อินเดียไปทำไม? ไปทำไมอินเดีย? เที่ยวชัยปุระ(Jaipur)-อัครา(Agra) พิสูจน์คำถามและหาคำตอบให้ตัวเอง

สวัสดีค่ะ ครั้งนี้กลับมาแบ่งปันประสบการณ์เที่ยวประเทศอินเดีย เมืองชัยปุระ-อัครา ซึ่งช่วงนี้ดูเหมือนว่ากำลังเป็นที่นิยมและโด่งดังพอสมควร และนี่เป็นเหตุผลให้อยากหาคำตอบว่ามันอเมซิ่งหรือน่าสนใจตามที่เลื่องลือกันหรือเปล่า😎 ก่อนเดินทาง ทำการบ้านและอ่านรีวิวมาบ้างพอสมควร กำหนดการเที่ยวคือ 16-21 ธันวาคม 2018 วีซ่าหนูเลือกทำแบบ E-Tourist Visa India วิธีการทำก็กูเกิ้ลดูได้เลยค่ะ มีหลายเว็บอธิบายไว้อย่างละเอียด ราคาวีซ่าอยู่ที่ 80 USD ต่อคนค่ะ ยื่นไปสองวันก็ได้แล้ว รวดเร็วสุดๆ🤩 หน้าตาวีซ่าจะประมาณนี้😊

การแลกเงิน หนูแลกที่SuperRich สาขาแถวเซนทรัลเวิร์ลค่ะ แลกวันที่29/11/2561 เรท 1฿=2.22Rs บังเอิญได้แต่ฉบับละ 500 รูปี

การเดินทางใช้บริการของ Thai smile ทั้งขาไปและขากลับ มาเดินทางไปพร้อมๆกันนะคะ😘
16/12/2018 เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินเวลา 21:25
ถึงสนามบินในชัยปุระตีสอง(17/12/2018)ตามเวลาท้องถิ่นของอินเดีย ทางโรงแรมมีรถมารับ แต่เกิดความผิดพลาดของการระบุเวลามาถึงของหนูเอง😝 รถของโรงแรมจึงกลับไปก่อนที่หนูจะถึง จึงต้องพึ่งพี่ Taxi(ตุ้กตุ้ก) ที่สนามบินตรงทางออก เอาที่อยู่โรงแรมให้เค้าดู เสนอราคามาที่ 300 รูปี(ที่พักชื่อ The Saneer Jaipur จองผ่าน booking.com) ถึงที่พักก็เวลาปาเข้าไปเกือบตีสามครึ่ง😴
17/12/2018 ตื่นมาด้วยความรู้สึกที่ยังง่วงมากจากที่พักสามารถเห็นวิวของ Patrika Gate

บ้านคนรอบๆแถวนั้น ดูแปลกตาดีค่ะ
นัดคนขับรถไว้ 8โมงเช้าค่ะ เค้ามาเลทประมาณครึ่งชั่วโมง จุดมุ่งหมายแรกที่เราจะไปคือ Hawa Mahal มาดูบรรยากาศระหว่างทางกันค่ะ





พอคร่าวๆ มากกว่านี้เดี๋ยวตกใจกันก่อน😂 ตัดเหตุการณ์มาถึงที่Hawa Mahal กันค่ะ พี่คนขับรถพาขึ้นมาบน Wind View Cafe ซึ่งบนนี้สามารถมองเห็น Hawa Mahal ที่จริงเห็นมีหลายคาเฟ่ใกล้ๆกันนะคะ แต่พี่คนขับน่าจะมีคอนแท็คกับร้านนี้


วิวที่ได้จากร้านค่ะ นั่งพักดื่มน้ำ สั่งอาหาร ชมวิวเล็กน้อย แล้วก็ข้ามฝั่งมาซื้อบัตรเพื่อเข้าชมภายใน Hawa Mahal ราคาบัตรจะอยู่ที่ 1000 รูปี แต่ในราคานี้รวมค่าเข้าชมที่ต่างๆ ตามรายการได้ แต่มีอายุภายใน 2 วัน

วิวจากด้านหน้าถนน
มาชมวิวจากภายในกันค่ะ



จะเห็นว่า หน้าต่างมีขนาดเล็กนิดเดียวสำหรับมองออกไปข้างนอก



จากตรงนั้นมองไปยังด้านหลังของพระราชวัง



ใช้เวลาไม่มาก ณ ตรงนี้ค่ะ เพราะแดดร้อนแสบมาก คนก็เยอะ แน่นมาก และบางส่วนอยู่ในช่วงกำลังปรับปรุงค่ะ จุดหมายต่อไปคือวัดฮินดู Galta Ji Temple ดูสภาพบรรยากาซรอบๆขณะเดินทางไปก่อนเนอะ😅



ต้องบอกว่ากว่าจะผ่านแต่ละที่ได้ ค่อนข้างใช้เวลา เพราะรถเยอะมากๆ Galta Ji Temple ลักษณะก็จะเป็นวัดที่ล้อมรอบดูภูเขาหินสูง ค่าเข้าชม 50 รูปี ต่อกล้อง 1 ตัวค่ะ




วัดนี้อาจเรียกอีกชื่อว่าวัดลิงค่ะ ลิงเยอะมาก แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ คือลิงผอม น่าสงสารมาก หดหู่ใจ เลยไม่ถ่าย

จากนั้นไปทานอาหารเที่ยงที่ Cafe Palradio การจัดแต่งสวยดีค่ะ




ราคาอาหารที่นี่ก็ถือว่าแอบแพงนิดๆ แต่เหมือนจ่ายค่าวิวอะเนอะ😂 ห้องน้ำสะอาดเยี่ยมเลยค่ะ
จากนั้นพี่คนขับรถได้พาไปที่บ้านน้องสาวเค้า เพื่อที่จะให้ใส่ชุดสาหรี่ เข้าชม The Rayal Palace พี่เค้าบอกจะได้มีรูปสวยๆ

ราคาเข้าชมค่ะ




ภาพจากภายนอก มีความงามของการตกแต่งประดับประดา🤩 มาชมภายในกันค่ะ
พี่ทหารคอยเปิดประตูให้สำหรับเข้าชมด้านใน💂‍♀️





ช่วงที่กำลังชมอยู่ เป็นเวลาใกล้ปิดแล้ว เลยได้แต่เดินชมแบบรีบๆ และเริ่มมืดแล้วค่ะ




บางมุมถ่ายรูปไม่ได้เพราะพี่ทหารบอกว่า พระราชาและราชวงศ์อยู่ในวังตอนนี้ ดูจากธง ถ้าธงขึ้นสูงสุดแบบนี้แสดงว่าท่านอยู่ในวัง ถ้าธงลดต่ำ แสดงว่าท่านออกไปนอกเมืองแล้ว

เลยได้แต่เก็บบรรยากาศเท่าที่สามารถทำได้ก่อนกลับออกมาค่ะ




เหมือนจะเป็นนักท่องเที่ยวคนสุดท้าย😂 แม้กระนั้นพี่ไกด์ก็ยังหลอกพามาร้านขายของค่ะ โดนผ้าพันคอไป 1500 รูปี  กลับออกมาจากร้านแบบงงๆ😂 ค่ำแค่ไหนดูเอาค่ะ


กลับที่พักด้วยความอิดโรย  สั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้อง รอดไป 1 มื้อ เจอกันอีกทีพรุ่งนี้ค่ะ😇
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่