรุณาไม่ปราณีก็ไม่เป็นไรครับ แต่ขอให้มีความเป็นธรรมอย่างในเวนิสวาณิชด้วยเถอะครับ เพื่อความสงบสุขของสังคมเราครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่