เรื่องของเรื่องคือผมซื้อโทรศัพท์ซัมซุงครั้งแรก ตอนนั้น S7 Edge กำลังเปิดให้คนจอง เห็นว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กันน้ำด้วย วัสดุกันรอยขีดข่วน รูปร่างสวยงาม ที่สำคัญเราใช้โทรศัพท์ 2 เครื่องสำหรับงานกับส่วนตัวรุ่นนี้ใช้ 2 ซิมได้คือตอนนั้นคิดว่าต้องเป็นโทรศัพท์รุ่นที่สุดยอดของซัมซุง ประกอบกับเห็นคนใช้ยี่ห้อนี้กันเยอะแยะมีความเชื่อมั่นในแบรนด์เลยสั่งจองออนไลน์ รอของมาส่งถึงที่บ้าน
16 มี.ค. ของมาส่งที่บ้าน เห่อมาก โทรศัพท์อะไรสวยจังจอโค้ง ใช้งานลื่นไหล ตอนนั้นได้ของมาใหม่ด้วยความที่ จขกท.อยู่เชียงใหม่ พวกอุปกรณ์เสริมยังมีขายไม่มาก รอพักนึงถึงได้เคสใส และฟิล์มกันรอยที่บอกว่าดูดซับแรงกระแทก คิดว่าโทรศัพท์ได้รับการปกป้องพอสมควรแล้ว
17 เม.ย. โทรศัพท์ตกจอแตกระหว่างใช้โทรศัพท์ในรถ จขกท.ถือด้วยมือระหว่างขับรถและโทรศัพท์ตกลงไปกระแทกรางเบาะที่เป็นเหล็ก ตกไม่ได้สูงอะไรแต่คงได้เหลี่ยมพอดี จอแตกทะลุเข้าไปข้างใน หน้าจอลาย ใช้การไม่ได้อีกเลย เอาจริงๆก่อนหน้านี้ใช้โทรศัพท์ยี่ห้ออื่นตกไม่รู้กี่ทีคืออย่างมากก็เป็นรอย แต่ซัมซุง S7 Edge แตกครับ ฟิล์มที่บอกว่ากันกระแทกอะไรก็ไม่ได้ช่วยเลยครับ ใครคิดจะซื้อรุ่นนี้คิดดีๆนะครับ มันบอบบางมากจริงๆ (แม้แต่ช่างที่ซ่อมยังบอก) ใครคิดจะใช้ควรซื้อประกันหน้าจอแตกด่วนๆเลยครับ อย่าไปเสียดายเงิน ของใช้กับมือมันต้องร่วงต้องหล่นอยู่แล้ว หรือซื้อเคสเทพไปเลยแบบกันกระแทกสุดๆ ก็โทรศัพท์เค้ากันน้ำครับ แต่ไม่กันกระแทก
18 เม.ย. ส่งซ่อมที่ศูนย์บริการซัมซุงสาขาพรอมมานาดา จขกท.อยู่เชียงใหม่ มีศูนย์บริการอยู่สองที่ก็เลือกที่พรอมมานาดา เพราะอยู่ระหว่างทางกลับบ้านกับที่ทำงาน เข้าไปที่ศูนย์ ส่งซ่อม รออะไหล่ประมาณ 3-4 วัน ก็เข้าใจได้ว่าของใหม่ อะไหล่อาจจะยังมาไม่ถึงตจว. ซ่อมเสร็จวันที่ 22 เม.ย. เสียค่าใช้จ่ายไป 7,000 กว่าบาทสำหรับเปลี่ยนจอเข้าใจได้ว่าไม่อยู่ในประกัน กรณีจอแตกต้องจ่ายเองเพราะโทรศัพท์รุ่นนี้กันน้ำ การเปลี่ยนไม่ได้เปลี่ยนแค่กระจกแต่ยกเปลี่ยนทั้งเฟรมเลย ช่างแจ้งว่า ซ่อมเรียบร้อย แต่ยังเทสกันน้ำไม่ผ่าน ให้นำกลับมาให้ดูใหม่เมื่อมีเวลา ช่างดูยังใหม่กับการซ่อมโทรศัพท์รุ่นนี้มาก อาจเป็นเพราะของเพิ่งออกมาได้เดือนกว่า
ช่วงเดือน พ.ค. จขกท.หยุดงานหลายวันได้โอกาสไปปฏิบัติธรรม ก่อนเข้าวัดนำโทรศัพท์เข้าไปอีกรอบให้ช่างเช็คเรื่องกันน้ำ ทิ้งเครื่องไว้สามสี่วันระหว่างไปฏิบัติธรรม ออกมาก็ไปรับโทรศัพท์คิดว่าคงจบ ปรากฏช่างแจ้งว่าก็ยังเทสกันน้ำไม่ผ่าน ไม่แน่ว่าอาจะเป็นที่ซอฟแวร์ ให้นำเครื่องกลับไปก่อนไปล้างข้อมูลมาให้เรียบร้อย อาจจะป็นที่ซอฟแวร์ คือคุณๆคิดว่ายังไง นี่ผมซ่อมกับศูนย์บริการซัมซุงนะครับ ไม่ใช่ซ่อมตู้ คือซ่อมครั้งแรกก็ไม่จบ เอามาอีกครั้งก็ยังไม่จบ ตอนนี้คิดว่าเป็นตรงนั้น คิดว่าเป็นตรงนี้ จขกท.ทำงานเป็นเซลล์ คือใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา การที่ไม่มีโทรศัพท์ใช้แต่ละวันหมายถึงค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ อ้อแล้วก็ที่เค้าโฆษณาว่ามีโทรศัพท์ให้ใช้ระหว่างซ่อมอะไรนั่นน่ะ เฉพาะเขตกทม.นะครับ ที่นี่ไม่มี หรือมีก็ไม่เคยได้รับการเสนออะไรจากทางศูนย์เลย ตอนนั้นก็คิดว่า ทรศัพท์เรายังใช้ได้ ก็เอามาใช้ก่อน เดี๋ยวเคลียร์ข้อมูลแล้วค่อยมาอีกรอบ
กลางเดือนมิ.ย.สบโอกาส ลางานอีกรอบ เอาล่ะ เอาโทรศัพท์เข้าไปทำให้เสร็จๆจะได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนใหม่ เอาเข้าไปทิ้งไว้ตอนสายๆ เย็นไปรับ ถามว่าจบมั้ยครับเรื่องกันน้ำ ช่างแจ้งว่าก็ยังไม่จบครับยังคงเทสกันน้ำไม่ผ่าน คราวนี้ตอนส่งมอบเครื่องคืนแถมรอยคลื่นๆตรงหน้าจอด้านล่างทั้งแถบ มาให้ผม ช่างแจ้งว่าเป็นเพราะการอบวัสดุ อะไรสักอย่าง และบอกว่าจะทำการเคลมเปลี่ยนหน้าจอให้ แต่อะไหล่ขาดตลาดอยู่ กว่าจะมาอีกทีประมาณสิ้นเดือน ก.ค.โน่นเลยครับ (ในใจผมคิดว่ารออะไหล่นานไปมั้ย) ถ้าอะไหล่มาจะแจ้งให้ทราบ ระหว่างนั้นผมก็ก็รอยาวๆไปฟังชั่นกันน้ำอะไรไม่เคยได้ใช้ รอมาเดือนกว่าจนถึงสิ้นเดือน ก.ค. ไม่มีใครโทรหาทั้งสิ้น อ่ะ รออีกหน่อยก็ได้ ใจเย็นสุดๆ
วันแม่ 12 สิงหา เริ่มรู้สึกว่ารอนานไปแล้วโทรไปถามเรื่องอะไหล่ ทางศูนย์แจ้งว่าอะไหล่จะเข้ามาวันจันทร์ที่ 15 ให้เอาเครื่องเข้ามาซ่อม
ความพีคมันอยู่ตรงนี้ครับ ระหว่างที่ผมรอจะเอาเครื่องเข้าไปซ่อมวันจันทร์ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ โทรศัพท์เกิดหล่นอีกรอบจากกระเป๋ากางเกงลงที่พื้น หน้าจอแตกอีกแล้วครับทั่น คราวนี้แตกและร้าวแต่ยังใช้งานได้
วันจันทร์ที่ 15 ส.ค. เอาเครื่องเข้าไปซ่อมตามนัด ช่างถามว่าเครื่องทำตกมาเหรอครับ ก็ตอบไปตามความจริง ช่างแจ้งว่า ถ้ากรณีแบบนี้เคลมให้ไม่ได้นะครับ เพราะว่าเครื่องตกมา สุดท้ายช่างแจ้งว่าจะรับของไว้แล้วคุยกับทางศูนย์ใหญ่ให้ ผมก็รอยาวไปครับ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป 22 ส.ค. โทรไปถามอาการ บอกว่าพยายามติดต่อเราทั้งอาทิตย์ ติดต่อไม่ได้เลย (ผมอาจจะผิดเองที่อาจจะเดินทางตลอด แต่ไม่มีมิสคอลจากซัมซุงสักสาย ให้ตายเถอะ) พนักงานแจ้งว่าทางศูนย์ใหญ่แจ้งว่าไม่รับประกันจริงๆ กรณีนี้ แต่จะลดค่าซ่อมให้ 30% จาก 7,000 กว่าบาท เหลือ 5,000 กว่าบาท อย่าลืมนะครับว่าซัมซุงจะต้องซ่อมให้ผมฟรีตั้งแต่แรกอยู่แล้วจากการทำหน้าจอผมเป็นรอยจากการซ่อมครั้งที่แล้ว
ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจซ่อม ถึงตรงนี้ผมอยากให้เพื่อนๆช่วยคิดหน่อยครับ ว่าความรับผิดชอบควรเป็นของใคร และคำตอบที่ได้รับจากซัมซุงเหมาะสมแล้วหรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่าตัวเองมีความอดทนมากกกกับบริการหลังการขายและระบบการบริหารจัดการอะไหล่อันยอดแย่ของโทรศัพท์รุ่นใหม่ ที่ยังโฆษณาขายอยู่ในตลาดโครมๆ
คำตอบที่ผมได้จากซัมซุงหมายความว่า หากคุณซื้อโทรศัพท์ซัมซุง คุณในฐานะผู้บริโภคต้องรับผิดชอบตัวเอง แม้ว่าสินค้าจะบอบบาง แม้ว่าคุณจะได้รับการซ่อมที่ไม่ได้คุณภาพจากความไม่ชำนาญของช่างของซัมซุง คุณต้องรับได้กับต้องรออะไหล่เป็นเวลานานโดยไม่มีใครติดต่อแจ้งความคืบหน้า และระหว่างรออะไหล่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนหากเกิดอะไรขึ้นกับสินค้าระหว่างนั้นคุณกลายเป็นผู้รับผิดชอบทันที แม้ทางซัมซุงจะต้องรับผิดชอบเปลี่ยนอะไหล่ให้อยู่แล้ว ขอถามความเห็นทุกท่านว่ามันใช่สิ่งที่ผู้บริโภคควรได้รับแล้วหรือครับ ใครควรรับผิดชอบในกรณีแบบนี้ ตัวผม หรือ ซัมซุง
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ
Update 25 ส.ค. เวลา 15.42 ล่าสุดซัมซุงโทรมาว่าจะลดเพิ่มให้จาก 30% เป้น 40% ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลยครับ กับแบรนด์ที่ไม่รับผิดชอบและไม่เอาลูกค้าแบบนี้ ได้แต่ขอเตือนให้ทุกท่านทราบและระวังไว้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์นี้นะครับ สำหรับผมคงเป็นครั้งสุดท้าย
ความบอบบางของ Samsung S7Edge และความไม่รับผิดชอบของศูนย์บริการและอะไหล่ซัมซุง ช่วยผมคิดหน่อยครับว่ามันเหมาะสมมั้ย?
16 มี.ค. ของมาส่งที่บ้าน เห่อมาก โทรศัพท์อะไรสวยจังจอโค้ง ใช้งานลื่นไหล ตอนนั้นได้ของมาใหม่ด้วยความที่ จขกท.อยู่เชียงใหม่ พวกอุปกรณ์เสริมยังมีขายไม่มาก รอพักนึงถึงได้เคสใส และฟิล์มกันรอยที่บอกว่าดูดซับแรงกระแทก คิดว่าโทรศัพท์ได้รับการปกป้องพอสมควรแล้ว
17 เม.ย. โทรศัพท์ตกจอแตกระหว่างใช้โทรศัพท์ในรถ จขกท.ถือด้วยมือระหว่างขับรถและโทรศัพท์ตกลงไปกระแทกรางเบาะที่เป็นเหล็ก ตกไม่ได้สูงอะไรแต่คงได้เหลี่ยมพอดี จอแตกทะลุเข้าไปข้างใน หน้าจอลาย ใช้การไม่ได้อีกเลย เอาจริงๆก่อนหน้านี้ใช้โทรศัพท์ยี่ห้ออื่นตกไม่รู้กี่ทีคืออย่างมากก็เป็นรอย แต่ซัมซุง S7 Edge แตกครับ ฟิล์มที่บอกว่ากันกระแทกอะไรก็ไม่ได้ช่วยเลยครับ ใครคิดจะซื้อรุ่นนี้คิดดีๆนะครับ มันบอบบางมากจริงๆ (แม้แต่ช่างที่ซ่อมยังบอก) ใครคิดจะใช้ควรซื้อประกันหน้าจอแตกด่วนๆเลยครับ อย่าไปเสียดายเงิน ของใช้กับมือมันต้องร่วงต้องหล่นอยู่แล้ว หรือซื้อเคสเทพไปเลยแบบกันกระแทกสุดๆ ก็โทรศัพท์เค้ากันน้ำครับ แต่ไม่กันกระแทก
18 เม.ย. ส่งซ่อมที่ศูนย์บริการซัมซุงสาขาพรอมมานาดา จขกท.อยู่เชียงใหม่ มีศูนย์บริการอยู่สองที่ก็เลือกที่พรอมมานาดา เพราะอยู่ระหว่างทางกลับบ้านกับที่ทำงาน เข้าไปที่ศูนย์ ส่งซ่อม รออะไหล่ประมาณ 3-4 วัน ก็เข้าใจได้ว่าของใหม่ อะไหล่อาจจะยังมาไม่ถึงตจว. ซ่อมเสร็จวันที่ 22 เม.ย. เสียค่าใช้จ่ายไป 7,000 กว่าบาทสำหรับเปลี่ยนจอเข้าใจได้ว่าไม่อยู่ในประกัน กรณีจอแตกต้องจ่ายเองเพราะโทรศัพท์รุ่นนี้กันน้ำ การเปลี่ยนไม่ได้เปลี่ยนแค่กระจกแต่ยกเปลี่ยนทั้งเฟรมเลย ช่างแจ้งว่า ซ่อมเรียบร้อย แต่ยังเทสกันน้ำไม่ผ่าน ให้นำกลับมาให้ดูใหม่เมื่อมีเวลา ช่างดูยังใหม่กับการซ่อมโทรศัพท์รุ่นนี้มาก อาจเป็นเพราะของเพิ่งออกมาได้เดือนกว่า
ช่วงเดือน พ.ค. จขกท.หยุดงานหลายวันได้โอกาสไปปฏิบัติธรรม ก่อนเข้าวัดนำโทรศัพท์เข้าไปอีกรอบให้ช่างเช็คเรื่องกันน้ำ ทิ้งเครื่องไว้สามสี่วันระหว่างไปฏิบัติธรรม ออกมาก็ไปรับโทรศัพท์คิดว่าคงจบ ปรากฏช่างแจ้งว่าก็ยังเทสกันน้ำไม่ผ่าน ไม่แน่ว่าอาจะเป็นที่ซอฟแวร์ ให้นำเครื่องกลับไปก่อนไปล้างข้อมูลมาให้เรียบร้อย อาจจะป็นที่ซอฟแวร์ คือคุณๆคิดว่ายังไง นี่ผมซ่อมกับศูนย์บริการซัมซุงนะครับ ไม่ใช่ซ่อมตู้ คือซ่อมครั้งแรกก็ไม่จบ เอามาอีกครั้งก็ยังไม่จบ ตอนนี้คิดว่าเป็นตรงนั้น คิดว่าเป็นตรงนี้ จขกท.ทำงานเป็นเซลล์ คือใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา การที่ไม่มีโทรศัพท์ใช้แต่ละวันหมายถึงค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ อ้อแล้วก็ที่เค้าโฆษณาว่ามีโทรศัพท์ให้ใช้ระหว่างซ่อมอะไรนั่นน่ะ เฉพาะเขตกทม.นะครับ ที่นี่ไม่มี หรือมีก็ไม่เคยได้รับการเสนออะไรจากทางศูนย์เลย ตอนนั้นก็คิดว่า ทรศัพท์เรายังใช้ได้ ก็เอามาใช้ก่อน เดี๋ยวเคลียร์ข้อมูลแล้วค่อยมาอีกรอบ
กลางเดือนมิ.ย.สบโอกาส ลางานอีกรอบ เอาล่ะ เอาโทรศัพท์เข้าไปทำให้เสร็จๆจะได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนใหม่ เอาเข้าไปทิ้งไว้ตอนสายๆ เย็นไปรับ ถามว่าจบมั้ยครับเรื่องกันน้ำ ช่างแจ้งว่าก็ยังไม่จบครับยังคงเทสกันน้ำไม่ผ่าน คราวนี้ตอนส่งมอบเครื่องคืนแถมรอยคลื่นๆตรงหน้าจอด้านล่างทั้งแถบ มาให้ผม ช่างแจ้งว่าเป็นเพราะการอบวัสดุ อะไรสักอย่าง และบอกว่าจะทำการเคลมเปลี่ยนหน้าจอให้ แต่อะไหล่ขาดตลาดอยู่ กว่าจะมาอีกทีประมาณสิ้นเดือน ก.ค.โน่นเลยครับ (ในใจผมคิดว่ารออะไหล่นานไปมั้ย) ถ้าอะไหล่มาจะแจ้งให้ทราบ ระหว่างนั้นผมก็ก็รอยาวๆไปฟังชั่นกันน้ำอะไรไม่เคยได้ใช้ รอมาเดือนกว่าจนถึงสิ้นเดือน ก.ค. ไม่มีใครโทรหาทั้งสิ้น อ่ะ รออีกหน่อยก็ได้ ใจเย็นสุดๆ
วันแม่ 12 สิงหา เริ่มรู้สึกว่ารอนานไปแล้วโทรไปถามเรื่องอะไหล่ ทางศูนย์แจ้งว่าอะไหล่จะเข้ามาวันจันทร์ที่ 15 ให้เอาเครื่องเข้ามาซ่อม
ความพีคมันอยู่ตรงนี้ครับ ระหว่างที่ผมรอจะเอาเครื่องเข้าไปซ่อมวันจันทร์ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ โทรศัพท์เกิดหล่นอีกรอบจากกระเป๋ากางเกงลงที่พื้น หน้าจอแตกอีกแล้วครับทั่น คราวนี้แตกและร้าวแต่ยังใช้งานได้
วันจันทร์ที่ 15 ส.ค. เอาเครื่องเข้าไปซ่อมตามนัด ช่างถามว่าเครื่องทำตกมาเหรอครับ ก็ตอบไปตามความจริง ช่างแจ้งว่า ถ้ากรณีแบบนี้เคลมให้ไม่ได้นะครับ เพราะว่าเครื่องตกมา สุดท้ายช่างแจ้งว่าจะรับของไว้แล้วคุยกับทางศูนย์ใหญ่ให้ ผมก็รอยาวไปครับ หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป 22 ส.ค. โทรไปถามอาการ บอกว่าพยายามติดต่อเราทั้งอาทิตย์ ติดต่อไม่ได้เลย (ผมอาจจะผิดเองที่อาจจะเดินทางตลอด แต่ไม่มีมิสคอลจากซัมซุงสักสาย ให้ตายเถอะ) พนักงานแจ้งว่าทางศูนย์ใหญ่แจ้งว่าไม่รับประกันจริงๆ กรณีนี้ แต่จะลดค่าซ่อมให้ 30% จาก 7,000 กว่าบาท เหลือ 5,000 กว่าบาท อย่าลืมนะครับว่าซัมซุงจะต้องซ่อมให้ผมฟรีตั้งแต่แรกอยู่แล้วจากการทำหน้าจอผมเป็นรอยจากการซ่อมครั้งที่แล้ว
ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจซ่อม ถึงตรงนี้ผมอยากให้เพื่อนๆช่วยคิดหน่อยครับ ว่าความรับผิดชอบควรเป็นของใคร และคำตอบที่ได้รับจากซัมซุงเหมาะสมแล้วหรือไม่ ส่วนตัวผมคิดว่าตัวเองมีความอดทนมากกกกับบริการหลังการขายและระบบการบริหารจัดการอะไหล่อันยอดแย่ของโทรศัพท์รุ่นใหม่ ที่ยังโฆษณาขายอยู่ในตลาดโครมๆ
คำตอบที่ผมได้จากซัมซุงหมายความว่า หากคุณซื้อโทรศัพท์ซัมซุง คุณในฐานะผู้บริโภคต้องรับผิดชอบตัวเอง แม้ว่าสินค้าจะบอบบาง แม้ว่าคุณจะได้รับการซ่อมที่ไม่ได้คุณภาพจากความไม่ชำนาญของช่างของซัมซุง คุณต้องรับได้กับต้องรออะไหล่เป็นเวลานานโดยไม่มีใครติดต่อแจ้งความคืบหน้า และระหว่างรออะไหล่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนหากเกิดอะไรขึ้นกับสินค้าระหว่างนั้นคุณกลายเป็นผู้รับผิดชอบทันที แม้ทางซัมซุงจะต้องรับผิดชอบเปลี่ยนอะไหล่ให้อยู่แล้ว ขอถามความเห็นทุกท่านว่ามันใช่สิ่งที่ผู้บริโภคควรได้รับแล้วหรือครับ ใครควรรับผิดชอบในกรณีแบบนี้ ตัวผม หรือ ซัมซุง
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ
Update 25 ส.ค. เวลา 15.42 ล่าสุดซัมซุงโทรมาว่าจะลดเพิ่มให้จาก 30% เป้น 40% ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลยครับ กับแบรนด์ที่ไม่รับผิดชอบและไม่เอาลูกค้าแบบนี้ ได้แต่ขอเตือนให้ทุกท่านทราบและระวังไว้สำหรับการซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์นี้นะครับ สำหรับผมคงเป็นครั้งสุดท้าย