เป็นครั้งแรกที่ขอรีวิวการท่องเที่ยวใน Pantip ครับ พอดีได้ไปเที่ยวอินเดียรอบที่ 2 หลังเคยไปแคชเมียร์เมื่อปี 2022 

เหตุผลที่อยากเล่าเรื่องราวทริปนี้ เพราะเห็นว่าความกลัวในการเที่ยวอินเดียของคนไทยยังเยอะอยู่ แต่มันกลับเป็นที่นึงที่เราชอบมากๆ รักมากๆ และหลายความเชื่อที่คนไทยมี มันก็ไม่จริงเลย เลยตัดสินใจอยากทำโพสต์นี้เพื่อเล่าถึงทริปเรา เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้คนที่อยากไปแล้วไม่มีข้อมูล 

รอบนี้เราจะเดินทางใน Route ราชาสถาน 6 วัน 4 คืน ทัวร์ที่เราไปจัดโดย Go India ครับ ขอผมจะเป็นรอบวันที่ 28 ธันวาคม กลับถึงไทยวันที่ 2 มกราคม 



ก่อนจะลงภาพการท่องเที่ยว ขอเล่าสิ่งที่เป็นการทำลายความเชื่อเดิมๆ ของการเที่ยวอินเดียก่อนนะครับ

ปัญหากินอาหาร 

ชื่ออว่าหลายคนคงกลัวเรื่องการกิน และการเข้าห้องน้ำในอินเดีย แต่ทริปนี้บอกเลยว่า เรื่องกิน บริษัททัวร์ไทยคือให้เราทานเกือบทุกมื้อในโรงแรมที่พัก และนอกจากอาหารโลคอลแล้ว บางมื้อมีอาหารตะวันตกด้วย พวกพาสต้า เบเกอรี่ ตอนเช้ากับตอนเย็น และบางทัวร์ก็มีอาหารไทยจากหัวหน้าทัวร์ด้วย ทัวร์ไทยเตรียมทั้งขาหมู ผัดเปรี้ยวหวานไปให้ ยันน้ำพริกเลย ใครอยากไปอินเดียและไม่ลำบากเรื่องการกิน หรือเจออาหารไม่สะอาด และนำให้ไปกับทัวร์ครับ 

ห้องน้ำ

ห้องน้ำ จริงอยู่ว่า มีเคสที่เจอห้องน้ำแย่ที่ตรงรอขึ้นอูฐที่ทะเลทรายธาร์ และห้องน้ำปั้มระหว่างเดินทาง 1 จุดในเดลี ซึ่งห้องน้ำแรกที่มีปัญหาเพราะมันเสีย ส่วนปั้มอันที่สอง ไม่ได้อยู่ในแพลนทริป แต่ต้องเข้าเพราะรถติดในวันขึ้นปีใหม่ แล้วคนในทริปทนไม่ไหว จนต้องจอดกลางทาง แต่ห้องน้ำที่เหลือที่เราเจอในอินเดีย คือสะดวกและสะอาดไม่แพ้ที่ไทยเลย มีที่ฉีดล้างด้วย ไม่ต้องกลัวอย่างที่คิด

สิ่งต้องเตรียมตัว หรือควรทำเวลาไป  

 ทิป
อินเดียคือประเทศที่รันโดยทิปอย่างแท้จริง แม้ค่าครองชีพถูก แต่คนที่ให้บริการเรียกทิปเรื่อยๆ เลย นี่คือทริปที่เราต้องจ่ายทิปคนขับและไกด์ตั้งแต่สนามบินที่ไทย และไปโอนเงินให้พี่หัวหน้าทัวร์ไทยตอนจะกลับอีกที คือเที่ยวมา 20 กว่าประเทศ นี่คือประเทศที่เสียทิปเยอะที่สุด  

และพอไปถึงอินเดีย เวลาใครพยายามเข้ามาช่วย หรืออาสามาช่วยก็จะขอทิปต่อทันที ซึ่งจุดที่เราว่าพีคมากๆ คือตอนอยู่ในทัชมาฮาล มีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทำทีมาชี้ของประดับในทัชมาฮาล และโชว์ความเสียงก้องของทัชมาฮาล ก่อนจะหันมาพูดกับเราว่า ขอทิปหน่อย ทั้งๆ ที่เราจ่ายค่าเข้า และมองว่าสิ่งที่เขาทำให้เราดู มันควรอยู่ในค่าบัตรแล้วนะ

ช็อปปิ้ง

เวลาไปสถานที่ต่างๆ นั่งรถข้ามเมือง จะมีจุดพักรถที่มีขายของที่ระลึกหรือโรงแรม ซึ่งขอบอกเลยว่าขายแพงมาก ถ้าไปทัวร์แบบเรา วันสุดท้ายเขาพาแวะร้านหิมาลายัน ที่มีขายของที่ระลึก อันนี้ราคาโอเคหน่อย และอีกที่ที่เหมาะกับการซื้อมากๆ คือ ใน Duty Free เพราะมีขายครบเลย ถูกกว่าข้างนอกไปอีก บอกเลยว่ารู้สึกแปลกมากๆ ที่มาเที่ยวแล้วของที่ขายราคาแฟร์สุด คือในสนามบินขาออก แถมแก้วเซรามิก Starbuck ที่ขายสนามบินก็สวยกว่าแก้วของที่ระลึกหลายๆ ที่ และราคาใช้ได้เลยคือ 750 รูปี หรือประมาณ 330 บาท 

ว่าแล้วมาดูรูปและบันทึกการเดินทางคร่าวๆ แต่ละวันกันเลยครับ