เป็นอันที่ผมแปะบ่อยเหมือนกัน แต่ก็จะแปะให้ดู ตัวสัมมาสมาธิมีองค์ประกอบ 5 อย่าง
อย่างนึงคือการไม่บังคับกดข่มด้วยจิตที่กำหนดหรือเพ่ง
เราไม่ได้บอกว่าการกำหนดหรือเพ่งไม่ดี แต่มันเป็นกระบวนการของการทำสมาธิแบบนึง แต่ทำไมตัวสัมมาสมาธิจึงบอกว่าไม่เพ่ง
ต้องลองไปศึกษาดูว่าสมาธิมีสองแบบคือแบบลัขณูปณิชฌาน และอารัมณูปณิชฌาน ตัวที่ถูกกำหนดด้วยจิตนี้แหล่ะ ที่เป็นตัวเพ่งและจิตไหลไปสู่จุดที่เพ่งเอาไว้
ส่วนลัขณูปณิชฌาน ก็จะเป็นตัวที่ปรากฎในรูปนี้แหล่ะ คือการไม่บังคับกดข่มด้วยจิตที่เป็นสสังขาริก
ความเข้าใจนี้จะไปตอบคำถามว่าทำไมเจ้าชายสิทธัตถะไปเรียนอรูปฌานจากดาบสทั้งสองแต่ก็บอกว่ายังไม่ใช่ทาง แต่พอมานั่งสมาธิในคืนวันตรัสรู้ นึกย้อนไปในสมาธิที่เคยทำตอนอายุ7 ขวบ คือการรู้ลมหายใจจึงทำให้บรรลุได้ เพราะสิ่งที่แตกต่างคือจิตที่ใช้ในการทำสมาธินี้เองมีทางแยกออกเป็นสองแบบ นั่งสมาธิเหมือนกัน แต่ภายในไม่เหมือนกัน จึงทำให้บรรลุได้
ฝากไว้ให้ผู้เข้าใจได้ครับ
**เพิ่มอีกคือคำว่าธรรมเอก ธรรมเอกในที่นี้ จะเท่ากับคำว่าเป็น "ผู้รู้" หรือ "มีจิตตั้งมั่น"
ธรรมะที่สำคัญบทนึง ฝากไว้ให้ดูครับ
อย่างนึงคือการไม่บังคับกดข่มด้วยจิตที่กำหนดหรือเพ่ง
เราไม่ได้บอกว่าการกำหนดหรือเพ่งไม่ดี แต่มันเป็นกระบวนการของการทำสมาธิแบบนึง แต่ทำไมตัวสัมมาสมาธิจึงบอกว่าไม่เพ่ง
ต้องลองไปศึกษาดูว่าสมาธิมีสองแบบคือแบบลัขณูปณิชฌาน และอารัมณูปณิชฌาน ตัวที่ถูกกำหนดด้วยจิตนี้แหล่ะ ที่เป็นตัวเพ่งและจิตไหลไปสู่จุดที่เพ่งเอาไว้
ส่วนลัขณูปณิชฌาน ก็จะเป็นตัวที่ปรากฎในรูปนี้แหล่ะ คือการไม่บังคับกดข่มด้วยจิตที่เป็นสสังขาริก
ความเข้าใจนี้จะไปตอบคำถามว่าทำไมเจ้าชายสิทธัตถะไปเรียนอรูปฌานจากดาบสทั้งสองแต่ก็บอกว่ายังไม่ใช่ทาง แต่พอมานั่งสมาธิในคืนวันตรัสรู้ นึกย้อนไปในสมาธิที่เคยทำตอนอายุ7 ขวบ คือการรู้ลมหายใจจึงทำให้บรรลุได้ เพราะสิ่งที่แตกต่างคือจิตที่ใช้ในการทำสมาธินี้เองมีทางแยกออกเป็นสองแบบ นั่งสมาธิเหมือนกัน แต่ภายในไม่เหมือนกัน จึงทำให้บรรลุได้
ฝากไว้ให้ผู้เข้าใจได้ครับ
**เพิ่มอีกคือคำว่าธรรมเอก ธรรมเอกในที่นี้ จะเท่ากับคำว่าเป็น "ผู้รู้" หรือ "มีจิตตั้งมั่น"