ญี่ปุ่นครั้งแรก ... " ก็ประทับใจซะแล้ว "
ขออณุญาติฝากเพจครับ :
https://nopchamny.wordpress.com/
25 DAYS ในญี่ปุ่น ก็ใช่ว่าผมจะไปทำ WWOOF ทั้งหมดนะครับ เพราะความจริงแล้วเนี่ย ผมทำ ... " แค่ อาทิตย์เดียว "
ถึงแม้หัวข้อกระทู้จะบอกอย่างนั้นก็เถอะ ... เอาเป็นว่า ผมจะรีวิวประสบการณ์ WWOOF ให้หนำใจเลยละครับ
แต่ไอการไปญี่ปุ่นครั้งแรกเนี่ย ......
ญี่ปุ่นครั้งแรก ... " ก็ประทับใจซะแล้ว "
และนี่ก็คือแพลนคร่าวๆของผม
24 / 05 / 2017
ผมออกเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งหน้าไปยัง okinawa ประเทศญี่ปุ่น และ ต่อเครื่องไปที่ fukuoka
จากนั้นนั่งรถบัส > ไปยัง nagasaki
25 / 06 / 2017
ผมเรียนทำโซบะ และอุด้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านของญาติเพื่อนผมเอง
3 / 07 / 2017
ผมไปเกาหลี เป็นเวลา 3 วัน
5 / 07 / 2017
กลับถึงญี่ปุ่นที่เมือง fukuoka ประเทศญี่ปุ่น
11 / 07 / 2017
เริ่มทำ wwoof ที่จังหวัด fukuoka
16 / 07 / 2017
ลองนอน hostel ที่ Hakata fukuoka เป็นเวลา 1 คืน
17 / 07 / 2017
เดินทางกลับประเทศไทย
ถามว่าหลังจากวันที่ 5 ผมไปไหน ?
ผมบอกเลยว่าช่วงนี้หนะ เหนื่อยที่สุด
แต่จะเป็นยังไงนั้น .... ผมจะอธิบายให้ฟังละกันนะครับ
ญี่ปุ่นครั้งแรก ... " ก็ประทับใจซะแล้ว "
*การตั้งกล้องถ่าย แค่ปล่อยให้กล้องทำหน้าที่ของมัน เราก็ทำหน้าที่ของเรา
นี่คือ ตลอดเวลา 25 วัน ของผมในคิวชู
เอาวีดีโอไปดูเล่นๆก่อนนะครับ
ช่วงที่ไป wwoof ความจริงแล้วมันมีไม่กี่วินาทีหรอก 55 ถ้าใครสังเกตุก็จะรู้นะครับ
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้น
#ทางการไปมั้ย
การทำ wwoof ของผมนั้นมันเริ่มหลังจากที่ผมกลับมาจากเกาหลี
แต่ก่อนที่จะได้มาทำนั้น ผมขอพูดถึงขั้นตอนก่อนที่จะได้มาทำกันก่อนละกันนะครับ
1. ก่อนอื่นเราต้องเข้า เวป WWOOF JAPAN >
https://www.wwoofjapan.com/main/index.php?lang=en
ซึ่งหน้าตามันก็จะประมาณนี้
2. click ไปที่ Host preview และ เลือก AREA ที่อยากจะไปนะครับ >
https://www.wwoofjapan.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2&Itemid=476&lang=en
#สำหรับคนที่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าสมาชิกนะครับ ก็จะไม่สามารถ ดู feedback ได้
ถามว่า feedback สำคัญ อย่างไร ?
ผมแนะนำนะครับ ก่อนที่จะไป ควรจะอ่าน feedback ให้เยอะๆเลย 2-3 คนมันอาจจะไม่พอหรอก 55555
คือ WWOOFER แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเจออะไรมาเยอะกว่า จนทำให้ที่นอนบางที่ ถึงแม้จะไม่ดี ก็สบายๆสำหรับเค้า
ตัวอย่างเช่นใน case ผมเนี่ย ผมเป็นคนแพ้ฝุ่น และถึงแม้ในคอมเม้นจะมีบอกก็ตาม ว่ามีฝุ่น แต่ ! แค่นิดหน่อยนะครับ
แต่พอผมไปจริงๆแล้ว ด้วยความที่เป็นคนแพ้ฝุ่น ก็อยู่ไม่ได้ครับ เพราะมันเยอะมากสำหรับผม เพราะฉะนั้น อ่านหลายๆคอมเม้นเลยเด้อ
#ส่วนค่าสมัคร WWOOF JAPAN ก็ 1500 ครับผม ซึ่งจะสามารถใช้ได้ประมาณ 1 ปี ก็.... จะไปกี่ครั้งก็ได้นะครับ ถ้ามีเงินออกค่าเครื่อง55
3. พอเลือก AREA แล้วนะครับ ก็ลองเลือกโฮส โดยอ่านจาก Activity ของโฮสด้านขวา แล้วก็ลองคลิกเข้าไปดูนะครับ
ส่วนถ้าใครยังไม่จ่ายเงิน ก็จะมีแค่ให้ดู profile นะครับ
แต่ถ้าใครจ่ายเงิน และ Log in เข้าไป ก็จะมีแถบขึ้นมาแบบนี้ครับ > และก็สามารถอ่าน feedback ได้เลยย
4. ติดต่อ Host เพื่อขอว่าเราจะไปทำงานที่สถานที่ของ Host
ส่วนขั้นตอนการติดต่อนั้น ผมไม่แน่ใจว่าเราพิมอะไรก็ได้รึป่าว แต่ของผมอะ
คือมันจะมีเหมือนขั้นตอน ว่าเราควรพิมยังไง ด้วยความที่เป็นครั้วแรก ผมเลยทำตามขั้นตอนครับ ซึ่งเข้าไปดูได้ที่
#ผมลืมบอกไปครับ > ก่อนที่จะเลือกโฮส เราควรจะสร้าง Profile ของเราก่อนครับ
เอาจริงๆบางโฮสอาจจะตัดสินเลือกรับเราผ่านทาง Profile ด้วยนะครับ
5. หลังจากส่งคำขอไป ก็แค่รอโฮสตอบครับ > หลังจากนั้นก็แค่นัดสถานที่กัน จบ!
ถามว่าหลังจากวันที่ 5 ผมไปไหน ?
ผมบอกเลยว่าช่วงนี้หนะ เหนื่อยที่สุด
แต่จะเป็นยังไงนั้น .... ผมจะอธิบายให้ฟังละกันนะครับ
จำประโยคนี้ได้มั้ย ?
เอาละผมจะเริ่มรีวิวประสบการณ์การไป WWOOF ที่ญี่ปุ่น ของผมละครับ
หลังจากกลับมาจากเกาหลี ในวันที่ 5 ด้วยความที่ก่อนไปญี่ปุ่นการตกลงกับโฮสไว้เรียบร้อย
แต่เป็นวันที่ 6 ซึ่งแน่นอนว่า กลับมาจากเกาหลีวันที่ 5 ผมต้องหาที่นอน แต่ Concept ของผมคือการไม่ใช้เงินเยอะ
เพราะฉะนั้น ผมจึงทำ couchsefing ครับ
เอาละ วันที่ 6 ผมก็ได้นั่งรถไฟ จาก Hakata ไปยัง Kurume และไปลงที่สถานีปลายทาง Tikugo Yoshio ในเมือง Fukuoka
ที่นี่เป็น WWOOF แรกของผมเลยละครับ
" หลังจากถึง "
Host มารับผมที่สถานี รถไฟครับ และหลังจากนั้นก็ตรงดิ่งไปที่บ้านกันเลย
คือ.....บ้าน ? ที่พูดแบบนี้เพราะว่า มันเท่มากครับ 555 แต่เอาจริงๆ ผมไม่ได้ทำที่นี่หรอกครับ
เนื่องจาก ผมเป็นคนที่แพ้ฝุ่นมาก แล้ว ที่ห้องจะค่อนข้างที่มีฝุ่นเยอะพอสมควร
แต่อย่างอื่นดีหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือ ความใจดีของ Host
วันรุ่งขึ้น
ผมตัดสินใจเปลี่ยนโฮสครับ แต่บอกก่อนะครับว่า คืนก่อนที่จะออกเนี่ย ผมก็ได้เมลไปหา wwoof อื่นสำรองไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับคำตอบทันที
เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องทำ couchserfing อีกครั้งในช่วงที่รอคำตอบ
สรุปแล้ว สำหรับ Host คนแรก ผมก็อยู่แค่ คืนเดียวครับ ยังไม่ได้ทำงานเลยด้วยซ้ำ #ต้องขอโทษจริงๆนะครับ
Host ที่ 2 ณ YUFUIN หลังจากอยู่แบบ Couchserfing เป็นเวลา 2 คืน ก็ได้คำตอบ ว่าเราจะไป YUFUIN
ที่นี่เป็นที่ที่ผมใฝ่ฝันอยากจะมามากนะครับ และนี่ก็เป็นภาพถ่ายที่ผมถ่ายมา
ผมออกเดินทางจาก fukuoka ที่ bus terminal ครับ ราคาก็ ประมาณ 5000 เยน นิดๆ ใข้เวลา 2 - 3 ชม จาก Tenjin
ซึ่งผมกะออกเช้าเลย เพราะกะไปเดินเที่ยวซะหน่อย ก็....เดินจนขาลากเลยฮะ 3 ชม แล้วในที่สุด Host ก็มารับครับ
บ่าย 3 โมง Host ใจดีนะครับแล้วก็พูดภาษาอังกฤษดีเลยทีเดียว แต่ ! ปัญหาเดิมมาเยือนครับ เรื่องที่นอน
คราวนี้ไม่ใช่ฝุ่น แต่มันเป็นห้องที่อยู๋ใต้ห้องน้ำ แล้วสามารถมองเห็นท่อห้องน้ำ > ยิ่งไปกว่านั้น เวลาคนมาฉี่ ก็จะได้ยินเสียงครับ
#คนก็มาตลอด ! เนื่องจาก Host ผมเป็นเจ้าของ Hostel หนะครับ
พอ ตอน 6 โมงเย็น ก็ได้เวลาทำงาน ในตอนนั้นก็มี wwoofer อีกคนเป็นชาว france ทำงานอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ช่วยได้เยอะครับ
ผมถาม และปรึกษา เรื่องงานเยอะมาก ส่วนงานก็เตรียมอาหารให้แขก ล้างจาน แค่นั้นครับ > 'ง่ายใช่มั้ยล้าาา 555
พอทำงานเสร็จ Host ก็พาผมไปเตะฟุตบอลครับ พร้อมกับแขกที่มาพัก Hostel #ขอบอกนิดนึงนะครับ ว่า ผมอะ เคยเป็นนักฟุตบอลเก่านะ 5555
ทุกอย่างดูจะราบรื่นดีใช่มั้ยครับ ?
พอตกดึกเท่านั้นแหละ หลังจากกลับจากเตะบอล เราก็แช่ออนเซ็นของ Hostel ครับ อันนี้ถือว่าผมโปรดปรานมาก 5555
ที่นี่คือสวรรค์เลย เพราะส่วนตัวแล้วเนี่ย ผมชอบออนเซน ชอบมานานแล้วด้วย ก้เค้าน่ารักเอ้าะ แฮ่ ! > ไม่ใช่ละ
พอประมาณสัก 4 ทุ่มได้ ขณะที่ผมกำลังนอนอยู่ ก็อดเหลือบไปมอง ท่อไม่ได้ เสียงคนเข้าห้องน้ำก็มีมาตลอด แถมยังเจอเจ้าแมงมุมตัวยักอีก 555555 #แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว แมงมุม ถือเป็นเรื่องธรรมดามากนะครับ แต่ผมอะ บอกเลย ไม่ชิน !
ผมเลยคิดในใจว่า wwoof อาจจะไม่เหมาะกับผมจริงๆก้ได้
ณ เวลา ตี 1 ที่ Hostel ผมตัดสินใจขนของและเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้โฮส เนื่องจาก ผมไม่กล้าบอกโฮสเลยจริงๆเพราะด้วยความที่เค้าใจดี ผมก็เลยไม่กล้าพูดกับเค้าตรงๆ เพราะฉะนั้นค่ำคืนนี้ จะเป็นการหลบหนี ของผมละ
ตี 1 ครึ่ง ผมย่องออกมาแล้วลองเปิดประตู ปรากฏว่าเปิดได้ เพราะฉะนั้น ผมไม่รอช้าครับ ลุย ! ผมเดินออกจาก Hostel และมุ่งหน้าไปยัง สถานีรถไฟ ของ Yufuin ก็กะว่าจะไปนอนรอที่นั่นถึงเช้าแล้วค่อยกลับ ไปที่ Fukuoka แล้วไปขออาศัย เพื่อนที่เคย ทำ Couchserfing อีกครัง 555
ซึ่งไม่นานครับ ตี 1 ครั่ง ก้ถึงครับ ถึงหน้าประตู Hostel หนะครับ แฮ่ ! แล้วบอกจะไป สถานีรถไฟ ? ก็แหมมมม ทางมันเปลี่ยวมากนะครับ สภาพตรงนั้นไม่ต่างอะไรกับป่าเลย คือผมเดินได้แป็ปเดียว ก็เห็นกวางวิ่ง แถมยังมีอะไร คุกๆคิกๆ รอบๆอีก ผมไม่เอาด้วยละครับ 55555 ผมตัดสินใจมานั่งรอหน้า Hostel จนถึง ตี 4 แล้วค่อยไป
แต่! ข้างนอกทำไมมันหนาวขนาดนี้ !!! ง่วงก็ง่วง > ผมเลยตัดสินใจทิ้งกระเป๋าและรองเท้าไว้ข้างนอก และกลับเข้าไปนอน 5555
พอถึงตี 5 ! สายแล้วครับเราต้องรีบออก ผมไม่รอช้า เดินออกทันที และมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟครับ และสุดท้ายก็ได้ขึ้นรถบัส เพื่อกลับไปที่ Fukuoka ครับ #ต้องขอโทษ Host ด้วยนะครับ
เดี๋ยวมาต่อเพิ่มนะครับ
[CR] แชร์ประสบการณ์ wwoof japan ที่คิวชู
ขออณุญาติฝากเพจครับ : https://nopchamny.wordpress.com/
25 DAYS ในญี่ปุ่น ก็ใช่ว่าผมจะไปทำ WWOOF ทั้งหมดนะครับ เพราะความจริงแล้วเนี่ย ผมทำ ... " แค่ อาทิตย์เดียว "
ถึงแม้หัวข้อกระทู้จะบอกอย่างนั้นก็เถอะ ... เอาเป็นว่า ผมจะรีวิวประสบการณ์ WWOOF ให้หนำใจเลยละครับ
แต่ไอการไปญี่ปุ่นครั้งแรกเนี่ย ......
และนี่ก็คือแพลนคร่าวๆของผม
24 / 05 / 2017
ผมออกเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งหน้าไปยัง okinawa ประเทศญี่ปุ่น และ ต่อเครื่องไปที่ fukuoka
จากนั้นนั่งรถบัส > ไปยัง nagasaki
25 / 06 / 2017
ผมเรียนทำโซบะ และอุด้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านของญาติเพื่อนผมเอง
3 / 07 / 2017
ผมไปเกาหลี เป็นเวลา 3 วัน
5 / 07 / 2017
กลับถึงญี่ปุ่นที่เมือง fukuoka ประเทศญี่ปุ่น
11 / 07 / 2017
เริ่มทำ wwoof ที่จังหวัด fukuoka
16 / 07 / 2017
ลองนอน hostel ที่ Hakata fukuoka เป็นเวลา 1 คืน
17 / 07 / 2017
เดินทางกลับประเทศไทย
ถามว่าหลังจากวันที่ 5 ผมไปไหน ?
ผมบอกเลยว่าช่วงนี้หนะ เหนื่อยที่สุด
แต่จะเป็นยังไงนั้น .... ผมจะอธิบายให้ฟังละกันนะครับ
*การตั้งกล้องถ่าย แค่ปล่อยให้กล้องทำหน้าที่ของมัน เราก็ทำหน้าที่ของเรา
นี่คือ ตลอดเวลา 25 วัน ของผมในคิวชู
เอาวีดีโอไปดูเล่นๆก่อนนะครับ
ช่วงที่ไป wwoof ความจริงแล้วมันมีไม่กี่วินาทีหรอก 55 ถ้าใครสังเกตุก็จะรู้นะครับ
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้น #ทางการไปมั้ย
การทำ wwoof ของผมนั้นมันเริ่มหลังจากที่ผมกลับมาจากเกาหลี
แต่ก่อนที่จะได้มาทำนั้น ผมขอพูดถึงขั้นตอนก่อนที่จะได้มาทำกันก่อนละกันนะครับ
1. ก่อนอื่นเราต้องเข้า เวป WWOOF JAPAN > https://www.wwoofjapan.com/main/index.php?lang=en
ซึ่งหน้าตามันก็จะประมาณนี้
2. click ไปที่ Host preview และ เลือก AREA ที่อยากจะไปนะครับ > https://www.wwoofjapan.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=2&Itemid=476&lang=en
#สำหรับคนที่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าสมาชิกนะครับ ก็จะไม่สามารถ ดู feedback ได้
ผมแนะนำนะครับ ก่อนที่จะไป ควรจะอ่าน feedback ให้เยอะๆเลย 2-3 คนมันอาจจะไม่พอหรอก 55555
คือ WWOOFER แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเจออะไรมาเยอะกว่า จนทำให้ที่นอนบางที่ ถึงแม้จะไม่ดี ก็สบายๆสำหรับเค้า
ตัวอย่างเช่นใน case ผมเนี่ย ผมเป็นคนแพ้ฝุ่น และถึงแม้ในคอมเม้นจะมีบอกก็ตาม ว่ามีฝุ่น แต่ ! แค่นิดหน่อยนะครับ
แต่พอผมไปจริงๆแล้ว ด้วยความที่เป็นคนแพ้ฝุ่น ก็อยู่ไม่ได้ครับ เพราะมันเยอะมากสำหรับผม เพราะฉะนั้น อ่านหลายๆคอมเม้นเลยเด้อ
#ส่วนค่าสมัคร WWOOF JAPAN ก็ 1500 ครับผม ซึ่งจะสามารถใช้ได้ประมาณ 1 ปี ก็.... จะไปกี่ครั้งก็ได้นะครับ ถ้ามีเงินออกค่าเครื่อง55
3. พอเลือก AREA แล้วนะครับ ก็ลองเลือกโฮส โดยอ่านจาก Activity ของโฮสด้านขวา แล้วก็ลองคลิกเข้าไปดูนะครับ
ส่วนถ้าใครยังไม่จ่ายเงิน ก็จะมีแค่ให้ดู profile นะครับ
แต่ถ้าใครจ่ายเงิน และ Log in เข้าไป ก็จะมีแถบขึ้นมาแบบนี้ครับ > และก็สามารถอ่าน feedback ได้เลยย
4. ติดต่อ Host เพื่อขอว่าเราจะไปทำงานที่สถานที่ของ Host
ส่วนขั้นตอนการติดต่อนั้น ผมไม่แน่ใจว่าเราพิมอะไรก็ได้รึป่าว แต่ของผมอะ
คือมันจะมีเหมือนขั้นตอน ว่าเราควรพิมยังไง ด้วยความที่เป็นครั้วแรก ผมเลยทำตามขั้นตอนครับ ซึ่งเข้าไปดูได้ที่
#ผมลืมบอกไปครับ > ก่อนที่จะเลือกโฮส เราควรจะสร้าง Profile ของเราก่อนครับ
เอาจริงๆบางโฮสอาจจะตัดสินเลือกรับเราผ่านทาง Profile ด้วยนะครับ
5. หลังจากส่งคำขอไป ก็แค่รอโฮสตอบครับ > หลังจากนั้นก็แค่นัดสถานที่กัน จบ!
ถามว่าหลังจากวันที่ 5 ผมไปไหน ?
ผมบอกเลยว่าช่วงนี้หนะ เหนื่อยที่สุด
แต่จะเป็นยังไงนั้น .... ผมจะอธิบายให้ฟังละกันนะครับ
จำประโยคนี้ได้มั้ย ?
เอาละผมจะเริ่มรีวิวประสบการณ์การไป WWOOF ที่ญี่ปุ่น ของผมละครับ
หลังจากกลับมาจากเกาหลี ในวันที่ 5 ด้วยความที่ก่อนไปญี่ปุ่นการตกลงกับโฮสไว้เรียบร้อย
แต่เป็นวันที่ 6 ซึ่งแน่นอนว่า กลับมาจากเกาหลีวันที่ 5 ผมต้องหาที่นอน แต่ Concept ของผมคือการไม่ใช้เงินเยอะ
เพราะฉะนั้น ผมจึงทำ couchsefing ครับ
เอาละ วันที่ 6 ผมก็ได้นั่งรถไฟ จาก Hakata ไปยัง Kurume และไปลงที่สถานีปลายทาง Tikugo Yoshio ในเมือง Fukuoka
ที่นี่เป็น WWOOF แรกของผมเลยละครับ
Host มารับผมที่สถานี รถไฟครับ และหลังจากนั้นก็ตรงดิ่งไปที่บ้านกันเลย
คือ.....บ้าน ? ที่พูดแบบนี้เพราะว่า มันเท่มากครับ 555 แต่เอาจริงๆ ผมไม่ได้ทำที่นี่หรอกครับ
เนื่องจาก ผมเป็นคนที่แพ้ฝุ่นมาก แล้ว ที่ห้องจะค่อนข้างที่มีฝุ่นเยอะพอสมควร
แต่อย่างอื่นดีหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือ ความใจดีของ Host
ผมตัดสินใจเปลี่ยนโฮสครับ แต่บอกก่อนะครับว่า คืนก่อนที่จะออกเนี่ย ผมก็ได้เมลไปหา wwoof อื่นสำรองไว้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้รับคำตอบทันที
เพราะฉะนั้น ผมจึงต้องทำ couchserfing อีกครั้งในช่วงที่รอคำตอบ
สรุปแล้ว สำหรับ Host คนแรก ผมก็อยู่แค่ คืนเดียวครับ ยังไม่ได้ทำงานเลยด้วยซ้ำ #ต้องขอโทษจริงๆนะครับ
Host ที่ 2 ณ YUFUIN หลังจากอยู่แบบ Couchserfing เป็นเวลา 2 คืน ก็ได้คำตอบ ว่าเราจะไป YUFUIN
ที่นี่เป็นที่ที่ผมใฝ่ฝันอยากจะมามากนะครับ และนี่ก็เป็นภาพถ่ายที่ผมถ่ายมา
ผมออกเดินทางจาก fukuoka ที่ bus terminal ครับ ราคาก็ ประมาณ 5000 เยน นิดๆ ใข้เวลา 2 - 3 ชม จาก Tenjin
ซึ่งผมกะออกเช้าเลย เพราะกะไปเดินเที่ยวซะหน่อย ก็....เดินจนขาลากเลยฮะ 3 ชม แล้วในที่สุด Host ก็มารับครับ
บ่าย 3 โมง Host ใจดีนะครับแล้วก็พูดภาษาอังกฤษดีเลยทีเดียว แต่ ! ปัญหาเดิมมาเยือนครับ เรื่องที่นอน
คราวนี้ไม่ใช่ฝุ่น แต่มันเป็นห้องที่อยู๋ใต้ห้องน้ำ แล้วสามารถมองเห็นท่อห้องน้ำ > ยิ่งไปกว่านั้น เวลาคนมาฉี่ ก็จะได้ยินเสียงครับ
#คนก็มาตลอด ! เนื่องจาก Host ผมเป็นเจ้าของ Hostel หนะครับ
พอ ตอน 6 โมงเย็น ก็ได้เวลาทำงาน ในตอนนั้นก็มี wwoofer อีกคนเป็นชาว france ทำงานอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ช่วยได้เยอะครับ
ผมถาม และปรึกษา เรื่องงานเยอะมาก ส่วนงานก็เตรียมอาหารให้แขก ล้างจาน แค่นั้นครับ > 'ง่ายใช่มั้ยล้าาา 555
พอทำงานเสร็จ Host ก็พาผมไปเตะฟุตบอลครับ พร้อมกับแขกที่มาพัก Hostel #ขอบอกนิดนึงนะครับ ว่า ผมอะ เคยเป็นนักฟุตบอลเก่านะ 5555
พอตกดึกเท่านั้นแหละ หลังจากกลับจากเตะบอล เราก็แช่ออนเซ็นของ Hostel ครับ อันนี้ถือว่าผมโปรดปรานมาก 5555
ที่นี่คือสวรรค์เลย เพราะส่วนตัวแล้วเนี่ย ผมชอบออนเซน ชอบมานานแล้วด้วย ก้เค้าน่ารักเอ้าะ แฮ่ ! > ไม่ใช่ละ
พอประมาณสัก 4 ทุ่มได้ ขณะที่ผมกำลังนอนอยู่ ก็อดเหลือบไปมอง ท่อไม่ได้ เสียงคนเข้าห้องน้ำก็มีมาตลอด แถมยังเจอเจ้าแมงมุมตัวยักอีก 555555 #แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว แมงมุม ถือเป็นเรื่องธรรมดามากนะครับ แต่ผมอะ บอกเลย ไม่ชิน !
ผมเลยคิดในใจว่า wwoof อาจจะไม่เหมาะกับผมจริงๆก้ได้
ณ เวลา ตี 1 ที่ Hostel ผมตัดสินใจขนของและเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้โฮส เนื่องจาก ผมไม่กล้าบอกโฮสเลยจริงๆเพราะด้วยความที่เค้าใจดี ผมก็เลยไม่กล้าพูดกับเค้าตรงๆ เพราะฉะนั้นค่ำคืนนี้ จะเป็นการหลบหนี ของผมละ
ตี 1 ครึ่ง ผมย่องออกมาแล้วลองเปิดประตู ปรากฏว่าเปิดได้ เพราะฉะนั้น ผมไม่รอช้าครับ ลุย ! ผมเดินออกจาก Hostel และมุ่งหน้าไปยัง สถานีรถไฟ ของ Yufuin ก็กะว่าจะไปนอนรอที่นั่นถึงเช้าแล้วค่อยกลับ ไปที่ Fukuoka แล้วไปขออาศัย เพื่อนที่เคย ทำ Couchserfing อีกครัง 555
ซึ่งไม่นานครับ ตี 1 ครั่ง ก้ถึงครับ ถึงหน้าประตู Hostel หนะครับ แฮ่ ! แล้วบอกจะไป สถานีรถไฟ ? ก็แหมมมม ทางมันเปลี่ยวมากนะครับ สภาพตรงนั้นไม่ต่างอะไรกับป่าเลย คือผมเดินได้แป็ปเดียว ก็เห็นกวางวิ่ง แถมยังมีอะไร คุกๆคิกๆ รอบๆอีก ผมไม่เอาด้วยละครับ 55555 ผมตัดสินใจมานั่งรอหน้า Hostel จนถึง ตี 4 แล้วค่อยไป
แต่! ข้างนอกทำไมมันหนาวขนาดนี้ !!! ง่วงก็ง่วง > ผมเลยตัดสินใจทิ้งกระเป๋าและรองเท้าไว้ข้างนอก และกลับเข้าไปนอน 5555
พอถึงตี 5 ! สายแล้วครับเราต้องรีบออก ผมไม่รอช้า เดินออกทันที และมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟครับ และสุดท้ายก็ได้ขึ้นรถบัส เพื่อกลับไปที่ Fukuoka ครับ #ต้องขอโทษ Host ด้วยนะครับ
เดี๋ยวมาต่อเพิ่มนะครับ