ขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ เปรียว sixtyone, จารย์จี GTW, คุณ รัตน์ฤดี, คุณ ออมอำพัน, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ ๒๐
http://ppantip.com/topic/35490729
บทที่ ๒๑
http://ppantip.com/topic/35500221
บทที่ ๒๒
http://ppantip.com/topic/35507830
บทที่ ๒๓
http://ppantip.com/topic/35514634
บทที่ ๒๔
http://ppantip.com/topic/35524338
บทที่ ๒๕
http://ppantip.com/topic/35533699
บทที่ ๒๖
http://ppantip.com/topic/35542378
บทที่ ๒๗
http://ppantip.com/topic/35546044
บทที่ ๒๙
http://ppantip.com/topic/35559158
บทที่ ๓๐
“ดิฉันน่ะหรือคะมีท้อง”
นัยน์ตาสีน้ำตาล…ใสจนส่งประกายเบิกกว้างเมื่อชายหนุ่มจบประโยค เธอหัวเราะอย่างเห็นขัน
“ไม่หรอกค่ะ ยายไวแกคิดไปเองมากกว่า จะท้องได้อย่างไรคะ ก็คลื่นไส้ เวียนหัววันนั้นแค่ครั้งเดียว แล้วเป็นอยู่ครู่เดียวก็หาย”
"ให้หมอมาตรวจดูดีไหม จะได้รู้ให้แน่ๆ ไปเสีย" เขายังคงคะยั้นคะยอ หวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าภรรยากำลังท้องจริงๆ อย่างที่บ่าวสูงวัยตั้งข้อสังเกต
ร่างใหญ่ๆ นั่งหลังพิงลูกกรงระเบียง สองขาเหยียดยาวออกมาไพล่กันอยู่ข้างหน้าอย่างสบายอารมณ์ นิ้วคีบบุหรี่ มีจานรองอยู่บนพื้นไม้ข้างตัว เมื่อครั้งที่แต่งงานกันใหม่ๆ เวลาย่ำค่ำเช่นนี้เป็นเวลาที่เคยได้อยู่กันตามลำพังในห้องริมเฉลียงชั้นบนของตัวตึก หากทว่าหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลับมาคืนดีกันอีกครั้งหลังหมางเมินกันไปร่วมสองเดือน สองหนุ่มสาวย้ายสถานที่พูดคุยหรืออ่านหนังสือด้วยกันมาเป็นระเบียงเรือนไม้หลังเล็กแทน ในเมื่อฝ่ายภรรยาไม่ยอมขึ้นไปบนตึกอีก
ว่าไปตามจริงแล้วรามเองก็ชอบแบบนี้ บนระเบียงซึ่งหันเข้าหาลำคลองนี้รับลมเต็มที่ อากาศจึงปลอดโปร่งอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยร้อนอบอ้าวเหมือนชั้นบนของตึกใหญ่ และแทบจะไม่มียุงรบกวน
เมื่อครั้งที่คุณหญิงละออและคุณกนกอาศัยอยู่ที่นี่ เรือนไม้หลังนี้มีผู้คนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่เป็นบ่าวและเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางวันซึ่งคุณหญิงมีอะไรให้ต้องทำ ตั้งแต่เตรียมอาหารประเภทที่ต้องอาศัยความประณีตและใช้เวลายาวนาน หรือทำงานฝีมือ เรื่อยไปจนถึงคัดเลือกหมากพลูและผลไม้จากสวนเพื่อส่งขาย คุณหญิงชอบให้มีผู้คนห้อมล้อม ตรงข้ามกับไอรีนซึ่งชอบความเงียบและความเป็นส่วนตัวมากกว่า นั่นเป็นความพึงพอใจของรามด้วยเช่นกัน
สาวน้อยละสายตาจากผ้าป่านที่กำลังเย็บขึ้นมองคนพูดแวบหนึ่ง ไม่ค่อยจะจริงจังนักกับเรื่องซึ่งเขายกขึ้นมาพูดถึงในเชิงปรึกษา ยายไวเคยเกริ่นเรื่องนี้กับเธอครั้งหนึ่งแล้วเช่นกัน แต่เธอเห็นเป็นเรื่องน่าขัน ก็ยายไวเคยมีลูกกับใครเสียที่ไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าคนกำลังท้องมีอาการอย่างไรบ้าง
'ระดูคุณดีอยู่รึคะ' นางเคยถามตรงๆ ว่าอย่างนั้น จนไอรีนต้องหัวเราะ ทั้งขบขันและขัดเขิน
'ยายก็...ถามอะไรก็ไม่รู้'
เหตุเพราะไม่มีแม่อยู่ใกล้ตัว คุณหญิงสาวน้อยจึงเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีคนใกล้ชิดเพศเดียวกันที่พอจะพูดคุยปรึกษาในเรื่องที่เป็นส่วนตัวขนาดนั้นได้ เธอจึงเลี่ยงที่จะให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของประจำเดือน ผู้หญิงคนอื่นจะเป็นอย่างไรเธอไม่รู้เพราะไม่เคยคุยเรื่องแบบนี้กับใคร รู้ก็แต่เพียงว่าประจำเดือนของตัวเองไม่เคยปกติเลยสักครั้ง บางครั้งหายไปนานสองสามเดือน บางครั้งมาติดต่อกันสองสามครั้งต่อเดือนก็มี จึงไม่เคยเอาเรื่องนั้นมาเป็นอารมณ์ ไม่เคยกังวลใจ ในเมื่อไม่รู้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาหรือไม่ แม้ขณะนี้ประจำเดือนจะขาดไปกว่าสองเดือนแล้วก็ตาม
ยิ่งเห็นกรณีแว่นแก้วมีอาการแพ้ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน และไม่ยอมไปให้หมอตรวจจนถึงทุกวันนี้ แม้จะท้องมากว่าห้าเดือนแล้วก็ตาม จนมีเสียงพูดกันหนาหูในหมู่บ่าวว่าหล่อนไม่ได้ท้องจริง เธอจึงเกรงว่าถ้าไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าไม่ท้อง ก็คงน่าอับอายเอามากๆ ทีเดียว ใครๆ อาจค่อนให้ลับหลังว่าเธอพยายามอ้อนสามี พยายามเรียกร้องความสนใจจากเขาเพื่อแข่งกับผู้หญิงคนนั้น นั่นไม่ใช่ตัวเธอแน่นอน เธอไม่เคยคิดอยากแข่งดีแข่งเด่นกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่จะทำให้คนกลางต้องมีกังวลเพิ่มขึ้นมาอีกเช่นเรื่องนี้
“เอาไว้ให้แน่ใจเสียก่อนไม่ดีกว่าหรือคะ ถ้าไม่ท้องล่ะอายหมอเปล่าๆ เลย”
“ทำไมจะต้องอาย ให้รู้แน่ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ” ฝ่ายสามีก็ยังไม่ยอมลดละ
"เอาไว้ให้มีอาการอะไรอีกสักครั้งดีกว่าค่ะ ให้แน่ใจเสียก่อนแล้วดิฉันไปให้หมอตรวจแน่ๆ" เธอยังคงยืนยันเช่นเดิม
"เอาอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเวียนหัวหรือคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง สัญญาไหมว่าเธอจะบอกฉันทันที"
ในที่สุดรามก็ยอมตามแต่โดยดีเหมือนเช่นทุกครั้ง ขยี้ก้นบุหรี่ลงในจานรอง ขยับตัวอย่างเมื่อยขบเพราะนั่งท่าเดียวอยู่นาน แล้วหันมองไปนอกระเบียงเรือนเมื่อลมพัดพาเอากลิ่นมะลิมากระทบฆาณประสาท ในเงาตะคุ่มเห็นศาลาหกเหลี่ยมซึ่งตั้งใจสร้างให้ภรรยาเริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นบ้างแล้ว
"ติดไฟที่ศาลานั่นด้วยจะดีไหม"
เขาถามเป็นเชิงปรึกษา พยักพเยิดไปนอกระเบียงเรือน
ไอรีนมองตามสายตาแม้จากบริเวณที่นั่งอยู่จะแทบไม่เห็นอะไรเพราะความมืดก็ตาม
"ไม่ต้องดีกว่ากระมังคะ กลางคืนอย่างนี้คงไม่มีใครไปนั่งกัน"
รามลดสายตาลงดูงานซึ่งสาวน้อยกำลังทำ แล้วขยับเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ หยิบผ้าขาวซึ่งวางอยู่บนพื้นขึ้นกางดู
"นี่เย็บเสื้อให้ใครกันล่ะ"
"เสื้อกับกางเกงของชัยค่ะ ว่าจะเย็บให้สักสองชุด"
ชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นว่าภรรยาของตัวช่างเห่อเด็กชายคนใหม่ที่เพิ่งรับมาเลี้ยงเสียจริงๆ
"ชัยเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า วันๆ อยู่ที่ไหน ทำไมฉันไม่เห็น"
"ก็คุณรามไม่ค่อยอยู่บ้านนี่คะถึงได้ไม่ค่อยได้เห็น"
"นั่นสินะ แล้วตกลงว่าได้เรียนหนังสือหรือเปล่า"
"เรียนค่ะ ตอนนี้ได้กริชสอนหนังสือชั้นมูลให้ ชัยตามกริชเหมือนเงาเลยค่ะ"
เธอบอกยิ้มๆ คิดถึงภาพเด็กชายต่างวัยสองคน คนเล็กกว่าคอยตามหลังคนโตกว่าไปทุกหนทุกแห่ง วันไหนที่เด็กคนโตไม่ไปเรียนหนังสือ ทั้งคู่จะหายกันเข้าไปในสวนได้ครั้งละนานๆ
"ก็ดี มีกริชคอยช่วยดูแลอยู่อย่างนั้น จะได้ไม่มีใครรังแก" รามเองก็รู้ว่าเด็กชายเจ็ดแปดคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้มีนิสัยต่างๆ กัน บางคนนั้นร้ายนักหนา
"เจ้ากริชไว้ใจได้ มีความรับผิดชอบดี" เขาสรุปเช่นนั้น
เห็นภรรยาสาวน้อยใช้หลังมือแตะริมฝีปากเหมือนจะหาว ก็วางเสื้อซึ่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้วนั้นกลับลงที่เดิม
"ง่วงแล้วใช่ไหม"
เธอส่ายหน้า "ยังค่ะ ยังไม่ง่วง คุณรามง่วงแล้วหรือคะ"
"ยังหรอก เพิ่งจะหัวค่ำ"
แม้ปากจะบอกว่ายังไม่ง่วง แต่ร่างใหญ่ๆ ก็ลงนอนเหยียดยาวข้างภรรยาอย่างสบายอารมณ์ สองมือซ้อนรองหนุนไว้ที่ท้ายทอยแทนหมอน ระบายลมหายใจยาวอย่างพึงพอใจ รอบบริเวณเงียบสงบ สงัด มีก็เพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรกรีดปีกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ นายพันเอกหนุ่มชอบบรรยากาศเช่นนี้นักหนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีภรรยาสาวน้อยอยู่ข้างๆ ด้วยอย่างนี้
แต่แล้วความสงบก็ถูกขัดจังหวะจนได้เมื่อร่างอวบๆ ของนางว่านกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่เพียงเชิงบันได สีหน้าตื่นตระหนก มีแววกังวลจนเห็นได้ชัดแม้บริเวณที่นางยืนจะมีแสงไฟส่องไปถึงเพียงสลัวราง
"เจ้าคุณ เจ้าคุณขา..."
หล่อนร้องเรียกขึ้นมา ยังไม่กล้าก้าวขึ้นระเบียงในทันที แม้จะรู้สึกว่าตัวเข้าครอบครองบางส่วนของตึกหลังใหญ่พร้อมกับลูกสาวได้บ้างแล้ว แต่เรือนหลังนี้เป็นของผู้หญิงอีกคนซึ่งหล่อนยอมรับอยู่ในทีว่าอยู่ในฐานะ 'เมียหลวง' ของเจ้าของบ้าน และเขาก็ยังไม่ยกย่องลูกของตัวอย่างออกหน้าออกตา ยิ่งคุณหญิงของเขาไม่เคยเกะกะระรานอะไรเอากับลูกด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งเกรง
รามผงกศีรษะขึ้นมองตามเสียง คิ้วหนาย่นเข้าหากันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เขาขยับตัวขึ้นนั่ง ระเบียงเรือนมีดวงไฟตามอยู่ข้างฝา ให้แสงสว่างได้ทั่วบริเวณ…รวมไปถึงบันได แต่ต่ำลงไปจากนั้นเห็นกันเพียงสลัวๆ
"มีอะไรหรือ แม่ว่าน" เสียงห้าวๆ ส่อชัดถึงอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัว
นางว่านก้าวขึ้นบันไดมาขั้นหนึ่งเพื่อให้พอเห็นหน้ากัน แล้วหยุดอยู่เพียงแค่นั้น
"แว่นแก้วค่ะเจ้าคุณ มันบอกว่าปวดท้องจนทนไม่ไหวแล้วค่ะ เจ้าคุณช่วยพาไปหาหมอทีเถอะค่ะ อิฉันกลัวว่ามันจะแท้ง" น้ำเสียงของนางร้อนรน
รามชายตาดูปฏิกิริยาของภรรยา เห็นว่าเธอมองเขาอยู่ก่อนแล้ว พบสบตากันเธอกลับก้มลงดูผ้าในมือดังเดิม เขาจึงจำต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ขยับลุกโดยไม่พูดอะไร แล้วก้าวลงบันไดผ่านหน้านางว่านเพื่อนำกลับไปทางตัวตึก
มารดาแว่นแก้วสบตาผู้เป็นเจ้าของเรือนไม้ซึ่งยังคงนั่งตะลึงอยู่บนระเบียงแวบหนึ่ง รอยยิ้มหยามหยันระบายจางๆ ที่มุมปาก ก่อนผลุนผลันตามหลังคนซึ่งตัวถือว่าเป็นลูกเขยไปติดๆ
บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๓๐)
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ เปรียว sixtyone, จารย์จี GTW, คุณ รัตน์ฤดี, คุณ ออมอำพัน, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ ๒๐ http://ppantip.com/topic/35490729
บทที่ ๒๑ http://ppantip.com/topic/35500221
บทที่ ๒๒ http://ppantip.com/topic/35507830
บทที่ ๒๓ http://ppantip.com/topic/35514634
บทที่ ๒๔ http://ppantip.com/topic/35524338
บทที่ ๒๕ http://ppantip.com/topic/35533699
บทที่ ๒๖ http://ppantip.com/topic/35542378
บทที่ ๒๗ http://ppantip.com/topic/35546044
บทที่ ๒๙ http://ppantip.com/topic/35559158
“ดิฉันน่ะหรือคะมีท้อง”
นัยน์ตาสีน้ำตาล…ใสจนส่งประกายเบิกกว้างเมื่อชายหนุ่มจบประโยค เธอหัวเราะอย่างเห็นขัน
“ไม่หรอกค่ะ ยายไวแกคิดไปเองมากกว่า จะท้องได้อย่างไรคะ ก็คลื่นไส้ เวียนหัววันนั้นแค่ครั้งเดียว แล้วเป็นอยู่ครู่เดียวก็หาย”
"ให้หมอมาตรวจดูดีไหม จะได้รู้ให้แน่ๆ ไปเสีย" เขายังคงคะยั้นคะยอ หวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าภรรยากำลังท้องจริงๆ อย่างที่บ่าวสูงวัยตั้งข้อสังเกต
ร่างใหญ่ๆ นั่งหลังพิงลูกกรงระเบียง สองขาเหยียดยาวออกมาไพล่กันอยู่ข้างหน้าอย่างสบายอารมณ์ นิ้วคีบบุหรี่ มีจานรองอยู่บนพื้นไม้ข้างตัว เมื่อครั้งที่แต่งงานกันใหม่ๆ เวลาย่ำค่ำเช่นนี้เป็นเวลาที่เคยได้อยู่กันตามลำพังในห้องริมเฉลียงชั้นบนของตัวตึก หากทว่าหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลับมาคืนดีกันอีกครั้งหลังหมางเมินกันไปร่วมสองเดือน สองหนุ่มสาวย้ายสถานที่พูดคุยหรืออ่านหนังสือด้วยกันมาเป็นระเบียงเรือนไม้หลังเล็กแทน ในเมื่อฝ่ายภรรยาไม่ยอมขึ้นไปบนตึกอีก
ว่าไปตามจริงแล้วรามเองก็ชอบแบบนี้ บนระเบียงซึ่งหันเข้าหาลำคลองนี้รับลมเต็มที่ อากาศจึงปลอดโปร่งอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยร้อนอบอ้าวเหมือนชั้นบนของตึกใหญ่ และแทบจะไม่มียุงรบกวน
เมื่อครั้งที่คุณหญิงละออและคุณกนกอาศัยอยู่ที่นี่ เรือนไม้หลังนี้มีผู้คนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่เป็นบ่าวและเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางวันซึ่งคุณหญิงมีอะไรให้ต้องทำ ตั้งแต่เตรียมอาหารประเภทที่ต้องอาศัยความประณีตและใช้เวลายาวนาน หรือทำงานฝีมือ เรื่อยไปจนถึงคัดเลือกหมากพลูและผลไม้จากสวนเพื่อส่งขาย คุณหญิงชอบให้มีผู้คนห้อมล้อม ตรงข้ามกับไอรีนซึ่งชอบความเงียบและความเป็นส่วนตัวมากกว่า นั่นเป็นความพึงพอใจของรามด้วยเช่นกัน
สาวน้อยละสายตาจากผ้าป่านที่กำลังเย็บขึ้นมองคนพูดแวบหนึ่ง ไม่ค่อยจะจริงจังนักกับเรื่องซึ่งเขายกขึ้นมาพูดถึงในเชิงปรึกษา ยายไวเคยเกริ่นเรื่องนี้กับเธอครั้งหนึ่งแล้วเช่นกัน แต่เธอเห็นเป็นเรื่องน่าขัน ก็ยายไวเคยมีลูกกับใครเสียที่ไหน จะรู้ได้อย่างไรว่าคนกำลังท้องมีอาการอย่างไรบ้าง
'ระดูคุณดีอยู่รึคะ' นางเคยถามตรงๆ ว่าอย่างนั้น จนไอรีนต้องหัวเราะ ทั้งขบขันและขัดเขิน
'ยายก็...ถามอะไรก็ไม่รู้'
เหตุเพราะไม่มีแม่อยู่ใกล้ตัว คุณหญิงสาวน้อยจึงเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีคนใกล้ชิดเพศเดียวกันที่พอจะพูดคุยปรึกษาในเรื่องที่เป็นส่วนตัวขนาดนั้นได้ เธอจึงเลี่ยงที่จะให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของประจำเดือน ผู้หญิงคนอื่นจะเป็นอย่างไรเธอไม่รู้เพราะไม่เคยคุยเรื่องแบบนี้กับใคร รู้ก็แต่เพียงว่าประจำเดือนของตัวเองไม่เคยปกติเลยสักครั้ง บางครั้งหายไปนานสองสามเดือน บางครั้งมาติดต่อกันสองสามครั้งต่อเดือนก็มี จึงไม่เคยเอาเรื่องนั้นมาเป็นอารมณ์ ไม่เคยกังวลใจ ในเมื่อไม่รู้ว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาหรือไม่ แม้ขณะนี้ประจำเดือนจะขาดไปกว่าสองเดือนแล้วก็ตาม
ยิ่งเห็นกรณีแว่นแก้วมีอาการแพ้ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน และไม่ยอมไปให้หมอตรวจจนถึงทุกวันนี้ แม้จะท้องมากว่าห้าเดือนแล้วก็ตาม จนมีเสียงพูดกันหนาหูในหมู่บ่าวว่าหล่อนไม่ได้ท้องจริง เธอจึงเกรงว่าถ้าไปหาหมอแล้วหมอบอกว่าไม่ท้อง ก็คงน่าอับอายเอามากๆ ทีเดียว ใครๆ อาจค่อนให้ลับหลังว่าเธอพยายามอ้อนสามี พยายามเรียกร้องความสนใจจากเขาเพื่อแข่งกับผู้หญิงคนนั้น นั่นไม่ใช่ตัวเธอแน่นอน เธอไม่เคยคิดอยากแข่งดีแข่งเด่นกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่จะทำให้คนกลางต้องมีกังวลเพิ่มขึ้นมาอีกเช่นเรื่องนี้
“เอาไว้ให้แน่ใจเสียก่อนไม่ดีกว่าหรือคะ ถ้าไม่ท้องล่ะอายหมอเปล่าๆ เลย”
“ทำไมจะต้องอาย ให้รู้แน่ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ” ฝ่ายสามีก็ยังไม่ยอมลดละ
"เอาไว้ให้มีอาการอะไรอีกสักครั้งดีกว่าค่ะ ให้แน่ใจเสียก่อนแล้วดิฉันไปให้หมอตรวจแน่ๆ" เธอยังคงยืนยันเช่นเดิม
"เอาอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเวียนหัวหรือคลื่นไส้ขึ้นมาอีกครั้ง สัญญาไหมว่าเธอจะบอกฉันทันที"
ในที่สุดรามก็ยอมตามแต่โดยดีเหมือนเช่นทุกครั้ง ขยี้ก้นบุหรี่ลงในจานรอง ขยับตัวอย่างเมื่อยขบเพราะนั่งท่าเดียวอยู่นาน แล้วหันมองไปนอกระเบียงเรือนเมื่อลมพัดพาเอากลิ่นมะลิมากระทบฆาณประสาท ในเงาตะคุ่มเห็นศาลาหกเหลี่ยมซึ่งตั้งใจสร้างให้ภรรยาเริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นบ้างแล้ว
"ติดไฟที่ศาลานั่นด้วยจะดีไหม"
เขาถามเป็นเชิงปรึกษา พยักพเยิดไปนอกระเบียงเรือน
ไอรีนมองตามสายตาแม้จากบริเวณที่นั่งอยู่จะแทบไม่เห็นอะไรเพราะความมืดก็ตาม
"ไม่ต้องดีกว่ากระมังคะ กลางคืนอย่างนี้คงไม่มีใครไปนั่งกัน"
รามลดสายตาลงดูงานซึ่งสาวน้อยกำลังทำ แล้วขยับเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ หยิบผ้าขาวซึ่งวางอยู่บนพื้นขึ้นกางดู
"นี่เย็บเสื้อให้ใครกันล่ะ"
"เสื้อกับกางเกงของชัยค่ะ ว่าจะเย็บให้สักสองชุด"
ชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นว่าภรรยาของตัวช่างเห่อเด็กชายคนใหม่ที่เพิ่งรับมาเลี้ยงเสียจริงๆ
"ชัยเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า วันๆ อยู่ที่ไหน ทำไมฉันไม่เห็น"
"ก็คุณรามไม่ค่อยอยู่บ้านนี่คะถึงได้ไม่ค่อยได้เห็น"
"นั่นสินะ แล้วตกลงว่าได้เรียนหนังสือหรือเปล่า"
"เรียนค่ะ ตอนนี้ได้กริชสอนหนังสือชั้นมูลให้ ชัยตามกริชเหมือนเงาเลยค่ะ"
เธอบอกยิ้มๆ คิดถึงภาพเด็กชายต่างวัยสองคน คนเล็กกว่าคอยตามหลังคนโตกว่าไปทุกหนทุกแห่ง วันไหนที่เด็กคนโตไม่ไปเรียนหนังสือ ทั้งคู่จะหายกันเข้าไปในสวนได้ครั้งละนานๆ
"ก็ดี มีกริชคอยช่วยดูแลอยู่อย่างนั้น จะได้ไม่มีใครรังแก" รามเองก็รู้ว่าเด็กชายเจ็ดแปดคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้มีนิสัยต่างๆ กัน บางคนนั้นร้ายนักหนา
"เจ้ากริชไว้ใจได้ มีความรับผิดชอบดี" เขาสรุปเช่นนั้น
เห็นภรรยาสาวน้อยใช้หลังมือแตะริมฝีปากเหมือนจะหาว ก็วางเสื้อซึ่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้วนั้นกลับลงที่เดิม
"ง่วงแล้วใช่ไหม"
เธอส่ายหน้า "ยังค่ะ ยังไม่ง่วง คุณรามง่วงแล้วหรือคะ"
"ยังหรอก เพิ่งจะหัวค่ำ"
แม้ปากจะบอกว่ายังไม่ง่วง แต่ร่างใหญ่ๆ ก็ลงนอนเหยียดยาวข้างภรรยาอย่างสบายอารมณ์ สองมือซ้อนรองหนุนไว้ที่ท้ายทอยแทนหมอน ระบายลมหายใจยาวอย่างพึงพอใจ รอบบริเวณเงียบสงบ สงัด มีก็เพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรกรีดปีกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ นายพันเอกหนุ่มชอบบรรยากาศเช่นนี้นักหนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีภรรยาสาวน้อยอยู่ข้างๆ ด้วยอย่างนี้
แต่แล้วความสงบก็ถูกขัดจังหวะจนได้เมื่อร่างอวบๆ ของนางว่านกระหืดกระหอบมาหยุดอยู่เพียงเชิงบันได สีหน้าตื่นตระหนก มีแววกังวลจนเห็นได้ชัดแม้บริเวณที่นางยืนจะมีแสงไฟส่องไปถึงเพียงสลัวราง
"เจ้าคุณ เจ้าคุณขา..."
หล่อนร้องเรียกขึ้นมา ยังไม่กล้าก้าวขึ้นระเบียงในทันที แม้จะรู้สึกว่าตัวเข้าครอบครองบางส่วนของตึกหลังใหญ่พร้อมกับลูกสาวได้บ้างแล้ว แต่เรือนหลังนี้เป็นของผู้หญิงอีกคนซึ่งหล่อนยอมรับอยู่ในทีว่าอยู่ในฐานะ 'เมียหลวง' ของเจ้าของบ้าน และเขาก็ยังไม่ยกย่องลูกของตัวอย่างออกหน้าออกตา ยิ่งคุณหญิงของเขาไม่เคยเกะกะระรานอะไรเอากับลูกด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งเกรง
รามผงกศีรษะขึ้นมองตามเสียง คิ้วหนาย่นเข้าหากันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เขาขยับตัวขึ้นนั่ง ระเบียงเรือนมีดวงไฟตามอยู่ข้างฝา ให้แสงสว่างได้ทั่วบริเวณ…รวมไปถึงบันได แต่ต่ำลงไปจากนั้นเห็นกันเพียงสลัวๆ
"มีอะไรหรือ แม่ว่าน" เสียงห้าวๆ ส่อชัดถึงอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัว
นางว่านก้าวขึ้นบันไดมาขั้นหนึ่งเพื่อให้พอเห็นหน้ากัน แล้วหยุดอยู่เพียงแค่นั้น
"แว่นแก้วค่ะเจ้าคุณ มันบอกว่าปวดท้องจนทนไม่ไหวแล้วค่ะ เจ้าคุณช่วยพาไปหาหมอทีเถอะค่ะ อิฉันกลัวว่ามันจะแท้ง" น้ำเสียงของนางร้อนรน
รามชายตาดูปฏิกิริยาของภรรยา เห็นว่าเธอมองเขาอยู่ก่อนแล้ว พบสบตากันเธอกลับก้มลงดูผ้าในมือดังเดิม เขาจึงจำต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ขยับลุกโดยไม่พูดอะไร แล้วก้าวลงบันไดผ่านหน้านางว่านเพื่อนำกลับไปทางตัวตึก
มารดาแว่นแก้วสบตาผู้เป็นเจ้าของเรือนไม้ซึ่งยังคงนั่งตะลึงอยู่บนระเบียงแวบหนึ่ง รอยยิ้มหยามหยันระบายจางๆ ที่มุมปาก ก่อนผลุนผลันตามหลังคนซึ่งตัวถือว่าเป็นลูกเขยไปติดๆ