สมัครสมาชิก Pantip มาก็เนิ่นนานแต่ยังไม่กล้าเขียนรีวิวสักที วันนี้เลยมีโอกาสเขียนรีวิวครั้งแรกกับการเดินทางที่ต้องห้ามพลาด เมื่อเราได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาต่างประเทศ ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ห่างไกลกับบ้านเรามาก นั่นก็คือ อินเดีย...ดินแดนของชาวฮินดี โดยผมได้แบ่งรีวิวออกเป็น 6 Episode
Episode 1 : People watching in Jaipur City
Episode 2 : Jaipur (The Pink City)
Episode 3 : Agra (The Majestic of the Taj!)
Episode 4 : Khajuraho (The Erotic Allure of India)
Episode 5 : Varanasi : (The Circle of Life)
Episode 6 : Delhi : (The Capital of India)
เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมก็เริ่มสั้นๆ กระชับ และรวดเร็ว สำหรับการเขียนในครั้งนี้
การเข้าอินเดีย เราจะเข้าอินเดียได้ก็ต่อเมื่อเราทำวีซ่า ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถยื่นขอวีซ่าออนไลน์ได้ที่
https://indianvisaonline.gov.in/visa/index.html โดยวิธีการกรอกวีซ่าก็สามารถหาได้ในกระทู้เยอะมาก
ซึ่งผมก็แนะนำและทำตามกระทู้นี้ >>
https://ppantip.com/topic/36543637 ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าเบ็ดเสร็จก็อยู่ที่ 82 USD ต่อ 1 คน สามารถเข้าออกได้ 2 ครั้ง ภายใน 6 เดือน
เมื่อได้วีซ่าเสร็จแล้ว เราก็ยื่นได้ที่สนามบินเมืองที่เราลงได้เลย
การเดินทาง
การเดินทางในครั้งนี้ ก็ใช้บริการ "แอร์เอเชีย" สายการบินยอดฮิตของคนไทย กับการเดินทาง กรุงเทพ - ชัยปุระ ทั้งไปและกลับ โดยใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง
ซึ่งก่อนเดินทางก็ได้ยินกิตติศัพท์อันเลื่องชื่อของคนอินเดียมาพอสมควร กับสุภาษิตที่ว่า "เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อนที่จะตีงู" ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เลื่องลือกัน เจอมากับตัวเองทั้งๆที่ยังอยู่ที่ดอนเมือง พี่แขกก็แซงคิวเราไป Check - in เคาน์เตอร์ซะอย่างนั้น ไล่ให้ไปต่อแถวก็ไม่ไป...เห้อกลุ้มใจ และเชื่อว่าทุกคนที่บินไปกับคนอินเดียในเส้นทางนี้ คงเจอประสบการณ์ที่พี่เค้าเนียนนั่งที่นั่ง Upgrade ระหว่างบิน ทั้งๆที่ชื้อที่นั่งธรรมดา ขณะน้องแอร์สุดสวยมาไล่ไปกับที่พี่แกยังเนียนทำเป็นนอนซะอย่างนั้น...เห็นแล้วแอบสงสารแอร์ในเส้นทางนี้พอสมควร!! ซึ่งในที่สุดเราก็ถึงสนามบินชัยปุระ เราจะนอนที่นี่ทั้งหมด 2 คืน และเที่ยวเมืองชัยปุระทั้งหมด 2 วัน ก่อนจะเดินทางต่อไปเมืองอัครา
Episode 1 : People watching in Jaipur City
ภาพชุดนี้ ตั้งใจถ่ายใช้สีแนวขาว-ดำ เพราะอยากสื่อถึงความหดหู่ของคนที่เกิดในประเทศอินเดีย ที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่สภาพประเทศที่เห็น คือ ผู้คนที่ต้องตีนถีบปากกัด เพื่อความอยู่รอดในแต่ละวัน ทำให้เรามาคิดว่า เราโชคดีมากที่เกิดในประเทศไทย และมีอาหารอร่อยๆ ถูกสุขลักษณะให้กิน แต่สิ่งที่ชอบอย่างนึง คือ คน สัตว์ สิ่งของ ทุกอย่างอยู่บนถนน ไม่มีการแบ่งชนชั้น วรรณะ ช้าง ม้า หมู อูฐ หมา แมว เดินกลางถนนนึกว่าห้างสรรพสินค้า เสียงแตรที่ดังมากทั่วทุกสารทิศ สี่แยกวัดใจที่ไม่มีไฟจราจร รถทุกคันที่บุบ สิ่งเหล่านี้หายากในเมืองไทย เพราะนี่คืออินเดีย...
Episode 2 : Jaipur (The Pink City)
ขอนำเสนอภาพสถานที่ท่องเที่ยวในชัยปุระชื่อดังที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
- Amber Fort
- Jal Mahar
- City Palace
- Hawa Mahar
- Janter Manter
- Nahargrah Fort
- Isarlate
- Gatore Ki Chhatriyan
**เกร็ดความรู้** อนุสรณ์สถานมหาราชาแห่งชัยปุระ : Gatore Ki Chhatriyan สถานที่ที่ถูกใช้ถวายพระเพลิงให้กับมหาราชาหลายพระองค์ของชัยปุระ เป็นสถานที่เล็กๆ สงบ ล้อมรอบด้วยเทือกเขา สถาปัตยกรรมที่นี่จะเป็นทรงโดม ผลงานแกะสลักและสิ่งก่อสร้างจากหินอ่อน ส่วนตัวชอบที่นี่ ทั้งสถาปัตยกรรมและการแกะสลักที่อ่อนช้อยงดงาม และไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน...
หลังจากที่เต็มอิ่มกับเมืองชัยปุระ เราก็เดินทางต่อไปยังเมืองอัครา ซึ่งในครั้งนี้เราจองที่นั่งแบบ 2AC Class **ถ้าใครมีโอกาสนั่งรถไฟในอินเดีย แนะนำให้จองที่นั่งตั้งแต่ชั้น 2AC Class ขึ้นไป เพื่อความสบายของแต่ละท่าน**
ภาพบรรยากาศในรถไฟชั้น 2AC Class
Episode 3 : Agra (The Majestic of the Taj!)
หลังจากที่เดินทางโดยรถไฟมาถึงที่อัคราเราก็นอนที่นี่ 1 วัน และเที่ยว 1 วัน ก่อนที่จะชมภาพเมืองอัคราก็ขอเล่าประวัติคร่าวๆ เมืองอัคราเป็นเมืองอิสลาม เป็นเมืองที่รวยจากพวกสุลต่านที่อพยพมาจากทางเปอร์เชีย เมืองค่อนข้างสะอาดและไม่ค่อยมีคนจรจัด มีประชากร 4 ล้านคน และอาหารที่นี่ทานได้เพราะมี Mcdonald KFC Pizzahut เหมาะสำหรับคนทานยากๆ
**เกร็ดความรู้** Taj Mahal คนส่วนใหญ่จะนึกว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของ king กับ queen ที่ปกครองในสมัยก่อนแล้ว queen
ตายก่อน king king เลยสร้าง taj mahal เพื่อรำลึกถึงความรักให้ queen แต่จริงๆแล้ว taj mahal มีก่อนแล้วเพราะ taj mahal ในสมัยก่อน คือ พระราชวังของ king
- Tah Mahal
- Itimad ud daulah tomb (Baby Taj mahal)
- Agra Fort
- Akbar Tomb Sikandra
- Mehtab Bagh (Tah Mahal back side)
เมื่อเที่ยวหน่ำใจเสร็จ เราก็เดินทางต่อไปยังเมืองขจุราโฮ ซึ่งในครั้งนี้เราก็เดินทางโดยรถไฟเช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือที่นั่งรถไฟแบบ 2AC Sleeper Class
Episode 4 : Khajuraho (The Erotic Allure of India)
เมืองขจุราโฮ ค่อนข้างจะชนบทมาก เดินทางโคตรลำบาก นั่งรถไฟนานมาก แค่ระยะทาง 400 กิโล ใช้เวลาไปประมาณ 10 ชั่วโมง (นักท่องเที่ยวนับได้ประมาณ 10 คน) เราใช้เวลาอยู่ที่เมืองขจุราโอ 2 วัน กับ 1 คืน
ประวัติคร่าวๆ เมืองขจุราโฮเป็นเมืองเล็กหนึ่งเมืองในอินเดีย จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมการแกะสลักรูปปั้นนู้นต่ำที่แพร่หลายไปยังพม่า กัมพูชา และไทย และรูปปั้นที่มีชื่อเสียงกามสูตร ที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม มีจุดชมศิลปะอยู่ 3 จุดหลักๆ คือ ทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และทิศใต้ มีวัดประมาณ 20 วัดให้ได้เสพย์...ลองมาดูและจะติดใจ
Western Group of Temples
- Kandariya Mahadev Temple
- Devi Jagadambi Temple
Eastern Group of Temples
- Vamana Temple
- Javari Temple
Southern Group of Temples
- Adinath Temple
- Parasvanatha Temple
หลังจากที่เสพย์ศิลปะนูนต่ำกามสูตร พอสมควรก็ถึงเวลาที่จะต้องโบกมือลา เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองพาราณสี ซึ่งในครั้งนี้เราก็เดินทางโดยรถไฟเช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือ จะต้องเปลี่ยนรถไฟ 2 เที่ยว ที่สถานีกลางทางจ้า (ซึ่งภาพที่คิดไว้แต่แรก อันนี้แหละมันคือการเดินทางที่ลำบากสุดในทริปครั้งนี้แล้ว) ซึ่งเราก็จองที่นั่งรถไฟแบบ 2AC Sleeper Class ทั้ง 2 เที่ยว โดยเที่ยวแรกเราจะนั่งจาก Khajuraho > MAHOBA Junction เพื่อนั่งอีกขบวนจาก MAHOBA Junction > Varanasi
ภาพบรรยากาศสถานีรถไฟขจุราโฮ
เมื่อมาถึงสถานี Mahoba สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถไฟขบวนที่จองดันเทไปไม่ถึงพาราณสี เมื่อรถไฟสิ้นสุดที่สถานี Allahabad ทำไงละที่นี่เรา
โชคดีที่เจอหนุ่มวิศวะใจดีชาวอินเดียที่เป็นไกด์และพาเราขึ้นรถไฟต่อจาก Allahabad ไปพาราณสี (แต่ครั้งนี้นั่งรถไฟชั้น 3 รถไฟที่เลืองชื่อของชาวอินเดีย ยังดีที่ไม่ต้องเบียดเมื่อในคลิปที่เราเห็น)
ภาพบรรยากาศสถานีรถไฟ Mahoba
รถไฟชั้น 3 อินเดีย
Episode 5 : Varanasi : (The Circle of Life)
หลังจากที่รบราฆ่าฟันกับรถไฟอินเดียที่เดินทาง 700 กิโล แต่ใช้เวลาเดินทาง 20 ชั่วโมง เราใช้เวลาอยู่ที่เมืองพาราณสี 2 วัน กับ 1 คืน บอกเลยว่าเหนื่อยมากไม่มีแรงจะทำอะไรใดๆทั้งสิ้น ถึงพาราณสีสิ่งแรงที่ทำคืออาบน้ำก่อนเลย ยังดีที่โรงแรมน้ำแรงพอใช้ได้ เลยทำให้หายเหนื่อยได้ระดับนึง...ก่อนที่จะชมความสวยงามของเมืองพาราณสี ขอเล่าประวัตินิดนึง เมืองพาราณสีเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย ตอนนี้ 4000 กว่าปีแล้ว เป็นเมืองที่มันสุดยอดมาก มีครบทุกรสชาติ อาบน้ำ เล่นน้ำ เผาศพ ครบที่นี่ที่เดียว มีท่าเรือที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่า 80 ท่า และในครั้งนี้จำนำเสนอภาพกับชีวิตที่สวยงามในเมืองพาราณสี (Beautiful life in Varanasi)
- Ganga River
**เกร็ดความรู้**
พิธี Ganga Aarti หรือพิธีคงคาอารตี คือ การบูชาไฟ เชื่อกันในหมู่ชาวฮินดูว่า การบูชาเทพทั้งปวงจะไม่สมบูรณ์ถ้าหากขาดการบูชาไฟ และการบูชาไฟจะมอบความสุขให้กับผู้ที่บูชา Ganga Aarti ก็คือการบูชาพระแม่คงคาด้วยไฟ พิธีจะเริ่มประมาณหกโมงครึ่งของทุกวัน ทุกคนจะมาล้อมรอบที่บูชา เพื่อชื่นชมความงามและสวดมนต์ตามไปด้วยกัน เป็นการขอคมาและขอพรจากพระแม่คงคา ทั้งทริปเรายกให้ที่นี่ดีสุดในอินเดีย อยากเห็นวัฒนธรรมอินเดียต้องมาที่นี่...
- Ganga Aarti
แทบไม่อยากจากเมืองนี้ไป แต่งานเลี้ยงก็ย่อมมีวันที่เลิกลา ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางต่อไปยังเมืองเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ซึ่งครั้งนี้เราไม้ได้เดินทางโดยรถไฟแล้ว เราใช้บริการเครื่องบินแทน กับสายการบินแอร์อินเดียบินประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงสนามบิน Indira Gandhi ในเมืองเดลี
Episode 6 : Delhi : (The Capital of India)
เดลี คือ เมืองหลวง คนเยอะ เดินทางสะดวก สนามบินสวย
- Qutab Minar
- Agrasen ki baoli
[CR] India...Believe It or Not! 10 วัน 10 คืน กับ 5 เมือง Japiur Agra Khajuraho Varanasi Delhi กับชีวิตที่โคตร Strong...
Episode 1 : People watching in Jaipur City
Episode 2 : Jaipur (The Pink City)
Episode 3 : Agra (The Majestic of the Taj!)
Episode 4 : Khajuraho (The Erotic Allure of India)
Episode 5 : Varanasi : (The Circle of Life)
Episode 6 : Delhi : (The Capital of India)
เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมก็เริ่มสั้นๆ กระชับ และรวดเร็ว สำหรับการเขียนในครั้งนี้
การเข้าอินเดีย เราจะเข้าอินเดียได้ก็ต่อเมื่อเราทำวีซ่า ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถยื่นขอวีซ่าออนไลน์ได้ที่ https://indianvisaonline.gov.in/visa/index.html โดยวิธีการกรอกวีซ่าก็สามารถหาได้ในกระทู้เยอะมาก
ซึ่งผมก็แนะนำและทำตามกระทู้นี้ >> https://ppantip.com/topic/36543637 ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าเบ็ดเสร็จก็อยู่ที่ 82 USD ต่อ 1 คน สามารถเข้าออกได้ 2 ครั้ง ภายใน 6 เดือน
เมื่อได้วีซ่าเสร็จแล้ว เราก็ยื่นได้ที่สนามบินเมืองที่เราลงได้เลย
การเดินทาง
การเดินทางในครั้งนี้ ก็ใช้บริการ "แอร์เอเชีย" สายการบินยอดฮิตของคนไทย กับการเดินทาง กรุงเทพ - ชัยปุระ ทั้งไปและกลับ โดยใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง
ซึ่งก่อนเดินทางก็ได้ยินกิตติศัพท์อันเลื่องชื่อของคนอินเดียมาพอสมควร กับสุภาษิตที่ว่า "เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อนที่จะตีงู" ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เลื่องลือกัน เจอมากับตัวเองทั้งๆที่ยังอยู่ที่ดอนเมือง พี่แขกก็แซงคิวเราไป Check - in เคาน์เตอร์ซะอย่างนั้น ไล่ให้ไปต่อแถวก็ไม่ไป...เห้อกลุ้มใจ และเชื่อว่าทุกคนที่บินไปกับคนอินเดียในเส้นทางนี้ คงเจอประสบการณ์ที่พี่เค้าเนียนนั่งที่นั่ง Upgrade ระหว่างบิน ทั้งๆที่ชื้อที่นั่งธรรมดา ขณะน้องแอร์สุดสวยมาไล่ไปกับที่พี่แกยังเนียนทำเป็นนอนซะอย่างนั้น...เห็นแล้วแอบสงสารแอร์ในเส้นทางนี้พอสมควร!! ซึ่งในที่สุดเราก็ถึงสนามบินชัยปุระ เราจะนอนที่นี่ทั้งหมด 2 คืน และเที่ยวเมืองชัยปุระทั้งหมด 2 วัน ก่อนจะเดินทางต่อไปเมืองอัครา
Episode 1 : People watching in Jaipur City
ภาพชุดนี้ ตั้งใจถ่ายใช้สีแนวขาว-ดำ เพราะอยากสื่อถึงความหดหู่ของคนที่เกิดในประเทศอินเดีย ที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่สภาพประเทศที่เห็น คือ ผู้คนที่ต้องตีนถีบปากกัด เพื่อความอยู่รอดในแต่ละวัน ทำให้เรามาคิดว่า เราโชคดีมากที่เกิดในประเทศไทย และมีอาหารอร่อยๆ ถูกสุขลักษณะให้กิน แต่สิ่งที่ชอบอย่างนึง คือ คน สัตว์ สิ่งของ ทุกอย่างอยู่บนถนน ไม่มีการแบ่งชนชั้น วรรณะ ช้าง ม้า หมู อูฐ หมา แมว เดินกลางถนนนึกว่าห้างสรรพสินค้า เสียงแตรที่ดังมากทั่วทุกสารทิศ สี่แยกวัดใจที่ไม่มีไฟจราจร รถทุกคันที่บุบ สิ่งเหล่านี้หายากในเมืองไทย เพราะนี่คืออินเดีย...
Episode 2 : Jaipur (The Pink City)
ขอนำเสนอภาพสถานที่ท่องเที่ยวในชัยปุระชื่อดังที่ต้องห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
- Amber Fort
- Jal Mahar
- City Palace
- Hawa Mahar
- Janter Manter
- Nahargrah Fort
- Isarlate
- Gatore Ki Chhatriyan
**เกร็ดความรู้** อนุสรณ์สถานมหาราชาแห่งชัยปุระ : Gatore Ki Chhatriyan สถานที่ที่ถูกใช้ถวายพระเพลิงให้กับมหาราชาหลายพระองค์ของชัยปุระ เป็นสถานที่เล็กๆ สงบ ล้อมรอบด้วยเทือกเขา สถาปัตยกรรมที่นี่จะเป็นทรงโดม ผลงานแกะสลักและสิ่งก่อสร้างจากหินอ่อน ส่วนตัวชอบที่นี่ ทั้งสถาปัตยกรรมและการแกะสลักที่อ่อนช้อยงดงาม และไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน...
หลังจากที่เต็มอิ่มกับเมืองชัยปุระ เราก็เดินทางต่อไปยังเมืองอัครา ซึ่งในครั้งนี้เราจองที่นั่งแบบ 2AC Class **ถ้าใครมีโอกาสนั่งรถไฟในอินเดีย แนะนำให้จองที่นั่งตั้งแต่ชั้น 2AC Class ขึ้นไป เพื่อความสบายของแต่ละท่าน**
ภาพบรรยากาศในรถไฟชั้น 2AC Class
Episode 3 : Agra (The Majestic of the Taj!)
หลังจากที่เดินทางโดยรถไฟมาถึงที่อัคราเราก็นอนที่นี่ 1 วัน และเที่ยว 1 วัน ก่อนที่จะชมภาพเมืองอัคราก็ขอเล่าประวัติคร่าวๆ เมืองอัคราเป็นเมืองอิสลาม เป็นเมืองที่รวยจากพวกสุลต่านที่อพยพมาจากทางเปอร์เชีย เมืองค่อนข้างสะอาดและไม่ค่อยมีคนจรจัด มีประชากร 4 ล้านคน และอาหารที่นี่ทานได้เพราะมี Mcdonald KFC Pizzahut เหมาะสำหรับคนทานยากๆ
**เกร็ดความรู้** Taj Mahal คนส่วนใหญ่จะนึกว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของ king กับ queen ที่ปกครองในสมัยก่อนแล้ว queen ตายก่อน king king เลยสร้าง taj mahal เพื่อรำลึกถึงความรักให้ queen แต่จริงๆแล้ว taj mahal มีก่อนแล้วเพราะ taj mahal ในสมัยก่อน คือ พระราชวังของ king
- Tah Mahal
- Itimad ud daulah tomb (Baby Taj mahal)
- Agra Fort
- Akbar Tomb Sikandra
- Mehtab Bagh (Tah Mahal back side)
เมื่อเที่ยวหน่ำใจเสร็จ เราก็เดินทางต่อไปยังเมืองขจุราโฮ ซึ่งในครั้งนี้เราก็เดินทางโดยรถไฟเช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือที่นั่งรถไฟแบบ 2AC Sleeper Class
Episode 4 : Khajuraho (The Erotic Allure of India)
เมืองขจุราโฮ ค่อนข้างจะชนบทมาก เดินทางโคตรลำบาก นั่งรถไฟนานมาก แค่ระยะทาง 400 กิโล ใช้เวลาไปประมาณ 10 ชั่วโมง (นักท่องเที่ยวนับได้ประมาณ 10 คน) เราใช้เวลาอยู่ที่เมืองขจุราโอ 2 วัน กับ 1 คืน
ประวัติคร่าวๆ เมืองขจุราโฮเป็นเมืองเล็กหนึ่งเมืองในอินเดีย จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมการแกะสลักรูปปั้นนู้นต่ำที่แพร่หลายไปยังพม่า กัมพูชา และไทย และรูปปั้นที่มีชื่อเสียงกามสูตร ที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม มีจุดชมศิลปะอยู่ 3 จุดหลักๆ คือ ทิศตะวันตก ทิศตะวันออก และทิศใต้ มีวัดประมาณ 20 วัดให้ได้เสพย์...ลองมาดูและจะติดใจ
Western Group of Temples
- Kandariya Mahadev Temple
- Devi Jagadambi Temple
Eastern Group of Temples
- Vamana Temple
- Javari Temple
Southern Group of Temples
- Adinath Temple
- Parasvanatha Temple
หลังจากที่เสพย์ศิลปะนูนต่ำกามสูตร พอสมควรก็ถึงเวลาที่จะต้องโบกมือลา เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองพาราณสี ซึ่งในครั้งนี้เราก็เดินทางโดยรถไฟเช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติม คือ จะต้องเปลี่ยนรถไฟ 2 เที่ยว ที่สถานีกลางทางจ้า (ซึ่งภาพที่คิดไว้แต่แรก อันนี้แหละมันคือการเดินทางที่ลำบากสุดในทริปครั้งนี้แล้ว) ซึ่งเราก็จองที่นั่งรถไฟแบบ 2AC Sleeper Class ทั้ง 2 เที่ยว โดยเที่ยวแรกเราจะนั่งจาก Khajuraho > MAHOBA Junction เพื่อนั่งอีกขบวนจาก MAHOBA Junction > Varanasi
ภาพบรรยากาศสถานีรถไฟขจุราโฮ
เมื่อมาถึงสถานี Mahoba สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถไฟขบวนที่จองดันเทไปไม่ถึงพาราณสี เมื่อรถไฟสิ้นสุดที่สถานี Allahabad ทำไงละที่นี่เรา
โชคดีที่เจอหนุ่มวิศวะใจดีชาวอินเดียที่เป็นไกด์และพาเราขึ้นรถไฟต่อจาก Allahabad ไปพาราณสี (แต่ครั้งนี้นั่งรถไฟชั้น 3 รถไฟที่เลืองชื่อของชาวอินเดีย ยังดีที่ไม่ต้องเบียดเมื่อในคลิปที่เราเห็น)
ภาพบรรยากาศสถานีรถไฟ Mahoba
รถไฟชั้น 3 อินเดีย
Episode 5 : Varanasi : (The Circle of Life)
หลังจากที่รบราฆ่าฟันกับรถไฟอินเดียที่เดินทาง 700 กิโล แต่ใช้เวลาเดินทาง 20 ชั่วโมง เราใช้เวลาอยู่ที่เมืองพาราณสี 2 วัน กับ 1 คืน บอกเลยว่าเหนื่อยมากไม่มีแรงจะทำอะไรใดๆทั้งสิ้น ถึงพาราณสีสิ่งแรงที่ทำคืออาบน้ำก่อนเลย ยังดีที่โรงแรมน้ำแรงพอใช้ได้ เลยทำให้หายเหนื่อยได้ระดับนึง...ก่อนที่จะชมความสวยงามของเมืองพาราณสี ขอเล่าประวัตินิดนึง เมืองพาราณสีเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย ตอนนี้ 4000 กว่าปีแล้ว เป็นเมืองที่มันสุดยอดมาก มีครบทุกรสชาติ อาบน้ำ เล่นน้ำ เผาศพ ครบที่นี่ที่เดียว มีท่าเรือที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่า 80 ท่า และในครั้งนี้จำนำเสนอภาพกับชีวิตที่สวยงามในเมืองพาราณสี (Beautiful life in Varanasi)
- Ganga River
**เกร็ดความรู้**
พิธี Ganga Aarti หรือพิธีคงคาอารตี คือ การบูชาไฟ เชื่อกันในหมู่ชาวฮินดูว่า การบูชาเทพทั้งปวงจะไม่สมบูรณ์ถ้าหากขาดการบูชาไฟ และการบูชาไฟจะมอบความสุขให้กับผู้ที่บูชา Ganga Aarti ก็คือการบูชาพระแม่คงคาด้วยไฟ พิธีจะเริ่มประมาณหกโมงครึ่งของทุกวัน ทุกคนจะมาล้อมรอบที่บูชา เพื่อชื่นชมความงามและสวดมนต์ตามไปด้วยกัน เป็นการขอคมาและขอพรจากพระแม่คงคา ทั้งทริปเรายกให้ที่นี่ดีสุดในอินเดีย อยากเห็นวัฒนธรรมอินเดียต้องมาที่นี่...
- Ganga Aarti
แทบไม่อยากจากเมืองนี้ไป แต่งานเลี้ยงก็ย่อมมีวันที่เลิกลา ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางต่อไปยังเมืองเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ซึ่งครั้งนี้เราไม้ได้เดินทางโดยรถไฟแล้ว เราใช้บริการเครื่องบินแทน กับสายการบินแอร์อินเดียบินประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงสนามบิน Indira Gandhi ในเมืองเดลี
Episode 6 : Delhi : (The Capital of India)
เดลี คือ เมืองหลวง คนเยอะ เดินทางสะดวก สนามบินสวย
- Qutab Minar
- Agrasen ki baoli
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้