ถ้าบอกใครว่าไปเที่ยวอินเดียมาเกือบทุกคนจะคิดถึงการไปแสวงบุญ ตามรอยพระพุทธเจ้าในทางตอนเหนือของอินเดียจากนั้นจะถามถึงความสะอาด คิดถึงอาหารที่ชวนให้ท้องเสีย ขอทาน ความวุ่นวายของผู้คน  แต่ถ้าคุณได้ไป Kochi เมืองนี้จะทำให้เปลี่ยนมุมมองในแบบเก่า ๆ ที่คนไทยมีต่อแขก ให้เป็นหลงเสน่ห์ของเมืองเก่าแห่งอินเดียใต้เมืองนี้กันเลยทีเดียว
    เริ่มจากในทริปนี้คุณครูใหญ่ของพวกเราได้เจอโปรโมชั่นตั๋วถูกของสายการบินแอร์เอเชีย ที่บินตรงจาก ดอนเมือง ถึง โกชิ  ครูใหญ่ชักชวนในกลุ่มที่ชอบถ่ายรูป ซึ่งก็มีทั้งช่างภาพมืออาชีพ และตากล้องมือสมัครเล่นแบบผม ทุกคนตอบตกลงทันทีที่ครูใหญ่ชักชวน รวบรวมสมาชิกได้ทั้งหมด 10 คน ส่วนตัวผมตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดกันเลยเพราะด้วยราคาตั๋วเครื่องบิน ไปกลับ ราคาถูก รวมค่าที่พัก  ค่าอาหาร เราหารกันแล้วใช้เงินไม่ถึง10,000 บาท...หลังจากนั้นครูใหญ่ก็เปิดกลุ่ม ใน Face book พูดคุยหาข้อมูลการท่องเที่ยวกัน ซึ่งในตอนแรกเราวางแผนเดินทางกัน 5 วัน วางแผนเที่ยวเมืองเก่า ไปดูการยกยอแบบอินเดีย แต่หาข้อมูลไปๆมาๆ พี่แก้มไปเจอโปรแกรมการแข่งเรืองูที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย จัดในช่วงที่เราไปพอดีที่เมือง อะเลปเป้ ห่างจาก โกชิ ประมาณ 60 กม. พวกเราตกลงอยู่ต่อแบบไม่ต้องคิดอีกเช่นกันเพราะถือเป็นความโชคดีที่ไปครั้งเดียวได้เห็นหลาย ๆ อย่างพร้อมกันเลยเพิ่มโปรแกรมเป็น 7 วัน ครูใหญ่จะเป็นคนที่คอยเป็นหลักในการนัดแนะหาข้อมูล และเตรียมตัวที่จะเดินทาง ก่อนเดินทางประมาณ 10 กว่าวันก็รวบรวมเอกสารกันเพื่อยื่นขอทำ วีซ่า ทาง Online (E VISA)  ใช้เวลา ยื่น และ รอประมาณ 3 วัน ก็ได้รับ VISA ใช้เวลาอยู่ในอินเดียได้ 34 วันนับจากวันที่อนุมัติวีซ่า   ถึงวันเดินทาง เรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง ประมาณ 2 ทุ่ม เพราะหลายท่านต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัดทั้งภาคใต้ ภาคเหนือ รวมทั้งผมด้วย เช็คอินตั๋ว โหลดของเรียบร้อย ก็เดินเข้าไปในเกตฯ เวลาเหลือ ๆ รอเครื่องออกจากสนามบินดอนเมือง 22.55 PM ใช้เวลา ประมาณสามชั่วโมงกว่า ถึง โกชิ 12.45 AM ( เวลาที่อินเดียช้ากว่าเมืองไทย 1.30 ชั่วโมง) พอลงเครื่องก็ต้องผ่านการตรวจวีซ่า (มีช่องเฉพาะ E VISA) ซึ่งมีแค่กลุ่มเรา 10 คน และ ฝรั่งอีก2-3 คนเท่านั้น จึงใช้เวลาไม่นานมาก ลงจากสนามบินมา มีรถมินิบัส จอดรอเราแล้ว (ครูใหญ่ติดต่อจองทาง Onlineไว้) รับเราจากสนามบิน ตรงไปโรงแรมฝั่งเมืองเก่า Fort Kochi ใช้เวลา น่าจะประมาณ ชั่วโมงได้ ถึงโรงแรมที่พัก Fort Abode จัดว่าสะอาด ห้องพักดีทีเดียว ห้องใหญ่ 1 ห้อง มีห้องเตียงคู่ 2 สองนอน ห้องครัว ห้องโถงใหญ่  ราคาห้องพัก คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 1600 บาท จัดว่าถูกและดีทีเดียวเราพักที่นี่สองคืน ก่อนจะย้ายไป พักในรีสอร์ทที่เมืองอะเลปเป้ สองคืน และกลับมาพักที่ Kochin (เป็นฝั่งเมืองใหม่ย่านความเจริญ) อีกสองคืน ส่วนคืนสุดท้าย ยุบเหลือ ห้องเดียว เพื่อเก็บของ กับ อาบน้ำเปลี่ยนชุดรอขึ้นเครื่อง รวมทั้งหมด 7 วัน 7 คืน ในโกชิ อินเดีย เมืองที่ทำให้เราหลงเสน่ห์ของเมืองเก่าไปแล้วอยากกลับไปอีก.....ขอเล่าด้วยภาพตามลำดับเท่าที่จำได้ละกันนะครับ....


โรงแรม ในสองคืนแรก  Fort  Abode  อยู่ไกล้ ๆ กับ โบสถ์ St.Francis และ โรงละคร แสดงคาทาคารี สามารถเดินจากโรงแรมไปถึง จุดชมยกยอ (Chinese Fishing Nets) ได้เลย โรงแรมที่ดูจากข้างนอกเหมือนเล็ก ๆ แต่ด้านในไม่เล็กเลยสภาพห้องจัดว่าดีทีเดียว


ตื่นเช้าเดินออกมาปากซอยโรงแรมเห็นเด็ก ๆ ขี่จักยานไปโรงเรียน ก่อนเข้าโรงเรียนแวะโบสถ์ไหว้พระเจ้า เป็นภาพที่ดูแล้วน่ารักดี
เด็กนักเรียนที่นี่ พอเห็นกล้อง วิ่งมาหาเลย แล้วก็เล่นกับกล้อง เอาจนถ่ายรูปแทบไม่ทัน
ที่โคชิไม่มี 7-11 นะครับ มีร้านขายคล้ายโชว์ห่วย ขายน้ำอัดลม ขนม ของใช้ แต่ ไม่มีเหล้าเบียร์ และบุหรี่
ไปไหน ก็จ้างตุ๊ก ๆ ครับ ค่าจ้างไม่แพง 40 รูปี แต่ตุ๊ก ๆ บางคันจะพยายามพาเราเที่ยวรอบเมืองและพาไปแวะร้านช็อปปิ้งเพื่อรับคูปองน้ำมัน คิดประมาณ คน ละ 100 รูปี ถ้าไม่ไปช็อปปิ้งต้องตกลงให้ดี
อันนี้ตุ๊ก ๆ พามาดูร้านซักรีดยังซักผ้าแบบใช้ไม้ทุบ รีดผ้าบางคนใช้เตารีดถ่าน (หนักมาก)

บรรยากาศแถบๆ ตลาดเครื่ืองเทศ มีของเก่า ๆ ขายด้วย รวมทั้งรูปถ่ายขาวดำ ตกใบละ 200รูปี
มื้อกลางวันแรกในตลาดเครื่องเทศ ถ้าเจอข้าเม็ดใหญ่แบบนี้ จะแข็ง ๆ แห้ง ๆ หน่อย คนอินเดียจะใช้มือเปิบ แต่คนไทยแบบเราไม่ถนัดก็ขอช้อนได้
คนที่นี่ใช้จักรยานเยอะมาก
บรรยากาศบริเวณจุดยกยอ Chinese Fishing Nets มีปลาสด ๆ ขาย
ในวันแรกเจอเมฆฝนได้แสงยกยอแบบแรกไปแล้วเรากลับไปอีกครั้ง ได้เห็นพระอาทิตย์ตก กับ Chinese Fishing Nets
การแสดงระบำคจาคารี เป็นการแสดงละครแบบท่าทาง มีการแต่งหน้าด้วยสมุนไพรและอธิบายท่าทางก่อนทำการแสดง
จากเมืองโคชิ ห่างออกมาอีก60กม ถึงเมืองอะเลปเป้ เราตั้งใจมาดูแข่งเรืองูที่ใหญ่ที่สุดที่นี่ เลยพักรีสอร์ทติดไม่น้ำเลย ค่าที่พักประมาณ คืนละ 1800/หลังเช้า ๆ เดินจากรีสอร์ไปดูแข่งเรือ หรือจะล่องเรือก็ได้
ทีมเรือแข่ง
การแข่งเรือยิ่งใหญ่ สนุกสนาน และ คนดูเยอะมากสองฝั่งแม่น้ำ Kerala backwaters งานนี้ปลอดภัยครับ มีตำรวจยืนทุก 10 เมตร และไม่มีขี้เมา ดูแข่งเรือเสร็จเช้าอีกวันเราล่องเรือชมวิถึชีวิตสองฝั่งแม่น้ำ  มีจอดเรือแวะร้านน้ำชาด้วย เลยได้เข้าไปชมบ้านสาวน้อยอินเดียหลังจากล่องเรือเสร็จพวกเราเดินทางออกจากอะเลปเป้ ให้รถขับไปทางเรียบชายฝั่ง คนขับรถ ชื่อนเรศ พาขับไปตามเส้นทางลัดเลาะหมู่บ้านชายทะเล อยากจอดตรงไหนพี่นเรศก็จอดให้ทันที และไม่ลืมพาไปดูชายฝั่งทะเล อะลาเบียน พี่นเรศ คนขับรถ พาชมพิพิธภัณฑ์ Kerala Folklore Theelre & Museum ที่เป็นการรวบรวมประติมากรรมศิลปะของอินเดีย ทีทั้งศิลปะที่เกี่ยวของกับพระพุทธเจ้าและความเชื่อต่างๆ ที่เราคุ้นเคย เกิดขึ้นจากการสะสมของ George Thaliath  มหาวิหาร Santa Cruz และพักร่างที่โรงแรม Travancore ในเมือง โคชิน (ย่านเมืองใหม่) โรงแรมหรู สะอาด อาหารบุพเฟ่ให้เลือกเยอะ  ราคาห้องพัก ตกราคาคืนละ 1600 บาท  ยังมีเรื่องราวความประทับใจอีกมากในเมืองนี้ เอาไว้ค่อย ๆ เอารูปมาลงและเล่าให้ฟัง หรือดูจากอัลบั้ม ในนี้ครับhttps://www.facebook.com/montree.teera/media_set?set=a.1050272651688954.1073741926.100001186888072&type=3  ทริปนี้ ขอบคุณครูใหญ่ เพื่อนร่วมทริป และ AirAsia ที่ออกโปรโมชั่นตั๋วถูก ให้พวกเราเที่ยวโคชิแบบสบายกระเป๋า