คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
เพิ่มเติมอีกประเด็นนึง ลืมเขียนค่ะ
เรื่องที่เชษเข้ามายุ่ง ผลักให้อุบลรับกรรมต่อไป เลยเป็นความผิด กรณีนี้เชษทำได้แค่โน้มน้าวใจ อุบลจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะตัดสินใจเลือกใครมันก็เป็นสิทธิของอุบล เชษไม่มีสิทธิ์ชี้ชะตาให้อุบลค่ะ อุบลเลือกเอง
ถ้าเปรียบกับศาล เชษฐาก็คือทนาย โจทย์คืออุบล จำเลยคืออัคนี แต่คนตัดสินก็คืออุบลอีกค่ะ ไม่ใช่พระยายม ท่านเป็นเพียงผู้เปิดเวทีให้ไต่สวน ให้ได้ซักค้านข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาก็คืออุบลค่ะ ที่พิพากษาตัวเองและอัคนี โดยมีเงื่อนไขว่าอัคนีต้องรับผิด ยอมชดใช้จึงจะตัดสินโทษได้ ซึ่งอัคนีก็ยอมรับผิดแต่โดยดี เหลือแค่อุบลจะเลือก ดังนั้นคนที่มีสิทธิลดโทษ หรือไม่ลดโทษ คืออุบล กรณีนี้เธอเลือกที่จะไม่เอาผิด เท่ากับฝ่ายโจทก์ยอมความ คดีจึงจบ คนที่เลือกให้อุบลรับหน้าที่ต่อไป คือ ตัวอุบลเอง ไม่ใช่พระยายม ดังนั้นไม่มีใครผลักให้อุบลรับกรรมต่อ อุบลเป็นคนเลือกเองค่ะ อันนี้คือ เรื่องของอุบลกับอัคนี เชษฐามาตั้งตัวเป็นทนาย มาช่วยฝ่ายจำเลย โดยพยายามเอาเหตุต่างๆมาอ้างเพื่อให้จำเลยไม่ผิด ก็ทำได้แค่โน้มน้าวใจ อุบลจะไม่เชื่อ จะเลือกอัคนีต่อ หรือจะเลือกทิพอาภา ก็เป็นสิทธิของเธอ
แต่ถ้าจะมาดูกันเรื่องเจตนา ใช่ค่ะ เชษฐาเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง และก็ถูกที่ใครทำอะไรก็ควรต้องรับกรรมนั้น แต่เชษฐาพยายามช่วยทั้งอัคนีและทิพอาภา โดยการบอกว่าอัคนีควรได้รับการลดหย่อนโทษบ้าง และในสถานการณ์นี้ ถ้าทำให้อุบลเห็นด้วยได้ (ซึ่งอุบลก็ไม่ได้เห็นด้วยว่าพระอรรคไม่ได้ผิด ไม่มีใครเห็นว่าพระอรรคไม่ได้ทำผิด แต่อุบลใจอ่อนไม่เอาโทษ ก็เพราะรัก เพราะรู้ว่าเค้าก็รักตัวเองเหมือนกัน และก็เพราะเห็นความรักของทิพอาภาที่มีความบริสูทธิ์ เอามาเทียบกับความรักของตัวเอง เลยคิดได้ ไม่อาจทำร้ายคนที่ตัวเองรัก) อุบลจะต้องรับกรรมนี้ต่อไปเอง เพราะไม่มีตัวแทน เราคิดว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องของความเป็นความตายที่อยู่ตรงหน้า เชษฐาจึงช่วยไว้ก่อน ทำเท่าทีทำได้ เหมือนกรณีเพื่อนเราฆ่าคนตาย ญาติเค้าตามมาล้างแค้นถึงบ้าน ถ้าต้องสู้มันก็ต้องสู้ หรือก็ต้องพยายามให้เค้าใจเย็นลงก่อน จะให้ตายไปต่อหน้าต่อตามันไม่ได้หรอกค่ะ แล้วพอสงบลง ก็ไปขึ้นศาลสู้คดี รับกรรมที่ตัวเองก่อ ซึ่งกรณีละครมันเป็นแบบนั้น ถ้าอุบลตัดสินใจปุ๊บ อัคนีตายลงตรงนั้นทันที ไม่มีโอกาสขึ้นศาลฟังโทษอะไรแล้ว จริงค่ะพ่อแม่จะรับผิดติดคุกแทนลูกไม่ได้ แต่ถ้าความเป็นความตายอยู่ตรงหน้า ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ให้สถานการณ์มันผ่านพ้นไปให้ได้ก่อนค่ะ
เรื่องกรรมใครเป็นของคนนั้น มันก็ถูกต้องแล้ว อัคนีก็พร้อมรับ แต่กรณีนี้มันก็เทียบกับศาลไม่ได้ทั้งหมดค่ะ เพราะมันเป็นกรณีที่ไม่เหมือนกันตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ผู้พิพากษากับโจทก์เป็นคนเดียวกัน อุบลเป็นคนเลือกค่ะ ไม่ว่าเชษฐาจะพูดอย่างไร ก็ไม่มีสิทธิตัดสินใจแทนอุบล เค้าก็ทำไปเพื่อช่วยเพื่อนที่กำลังจะตายอยู่ตรงหน้า ก็เท่านั้นค่ะ
เรื่องที่เชษเข้ามายุ่ง ผลักให้อุบลรับกรรมต่อไป เลยเป็นความผิด กรณีนี้เชษทำได้แค่โน้มน้าวใจ อุบลจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะตัดสินใจเลือกใครมันก็เป็นสิทธิของอุบล เชษไม่มีสิทธิ์ชี้ชะตาให้อุบลค่ะ อุบลเลือกเอง
ถ้าเปรียบกับศาล เชษฐาก็คือทนาย โจทย์คืออุบล จำเลยคืออัคนี แต่คนตัดสินก็คืออุบลอีกค่ะ ไม่ใช่พระยายม ท่านเป็นเพียงผู้เปิดเวทีให้ไต่สวน ให้ได้ซักค้านข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาก็คืออุบลค่ะ ที่พิพากษาตัวเองและอัคนี โดยมีเงื่อนไขว่าอัคนีต้องรับผิด ยอมชดใช้จึงจะตัดสินโทษได้ ซึ่งอัคนีก็ยอมรับผิดแต่โดยดี เหลือแค่อุบลจะเลือก ดังนั้นคนที่มีสิทธิลดโทษ หรือไม่ลดโทษ คืออุบล กรณีนี้เธอเลือกที่จะไม่เอาผิด เท่ากับฝ่ายโจทก์ยอมความ คดีจึงจบ คนที่เลือกให้อุบลรับหน้าที่ต่อไป คือ ตัวอุบลเอง ไม่ใช่พระยายม ดังนั้นไม่มีใครผลักให้อุบลรับกรรมต่อ อุบลเป็นคนเลือกเองค่ะ อันนี้คือ เรื่องของอุบลกับอัคนี เชษฐามาตั้งตัวเป็นทนาย มาช่วยฝ่ายจำเลย โดยพยายามเอาเหตุต่างๆมาอ้างเพื่อให้จำเลยไม่ผิด ก็ทำได้แค่โน้มน้าวใจ อุบลจะไม่เชื่อ จะเลือกอัคนีต่อ หรือจะเลือกทิพอาภา ก็เป็นสิทธิของเธอ
แต่ถ้าจะมาดูกันเรื่องเจตนา ใช่ค่ะ เชษฐาเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง และก็ถูกที่ใครทำอะไรก็ควรต้องรับกรรมนั้น แต่เชษฐาพยายามช่วยทั้งอัคนีและทิพอาภา โดยการบอกว่าอัคนีควรได้รับการลดหย่อนโทษบ้าง และในสถานการณ์นี้ ถ้าทำให้อุบลเห็นด้วยได้ (ซึ่งอุบลก็ไม่ได้เห็นด้วยว่าพระอรรคไม่ได้ผิด ไม่มีใครเห็นว่าพระอรรคไม่ได้ทำผิด แต่อุบลใจอ่อนไม่เอาโทษ ก็เพราะรัก เพราะรู้ว่าเค้าก็รักตัวเองเหมือนกัน และก็เพราะเห็นความรักของทิพอาภาที่มีความบริสูทธิ์ เอามาเทียบกับความรักของตัวเอง เลยคิดได้ ไม่อาจทำร้ายคนที่ตัวเองรัก) อุบลจะต้องรับกรรมนี้ต่อไปเอง เพราะไม่มีตัวแทน เราคิดว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นเรื่องของความเป็นความตายที่อยู่ตรงหน้า เชษฐาจึงช่วยไว้ก่อน ทำเท่าทีทำได้ เหมือนกรณีเพื่อนเราฆ่าคนตาย ญาติเค้าตามมาล้างแค้นถึงบ้าน ถ้าต้องสู้มันก็ต้องสู้ หรือก็ต้องพยายามให้เค้าใจเย็นลงก่อน จะให้ตายไปต่อหน้าต่อตามันไม่ได้หรอกค่ะ แล้วพอสงบลง ก็ไปขึ้นศาลสู้คดี รับกรรมที่ตัวเองก่อ ซึ่งกรณีละครมันเป็นแบบนั้น ถ้าอุบลตัดสินใจปุ๊บ อัคนีตายลงตรงนั้นทันที ไม่มีโอกาสขึ้นศาลฟังโทษอะไรแล้ว จริงค่ะพ่อแม่จะรับผิดติดคุกแทนลูกไม่ได้ แต่ถ้าความเป็นความตายอยู่ตรงหน้า ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ให้สถานการณ์มันผ่านพ้นไปให้ได้ก่อนค่ะ
เรื่องกรรมใครเป็นของคนนั้น มันก็ถูกต้องแล้ว อัคนีก็พร้อมรับ แต่กรณีนี้มันก็เทียบกับศาลไม่ได้ทั้งหมดค่ะ เพราะมันเป็นกรณีที่ไม่เหมือนกันตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ผู้พิพากษากับโจทก์เป็นคนเดียวกัน อุบลเป็นคนเลือกค่ะ ไม่ว่าเชษฐาจะพูดอย่างไร ก็ไม่มีสิทธิตัดสินใจแทนอุบล เค้าก็ทำไปเพื่อช่วยเพื่อนที่กำลังจะตายอยู่ตรงหน้า ก็เท่านั้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเปลี่ยนเชษฐาเป็นพ่อแม่อัคนี แล้วทำแบบเดียวกับที่เชษทำ คุณยังจะเกลียดตัวละครนี้มั้ยคะ (สปอยล์นิดๆ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่สำหรับเรื่องเหตุผลในการช่วยอัคนี เรามองว่าเขาเป็นคนที่น่านับถือมากๆ และมีหัวใจรักที่บริสุทธิ์ค่ะ ถ้าเปลี่ยนเชษให้เป็นพ่อหรือแม่อัคนี แล้วมายุ่งเรื่องของอัคนี แบบดื้อไม่ยอม หัวชนฝาแบบนี้ ต่อให้ต้องปราบผีก็จะทำเพื่อช่วยอัคนี จะยังมีใครเกลียดเชษอีกไหม ในเมื่อผลที่เกิดกับอุบลก็เหมือนกัน คือทำให้อุบลยอมรับหน้าที่ต่อไปเหมือนเดิม ความรักของเชษมันบริสุทธิ์ยิ่งกว่าทุกคนในเรื่อง เหมือนความรักของพ่อแม่เลยค่ะ พ่อแม่ยอมทำอะไรก็ได้ให้ลูกไม่ต้องตาย แล้วไม่ได้ทำกับแค่คนเดียวคือพี่อัค กับทิพเชษก็สู้ตายเพื่อเธอได้เหมือนกัน หรือต่อให้เป็นกฤษณ์ เชษก็คงทำแบบเดียวกัน ทิพอาภาทำเพื่ออัคนีคนเดียว แต่เชษฐาทำเพื่อทุกคนที่เขารัก เราไม่เห็นว่าเขาจะทำผิดอะไรเลย
ส่วนถ้าจะมองว่าเค้าไม่ปล่อยให้บาปกรรมทำงาน ใครทำอะไรก็ต้องรับผลไป ไม่ควรไปแทรกแซง และยิ่งไปกดดันให้อุบลเห็นว่าตัวเองเป็นคนผิด ที่รักไม่บริสุทธิ์ อันนั้นเราว่ามันเป็นวิธีการ ซึ่งในเวลานั้นไม่มีมีทางอื่นแล้วจริงๆ ถ้ามีทางเลือกให้อัคนีไม่ต้องแทนอุบล และอุบลก็พ้นจากหน้าที่ได้ด้วย เชษก็คงไม่ทำแบบนั้น แต่นี่มันไม่ได้ มันต้องมีคนเฝ้า ถ้าไม่มีใครแทนก็หมายถึงอุบลต้องเฝ้าต่อไปเอง ดังนั้นเชษก็เลยผลักภาระกลัยไปให้อุบล กฎแห่งกรรมเรื่องนี้มันไม่เหมือนปกติค่ะ ที่รับแทนกันได้ ตามธรรมดากรรมของใครก็ต้องเป็นของคนนั้น อัคนีฆ่าอุบล อัคนีก็ต้องตายเท่านั้น ไม่มีเรื่องต้องมาเป็นตัวแทนเฝ้าสมบัติด้วย
จริงอยู่ อัคนีเป็นคนผิดต้องใช้กรรม แต่ถ้าเปรียบกับศาลก็คือ อัคนีไปฆ่าคนตาย ครอบครัวคนตายนั้นมาเอาชีวิตถึงบ้าน ถ้าคุณเป็นพ่อแม่พี่น้อง คุณจะไม่คิดสู้หรือขัดขวางอะไรเลยเหรอคะ ปล่อยให้คนที่เรารักตายไปต่อหน้าได้จริงๆหรือ ตรงนั้นมันคือความเป็นความตาย ที่ตัดสินแล้วต้องตายลงในทันที มันไม่ใช่ศาลที่มีการสืบพยาน รอตัดสิน รอบทลงโทษค่ะ เป็นใครอยู่ ณ ที่ตรงนั้นก็ต้องช่วยแบบที่เชษฐาทำ ซึ่งเค้าช่วยคนที่ไม่ใช่สายเลือดตัวเองด้วยซ้ำ เราว่าจิตใจเค้าน่านับถือมากค่ะ
จริงๆเราสงสารอุบลมาก ชอบพระอรรค เห็นใจทิพอาภา จนเราเคยประกาศไปหลายทีแล้ว ว่าเราอยู่ทุกทีม ไม่เลือกใคร แต่ตอนนี้เราสงสารหมอมาก ถ้าวันพิพากษาหมอโดนถล่ม เราจะอยู่ข้างหมอค่ะ #มีความอิน #กว่าละครจะจบผมคงหงอกทั้งหัว เฮ้อ