ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 31 Heredia and belen, Costa Rica
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก
https://www.youtube.com/watch?v=semFN7JQPqs&index=68&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=58F1VvLpjiE&index=69&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=Ebbyl9LYCfo&index=70&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=hXnY872ZFfE&index=71&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
ศุกร์ที่ 15 ก.ค. วันนี้เราจะออกไปสำรวจ นอกเมืองหลวงกัน
คอสตาริก้า มีพืนที่ 51,000 ตร.กม. เมืองหลวง ชื่อ ซาน โฮเซ่ (San Jose) ออกเสียงตามเจ้าของบ้าน มีประชากร 5 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัว $ 10,000 ต่อปี สกุลเงิน โคลอนนิส ตรงนี้อาจเขียนผิด ไว้จะกลับมาแก้นะคะ....ที่แน่ๆ คำที่เขียนผิดไปแล้ว และยังไม่มีเวลาตามแก้ คือ นกมาคอว์ (Macao) เขียนเหมือน มาเก๊า เลย🙄🙄🙄🙄🙄 ส่วนภาษา ก็ใช้ภาษาสเปน เหมือนประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลาง....ผู้คนมีผิวขาว มากกว่า ประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา ... ไม่แน่ใจว่า เพราะมีคนผิวขาวเยอะ จึงเจริญกว่า ที่อื่น หรือ เพราะเจริญ จึงมีคนผิวขาวเยอะ😉😉😉😉
เมืองหลวงดูดี และคึกคัก กว่า 4 ประเทศที่ผ่านมา ยกเว้นเม็กซิโก...มีอาคารสูง และอาคารสวย มากมาย มีซุ้มประตูจีน ตรงถนนคนเดิน ด้วย😊😊😊😊
หลังจากที่รอ คุณ Grace พนักงานต้อนรับสาวสวยมาจนถึงตอนเช้า รับปากว่า จะหาแผนที่เมือง และถามรายละเอียดจากเจ้านายมาบอกว่า สถานีรถไฟที่จะไป Cartago อยู่ที่ไหน🙄🙄🙄🙄🙄 ตอนที่เจ้านายเธอมา ก็เห็นเธอคลอเคลีย กับเจ้านายอยู่นาน ป้ารอจนดึก เดินออกไปดู พวกเขาก็ยังมีเรื่องเม้ามอยกัน รออีกทั้งคืน ยังไร้วี่แวว...เธอออกเวรไปแล้ว😣😣😣😣
ป้าเจอแม่บ้านสาว ถามว่า เราจะเอากระเป๋าไว้ตรงไหนดี ตอนเย็นกลับมา เราต้องย้ายห้อง...แม่บ้านไม่รู้เรื่อง...เธอเดินตามหาล่าม... เป็นหนุ่มเยอรมัน ที่นั่ง Tica Bus มาพร้อมเรา จบไป 1 เรื่อง เอาไปไว้ที่ห้องใต้บันได...
เรื่องต่อไป คือ สถานีรถไฟ ป้าเขียน คำว่า Train Stacion/ Cartago ไปถามแม่บ้านอีก ตามเคย เธอหาล่าม คือ หนุ่มเยอรมัน คนเดิม ที่หน้า เขาบอกว่า ออกไป เลี้ยวขวาตรงไป 200 เมตร....ป้าถามว่า เขารู้ได้อย่างไร เขาบอกว่า เมื่อวานเขาเดินเลยไป ก็เลยเห็น😊😊😊😊
เราเดินออกไป มันอยู่ตรงข้าม กับ สวนสาธารณะ นั่นเอง...พอไปถึง รถไฟ กำลังจะออก เราคิดว่า คงมีรถหลายขบวน แต่ไม่ใช่ มันเป็นขบวนที่ไปที่อื่น...เราถามว่า Cartago เขาบอกว่า No...Otta-cinque ป้าก็ไม่เข้าใจ จึงถามพนักงานสาวหนุ่ม แล้วเขียนตัวเลข 08.05 a.m. สาวตอบว่า ใช่ แล้วก็โบกมือ ป้าเริ่มเข้าใจ จึงถามว่า แล้วขบวนต่อไปล่ะ เธอเขียน 3.30 p.m. ทีนี้เริ่มเข้าใจ ว่า ขบวนเช้า หมดแล้ว ต้องรอขบวนบ่าย....เราจึงไปนั่งปรึกษากัน ว่า จะเอาไงดี 🙄🙄🙄🙄
เดินกลับไปดูตารางเวลา เห็นป้ายที่หน้าช่องขายตั๋ว Cartago 450 C...Heredia 410 C แต่ช่องขายตั๋วปิดไปแล้ว จึงเดินหาจนท. ขอตาราง เขาเข้าห้องไปหยิบมาให้ 1 แผ่น แล้วให้เราออกจากสถานี😏😏😏😏เราออกไปนั่งปรึกษากันใหม่...ต้องกลับที่พักไปหาสัญญาณเน็ต เพื่อหาข้อมูล...ป้าขอแยกไปซื้อเสบียง....
ป้าถือโอกาสแลกเงิน ทั้งทำให้แบงค์ดอลล่าร์เป็นใบเล็ก และแลกโคลอนนิส เพิ่ม หาร้านผัก ผลไม้ ได้ผักเป็นฟักแม้ว กะหล่ำปลี มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ บีทรูท รวม 3,550 โคลอนนิส เดินหาร้านขาย หมู ไก่ ไข่ ที่ผ่ายตอนขาไป หาไม่เจอ จึงเข้า Pali ซุปเปอร์ใหญ่ ที่มีอยู่ทุกแห่งในอเมริกากลาง...มีแต่ไก่ จึงซื้อ 2 ปีกใหญ่ 530 โคลอนนิส ปาปริก้า 5 เม็ด 350 โคลอนนิส ....ข้ามถนนไปซื้อบาแก็ต แล้วก็เดินกลับ ของหนักมาก😣😣😣😣
ป้าเดินหลงทิศ เลยไปไกลมาก กว่าจะหาทางไปสวนสาธารณะได้ ก็ 10.00 น..... วน 3 ด้าน ไม่ใช่ จึงถามคนกวาดขยะ เขางงอยู่พักใหญ่ แล้วชี้ ว่า ต้องไปอีก 2 ถนน🙄🙄🙄😏ไปดีกว่า....พอเดินขึ้นเนินไป ก็เห็นรั้วไม้เถา...อืออออ....คงทำหน้าที่กวาดอย่างเดียว โดยไม่เคยสำรวจว่า รอบๆ สวนมีอะไรบ้าง😉😉😉😉😉ลุงนั่งรอ...เร่งให้เอาของไปเก็บ🙄🙄🙄🙄ป้ากะว่า ทำอาหารกิน แล้ว จะกินยาคลายกล้ามเนื้อ ก่อนไปเที่ยว😣😣😣😣เร่งจนลืมเงินเหรียญไว้ในห้องน้ำ 1 กำมือ ตอนเข้าไปถอดกางเกงเลกกี้ตัวในออก เพราะร้อนมาก....ตอนเช้าหนาว เราจึงใส่เสื้อและกางเกงตัวใน เพื่อให้อุ่น แล้วใส่เสื้อกั๊กด้วย...แต่หลังจากเดินขึ้นเขา หลงทาง หนัก....ก็ร้อนจนจะเป็นลมต้องหาน้ำลูบตัว😥😥😥😥😥
ลุงเปลี่ยนแผน เป็นไป Heredia ต้องหาวิธีการไปใหม่...เดินไปท่ารถ คราวนี้ เดินลงเขา ค่อยยังชั่ว ก็ไกลแหละ....แต่เดินไป ถ่ายรูปไป ก็สบายๆ😉😉😉😊
ถึงท่ารถ11.00 น. ระยะทาง 9 กม. ค่ารถคนละ 410 โคลอนนิส รถวิ่งเกือบชั่วโมง ผ่านบ้านเมืองที่ดูสวยงามกว่า ประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลาง เพราะมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด ในอเมริกากลาง....เมืองเฮเร้เดีย (ขอออกเสียงเหมือนเจ้าของบ้าน เวลาใครไปถึงจะได้ไม่เพี้ยน เหมือนป้า ไง)
เป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบ มีสวนสาธารณะร่มรื่น เพียงพอแก่ประชากร จำนวนไม่มาก...ม้านั่งสะอาดกว่า ซานโฮเซ่ ที่ม้านั่งในสวนทุกสวนมีแต่ขี้นก หนาเตอะ แต่คนก็นั่งกันเฉย ไม่เห็นมีใครทำท่ารังเกียจ...ไม่แน่ใจ ว่า มีค่านิยม นั่งทับขี้นก รึเปล่า😎😎😎😎😎สงสัยนะคะ...ใครรู้ช่วยตอบด้วย!
เราได้รับการชี้แนะให้ลงที่ป้ายที่สามารถเดินข้ามถนน แล้วเดินต่ออีกไม่เกิน 300 เมตร ก็ถึงสวนสาธารณะ กลางเมือง....แล้วก็หาทางไปท่ารถ Belen .... ระหว่างทางแวะซื้อ เข็มกับด้ายเอาไปซ่อมเป้ ของป้า กับถุงใส่อาหาร ราคา 900 โคลอนนิส (340+560)....
ป้าทายว่า มัน เมืองสวยงามในหุบเขา ที่มองลงไปจากเฮเร้เดีย คือ เมือง เบเล่น เพราะระยะทางแค่ไม่เกิน 5 กม. ค่ารถคนละ 310 โคลอนนิส เมืองเฮเร้เดีย อยู่บนเขา ส่วน เมืองเบเล่น อยู่ในหุบเขา แค่รถวิ่งวนอ้อมเขาไปมาก็ถึงแล้ว😄😄😄😄😄
ป้าเขียน คำว่า Belen Tren Stacion คนขับรถก็รู้แล้ว....ป้าก็ลืมไป ว่า รถไฟ คือ Tren พอเห็นในตารางรถไฟ นึกถึงตอนไปยุโรป ก็เออ...ทำไมเราลืมไปได้🙄🙄🙄🙄
เขาปล่อยเราลงตรงสวนสาธารณะ ราจึงแวะร้านเบเกอรี่ ซื้อ ทรอทิลล่า 1 ถุง 10 แผ่น ราคา 400 โคลอนนิส...แล้วก็เดินไปสวนสาธารณะ กับโบสถ์ ที่มีคนไปพักผ่อนประปราย...เดินวนรอบเมือง เล็กๆ สวยงาม และสงบ...แล้วเดินไปรอรถไฟ ซึ่งตามตารางออกเวลา 16.21 น....พอ 15.30 น. ก็เปิดขายตั๋ว คนละ 330 โคลอนนิส....ที่แย่ คือ อากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว ห้องน้ำก็ไม่มี นี่ป้าอั้นมา ตั้งแต่ 10.30 น. แล้ว รถไฟมีแค่ 2 ตู้ ขับได้ทั้งหัวและท้าย....ตอนซื้อตั๋ว คนขายตั๋วทำมือให้ดู ว่า รถจะไปทางไหน😊😊😊
ก่อนเวลาตามตาราง 15 นาที คนก็ออกไปยืนบนชานชาลา ชะโงกออกไปที่ราง จนแทบมองไม่เห็นตอนรถเข้า🙄🙄🙄🙄 รถมีแค่ 2 ตู้ พอถึงสถานี คนขับ ก็ลง ไปขับอีกด้านหนึ่ง...เบาะรถสามารถดึงเปลี่ยนทิศทางให้หันหน้าไปตามทิศที่รถเคลื่อนไปได้😊😊😊😊
ป้าเห็นมีคนทำจึงลุกขึ้นยืน มองงงๆ คิดว่า ถ้าหมุนเหมือนญี่ปุน มันต้องมีแกนหมุน...ลองก้มดูไม่เห็นมี🙄🙄🙄🙄
ชายคนที่ป้าเห็นเขาทำ มองมาแล้วทำท่า ให้ดึง...ป้าจึงจับ 2 พนักแล้วดึงพร้อมกัน....ว้าววว! มันใช่เลยยย!😆😆😆😆บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นสังกะสี ร่วมกับปูน หน้าต่าง ก็เจาะบ้าง ไม่เจาะบ้าง...คงร้อนน่าดู🙄🙄🙄🙄
ข้างทางรถไฟ ที่โคลงเคลง เพราะรางสึกมาก เป็นบ้านเรือน และทุ่งเลี้ยงวัว กับลำธารลึกมาก แต่มองหาน้ำแทบไม่เจอ....อ้าววว! นายตรวจตั๋ว คือ จนท.หนุ่มเสื้อแดง ที่ป้าถาม ที่สถานี เมื่อเช้านั่นเอง😊😊😊😊
ป้ากลัวลงผิดสถานี จึงเอาแผนที่ให้เขาดู และให้เขาบอกที่ลง ตอนถึงสถานี....แต่ก็ต้องดูด้วยตัวเอง กลัวพลาดเหมือนกัน ตอนรถเข้าเขตเมือง ด้านหนึ่งเป็นบ้านเรือน อีกด้ายหนึ่งเรียงรายไปด้วยสนามกีฬา และอาคารสูง มีภาพเลอะเทอะตามกำแพง แสดงว่า ที่ลุงทายว่า ด้านนอกกระจกมีตาข่ายลวด ไว้กันพวกมือบอน น่าจะเข้าเค้า😊😊😊😊
ตอนที่ลุงลุกไปถ่ายวิดีโอ มีคนมานั่งแทนลุง...ป้าก็ปล่อยให้เขานั่ง เผื่อลุงจะไปเม้ากับคนอื่นบ้าง😆😆😆😆
อ้าววว! รถจอด ดับเครื่อง คนลงหมด🙄🙄🙄🙄จนท.หนุ่มพาเข้าไปในสถานี บอกว่า นั่งรอ ต่อรถ ขบวนใหม่🙄🙄🙄🙄17.00 น. ลมเย็นพัดเข้ามาในสถานี แสดงว่า เมืองนี้ อากาศแปรปรวน 3 ฤดู ในวันเดียว ฝนตก แดดร้อน หนาว😉😉😉😉ตอนนี้สบายใจ ที่สถานีรอต่อรถ มีห้องน้ำ แม้ต้องรอนาน😁😁😁😁ไม่รู้ว่าสถานีต่อรถ ชื่ออะไร ...ต้องรอนานเท่าไร...ต้องซื้อตั๋วใหม่มั้ย...เพราะจนท.ก็สื่อสารได้เล็กน้อย....มีคนรออยู่ไม่มาก แต่จนท.หนุ่มก็ยืนอยู่แถวนั้นด้วย...อ้าววว! รถขบวนที่เรามา กลับไปพร้อมรถไฟแล้ว...แต่รปภ.ที่สถานี ยังอยู่กับเรา😊😊😊😊
แสดงว่า คนที่ให้ตารางรถไฟ และให้เราออกจากสถานี เมื่อเช้า เป็นนายสถานี น่ะสิ....มิน่า เขาสั่งให้ จนท.หนุ่ม สาว เสื้อแดง นั่งรออยู่ข้างชานชาลา เพื่อรอรถไฟขบวนต่อไป นั่นเอง😃😃😃😃😃
ยิ่งรอนาน คนก็ยิ่งมาเพิ่ม...สถานีสวย...ในสถานีมีการจัดแสดงประวัติการรถไฟของคอสตาริก้าด้วย😊😊😊😊
ป้าไม่อยากกลับไปถึงที่พักช้า เพราะยิ่งดึก คนยิ่งแย่งกันใช้ครัว...อยากทำอาหารเผื่อพรุ่งนี้ด้วย...วันนี้กินอาหารซื้อ เค็มมาก ทั้งไก่ทอด กับ บาแก็ต ขนาดกินกล้วย กับแอ๊ปเปิ้ล ยังช่วยได้เล็กน้อยเท่านั้น...จนท.เดินมา ทัก...หนีห่าวๆ....ป้าบอกว่า...สวัสดีค่ะ...เขาเดินมาถามว่า จะไปไหนเราบอกว่า Parque Nacional...เขาบอกว่า ตามมาๆ รถไฟกำลังจะมาแล้ว...ประตูเปิดประตูเดียว คือ ประตูที่เราเข้ามา...เขาขายตั๋วให้เรา ค่ารถ คนละ 250 โคลอนนิส...แล้วก็บอกว่า รถที่เราจะไป เข้ารางถัดไป...ไม่ใช่ขบวนตรงหน้าเรา ที่คนอื่นกำลังขึ้นกันอยู่...
พอขึ้นไปบนรถ ก่อนนั่งลง ก็ต้องมีการดึงเบาะ ให้กลับด้าน😊😊😊😊
จนท.สาวเสื้อแดง มาตรวจตั๋ว ป้าเอาแผนที่สวนสาธารณะ ให้ดู เธอยิ้ม แล้วบอกว่า เธอก็จะลงเหมือนกัน😄😄😄😄ลุงบอกว่า หนุ่มๆ มาเที่ยวคอสตาริก้า คนเดียว เจอยิ้มหวานจากสาวหน้าสวยคอสตาริก้า รับรองไม่ได้กลับบ้านแน่😃😃😃😄
ด้านซ้ายมือ ของรางรถไฟ ยังคงเรียงรายด้วยสวนสาธารณะ และสนามกีฬา เป็นชุมชนใหม่ ไม่เหมือนเบเล่ม...ลุงบอกว่า รถไฟแล่นช้า เหมือนจะโดดขึ้น โดดลงกลางทางได้😊😊😊😊เราเห็นภาพผนังหลายๆ ที่สวยงาม เป็นศิลปะ ที่คู่ควรกับคำว่า แกร็ฟฟิตตี้....
เราไปถึงสถานี Del Atlantico เวลา 17.45 น. จนท.สาว เสื้อแดง คนที่ใจลุงแทบละลาย ตอนเธอยิ้มให้ ลืมเราเสียสนิท เพราะตอนที่เราลงรถ เธอกำลังคุยอยู่กับผู้โดยสาร คนอื่น🙄🙄🙄🙄
ลงรถแล้ว เราเดินไปหาซุปเปอร์ฯ เพื่อซื้อข้าวสาร มีขายพอดี ถุงละ 2 กก. ในราคา 1,400 โคลอนนิส พอเอาไปหุงมันขึ้นหม้อมาก เหมือนข้าวกล้องที่ มานากัว แต่ข้าวขาววันนี้นิ่มกว่า ข้าวกล้องวันนั้น เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว😊😊😊😊
คุณไซบีเรียนฮัสกี้ มาเฝ้ากินกระดูกไก่ ตั้งแต่เริ่มทำ จนกินข้าวเสร็จ...อาหารค่ำ วันนี้ เป็นข้าว กับยำเนื้อไก่ย่าง ที่ซื้อมาจากชายแดนนิการากัว มันเค็มจนหลังจากคลุกกับหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ปาปริก้า บีบมะนาวแล้ว ไม่ต้องเติมเกลืออีกเลย แกงจืดฟักแม้วกับปีกไก่ ได้กระดูกให้เจ้าตัวใหญ่ ที่มานั่งบ้าง นอนบ้าง รอรับเศษอาหารอยู่ข้างๆ ป้า...มีผักดองฝอยแถมมากับไก่ย่างด้วย อาหารใกล้เคียงกับที่บ้าน เพราะมีผักชีฝรั่งใส่ยำ...ผักชีไทยใส่แกงจืด รวมทั้ง 3 สหาย กระเทียม พริกไทย รากผักชี ครบสูตรแกงจืดไทย😋😋😋😋
คืนนี้เปลี่ยนห้องใหม่ นอนได้มากกว่า 10 คน มีเตียงใหญ่ 1 เตียงเล็ก 1 ห้องน้ำใหญ่มาก แต่ถ้าจะเอาผ้าเช็ดตัว กับกระดาษชำระ เพิ่มอีก คืนละ 2 ดอลล่าร์ มีห้องต้นไม้ขนาด 2×3 เมตร แถมให้ด้วย...จะได้อาบน้ำ ซักผ้า อย่างมีความสุข ซะที😀😀😀😀😀
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอน 31 Heredia and belen, Costa Rica
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก
https://www.youtube.com/watch?v=semFN7JQPqs&index=68&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=58F1VvLpjiE&index=69&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=Ebbyl9LYCfo&index=70&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
https://www.youtube.com/watch?v=hXnY872ZFfE&index=71&list=PLNNEpgjidh3oCKG68o2D1556PUm4cZ-IN
ศุกร์ที่ 15 ก.ค. วันนี้เราจะออกไปสำรวจ นอกเมืองหลวงกัน
คอสตาริก้า มีพืนที่ 51,000 ตร.กม. เมืองหลวง ชื่อ ซาน โฮเซ่ (San Jose) ออกเสียงตามเจ้าของบ้าน มีประชากร 5 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัว $ 10,000 ต่อปี สกุลเงิน โคลอนนิส ตรงนี้อาจเขียนผิด ไว้จะกลับมาแก้นะคะ....ที่แน่ๆ คำที่เขียนผิดไปแล้ว และยังไม่มีเวลาตามแก้ คือ นกมาคอว์ (Macao) เขียนเหมือน มาเก๊า เลย🙄🙄🙄🙄🙄 ส่วนภาษา ก็ใช้ภาษาสเปน เหมือนประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลาง....ผู้คนมีผิวขาว มากกว่า ประเทศอื่นๆ ที่ผ่านมา ... ไม่แน่ใจว่า เพราะมีคนผิวขาวเยอะ จึงเจริญกว่า ที่อื่น หรือ เพราะเจริญ จึงมีคนผิวขาวเยอะ😉😉😉😉
เมืองหลวงดูดี และคึกคัก กว่า 4 ประเทศที่ผ่านมา ยกเว้นเม็กซิโก...มีอาคารสูง และอาคารสวย มากมาย มีซุ้มประตูจีน ตรงถนนคนเดิน ด้วย😊😊😊😊
หลังจากที่รอ คุณ Grace พนักงานต้อนรับสาวสวยมาจนถึงตอนเช้า รับปากว่า จะหาแผนที่เมือง และถามรายละเอียดจากเจ้านายมาบอกว่า สถานีรถไฟที่จะไป Cartago อยู่ที่ไหน🙄🙄🙄🙄🙄 ตอนที่เจ้านายเธอมา ก็เห็นเธอคลอเคลีย กับเจ้านายอยู่นาน ป้ารอจนดึก เดินออกไปดู พวกเขาก็ยังมีเรื่องเม้ามอยกัน รออีกทั้งคืน ยังไร้วี่แวว...เธอออกเวรไปแล้ว😣😣😣😣
ป้าเจอแม่บ้านสาว ถามว่า เราจะเอากระเป๋าไว้ตรงไหนดี ตอนเย็นกลับมา เราต้องย้ายห้อง...แม่บ้านไม่รู้เรื่อง...เธอเดินตามหาล่าม... เป็นหนุ่มเยอรมัน ที่นั่ง Tica Bus มาพร้อมเรา จบไป 1 เรื่อง เอาไปไว้ที่ห้องใต้บันได...
เรื่องต่อไป คือ สถานีรถไฟ ป้าเขียน คำว่า Train Stacion/ Cartago ไปถามแม่บ้านอีก ตามเคย เธอหาล่าม คือ หนุ่มเยอรมัน คนเดิม ที่หน้า เขาบอกว่า ออกไป เลี้ยวขวาตรงไป 200 เมตร....ป้าถามว่า เขารู้ได้อย่างไร เขาบอกว่า เมื่อวานเขาเดินเลยไป ก็เลยเห็น😊😊😊😊
เราเดินออกไป มันอยู่ตรงข้าม กับ สวนสาธารณะ นั่นเอง...พอไปถึง รถไฟ กำลังจะออก เราคิดว่า คงมีรถหลายขบวน แต่ไม่ใช่ มันเป็นขบวนที่ไปที่อื่น...เราถามว่า Cartago เขาบอกว่า No...Otta-cinque ป้าก็ไม่เข้าใจ จึงถามพนักงานสาวหนุ่ม แล้วเขียนตัวเลข 08.05 a.m. สาวตอบว่า ใช่ แล้วก็โบกมือ ป้าเริ่มเข้าใจ จึงถามว่า แล้วขบวนต่อไปล่ะ เธอเขียน 3.30 p.m. ทีนี้เริ่มเข้าใจ ว่า ขบวนเช้า หมดแล้ว ต้องรอขบวนบ่าย....เราจึงไปนั่งปรึกษากัน ว่า จะเอาไงดี 🙄🙄🙄🙄
เดินกลับไปดูตารางเวลา เห็นป้ายที่หน้าช่องขายตั๋ว Cartago 450 C...Heredia 410 C แต่ช่องขายตั๋วปิดไปแล้ว จึงเดินหาจนท. ขอตาราง เขาเข้าห้องไปหยิบมาให้ 1 แผ่น แล้วให้เราออกจากสถานี😏😏😏😏เราออกไปนั่งปรึกษากันใหม่...ต้องกลับที่พักไปหาสัญญาณเน็ต เพื่อหาข้อมูล...ป้าขอแยกไปซื้อเสบียง....
ป้าถือโอกาสแลกเงิน ทั้งทำให้แบงค์ดอลล่าร์เป็นใบเล็ก และแลกโคลอนนิส เพิ่ม หาร้านผัก ผลไม้ ได้ผักเป็นฟักแม้ว กะหล่ำปลี มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ บีทรูท รวม 3,550 โคลอนนิส เดินหาร้านขาย หมู ไก่ ไข่ ที่ผ่ายตอนขาไป หาไม่เจอ จึงเข้า Pali ซุปเปอร์ใหญ่ ที่มีอยู่ทุกแห่งในอเมริกากลาง...มีแต่ไก่ จึงซื้อ 2 ปีกใหญ่ 530 โคลอนนิส ปาปริก้า 5 เม็ด 350 โคลอนนิส ....ข้ามถนนไปซื้อบาแก็ต แล้วก็เดินกลับ ของหนักมาก😣😣😣😣
ป้าเดินหลงทิศ เลยไปไกลมาก กว่าจะหาทางไปสวนสาธารณะได้ ก็ 10.00 น..... วน 3 ด้าน ไม่ใช่ จึงถามคนกวาดขยะ เขางงอยู่พักใหญ่ แล้วชี้ ว่า ต้องไปอีก 2 ถนน🙄🙄🙄😏ไปดีกว่า....พอเดินขึ้นเนินไป ก็เห็นรั้วไม้เถา...อืออออ....คงทำหน้าที่กวาดอย่างเดียว โดยไม่เคยสำรวจว่า รอบๆ สวนมีอะไรบ้าง😉😉😉😉😉ลุงนั่งรอ...เร่งให้เอาของไปเก็บ🙄🙄🙄🙄ป้ากะว่า ทำอาหารกิน แล้ว จะกินยาคลายกล้ามเนื้อ ก่อนไปเที่ยว😣😣😣😣เร่งจนลืมเงินเหรียญไว้ในห้องน้ำ 1 กำมือ ตอนเข้าไปถอดกางเกงเลกกี้ตัวในออก เพราะร้อนมาก....ตอนเช้าหนาว เราจึงใส่เสื้อและกางเกงตัวใน เพื่อให้อุ่น แล้วใส่เสื้อกั๊กด้วย...แต่หลังจากเดินขึ้นเขา หลงทาง หนัก....ก็ร้อนจนจะเป็นลมต้องหาน้ำลูบตัว😥😥😥😥😥
ลุงเปลี่ยนแผน เป็นไป Heredia ต้องหาวิธีการไปใหม่...เดินไปท่ารถ คราวนี้ เดินลงเขา ค่อยยังชั่ว ก็ไกลแหละ....แต่เดินไป ถ่ายรูปไป ก็สบายๆ😉😉😉😊
ถึงท่ารถ11.00 น. ระยะทาง 9 กม. ค่ารถคนละ 410 โคลอนนิส รถวิ่งเกือบชั่วโมง ผ่านบ้านเมืองที่ดูสวยงามกว่า ประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลาง เพราะมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด ในอเมริกากลาง....เมืองเฮเร้เดีย (ขอออกเสียงเหมือนเจ้าของบ้าน เวลาใครไปถึงจะได้ไม่เพี้ยน เหมือนป้า ไง)
เป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบ มีสวนสาธารณะร่มรื่น เพียงพอแก่ประชากร จำนวนไม่มาก...ม้านั่งสะอาดกว่า ซานโฮเซ่ ที่ม้านั่งในสวนทุกสวนมีแต่ขี้นก หนาเตอะ แต่คนก็นั่งกันเฉย ไม่เห็นมีใครทำท่ารังเกียจ...ไม่แน่ใจ ว่า มีค่านิยม นั่งทับขี้นก รึเปล่า😎😎😎😎😎สงสัยนะคะ...ใครรู้ช่วยตอบด้วย!
เราได้รับการชี้แนะให้ลงที่ป้ายที่สามารถเดินข้ามถนน แล้วเดินต่ออีกไม่เกิน 300 เมตร ก็ถึงสวนสาธารณะ กลางเมือง....แล้วก็หาทางไปท่ารถ Belen .... ระหว่างทางแวะซื้อ เข็มกับด้ายเอาไปซ่อมเป้ ของป้า กับถุงใส่อาหาร ราคา 900 โคลอนนิส (340+560)....
ป้าทายว่า มัน เมืองสวยงามในหุบเขา ที่มองลงไปจากเฮเร้เดีย คือ เมือง เบเล่น เพราะระยะทางแค่ไม่เกิน 5 กม. ค่ารถคนละ 310 โคลอนนิส เมืองเฮเร้เดีย อยู่บนเขา ส่วน เมืองเบเล่น อยู่ในหุบเขา แค่รถวิ่งวนอ้อมเขาไปมาก็ถึงแล้ว😄😄😄😄😄
ป้าเขียน คำว่า Belen Tren Stacion คนขับรถก็รู้แล้ว....ป้าก็ลืมไป ว่า รถไฟ คือ Tren พอเห็นในตารางรถไฟ นึกถึงตอนไปยุโรป ก็เออ...ทำไมเราลืมไปได้🙄🙄🙄🙄
เขาปล่อยเราลงตรงสวนสาธารณะ ราจึงแวะร้านเบเกอรี่ ซื้อ ทรอทิลล่า 1 ถุง 10 แผ่น ราคา 400 โคลอนนิส...แล้วก็เดินไปสวนสาธารณะ กับโบสถ์ ที่มีคนไปพักผ่อนประปราย...เดินวนรอบเมือง เล็กๆ สวยงาม และสงบ...แล้วเดินไปรอรถไฟ ซึ่งตามตารางออกเวลา 16.21 น....พอ 15.30 น. ก็เปิดขายตั๋ว คนละ 330 โคลอนนิส....ที่แย่ คือ อากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว ห้องน้ำก็ไม่มี นี่ป้าอั้นมา ตั้งแต่ 10.30 น. แล้ว รถไฟมีแค่ 2 ตู้ ขับได้ทั้งหัวและท้าย....ตอนซื้อตั๋ว คนขายตั๋วทำมือให้ดู ว่า รถจะไปทางไหน😊😊😊
ก่อนเวลาตามตาราง 15 นาที คนก็ออกไปยืนบนชานชาลา ชะโงกออกไปที่ราง จนแทบมองไม่เห็นตอนรถเข้า🙄🙄🙄🙄 รถมีแค่ 2 ตู้ พอถึงสถานี คนขับ ก็ลง ไปขับอีกด้านหนึ่ง...เบาะรถสามารถดึงเปลี่ยนทิศทางให้หันหน้าไปตามทิศที่รถเคลื่อนไปได้😊😊😊😊
ป้าเห็นมีคนทำจึงลุกขึ้นยืน มองงงๆ คิดว่า ถ้าหมุนเหมือนญี่ปุน มันต้องมีแกนหมุน...ลองก้มดูไม่เห็นมี🙄🙄🙄🙄
ชายคนที่ป้าเห็นเขาทำ มองมาแล้วทำท่า ให้ดึง...ป้าจึงจับ 2 พนักแล้วดึงพร้อมกัน....ว้าววว! มันใช่เลยยย!😆😆😆😆บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นสังกะสี ร่วมกับปูน หน้าต่าง ก็เจาะบ้าง ไม่เจาะบ้าง...คงร้อนน่าดู🙄🙄🙄🙄
ข้างทางรถไฟ ที่โคลงเคลง เพราะรางสึกมาก เป็นบ้านเรือน และทุ่งเลี้ยงวัว กับลำธารลึกมาก แต่มองหาน้ำแทบไม่เจอ....อ้าววว! นายตรวจตั๋ว คือ จนท.หนุ่มเสื้อแดง ที่ป้าถาม ที่สถานี เมื่อเช้านั่นเอง😊😊😊😊
ป้ากลัวลงผิดสถานี จึงเอาแผนที่ให้เขาดู และให้เขาบอกที่ลง ตอนถึงสถานี....แต่ก็ต้องดูด้วยตัวเอง กลัวพลาดเหมือนกัน ตอนรถเข้าเขตเมือง ด้านหนึ่งเป็นบ้านเรือน อีกด้ายหนึ่งเรียงรายไปด้วยสนามกีฬา และอาคารสูง มีภาพเลอะเทอะตามกำแพง แสดงว่า ที่ลุงทายว่า ด้านนอกกระจกมีตาข่ายลวด ไว้กันพวกมือบอน น่าจะเข้าเค้า😊😊😊😊
ตอนที่ลุงลุกไปถ่ายวิดีโอ มีคนมานั่งแทนลุง...ป้าก็ปล่อยให้เขานั่ง เผื่อลุงจะไปเม้ากับคนอื่นบ้าง😆😆😆😆
อ้าววว! รถจอด ดับเครื่อง คนลงหมด🙄🙄🙄🙄จนท.หนุ่มพาเข้าไปในสถานี บอกว่า นั่งรอ ต่อรถ ขบวนใหม่🙄🙄🙄🙄17.00 น. ลมเย็นพัดเข้ามาในสถานี แสดงว่า เมืองนี้ อากาศแปรปรวน 3 ฤดู ในวันเดียว ฝนตก แดดร้อน หนาว😉😉😉😉ตอนนี้สบายใจ ที่สถานีรอต่อรถ มีห้องน้ำ แม้ต้องรอนาน😁😁😁😁ไม่รู้ว่าสถานีต่อรถ ชื่ออะไร ...ต้องรอนานเท่าไร...ต้องซื้อตั๋วใหม่มั้ย...เพราะจนท.ก็สื่อสารได้เล็กน้อย....มีคนรออยู่ไม่มาก แต่จนท.หนุ่มก็ยืนอยู่แถวนั้นด้วย...อ้าววว! รถขบวนที่เรามา กลับไปพร้อมรถไฟแล้ว...แต่รปภ.ที่สถานี ยังอยู่กับเรา😊😊😊😊
แสดงว่า คนที่ให้ตารางรถไฟ และให้เราออกจากสถานี เมื่อเช้า เป็นนายสถานี น่ะสิ....มิน่า เขาสั่งให้ จนท.หนุ่ม สาว เสื้อแดง นั่งรออยู่ข้างชานชาลา เพื่อรอรถไฟขบวนต่อไป นั่นเอง😃😃😃😃😃
ยิ่งรอนาน คนก็ยิ่งมาเพิ่ม...สถานีสวย...ในสถานีมีการจัดแสดงประวัติการรถไฟของคอสตาริก้าด้วย😊😊😊😊
ป้าไม่อยากกลับไปถึงที่พักช้า เพราะยิ่งดึก คนยิ่งแย่งกันใช้ครัว...อยากทำอาหารเผื่อพรุ่งนี้ด้วย...วันนี้กินอาหารซื้อ เค็มมาก ทั้งไก่ทอด กับ บาแก็ต ขนาดกินกล้วย กับแอ๊ปเปิ้ล ยังช่วยได้เล็กน้อยเท่านั้น...จนท.เดินมา ทัก...หนีห่าวๆ....ป้าบอกว่า...สวัสดีค่ะ...เขาเดินมาถามว่า จะไปไหนเราบอกว่า Parque Nacional...เขาบอกว่า ตามมาๆ รถไฟกำลังจะมาแล้ว...ประตูเปิดประตูเดียว คือ ประตูที่เราเข้ามา...เขาขายตั๋วให้เรา ค่ารถ คนละ 250 โคลอนนิส...แล้วก็บอกว่า รถที่เราจะไป เข้ารางถัดไป...ไม่ใช่ขบวนตรงหน้าเรา ที่คนอื่นกำลังขึ้นกันอยู่...
พอขึ้นไปบนรถ ก่อนนั่งลง ก็ต้องมีการดึงเบาะ ให้กลับด้าน😊😊😊😊
จนท.สาวเสื้อแดง มาตรวจตั๋ว ป้าเอาแผนที่สวนสาธารณะ ให้ดู เธอยิ้ม แล้วบอกว่า เธอก็จะลงเหมือนกัน😄😄😄😄ลุงบอกว่า หนุ่มๆ มาเที่ยวคอสตาริก้า คนเดียว เจอยิ้มหวานจากสาวหน้าสวยคอสตาริก้า รับรองไม่ได้กลับบ้านแน่😃😃😃😄
ด้านซ้ายมือ ของรางรถไฟ ยังคงเรียงรายด้วยสวนสาธารณะ และสนามกีฬา เป็นชุมชนใหม่ ไม่เหมือนเบเล่ม...ลุงบอกว่า รถไฟแล่นช้า เหมือนจะโดดขึ้น โดดลงกลางทางได้😊😊😊😊เราเห็นภาพผนังหลายๆ ที่สวยงาม เป็นศิลปะ ที่คู่ควรกับคำว่า แกร็ฟฟิตตี้....
เราไปถึงสถานี Del Atlantico เวลา 17.45 น. จนท.สาว เสื้อแดง คนที่ใจลุงแทบละลาย ตอนเธอยิ้มให้ ลืมเราเสียสนิท เพราะตอนที่เราลงรถ เธอกำลังคุยอยู่กับผู้โดยสาร คนอื่น🙄🙄🙄🙄
ลงรถแล้ว เราเดินไปหาซุปเปอร์ฯ เพื่อซื้อข้าวสาร มีขายพอดี ถุงละ 2 กก. ในราคา 1,400 โคลอนนิส พอเอาไปหุงมันขึ้นหม้อมาก เหมือนข้าวกล้องที่ มานากัว แต่ข้าวขาววันนี้นิ่มกว่า ข้าวกล้องวันนั้น เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว😊😊😊😊
คุณไซบีเรียนฮัสกี้ มาเฝ้ากินกระดูกไก่ ตั้งแต่เริ่มทำ จนกินข้าวเสร็จ...อาหารค่ำ วันนี้ เป็นข้าว กับยำเนื้อไก่ย่าง ที่ซื้อมาจากชายแดนนิการากัว มันเค็มจนหลังจากคลุกกับหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ปาปริก้า บีบมะนาวแล้ว ไม่ต้องเติมเกลืออีกเลย แกงจืดฟักแม้วกับปีกไก่ ได้กระดูกให้เจ้าตัวใหญ่ ที่มานั่งบ้าง นอนบ้าง รอรับเศษอาหารอยู่ข้างๆ ป้า...มีผักดองฝอยแถมมากับไก่ย่างด้วย อาหารใกล้เคียงกับที่บ้าน เพราะมีผักชีฝรั่งใส่ยำ...ผักชีไทยใส่แกงจืด รวมทั้ง 3 สหาย กระเทียม พริกไทย รากผักชี ครบสูตรแกงจืดไทย😋😋😋😋
คืนนี้เปลี่ยนห้องใหม่ นอนได้มากกว่า 10 คน มีเตียงใหญ่ 1 เตียงเล็ก 1 ห้องน้ำใหญ่มาก แต่ถ้าจะเอาผ้าเช็ดตัว กับกระดาษชำระ เพิ่มอีก คืนละ 2 ดอลล่าร์ มีห้องต้นไม้ขนาด 2×3 เมตร แถมให้ด้วย...จะได้อาบน้ำ ซักผ้า อย่างมีความสุข ซะที😀😀😀😀😀
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น