นมัสเต 🙏🏻 ถ้าพูดถึงประเทศอินเดีย หลายคนคงจะเก็บเอาไว้เป็นปลายทางสุดท้ายแน่นอน แต่กระทู้นี้จะทำให้ความคิดของทุกคนเปลี่ยนไป อินเดียมีมากกว่าที่ทุกคนคิด เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอารยธรรมและมีมนต์เสน่ห์แบบไม่เหมือนใคร พร้อมแล้วหรือยัง ลุย!!!
สรุปค่าใช้จ่ายก่อนการเดินทาง
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 8,919.14 บาท
- ค่า E-VISA 2,657.07 บาท
- ค่าซิมอินเตอร์เน็ต 399 บาท.
- รวม 11,975.21 บาท
———————————————————
วันที่ 1 (3/4/2019)
เราเลือกเดินทางด้วยสายการบิน #แอร์เอเชีย ใช้เวลาเดินทางจากดอนเมือง - ชัยปุระประมาณ 4 ชั่วโมง เราได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับต่อคนในราคา 8,919.14 บาท (รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัมและอาหารบนเครื่องเรียบร้อย)แต่ก่อนบินทุกคนอย่าลืมไปทำวีซ่าด้วยนะไม่งั้นเข้าประเทศอินเดียไม่ได้นะ
https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/
ตามลิงค์นี้เลย เราโดนค่า E-VISA ไปคนละ 2,657.07 บาท
ส่วนเรื่องอินเตอร์เน็ตเราเลือกใช้ #Sim2fly ของ #AIS ในราคา 399 บาท
ภาพอาหารบนเครื่อง
หลังจากถึงสนามบินชัยปุระแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจ VISA และให้ใบกรอกเข้าเมืองมาเสร็จแล้วก็มาต่อแถว ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านตม. เรียบร้อยแล้วครับ
ภาพใบขาเข้าตม. และ E-Visa
ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าการคมนาคมอินเดียค่อนข้างโหดเราเลยเลือกใช้บริการเหมารถเที่ยวตลอดทั้งทริป 5วัน4คืน น่าจะสะดวกกว่าเราติดต่อจากบริษัทนี้เลย
http://www.autotravelsagra.com/
ติดต่อง่ายผ่านทาง Whatapps ตั้งแต่ก่อนบิน ตกลงราคาและเส้นทางเรียบร้อยอยู่ที่ 12,500 รูปี
พอออกมาจากสนามบินชัยปุระเราจะเห็นคนมารอรับเพียบเลย มองหาชื่อสักพักก็เจอชื่อเราแล้วกับคนขับรถเค้าชื่อว่า BHARAT นั่นเอง นิสัยดีสุภาพมาก พยายามทำความเข้าใจภาษาอังกฤษง่อยๆของพวกเรา #คือดีย์อ่ะ
ในคืนแรกเราคงยังไม่ได้ไปไหนเราขอให้เค้าพาไปเช็คอินที่โรงแรม Pandya Niwas สำหรับพักผ่อนค่ำคืนนี้ โดนไปในราคา 1,200 รูปี
ภาพของโรงแรม Pandya Niwas
ถึงภายนอกโรงแรมจะดูน่ากลัวเพราะยังรีโนเวทอยู่แต่ภายในห้องพักและห้องรับประทานบอกเลยว่าสุดยอดมากๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้คำชมและคะแนนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
ภาพบรรยากาศภายในห้องพัก
ภาพบรรยากาศวิวภายนอกโรงแรม
ที่สำคัญวิวยังสวยมากๆ แถมเดินทางไปยังถนนสายหลักได้ไม่ไกลอีกด้วย
สำหรับวันที่ 1 โดนค่าใช้จ่ายไปดังนี้
- ค่าโรงแรม 1,200 รูปี (2คน)
- ค่าเหมารถ 12,500 รูปี
รวมค่าใช้จ่าย 13,700 รูปีหรือ 6,028 บาท
———————————————————
วันที่ 2 (4/4/2019)
เราเริ่มต้นอาหารเช้าฉบับอินเดียที่โรงแรมง่ายๆ ในราคา 662 รูปีสำหรับ 2 คน ถือว่าไม่แพง
ภาพบรรยากาศในห้องอาหาร
ภาพเมนูอาหารมื้อเช้า Farmer Breakfast และ English Breakfast
หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็เดินทางไปจุดแรกกันคือ Amber Fort โดยระหว่างทาง BHARAT คนขับรถของเราได้แวะจอดไฮไลท์ คือ Hawa Mahal
สถานที่ Hawa Mahal
หลังจากนั้นไม่นานเราก็มาถึงจุดถ่ายรูปที่มี Amber Fort เป็นแบล็คกราว แน่นอนมีแขกมาเป่าปี่โชว์งูเห่าให้ดูด้วย เคยเห็นแต่ในทีวีบ้านเรามันเป็นอะไรที่อินเดียมากๆ ว้าวเลย เราเลยให้ค่าน้ำใจไป 20 รูปี (แขกแอบบ่นว่าน้อย 555)
ตอนแรกเราตั้งใจจะนั่งช้างขึ้นไปข้างบนกัน แต่ด้วยความที่ BHARAT เห็นว่าเราถามราคาขี่ช้างหลายรอบมาก+อากาศร้อน เค้าเลยอาสาจะพาขึ้นไปข้างบนด้วยรถยนต์ ใจดีไปอีก
ภาพร้านค้าระหว่างทาง
ระหว่างทางก็จะผ่านหมู่บ้านและร้านค้าขายของมากมาย
ไม่นานเราก็ขึ้นมาถึง Amber Fort มันสวยมากตั้งแต่ทางเข้า สถานที่นี้คือพระราชวังและป้อม Amber Fort สร้างอยู่บนเนินเขาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput)
ภาพบรรยากาศ Amber Fort
หลังจากถ่ายรูปรัวๆแล้ว เราก็เดินทางไปยังสถานที่ต่อไปคือ Jal Mahal พระราชวังกลางน้ำซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล
สถานที่ Jal Mahal
เราใช้เวลาจากตรงนี้ไม่นานก็เดินทางต่อไปยังเมืองอัครา (Agra) ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ระหว่างทาง BHARAT ได้แวะที่ Abhaneri บ่อน้ำขั้นบันไดโบราณ ในช่วงศตวรรษที่ 9 เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ กษัตริย์ Chanda จึงรวบรวมชาวเมืองมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างบ่อน้ำขึ้น เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ โดยขุดบ่อลึกถึง 100 ฟุต ขนาดสูง 13 ชั้น มีจำนวนขั้นบันไดทั้งหมด 3,500 ขั้น
ภาพบรรยากาศ Abhaneri
ในฝั่งตรงข้ามมีวัด Harshad Mata เป็นวัดที่มีความเชื่อว่าสร้างถวายให้กับเทพธิดาแห่งความสุขและความรื่นเริง โดยเมื่อเราเดินขึ้นไปด้านบนของวิหารจะมีพราหมณ์ใจดี เรียกเราเข้าไปเจิมหน้าผากและอวยพรให้เราด้วย เราให้สินน้ำใจไปคนละ 100 รูปีเพื่อความเป็นสิริมงคล
สถานที่ Harshad Mata
หลังจากอิ่มบุญเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังเมืองอัครา ระหว่างทางเราแวะทานอาหารอินเดียที่ Rudra Mahal Midway Mahua เราสั่ง Chicken Shaslik, Omelette Cheese, Mushroom Soup และ Yogurt โดนไป 1,300 รูปี
นั่งรถมายาวๆต่อเราก็มาถึงเมืองอัครากันแล้ว เราเช็คอินกันที่โรงแรม Hotel Genga Ratan สำหรับ 2 คืน โดนไปเลย 5,270 รูปี
ภาพโรงแรมสำหรับค่ำคืนนี้ (Google)
สำหรับวันที่ 2 สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้
ค่าอาหาร 1,962 รูปี (2คน)
ค่าเข้า Alber Fort 1,000 รูปี (2คน)
ค่าทำบุญ+ทิป 220 รูปี (2คน)
ค่าอื่นๆ 300 รูปี
ค่าโรงแรม Hotel Genga Ratan สำหรับ 2 คืน 5,270 รูปี
รวมค่าใช้จ่าย 8,752 รูปีหรือ 3,850.88 บาท
———————————————————
วันที่ 3 (5/4/2019)
วันนี้ตอนแรกเราตั้งใจจะไปทัชมาฮาลกันแต่ด้วยผลของการไม่ทำการบ้านเลยทำให้ไม่รู้ว่า
ทัชมาฮาลปิดทุกวันศุกร์เราจึงไปที่ Agra Fort แทน
สำหรับในเมืองอัครา ทุกๆสถานที่ท่องเที่ยวเราจะได้ส่วนลดมากกว่าคนชาติอื่นๆ เพราะประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจหรือ BIMSTEC (Bay of Bengal Initiative Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation)
ดังนั้นให้พก Passport ติดตัวไปด้วยทุกที่นะไม่เช่นนั้นเราอาจจะไม่ได้รับส่วนลด
สำหรับ Agra Fort หรือป้อมแดง เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นโดยใช้เวลาที่ยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้น และป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สนาม และอาคารทางเดินโดยรอบทั้งอาคารหินทรายสีแดง ค่าเข้าชมคนละ 40 รูปี
ภาพบรรยากาศ Agra Fort
หลังจากชมความงดงามเสร็จเราก็มา Itimad ud daulah tomb สุสานหินอ่อนอิตมัดอุดดุลลาห์ เป็นต้นแบบของทัชมาฮาลนั่นเอง ค่าเข้าชมคนละ 25 รูปี พอเข้ามาถึงด้านในจะมีคนอินเดียมารับฝากรองเท้าเพราะเค้าไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไป เราให้เค้าไปคนละ 10 รูปี
ภาพบรรยากาศ Itimad ud daulah tomb หรือ Little Taj Mahal
[CR] รีวิวชัยปุระ - อัครา ประเทศอินเดีย 5 วัน 4 คืน By Phatter
สรุปค่าใช้จ่ายก่อนการเดินทาง
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 8,919.14 บาท
- ค่า E-VISA 2,657.07 บาท
- ค่าซิมอินเตอร์เน็ต 399 บาท.
- รวม 11,975.21 บาท
———————————————————
วันที่ 1 (3/4/2019)
เราเลือกเดินทางด้วยสายการบิน #แอร์เอเชีย ใช้เวลาเดินทางจากดอนเมือง - ชัยปุระประมาณ 4 ชั่วโมง เราได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับต่อคนในราคา 8,919.14 บาท (รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัมและอาหารบนเครื่องเรียบร้อย)แต่ก่อนบินทุกคนอย่าลืมไปทำวีซ่าด้วยนะไม่งั้นเข้าประเทศอินเดียไม่ได้นะ
https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/
ตามลิงค์นี้เลย เราโดนค่า E-VISA ไปคนละ 2,657.07 บาท
ส่วนเรื่องอินเตอร์เน็ตเราเลือกใช้ #Sim2fly ของ #AIS ในราคา 399 บาท
ภาพอาหารบนเครื่อง
หลังจากถึงสนามบินชัยปุระแล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจ VISA และให้ใบกรอกเข้าเมืองมาเสร็จแล้วก็มาต่อแถว ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านตม. เรียบร้อยแล้วครับ
ภาพใบขาเข้าตม. และ E-Visa
ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าการคมนาคมอินเดียค่อนข้างโหดเราเลยเลือกใช้บริการเหมารถเที่ยวตลอดทั้งทริป 5วัน4คืน น่าจะสะดวกกว่าเราติดต่อจากบริษัทนี้เลย
http://www.autotravelsagra.com/
ติดต่อง่ายผ่านทาง Whatapps ตั้งแต่ก่อนบิน ตกลงราคาและเส้นทางเรียบร้อยอยู่ที่ 12,500 รูปี
พอออกมาจากสนามบินชัยปุระเราจะเห็นคนมารอรับเพียบเลย มองหาชื่อสักพักก็เจอชื่อเราแล้วกับคนขับรถเค้าชื่อว่า BHARAT นั่นเอง นิสัยดีสุภาพมาก พยายามทำความเข้าใจภาษาอังกฤษง่อยๆของพวกเรา #คือดีย์อ่ะ
ในคืนแรกเราคงยังไม่ได้ไปไหนเราขอให้เค้าพาไปเช็คอินที่โรงแรม Pandya Niwas สำหรับพักผ่อนค่ำคืนนี้ โดนไปในราคา 1,200 รูปี
ภาพของโรงแรม Pandya Niwas
ถึงภายนอกโรงแรมจะดูน่ากลัวเพราะยังรีโนเวทอยู่แต่ภายในห้องพักและห้องรับประทานบอกเลยว่าสุดยอดมากๆ ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้คำชมและคะแนนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
ภาพบรรยากาศภายในห้องพัก
ภาพบรรยากาศวิวภายนอกโรงแรม
ที่สำคัญวิวยังสวยมากๆ แถมเดินทางไปยังถนนสายหลักได้ไม่ไกลอีกด้วย
สำหรับวันที่ 1 โดนค่าใช้จ่ายไปดังนี้
- ค่าโรงแรม 1,200 รูปี (2คน)
- ค่าเหมารถ 12,500 รูปี
รวมค่าใช้จ่าย 13,700 รูปีหรือ 6,028 บาท
———————————————————
วันที่ 2 (4/4/2019)
เราเริ่มต้นอาหารเช้าฉบับอินเดียที่โรงแรมง่ายๆ ในราคา 662 รูปีสำหรับ 2 คน ถือว่าไม่แพง
ภาพบรรยากาศในห้องอาหาร
ภาพเมนูอาหารมื้อเช้า Farmer Breakfast และ English Breakfast
หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็เดินทางไปจุดแรกกันคือ Amber Fort โดยระหว่างทาง BHARAT คนขับรถของเราได้แวะจอดไฮไลท์ คือ Hawa Mahal
สถานที่ Hawa Mahal
หลังจากนั้นไม่นานเราก็มาถึงจุดถ่ายรูปที่มี Amber Fort เป็นแบล็คกราว แน่นอนมีแขกมาเป่าปี่โชว์งูเห่าให้ดูด้วย เคยเห็นแต่ในทีวีบ้านเรามันเป็นอะไรที่อินเดียมากๆ ว้าวเลย เราเลยให้ค่าน้ำใจไป 20 รูปี (แขกแอบบ่นว่าน้อย 555)
ตอนแรกเราตั้งใจจะนั่งช้างขึ้นไปข้างบนกัน แต่ด้วยความที่ BHARAT เห็นว่าเราถามราคาขี่ช้างหลายรอบมาก+อากาศร้อน เค้าเลยอาสาจะพาขึ้นไปข้างบนด้วยรถยนต์ ใจดีไปอีก
ภาพร้านค้าระหว่างทาง
ระหว่างทางก็จะผ่านหมู่บ้านและร้านค้าขายของมากมาย
ไม่นานเราก็ขึ้นมาถึง Amber Fort มันสวยมากตั้งแต่ทางเข้า สถานที่นี้คือพระราชวังและป้อม Amber Fort สร้างอยู่บนเนินเขาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput)
ภาพบรรยากาศ Amber Fort
หลังจากถ่ายรูปรัวๆแล้ว เราก็เดินทางไปยังสถานที่ต่อไปคือ Jal Mahal พระราชวังกลางน้ำซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล
สถานที่ Jal Mahal
เราใช้เวลาจากตรงนี้ไม่นานก็เดินทางต่อไปยังเมืองอัครา (Agra) ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ระหว่างทาง BHARAT ได้แวะที่ Abhaneri บ่อน้ำขั้นบันไดโบราณ ในช่วงศตวรรษที่ 9 เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ กษัตริย์ Chanda จึงรวบรวมชาวเมืองมาร่วมด้วยช่วยกันสร้างบ่อน้ำขึ้น เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติน้ำ โดยขุดบ่อลึกถึง 100 ฟุต ขนาดสูง 13 ชั้น มีจำนวนขั้นบันไดทั้งหมด 3,500 ขั้น
ภาพบรรยากาศ Abhaneri
ในฝั่งตรงข้ามมีวัด Harshad Mata เป็นวัดที่มีความเชื่อว่าสร้างถวายให้กับเทพธิดาแห่งความสุขและความรื่นเริง โดยเมื่อเราเดินขึ้นไปด้านบนของวิหารจะมีพราหมณ์ใจดี เรียกเราเข้าไปเจิมหน้าผากและอวยพรให้เราด้วย เราให้สินน้ำใจไปคนละ 100 รูปีเพื่อความเป็นสิริมงคล
สถานที่ Harshad Mata
หลังจากอิ่มบุญเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังเมืองอัครา ระหว่างทางเราแวะทานอาหารอินเดียที่ Rudra Mahal Midway Mahua เราสั่ง Chicken Shaslik, Omelette Cheese, Mushroom Soup และ Yogurt โดนไป 1,300 รูปี
นั่งรถมายาวๆต่อเราก็มาถึงเมืองอัครากันแล้ว เราเช็คอินกันที่โรงแรม Hotel Genga Ratan สำหรับ 2 คืน โดนไปเลย 5,270 รูปี
ภาพโรงแรมสำหรับค่ำคืนนี้ (Google)
สำหรับวันที่ 2 สรุปค่าใช้จ่ายดังนี้
ค่าอาหาร 1,962 รูปี (2คน)
ค่าเข้า Alber Fort 1,000 รูปี (2คน)
ค่าทำบุญ+ทิป 220 รูปี (2คน)
ค่าอื่นๆ 300 รูปี
ค่าโรงแรม Hotel Genga Ratan สำหรับ 2 คืน 5,270 รูปี
รวมค่าใช้จ่าย 8,752 รูปีหรือ 3,850.88 บาท
———————————————————
วันที่ 3 (5/4/2019)
วันนี้ตอนแรกเราตั้งใจจะไปทัชมาฮาลกันแต่ด้วยผลของการไม่ทำการบ้านเลยทำให้ไม่รู้ว่า ทัชมาฮาลปิดทุกวันศุกร์เราจึงไปที่ Agra Fort แทน
สำหรับในเมืองอัครา ทุกๆสถานที่ท่องเที่ยวเราจะได้ส่วนลดมากกว่าคนชาติอื่นๆ เพราะประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจหรือ BIMSTEC (Bay of Bengal Initiative Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) ดังนั้นให้พก Passport ติดตัวไปด้วยทุกที่นะไม่เช่นนั้นเราอาจจะไม่ได้รับส่วนลด
สำหรับ Agra Fort หรือป้อมแดง เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่สร้างขึ้นโดยใช้เวลาที่ยาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพงสองชั้น และป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สนาม และอาคารทางเดินโดยรอบทั้งอาคารหินทรายสีแดง ค่าเข้าชมคนละ 40 รูปี
ภาพบรรยากาศ Agra Fort
หลังจากชมความงดงามเสร็จเราก็มา Itimad ud daulah tomb สุสานหินอ่อนอิตมัดอุดดุลลาห์ เป็นต้นแบบของทัชมาฮาลนั่นเอง ค่าเข้าชมคนละ 25 รูปี พอเข้ามาถึงด้านในจะมีคนอินเดียมารับฝากรองเท้าเพราะเค้าไม่อนุญาตให้ใส่รองเท้าเข้าไป เราให้เค้าไปคนละ 10 รูปี
ภาพบรรยากาศ Itimad ud daulah tomb หรือ Little Taj Mahal
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้