"โห่! เดินอ้วนเตี้ยมาแต่ไกลเชียวนะป้า, หวัดดีป้า ไม่สบายหรือเปล่า หน้าซีดเชียว, เอ้าเจ๊..! ยังอยู่เหรอ ไม่เจอเลย อ้วนขึ้นนะ, สมบูรณ์นะป้า, ทำไมไม่ไปขยายตะเข็บเสื้อหล่ะ จะปลิอยู่แล้ว, ฯลฯ" นี่คือประโยคทักทายจากเพื่อนร่วมงานแผนกต่างๆ ระหว่างทางที่เยื้องย่างมาโต๊ะทำงานในเช้าวันนี้ วันจันทร์ ที่ 22 สิงหา 2559
การเดินสาว ตี น ยาวๆ ไวๆ เป็นทางรอดเดียวที่จะทำให้หลุดพ้นจากถ้อยคำที่โหดร้ายทารุณเล่านั้น พร้อมกับในใจครุ่นคิด หงุดหงิด งุ่นง่าน...แม่จ้าววว! มันเป็นอัลไรกันคร้า ทำไมพวกมุงพูดแบบนี้ ทั้งเรียกกุป้า ทั้งว่ากุอ้วน มุงกินเพดดีกรีกันหรา
...ความขุ่นเคืองเข้าครอบงำ เลยไม่ทันได้คิดถึงสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงกล่าวทักเช่นนั้น
08.02 - ทันทีที่ถึงโต๊ะทำงาน
ควักมือถือขึ้นมาโทรหาเพื่อนสาวคนสนิทผู้ไม่เคยโกหก(ป้า)
ป้า..."ทำไรอยู่ ยุ่งป่าว คุยได้ไหมแก" (ถามแบบไม่ต้องการคำตอบ)
เพื่อนสาว..."ทำงานอยู่แต่คุยได้ ว่าไง" (น้ำเสียงประมาณว่ามุงมีไรก็รีบพูดมา)
ป้า..."ถามไรหน่อยดิ ตอบตรงๆ ขอความจริง...กุอ้วนป่ะ???" (ตอบดีๆ นะมุง)
เพื่อนสาว..."ไปฟังใครพูดอะไรมาอีกหล่ะมุง อย่าสนใจคำพูดคนอื่นให้มาก เดี๋ยวประสาทกินพอดี" (ความหมายคือ ใช้...เค้าพูดถูก)
ป้า..."แล้วกุอ้วนป่าวหล่ะ บอกมา ตรงๆ บัดนาว!" (ทั้งที่รู้คำตอบแต่อยากเจ็บปวด แอบซาดิส)
เพื่อนสาวเงียบไปอึดใจหนึ่ง..."อื้ม! อ้วนแต่ไม่มาก แต่ก็อ้วนน่ะ" (เหมือนจะรักษาความรู้สึกเลยนะมุง)
โอเค คำตอบชัดเจน ปิดประเด็น...วางสาย ก รู เครียส!!!
14.58 น. จิตตกขั้นวิกฤตเลยทีเดียว
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้งานการไม่เป็นอันทำมัวแต่คิดหาทางแก้ปัญหาที่สร้างความสะเทือนใจขั้นรุนแรง และตอกย้ำความเจ็บปวดให้ตัวเองด้วยการขุดรูปสมัยยังละอ่อนขึ้นมาดู ทำให้พบความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ประเมินจากสายตาพอสังเขป...ผมหงอกเล็กน้อย ตีนกาประปราย พุงยื่นย้วย ตูดใหญ่ย้อย ต้นขาผิวส้มโอ ท่อนแขนเบ่อเล่อแถมห้อยอีกต่างหาก นี่ขา ก รู หรือขาโต๊ะสนุ๊ก / พอเถอะ...อย่าบอกคนอื่นมากไปกว่านี้เลย อายเขาบ้างเห่อ
...ปัญหา คือ อ้วน! & แก่! + เตี้ยอยู่เป็นทุนเดิม (คิดสภาพตามเองละกัน)
...ทางแก้ คือ เกิดใหม่ดีมั๊ย?
หมกมุ่นค้นคว้าหาวิธีลดน้ำหนักในเน็ตทำให้รู้ว่าการลดน้ำหนักนั้นมีหลายกลยุทธ์ หลากวิธี มากเทคนิค บางข้อมูลก็เหมือนก็อปปี้กันมาเป็นทอดๆ บางข้อมูลดูเหมือนนั่งเทียนเขียนขึ้นโดยยังไม่ได้ปฎิบัติ เพราะดูจากความเป็นจริงทางกายภาพของร่างกายและสภาพสังคมไม่เอื้อให้ทำได้ บางข้อมูลทำได้จริง แต่เมนูอาหารที่แนะนำไม่เหมาะสำหรับป้า สรุปแล้วป้าจะนำเทคนิคการลดน้ำหนักต่างๆ มาประมวลเข้าด้วยกัน แล้วเลือกดูว่าเทคนิคแบบไหนเวิร์ค อาหารอะไรที่ไม่ทำให้ทรมานต่อมรับรสมากเกินไป
ก่อนเริ่มลดน้ำหนัก - สิ่งแรกที่ต้องรู้คือน้ำหนักที่เหมาะสมกับตัวเองก่อน ก็คิดตามสูตรที่คนอื่นเขาโพสๆ กันไว้นั่นแหละ อันที่จริงก็เคยเรียนมาบ้างแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันได้ใช้ สูตรคือเอาส่วนสูงตั้ง ลบด้วย 110 เพราะเราเป็นชะนี (ญ) จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นค่าของน้ำหนักที่เหมาะสม อย่างป้านี่สูง 155 ซ.ม. - 110 = 45 ก.ก. (ใครคิดสูตรวะ)
เมื่อกี้นี้แอบลงไปชั่งดู ป้าหนัก 53.2 กิโล เกินมาตรฐาน 8.2 กิโล นี่กุมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย??? มิน่าหล่ะส่วนสัดร่างกายมันถึงได้กระจายกันทะลักอย่างทั่วถึ
รูปประกอบ : รูปน้ำหนักเพิ่งชั่งเมื่อกี้นี้ ส่วนรูปพุงกะทิถ่ายเมื่อสามเดือนก่อน แต่วันนี้ก็คงสภาพเดิม
พรุ่งนี้มารีวิวต่อ ขอไปคิดก่อนว่าจะเริ่มต้น "ลดน้ำหนัก" ยังไงดี
ป้าอยากเล่า..."จะผอมให้ดู ต้องเริ่มลดน้ำหนัก / จะงามให้เห็น ก็ต้องบำรุงผิวกันหน่อย"
การเดินสาว ตี น ยาวๆ ไวๆ เป็นทางรอดเดียวที่จะทำให้หลุดพ้นจากถ้อยคำที่โหดร้ายทารุณเล่านั้น พร้อมกับในใจครุ่นคิด หงุดหงิด งุ่นง่าน...แม่จ้าววว! มันเป็นอัลไรกันคร้า ทำไมพวกมุงพูดแบบนี้ ทั้งเรียกกุป้า ทั้งว่ากุอ้วน มุงกินเพดดีกรีกันหรา
...ความขุ่นเคืองเข้าครอบงำ เลยไม่ทันได้คิดถึงสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงกล่าวทักเช่นนั้น
08.02 - ทันทีที่ถึงโต๊ะทำงาน
ควักมือถือขึ้นมาโทรหาเพื่อนสาวคนสนิทผู้ไม่เคยโกหก(ป้า)
ป้า..."ทำไรอยู่ ยุ่งป่าว คุยได้ไหมแก" (ถามแบบไม่ต้องการคำตอบ)
เพื่อนสาว..."ทำงานอยู่แต่คุยได้ ว่าไง" (น้ำเสียงประมาณว่ามุงมีไรก็รีบพูดมา)
ป้า..."ถามไรหน่อยดิ ตอบตรงๆ ขอความจริง...กุอ้วนป่ะ???" (ตอบดีๆ นะมุง)
เพื่อนสาว..."ไปฟังใครพูดอะไรมาอีกหล่ะมุง อย่าสนใจคำพูดคนอื่นให้มาก เดี๋ยวประสาทกินพอดี" (ความหมายคือ ใช้...เค้าพูดถูก)
ป้า..."แล้วกุอ้วนป่าวหล่ะ บอกมา ตรงๆ บัดนาว!" (ทั้งที่รู้คำตอบแต่อยากเจ็บปวด แอบซาดิส)
เพื่อนสาวเงียบไปอึดใจหนึ่ง..."อื้ม! อ้วนแต่ไม่มาก แต่ก็อ้วนน่ะ" (เหมือนจะรักษาความรู้สึกเลยนะมุง)
โอเค คำตอบชัดเจน ปิดประเด็น...วางสาย ก รู เครียส!!!
14.58 น. จิตตกขั้นวิกฤตเลยทีเดียว
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้งานการไม่เป็นอันทำมัวแต่คิดหาทางแก้ปัญหาที่สร้างความสะเทือนใจขั้นรุนแรง และตอกย้ำความเจ็บปวดให้ตัวเองด้วยการขุดรูปสมัยยังละอ่อนขึ้นมาดู ทำให้พบความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ประเมินจากสายตาพอสังเขป...ผมหงอกเล็กน้อย ตีนกาประปราย พุงยื่นย้วย ตูดใหญ่ย้อย ต้นขาผิวส้มโอ ท่อนแขนเบ่อเล่อแถมห้อยอีกต่างหาก นี่ขา ก รู หรือขาโต๊ะสนุ๊ก / พอเถอะ...อย่าบอกคนอื่นมากไปกว่านี้เลย อายเขาบ้างเห่อ
...ปัญหา คือ อ้วน! & แก่! + เตี้ยอยู่เป็นทุนเดิม (คิดสภาพตามเองละกัน)
...ทางแก้ คือ เกิดใหม่ดีมั๊ย?
หมกมุ่นค้นคว้าหาวิธีลดน้ำหนักในเน็ตทำให้รู้ว่าการลดน้ำหนักนั้นมีหลายกลยุทธ์ หลากวิธี มากเทคนิค บางข้อมูลก็เหมือนก็อปปี้กันมาเป็นทอดๆ บางข้อมูลดูเหมือนนั่งเทียนเขียนขึ้นโดยยังไม่ได้ปฎิบัติ เพราะดูจากความเป็นจริงทางกายภาพของร่างกายและสภาพสังคมไม่เอื้อให้ทำได้ บางข้อมูลทำได้จริง แต่เมนูอาหารที่แนะนำไม่เหมาะสำหรับป้า สรุปแล้วป้าจะนำเทคนิคการลดน้ำหนักต่างๆ มาประมวลเข้าด้วยกัน แล้วเลือกดูว่าเทคนิคแบบไหนเวิร์ค อาหารอะไรที่ไม่ทำให้ทรมานต่อมรับรสมากเกินไป
ก่อนเริ่มลดน้ำหนัก - สิ่งแรกที่ต้องรู้คือน้ำหนักที่เหมาะสมกับตัวเองก่อน ก็คิดตามสูตรที่คนอื่นเขาโพสๆ กันไว้นั่นแหละ อันที่จริงก็เคยเรียนมาบ้างแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันได้ใช้ สูตรคือเอาส่วนสูงตั้ง ลบด้วย 110 เพราะเราเป็นชะนี (ญ) จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นค่าของน้ำหนักที่เหมาะสม อย่างป้านี่สูง 155 ซ.ม. - 110 = 45 ก.ก. (ใครคิดสูตรวะ)
เมื่อกี้นี้แอบลงไปชั่งดู ป้าหนัก 53.2 กิโล เกินมาตรฐาน 8.2 กิโล นี่กุมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย??? มิน่าหล่ะส่วนสัดร่างกายมันถึงได้กระจายกันทะลักอย่างทั่วถึ
รูปประกอบ : รูปน้ำหนักเพิ่งชั่งเมื่อกี้นี้ ส่วนรูปพุงกะทิถ่ายเมื่อสามเดือนก่อน แต่วันนี้ก็คงสภาพเดิม
พรุ่งนี้มารีวิวต่อ ขอไปคิดก่อนว่าจะเริ่มต้น "ลดน้ำหนัก" ยังไงดี