บันทึกประสบการณ์ดีๆช่วงวันหยุดฤดูร้อนที่ยาวนาน ครั้งแรกของการเป็น WWOOFer ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายในชนบทที่ญี่ปุ่น ... เป็นวันหยุดที่ได้มีโอกาสทำอะไรเป็นครั้งแรกหลายอย่างแบบนับไม่ถ้วน ได้มิตรภาพดีๆกลับบ้านมาเป็นของแถม และ ได้ลองทำความฝันเล็กๆให้เป็นจริง ... กระทู้นี้ตั้งใจจะเขียนเล่าประสบการณ์จริง เพื่อเป็นแนวทางและข้อมูลสำหรับคนที่สนใจจะไป WWOOF ถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ขอแนะนำตัวสักหน่อย … ชื่อพลอยค่ะ ตอนนี้เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ที่โตเกียว ระยะเวลา 1 ปีเต็ม …

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ WWOOF ? … เรื่องมันมีอยู่ว่า ช่วงปิดเทอมหน้าร้อนมันช่างยาวนานร่วม 2 เดือน
บางคนอาจจะคิดว่า ทำไมไม่กลับไทย? … กลับไปนี่รับรองว่าภาษาญี่ปุ่นที่เรียนมาจะหายหมด
ไปเที่ยวสิงั้น? … อันนี้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ แต่จะให้เที่ยว 2 เดือนเต็มนี่คงจะหมดตัว

ด้วยคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เค้าบอกว่าลองไป WWOOF สิ

แล้วเจ้า WWOOF ที่ว่านี่มันคืออะไร?

WWOOF ย่อมาจาก “World Wide Opportunities on Organic Farms” อธิบายแบบบ้านๆก็คือ เป็นองกรณ์ที่สร้างเครือระหว่าง เกษตรกรเจ้าของฟาร์ม กับ อาสาสมัคร เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งการเกษตร รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยที่ไม่มีเรื่องของเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

อาสาสมัครมีช่วยงานโฮส ซึ่งแตกต่างกันไป มีทั้ง เก็บผัก เลี้ยงวัว ช่วยงานบ้าน ช่วยงานคาเฟ่ เป็นต้น ส่วนโฮสก็จะ ให้ความรู้ต่างๆที่เกี่ยวกับอาชีพของโฮส รวมถึงให้ที่พัก และ อาหารเป็นการตอบแทน

WWOOF Japan …

มีค่าสมัครรายปีนิดหน่อย ครั้งแรกขั้นต่ำคือ 5,500 เยน/ปี  สมัครผ่าน http://www.wwoofjapan.com เว็บมีทั้งภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น … สำหรับคนที่สนใจ พลอยแนะนำให้เข้าไปส่องดู Profile โฮสเล่นๆก่อนก็ได้ แล้วก็อ่านรายละเอียดอื่นๆให้เข้าใจก่อน แล้วค่อยสมัครสมาชิกตอนที่คิดจะไปแล้วจริงๆค่ะ จะได้ไม่ขาดทุนค่าสมัครสมาชิกรายปีเนอะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WWOOF >> https://en.wikipedia.org/wiki/WWOOF
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยว WWOOF JAPAN >> http://www.wwoofjapan.com

แรงบันดาลใจของพลอย

ใครเคยเล่น Harvest moon (ชื่อเกมส์บอกอายุมาก) หรือ Hay Day อาจจะพอเข้าใจความรู้สึกอยากทำงานในฟาร์ม
หนังเรื่อง Little forest, Midnight bakery, และ Pan to Supu to Neko Biyori ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบัลดาลใจ
กระทู้ Wwoof in Little Forest: เมื่อฉันได้ไปวูฟในฟาร์มคาเฟ่ ณ บ้านนอกญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้น เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ ใครสนใจ WWOOF ที่ญี่ปุ่นก่อนไปพลอยแนะนำให้อ่านกระทู้นี้ด้วย : )

พลอยเชื่อว่าหลายๆคนก็คงเคยมีความฝัน … อยากทำโน่นทำนี่ และแรงบัลดาลใจที่ว่ามาก็ทำให้พลอยเกิดความฝัน ฝันว่าอยากไปลองใช้ชีวิตในชนบท ที่มีสวนผัก และ คาเฟ่เล็กๆ … ซึ่ง WWOOF ก็ตอบโจทย์เราได้ครบเลย

Goal หรือ จุดมุ่งหมายของการมา WWOOF ของพลอยในครั้งนี้

- ได้ประสบการณ์ชีวิต ได้ทำไร่ ทำสวน ทำขนม และ หัดทำอาหารญี่ปุ่นแบบสไตล์คุณแม่
- ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น เพื่อที่จะเข้าใจคนญี่ปุ่นมากขึ้น
- ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่น อันนี้สำคัญมาก เพราะว่าตอนนี้ก็ประมาณ 4-5 เดือนแล้วที่พลอยเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ยังพูดไม่ได้เลย TOT

ซึ่งแรงบัลดาลใจ และ จุดมุ่งหมายของพลอย เป็นที่มาของการเลือกโฮส
ในส่วนนี้พลอยจะเล่าให้ฟังว่าพลอยทำยังไงนะ มันอาจจะไม่ถูกทั้งหมดแต่มาจากประสบการณ์จริง

1. เลือก Location … ฤดูร้อนญี่ปุ่นมันร้อนมากจริงๆ ตอนแรกกะว่าจะไป แถว Hokkaido แต่ทำไปทำมา เปลี่ยนแผนเป็นแถว Nagano Gunma เพราะภูเขาเยอะ น่าจะไม่ร้อนมาก แล้วก็ไม่ไกลจากโตเกียวเท่าไหร่ เดินทางสะดวก ได้ทั้งรถไฟและรถบัส

2. เลือก ครอบครัว … ส่วนนี้สำคัญมากๆ พลอยดูจาก
- Activity ที่โฮสทำ ซึ่งมันจะ List ไว้อยู่ใน Profile ของโฮส
- งานที่ต้องทำและระยะเวลาที่โฮสจะให้เราทำงาน (เช่น กี่ชั่วโมงต่อวัน ทำงานวันละกี่สัปดาห์)
- โฮสรับ Volunteer อยู่รึป่าว ระยะเวลาที่ต้องการคนตรงกับระยะเวลาที่เราจะทำได้หรือไม่ (เช่น รับแค่ 1 สัปดหาห์ หรือ ต้องอยู่อย่างน้อย 1 เดือน)
- ระดับภาษา เช่น ภาษาอังกฤษที่โฮสสามารถพูดได้ หรือ บางครั้งโฮสก็จะระบุมาเลยว่าต้องการคนที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ในระดับไหน
- ลักษณะของ Volunteer ที่โฮสกำลังมองหา ดูว่าตรงกับเรารึป่าว

3. เมื่อเลือกได้แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่เขียนอธิบายไว้ในเว็บเลยค่ะ (ละเอียดและยาวมาก แต่ควรตั้งใจอ่านให้จบเพราะมันสำคัญมาก)

การไป WWOOF ของพลอยในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 บ้าน บ้านละ 1 สัปดาห์
บ้านที่ 1 อยู่ Gunma-prefecture มี สวนผัก 100% ออร์แกนิค และ มีคาเฟ่ (บ้านนี้เพื่อนพลอยแนะนำมาอีกที)
บ้านที่ 2 อยู่ Nagano-prefecture เป็นร้านขนมปัง (เป็นโฮสที่พลอยได้มาแบบไม่ได้ตั้งใจเพราะมือลั่นไปโดนปุ่ม request ขอ profile เพิ่มเติมแล้วเค้าคิดต่อกลับมา)

ระหว่างเปลี่ยนบ้านและหลังจาก WWOOF เสร็จก็มีการแวะเที่ยวเล็กน้อย โดยสถานที่ที่ไปก็มี Nagano – Narai – Kamikochi – Matsumoto ไว้จะมาเล่าให้ฟังด้วย (ไม่พลาดเรื่องกิน และ วิวสวยๆแน่นอน) รวมระยะเวลาทั้งหมดก็ 17 วัน ... พลอยจะขอเล่าแบบการเขียนบันทึกไปเรื่อยๆละกันนะคะ ถ้าใครสงสัยอะไรเพิ่มเติมก็ inbox หรือ comment ได้เลย จะพยายามตอบให้ใครถ้วน

>>> To be continue ... (ขอค่อยๆโพสนะคะเพราะว่าช่วงนี้ยุ่งมาก...)

Camera: Fuji X-A1, Iphone6s

ใครสนใจกระทู้รีวิวอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของกินอร่อยๆ ในญี่ปุ่นลองเข้าไปแวะเวียนเยี่ยมชมกันได้ ...
Page: https://www.facebook.com/ploybites
Site: https://ploybites.wordpress.com
Ig: https://www.instagram.com/ploybites/