นิทานเซ็น เรื่องคุณค่าของตน

กระทู้คำถาม
นิทานเซ็น เรื่องคุณค่าของตน

          เณรน้อยเจ้าปัญญา  ถามพระอาจาร์ย "คุณค่าในตัวค่าคืออะไร"

          พระอาจาร์ย "ไปสวนหลังบ้านเก็บก้อนหินก้อนใหญ่ๆมา  1  ก้อน  เอาไปวางที่ตลาด ถ้ามีคนถามว่าราคาเท่าไหร่อย่าตอบ  ให้ชูแค่  2  นิ้ว  ถ้าเขาต่องรองอย่าขายให้เอาก้อนหินก้อนนั้นกลับมา  แล้วเราจะบอกเองว่าคุณค่าของเจ้าคืออะไร"
          
          วันรุ่งขึ้น  เณรน้อยอุ้มหินไปวางขายที่ตลาด  คนจ่ายตลาดเดินผ่านไปผ่านมา  ต่างแปลกใจ  มีแม่บ้านเดินมาถาม  "ก้อนหินขายราคาเท่าไหร่  ?"
    
          เณรน้อยชู  2  นิ้ว

          "2  เหรียญ"

          เณรน้อยส่ายหัว

          "งั้นก็  20  ก็ได้  จะได้เอาไปทับกระดาษ"

          เณรน้อยคิดในใจ "แม่เจ้าโว้ย  หินไรค้านี้ขายได้ตั้ง  20  เหรียญ  ที่ลานวัดของข้าพเจ้ามีอีกตั้งมากมาย"

          แต่เณรน้อยไม่ขายตามที่พระอาจาร์ยบอก  ไปพบพระอาจาร์ยด้วยความดีใจ

          "อาจาร์ย  วันนี้มีแม่บ้านคนหนึ่งให้  ราคา  20  เหรียญจะซื้อหินของข้า  อาจาร์ยบอกได้หรือยังว่าคุณค่าของข้าคืออะไร"

          อาจาร์ย  "ไม่ต้องรีบ  พรุ่งนี้  เอาไปวางไว้ในพิพิธภัณฑ์  ถ้ามีคนถามไม่ต้องตอบ แค่ชู  2  นิ้ว  ถ้าเขาต่องรองอย่าขาย  แล้วมาคุยกันใหม่"

          วันต่อมา  ใน  พิพิธภัณฑ์  มีคนมามุงล้อม  คุยกันเองว่า  "หินธรรมดาก้อนหนึ่ง  มีค่าอะไรมาวางไว้ในพิพิธภัณฑ์"  มาวางในพิพิธภัณฑ์ได้  มันต้องมีค่าของมัน  แต่เราอาจไม่รู้ตอนนี้  มีคนโผล่มา  ตะโกนถามเณรน้อยว่า  "เณรน้อย  หินก้อนนี้ขายเท่าไหร่"
    
          เณรน้อยชู  2  นิ้ว

          "200  เหรียญ"

          เณรน้อยส่ายหัว

          "งั้นก็  2,000  กำลังหาหินไปแกะสลักพระพุทธรูป"

          เณรน้อยตกใจ  มากกว่าเมื่อวานอีก  แต่ไม่ขายตามทีพระอาจาร์ยบอก  ไปพบพระอาจาร์ยด้วยความดีใจ  "อาจาร์ยครับวันนี้มีคนให้ราคา  2,000  เหรียญจะซื้อหินของข้า  วันนี้อาจาร์ยต้องบอกข้าแล้วนะว่า  คุณค่าในตัวของข้าคืออะไร"

          อาจาร์ยหัวเราะชอบใจ  "พรุ่งนี้เอาไปขายที่ร้านขายวัตถุโบราณเหมือนเดิม  แล้วเอากลับมา  ครั้งนี้อาจาร์ยบอกคำตอบเธอแน่ๆ"

          วันต่อมา  เณรน้อยเอาหินไปที่ร้านขายวัตถุโบราณ  ก็ยังมีคนมามุงดู  มีคนพูดว่า  นี่มันหินอะไร  มาจากถิ่นไหน  ของราชวงศ์ไหน

     สุดท้ายมีคนถามราคา  "เณรน้อยหินก้อนนี้ขายราคาเท่าไหร่?"

    
          เณรน้อยชู  2  นิ้ว

          "20,000  เหรียญ"

          เณรน้อยตกใจอ้าปากค้างอุทานเสียงดังว่า "หา"  ชายคนนั้นนึกว่าตัวเองให้ราคาต่ำไป  ทำให้เณรน้อยอารมณ์เสียเขารีบแก้ไขทันทีว่า"โอ้ข้าพูดผิดไป  ข้าจะให้เจ้า  2  แสน"

          เณรน้อยได้ยินดังนั้น  อุ้มหินกลับไปบนเขาหาพระอาจาร์ญทันที  พูดกับอาจาร์ยแบบกระหืด  กระหอบว่า "อาจาร์ยครั้งนี้เรารยแล้ว  มีโยมให้ราคา  2  แสนเพื่อซื้อหินก้อนนี้อาจาร์ยบอกได้หรือยังว่า  คุณค่าตัวค่าคืออะไรกันแน่?"

          อาจาร์ยลูบหัวเณรน้อย  พูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดูว่าว่า

          "เจ้าหนูน้อย   คุณค่าของตัวเจ้าก็เหมือนก้อนหินก้อนนี้  ถ้าวางในตลาดสดเจ้าก็มีค่า  20  ถ้าเอาตัวเจ้าไปวางในพิพิธภัณฑ์เจ้าก็มีค่า 2,000  ถ้าไปอยู่ในร้านวัตถุโบราณเจ้าก็มีค่า  2  แสน
          เวทีชีวิตต่างกัน  ตำแหน่งวางต่างกัน  คุณค่าของคนก็เปลี่ยนไป"
          เราเป็นหิน  เป็นเพชรพลอย  หรือเป็นวัตถุโบราณ  สิ่งที่มันต่างกันคือ  หินมันเดินไม่ได้  เลือกที่จะไปไหนไม่ได้  แต่คนต่างกัน  มีขามีสมองเลือกอยู่ในที่ๆคนมองเห็นคุณค่าเรา

          สำคัญตรงที่ว่าเราจะทำตัวให้เป็นหินหรืออัญมณีที่มีค่า  ที่เมื่อกาลเวลาผ่านไป   ความแข็งแกร่างมากขึ้น  ผ่านการเจียระไน  ความสวยงามมากขึ้น  วางโชว์อยู่ในที่ที่ควรค่าและมีคนมากมายต้องการมัน

     จงเลือกเอาว่าจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์เพื่อไว้ชม  หรือร้านของเก่า  เพื่อเป็นของแพงให้เศษรฐีมีไว้ประดับบารมี

กด like เพจและกด see first ติดดาวเพจ จะได้ไม่พลาดนะจ๊ะ
จากหนังสือ จงเห็นแก่ตัว
ปรับปรุงโดย
- ภัทร อารีรัตน์ -
==============================================
#IAMTHEGREATEST
Facebook Page: เกาสมอง https://www.facebook.com/TheBrainTH/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่