"ค่าของคนอยู่ที่เราจะวางอยู่ที่ใด"

วันหนึ่งเณรน้อย มาหาพระอาจารย์
“พระอาจารย์ คุณค่าในตัวของข้าคืออะไร ”

พระอาจารย์ “เจ้าจงไปที่สวนหลังบ้าน เก็บก้อนหิน
ก้อนใหญ่มา 1 ก้อน เอาไปวางขายที่ตลาด

ถ้ามีคนถามราคา ไม่ตอบ แค่ชู 2 นิ้ว ถ้าเขาต่อรอง
อย่าขาย เอากลับมา อาจารย์จะบอกเองว่า คุณค่าในตัวของเจ้าคืออะไร”

วันรุ่งขึ้น เณรน้อยอุ้มหินไปวางขายที่ตลาด คนจ่ายตลาดเดินผ่านไปผ่านมา ต่างแปลกใจ
มีแม่บ้าน เดินมาถาม “ก้อนหินขายเท่าไหร ?”เณรน้อยชู 2 นิ้ว
“2 เหรียญ” เณรน้อยสั่นหัว

“งั้นก็ 20 ก็ได้ จะได้เอาไปทับผักกาดดอง”
เณรน้อยคิดในใจ “แม่เจ้าโว๊ย หินไร้ค่านี้ขายได้ตั้ง 20 เหรียญ บนเขาวัดข้ามีเยอะแยะ
เณรน้อยก็ไม่ขายตามที่พระอาจารย์บอก ไปพบพระอาจารย์อย่างดีใจ

“อาจารย์ วันนี้มีแม่บ้านคนหนึ่งให้ราคา 20 เหรียญ
จะซื้อหินของข้า อาจารย์บอกได้หรือยังว่า คุณค่าในตัวของข้าคืออะไร”

อาจารย์ “ไม่ต้องรีบ พรุ่งนี้ เอาไปวางไว้ในพิพิธภัณฑ์
ถ้ามีคนถามราคา ไม่ตอบพูด แค่ชู 2 นิ้ว ถ้าเขาต่อรอง
อย่าขาย เอากลับมา แล้วมาคุยกันใหม่”

วันต่อมา ใน พิพิธภัณฑ์ มีจีนมุงล้อมวง คุยกันเองว่า
“หินธรรมดาก้อนหนึ่ง มีค่าอะไรมาอยู่ในพิพิธภัณฑ์”

มาวางไว้ในพิพิธภัณฑ์ได้ มันก็ต้องมีคุณค่าของมัน
แต่เราอาจจะไม่รู้ตอนนี้ มีคนโผล่มา ตะโกนถาม

เณรน้อยว่า “เณรน้อย หินก้อนนี้ชายเท่าไหร่ ” เณรน้อยชู 2 นิ้ว
“200 เหรียญ” เณรน้อยสั่นหัว
“งั้นก็ 2000 แล้วกัน กำลังหาหินไป แกะสลักพระพุทธรูป"

เณรน้อยตกใจ มากกว่าเมื่อวานอีก ก็ไม่ขายตามที่
พระอาจารย์บอก ไปพบพระอาจารย์ด้วยความดีใจ
“อาจารย์ วันนี้มีคนให้ราคา 2000 เหรียญ

จะซื้อหินของข้า วันนี้อาจารย์ต้องบอกข้าแล้วนะว่า
คุณค่าในตัวของข้าคืออะไร” อาจารย์หัวเราะชอบใจ

“พรุ่งนี้เอาไปที่ร้านขายวัตถุโบราณเหมือนเดิม
แล้วเอากลับมา ครั้งนี้ อาจารย์บอกคำตอบเธอแน่ๆ“

วันต่อมา เณรน้อยเอาหินไปที่ร้านขายวัตถุโบราณ ก็ยังมีคนมามุงดู
มีคนพูดว่า นี่มันหินอะไรว่ะ มาจากถิ่นไหน ของราชวงศ์ไหน ใช้ทำอะไร

สุดท้ายมีคนมาถามราคา“ เณรน้อย หินก้อนนี้ชายเท่าไหร่ ?”
เณรน้อยชู 2 นิ้ว “20,000 เหรียญ”

เณรน้อยตกใจอ้าปากค้าง อุทานเสียงดัง “หา”

คนนั้นนึกว่าตัวเองให้ราคาต่ำไป ทำให้เณรน้อยรมณ์เสีย
แก้ไขทันทีว่า “ไม่ๆๆ ข้าพูดผิด ข้าจะให้เจ้า 200,000”

เณรน้อยได้ยินดังนั้น อุ้มหินวิ่งหนีกลับไปบนเขาหาพระอาจารย์ทันที
พูดกับอาจารย์แบบกระหือกระหอบว่า

“อาจารย์ครั้งนี้เรารวยแล้ว มีโยมจะให้ราคาเรา 2 แสนเพื่อซื้อหินก้อนนี้
อาจารย์บอกได้หรือยังว่า คุณค่าในตัวของข้าคืออะไรกันแน่ ?”

อาจารย์ลูบหัวเณรน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดูว่า

“เจ้าหนูน้อย คุณค่าในตัวเจ้าก็เหมือนหินก้อนนี้ ถ้าวางตัวเองในตลาดสด
เจ้าก็มีค่า 20 ถ้าเอาตัวเจ้า ไปวางไว้ในพิพิธภัณฑ์ เจ้าก็มีค่า 2000

ถ้าไปอยู่ในร้านขายวัตถุโบราณ เจ้าก็มีค่า 2 แสน เวทีชีวิตต่างกัน
ตำแหน่งวางตัวต่างกัน คุณค่าของคนก็เปลี่ยนไป”

แล้ววันนี้เราเลือกที่จะเป็นหินที่ถูกวางไว้ที่ใด...!!!


+++___________________________+++





ฝากข้อคิดดีๆไว้นิดนึงนะคะ

ในท่ามกลางความผันแปรทั้งทางโลกและทางธรรม
สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...สอนให้เรารู้ว่า

เราเกิดมาทำไม.......เราจะดำเนินชีวิตเช่นไร...........
ก่อนเราจะจากโลกนี้ไป......เราทำอะไรอยู่

เป้าหมายของชีวิตคนเราแตกต่างกัน.......
การเกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก..

...เราต้องหมั่นสร้างกุศลกรรมไว้ให้มาก
จริงอยู่การทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ เป็นสิ่งจำเป็น

การทำบุญสนทาน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องหมั่นทำ
แต่ทำแล้วได้ประโยชน์หรือต่อยอดศาสนาได้เพียงใด

วัดไหนที่สอนให้เรารู้จักตัวเอง สอนธรรม สอนใจมนุษย์
ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี จงเร่งทำเถิด

วัดไหนมุ่งสร้างแต่วัตถุโดยไม่สอนใจ
ทำได้บ้างตามกำลัง จงช่วยกันส่งเสริมวัดที่สอนให้เรารู้จัก

ทาน ศีล ภาวนา กันเถอะ....อย่างน้อยก่อนจิตแตกดับ เราจะได้เตรียมตัวไปดีได้ ด้วยตัวเอง


ปล.เห็นเรื่องราวให้แง่คิดดีค่ะอยากนำมาให้อ่านกัน ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่