ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 7 เลียบชายฝั่งจากไมอามี่ไปลาเรโด เข้าเม็กซิโก
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=q78SfPgYwbk&index=44&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
https://www.youtube.com/watch?v=z4Iz4pjm36A&index=45&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
ตอนรอรถอยู่ Daniel โผล่มา เราต่างคนต่างชี้หน้ากัน แล้วถามพร้อมกันเราได้ไปรถคันเดียวกัน
พฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2559 เวลา 22.50 น. ออกจากสถานี ไมอามี่ รถจอดครั้งเดียวที่ Foot Lauderdale แล้ววิ่งยาวไปถึง ออร์ลันโด เวลา 03.30 น. เข้าสถานีก่อนเวลา ครึ่งชั่วโมง เราลงรอต่อรถไปฮูสตัน เวลา 06.30 น. Daniel ต่อรถคนละคัน เขาต้องไปเข้าแถวก่อน จึงมาบอกลาและ ขอกอดก่อนไป...ถ้าเป็นคนวอชิงตันดีซี คงจะไม่ได้เห็นพฤติกรรมแบบนี้มั้ง
รถไปฮูสตัน จะไปจอดที่ Tallahassee เมืองหลวงของรัฐฟลอริด้า มีมาดามท่าทางประหลาดที่ขึ้นมานั่งหลังคนขับ ร่วมทางไปด้วย เมื่อคืน เธอถูกคนขับดุ ก่อนออกเดินทาง เพราะเธอเอาถุงสมบัติวางบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง เขาบอกแล้วบอกอีก เธอก็ยังวาง แล้วเธอก็ถ่ายวิดีโอ บันทึกสิ่งที่เธอไม่พอใจ พูดอยู่คนเดียว ก่อนรถออก 5 นาที มีคู่สามี ภรรยา หนุ่มสาวผิวสี ขึ้นมา สาวโวยวายว่า ซื้อตั๋ว 2 ที่ ทำไมไม่ได้นั่งติดกัน แสดงว่า เธอไม่เคยใช้บริการรถบัสทางไกล มีเลขที่นั่ง แต่ใครขึ้นก่อน เลือกที่นั่งก่อน เผื่อว่า จะไม่มีใครมานั่งด้วยจะได้ถือโอกาสนอน
ตอนรอต่อรถที่ออร์ลันโด มาดามประหลาด ถ่ายวิดีโอ บ่นอยู่คนเดียว ถ่ายกวาดคนเมา เหมือนอาบเหล้าที่ยืนหน้าป้า เขาออกอาการไม่พอใจ และต่อว่า เธอบอกว่า ไม่เกี่ยวกับคนอื่น แต่เธอไม่พอใจในบริการของเกรย์ฮาวน์ พอขึ้นรถเธอก็อุ้มถึงสมบัติไว้บนตัก ถุงของเธอท่าทางหนักมาก เพราะขวดแยมก็หนัก ขวดเนยก็หนัก มีแต่อาหาร ตอนรถไปจอดที่ปั๊ม Pilot คนอื่นๆ ลงกันเกือบหมด แต่เธอทำเฉย ลุงกับป้ กลับมาแล้ว เธอยังนั่งกิน นั่งบ่นอยู่คนเดียว คนเมาเดินมาขอเงิน เธอให้ใบละ 1 ดอล 1 ใบ เขาขออีก เธอให้เหรียญไปจนหมด เขาล้วงขนมเธอ เธอกระตุก และดุ พอเขาลงไปแล้ว คนขับยังไม่มา เธออุ้มถุงของเธอเดินลงไป หลังจากรถออกแล้วเธอเดินไปเข้าห้องน้ำท้ายรถ ตอนเดินกลับมา ได้ยินเธอพูดว่า ไม่เข้าใจ ตอนแรกมีคนมาขอเงิน ให้ไปแล้ว $ 3.78 นี่มีอีกคนหนึ่งขออีก เขาเป็นคนที่ท่าทางเมาน้อยแต่หนุ่มมากกว่า คนเมาคนแรก. ศุกร์ 17 มิ.ย. ต่อรถ
ที่ทาลาฮาสซี่ เมืองหลวงของ ฟลอริดา รถออก 13.37 น. ก่อนเวลา 13 นาที เวลา 15.45 น. ถึง Panama City เมืองใหญ่เมืองหนึ่ง บ้านเรือนที่มองเห็นส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว สร้างด้วยไม้ บ้าง ปูนบ้าง หลังคาป้าน หรือ ราบ เป็นส่วนใหญ่ บ้านสองชั้น หรือ หลังคายกเหลี่ยมสูงก็มีให้เห็นอยู่บ้าง เป็นเมืองเกษตรกรรม ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าฝน ต้นไม้บางต้นออกอาการเฉาเพราะถูกเคราฤาษีคลุมจนขาวโพลน รถวิ่งไปตามถนนที่มีสะพานข้ามปากแม่น้ำที่ติดทะเล กว้างใหญ่สุดสายตา เชิงสะพานด้านหนึ่งน้ำตื้นจนเห็นพื้นดินปนทราย มีสะพานท่าน้ำหลังโรงแรมใหญ่
ต่อจากปานามาซิตี้ เป็นเมืองชายทะเล และเมืองตากอากาศ เราพยายามมองหาชื่อเมือง แต่หาไม่เจอ รู้ว่าเข้าเขตเมืองตอนรถติด และออกเขตเมืองตอนที่เห็นรถติดฝั่งตรงข้าม มีสนามบิน และมีที่พักมากมาย ร้านขายที่นอนเต็มไปหมด มีสนสนุก กับห้าง Sunsation และสวนน้ำ สวนสนุกอื่นๆ มากมาย รวมทั้ง Summer Place สนามกอล์ฟ ตอนหลังเห็นคำว่า Destin's....เลยเดาเอาว่า น่าจะชื่อเมือง Destin ข้ามสะพานไปที่เกาะ Okaloosa มีทรายขาวละเอียด แต่มีชายหาดแคบๆ เป็นทะเลน้ำตื้น มีคนเล่นว่าว
รถติดอีกครั้ง ตอนข้ามสะพานออกจากเกาะ ฝั่งตรงข้ามก็ติดด้วย มองลงไปจากสะพาน เห็นเหมือนเรือเช่าแบบครอบครัวลำเล็กๆ
เวลา 16.00 น. รถเข้าสถานีเล็ก ชื่อ Pensacola A จึงรู้ว่า ยังอยู่ในเมือง Panama City แสดงว่า Destin เป็นแค่เขต ในเมืองปานามาซิตี้ ป้าเดินไปข้างหลังสถานี โชคดีเจอเขาต้มไส้กรอกเนื้อยัดไส้ขนมปังขาย ตอนกำลังหิวพอดี อันเล็กๆ แค่อิ่มเบาๆ อันละ 2 ดอล ขณะนั่งกิน มีเด็กอ้วนเดินมาดู แล้วถามว่าได้มาจากไหน แม่ถามว่าราคาเท่าไร ดูเหมือนทำหน้าว่าแพง แต่ก็ควักเงินให้ลูกไปซื้อ เด็กชาย 2 คนดีใจ วิ่งปร๋อออกไป
ตอนออกจากท่ารถ มีลานจอดเรือสารพัดมีไว้ให้เช่า ผ่านค่ายทหารที่มีกำแพงเตี้ยๆ ต่างจากอาคาร บ้านเรือนทั่วไปที่ไม่มีรั้ว ความจริงรถวิ่งอยู่บนถนนเลียบชายทะเล หลายสิบกม. แต่นานๆ ทะเลจะโผล่มาให้เห็น เพราะมีป่าสนบัง ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมต้นสนจึงยอดด้วน ยืนตาย ต่อมาเห็นมันแช่น้ำ ยังคุยกันว่า ต้นสนที่แช่อยู่ในน้ำในประเทศฟินแลนด์ ต้นอวบอ้วน ทำไมตรงนั้นจึงผอม และตาย พอเห็นทะเลจึงรู้ว่า เพราะมันแช่น้ำเค็มนั่นเอง
เวลา 18.25 น. ตามเวลาที่ปรับช้าลงในเขตรัฐตะวันตก รถเข้าสู่สถานี Pensacola, FL อีกสถานีหนึ่ง สาวผิวสีที่นั่งเยื้องคนขับ คุยโทรศัพท์มาตลอดทาง จัดผมเปียที่ถักแน่นเต็มหัวให้เข้าที่ เพื่อนเธอเป็นสาวผิวขาว โบกมืออยู่ที่ลานจอดรถสำหรับคนรับ ส่ง ห้ามล้ำเข้าไปในลานจอดรถเกรย์ฮาวน์ เธอลงไปเมื่อรถจอด ฟลอริดา ช่างยาวเหลือเกิน รถวิ่งเกือบเต็มคืน กับวันเต็มๆ เข้าสู่คืนที่ 2 แล้ว ยังไม่ออกจากฟลอริด้าเลย
เวลา 18.40 น. รถออกจาก Pensacola ป้าต้องหมุนนาฬิกา คืนไป 1 ชม. เวลาที่เมืองไทย 6 โมงเช้า แต่ที่เพนซาโคล่า 6 โมงเย็น รัฐเดียวกัน แต่เวลาไม่เท่ากัน ตามเส้นแวงที่เป็นเส้นแบ่งเวลา แต่ก็เป็นไปได้ว่า เราออกจากฟลอริด้า เข้าสู่อะลาบาม่า ซึ่งเป็นรัฐที่เลียบไปทางตะวันตกเฉียงใต้แล้ว เพราะไอโฟนตั้งเวลาอัตโนมัติตามเส้นแบ่งเวลาไว้ บังเอิญตอนที่ดูเวลามันเปลี่ยนรัฐพอดี....เดาเอาค่ะ 🙂
เวลา 19.10 น. รถข้ามสะพานที่กลางสะพานมีป้าย Battleship นาน 20 นาที ฝนตกหนัก มีนกตัวใหญ่สีขาวนอนชักตุกอยู่กลางถนน คนขับขับคร่อม ผ่านไป สงสัยว่า ถูกรถคันอื่นชนก่อนหน้านั้น
( ก่อนลงจากสะพานมีป้ายถนน Government St. อีกป้ายเป็น Convention Hall/ City Center พอลงจากสะพานก็เข้าอุโมงค์ ยาว ออกจากอุโมงค์ มีชื่อถนนมากมาย และมีชื่อ Dolphin Island ด้วย ฝนยังคงตกตกหนักต่อเนื่อง รถเลี้ยวขวา เข้าถนน Governtment East ผ่าน Hollywood Theater เข้าสู่ใจกลางเมืองโมบิล. เวลา 19.45 น.ถึง สถานี Mobile คนขับประกาศให้ทุกคนลงจากรถ เพื่อทำความสะอาด เมืองโมบิล อยู่ในรัฐอะลาบาม่า ที่ตั้งชื่อตามแม่น้ำ
Alabama เป็น มลรัฐแห่งนกฮัมมิ่งเหลือง Yellow Humming State มีพื้นที่ 135,775 ตร.กม. ประชากร 4.5 ล้านคน เมืองหลวง คือ Mont Gomery คนส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำ อะลาบาม่า
ลงจากรถก็รีบเข้าสถานี เพราะฝนตกหนัก เดินเข้าไปร้านค้าในสถานี อาหารแพงเกินเหตุ ทำใจไม่ได้ ของที่ที่อื่นขายไม่เกิน 2 ดอล ที่นั่นขายเกือบ 3 ดอล ค้ากำไรมากไปหน่อย ดีที่ได้รองท้องไปแล้วบ้าง ครอบครัวตุ้ยนุ้ยก็ตัดใจซื้ออะไรให้ลูกแค่รองท้องเหมือนกัน น่าเห็นใจ ยิ่งน้ำหนักมากก็ยิ่งต้องกินเยอะ ของก็แพง เด็กๆ เลยต้องดื่มน้ำหวานรองท้องไปก่อน
รถจอดนาน โชคดีมี wifi ให้ใช้ เลยไม่เครียด เวลา 21.20 น. รถออกจากโมบิล อะลาบามา วิ่งยาวไปจอดที่ Baton Rouge/ Berton Rouge เวลา 00.25 น. ออกจาก Berton Rouge
เวลา 00.50 น. เมืองบาตัน รูจ หรือ แบร์ตัน รูจ เป็นเมืองหลวงของ มลรัฐ Louisiana คนที่มาตั้งรกรากและพัฒนาเป็นชาวฝรั่งเศส เป็นมลรัฐแห่งนกกระทุง Pelegan State รัฐนี้มีพื้นที่ 51,885 ตร.กม. ประชากร 4.5 ล้านคน มีเทศกาลฝรั่งเศสที่สำคัญ ชื่อ Mardi Gras. วันเสาร์ที่ 18 มิ.ย. เวลา 04.30 น. เวลาที่เมืองไทย 16.30 น. ห้างกัน 12 ชม. ถึง Beaumont Texas เราเคยผ่านตอนเหนือของเท็กซัส ตอนเดินทางจาก
ลาสเวกัส สู่ นิวยอร์ค คราวนี้ ผ่านทางใต้ ลียบชายฝั่ง เลาะตะเข็บชายแดนสู่เม็กซิโก ตามเวลาจะถึง Houston ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Texas เวลา 05.50 น. ห่างจากโบม็องต์ 1 ชม.
รถจอดที่มินิมาร์ท มีของขายในราคาที่นักเดินทางรับได้ ผู้โดยสารรวมทั้งเราด้วยซื้อกันคนละเป็นหอบ กันเหนียวเผื่อไปเจอร้านค้าโหดในสถานีอีก ร้านค้าแบบนี้มีของว่าง หรือ อาหารฟรีให้คนขับด้วย ต่อให้เรารักษาเวลาอย่างไร คนขับต้องอิ่มก่อนที่รถจะรถออก
เวลา 06.10 น. ถึงสถานี Houston เราลงรอเปลี่ยนรถ ตามเวลาจะมีเวลาพัก 3.10 ชม. รถคันใหม่จะออกในเวลา 09.10 น. ป้าเอาตั๋วให้รปภ. ดู บอกว่า เรามีเวลา 3 ชม. ในการรอต่อรถ ถามว่า แถวๆ สถานีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้างที่เราพอจะเดินออกไปถ่ายรูปได้
รปภ.ทำหน้าเคร่งแบบงานเข้า เขาบอกว่า อย่าออกไปข้างนอกสถานีเลย มันอันตรายมาก มีพวกฉกชิงวิ่งราวอยู่เต็มไปหมด แต่คนอย่างลุง ถ้าตั้งใจจะทำอะไร ต้องทำให้ได้ คือ เราต้องออกไป ป้าบอกว่า ป้าเห็นว่า มีโบสถ์ใหญ่ใกล้ๆ สถานี ถ้าจะออกไปให้ได้ ขอแค่ตรงนั้นก็พอ พอออกจากตัวสถานี ก็เห็นคนไร้บ้านยืนเกะกะอยู่ทั่วไป มีคนเดินมาเสนอขายตั๊กแตนสานด้วยใบปาล์ม คนเดินมาขอเงิน เราระวังสุดฤทธิ์ พวกเขาไม่ใส่รองเท้า มีทุกวัย ส่วนมากเป็นชาย
เราเดินข้ามถนน เลี้ยวขวา แล้วก็ซ้าย มีโบสถ์เป็นเป้าหมาย ใต้สะพานข้ามแยก มีคนไร้บ้านนั่งอยู่ ป้าต้องทำเสียงดังเผื่อจะทำให้พวกเขาไม่กล้ามายุ่งกับเรา มองเยื้องไปที่มุมถนนฝั่งตรงข้าม ที่บันไดโบสถ์ มีคนนอนอยู่ โบสถ์ดูสง่าสูงเด่น ต้องถ่ายจากที่ไกล เราจึงถ่ายรูปจากตรงนั้น มองตามถนนตรงหน้า มี Houston House ตระหง่านขวางอยู่ แต่ข้างถนนเต็มไปด้วยคนไร้บ้าน เมืองใหญ่ที่สวยงาม มีตึกรามฝหญ่โต โอ่อ่า แต่เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวั่น พวกเขาอาจไม่มีอันตราย แต่เราขอปลอดภัยไว้ก่อน
ตอนเดินกลับมีชายคนหนึ่งยืนดักเคาะกระจกขอเงินคนที่ชะลอรถเข้าปั๊ม ลุงเกิดอยากได้ภาพตรงนั้น ที่มองเห็น ป้าย Central Plaza ได้ชัดเจน แต่ป้าไม่อยากยุ่งกับชายคนนั้น แล้วเขาก็เดินตรงมาหาเรา ทำท่าว่า ห้ามถ่ายรูป ป้าเสียงดังใส่ลุง ลุงก็เสียงดังใส่ป้า ชายคนนั้นหัวเราะ แล้วก็ถอยไปพร้อมกับพูดว่า เชิญถ่ายได้....อ้าว! เขากลัวเสียงดังแฮะ....แต่ไม่น่าจะเอามุกนี้มาใช้บ่อย...ลุงบอกว่า จะไปกลัวทำไม ลองเข้ามาสิ ได้เจออาวุธ แม่ไม้มวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอกแน่....ว่าไปโน่น ป้ารู้ว่า ลุงอาศัยว่า ตัวเล็ก เสียงดัง ทำให้พวกนักเลงบ้านนอกกลัวตอนเป็นวัยรุ่น แต่ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ยังไม่เคยเห็นลาย เพื่อความมั่นใจกลับสถานีดีกว่า...เดินเข้าสถานีเจอสแกนเป้...ก็ดีนะ เพื่อความปลอดภัย
ที่สถานีฮูสตัน มีความสะดวกใช้ได้เลย แม้ห้องน้ำจะมีน้อย แต่ป้าก็ได้อาบน้ำ สระผม สบายตัว ลุงได้ใช้ wifi นิดนึง แต่ป้าเชื่อมต่อไม่ได้เพราะติดปัญหาใช้เครื่องไม่ได้
เวลา 09.20 น. ออกจากสถานีฮูสตัน ผ่าน Sacred Heart School มีโบสถ์ถี่ยิบ แต่มีคนยากไร้ที่อาจก่ออาชญากรรมได้ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ? งั้นศาสนาก็ไม่ช่วยอะไรเลยสิ รถขึ้นสะพานข้ามแยก ผ่านชิงช้าสวรรค์ ดวงตาของเมือง อยู่ข้าง Aquarium มีบ้านบนเนินล้อมรอบด้วยต้นไม้
รถออกยังไม่ถึง 10 นาที ได้ยินเสียงกรนสนั่นอยู่ข้างหลังป้า แต่ละคนจองที่นั่งคนเดียวโดยนั่งชิดทางเดิน เอากระเป๋าวางไว้อีกเบาะหนึ่ง ความรู้สึกเกี่ยวกับการเหยียดผิวผ่อนคลาย ตั้งแต่ก่อนถึงไมอามี่
บนรถคันนี้ดูเหมือนจะมีคนหลายเชื้อชาติ อาซิ้มที่นั่งเยื้องซ้ายหน้าใช้เครื่องประดับเป็นหยก ด้าย กับ กระเป๋า ซองแว่น สีแดง อ่านนสพ.จีน พูดโทรศัพท์ด้วยภาษาจีน คนผิวสีทางด้านนี้ดูไม่บึ้บบั้บ
เหตุสลดในออร์ลันโด ผ่านไปเป็นสัปดาห์แล้ว แต่การลดธงครึ่งเสา ยังคงมีให้เห็นอยู่ทุกที่ ในไทยถ้าเห็นเสาธง เราจะนึกถึงสถานที่ราชการ แต่ในสหรัฐ เสาธงมักอยู่หน้าโรงแรม หรือ สถานที่ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่
ฮูสตัน มีโครงข่ายถนนใหญ่โต และมากมาย ถนนในสหรัฐเป็นคอนกรีตหนา แข็งแรง มีด่านชั่งน้ำหนักที่คนขับไม่ต้องลงรถไปแอบจ่ายส่วย เพราะจนท.นั่งบันทึกข้อมูลนั่งอยู่กับกล้องวงจรปิด
รถคันที่เรานั่งจากฮูสตัน ไปซาน อันโตนิโอ ไม่มีคอกกระจก ขังคนขับ ไม่มีปลั๊กให้ช่าร์จไฟ เราจะไปถ
[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 7 ลาเรโด เม็กซิโก
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=q78SfPgYwbk&index=44&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
https://www.youtube.com/watch?v=z4Iz4pjm36A&index=45&list=PLNNEpgjidh3peDayS3ikBCPP6tJVMso-6
ตอนรอรถอยู่ Daniel โผล่มา เราต่างคนต่างชี้หน้ากัน แล้วถามพร้อมกันเราได้ไปรถคันเดียวกัน
พฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน 2559 เวลา 22.50 น. ออกจากสถานี ไมอามี่ รถจอดครั้งเดียวที่ Foot Lauderdale แล้ววิ่งยาวไปถึง ออร์ลันโด เวลา 03.30 น. เข้าสถานีก่อนเวลา ครึ่งชั่วโมง เราลงรอต่อรถไปฮูสตัน เวลา 06.30 น. Daniel ต่อรถคนละคัน เขาต้องไปเข้าแถวก่อน จึงมาบอกลาและ ขอกอดก่อนไป...ถ้าเป็นคนวอชิงตันดีซี คงจะไม่ได้เห็นพฤติกรรมแบบนี้มั้ง
รถไปฮูสตัน จะไปจอดที่ Tallahassee เมืองหลวงของรัฐฟลอริด้า มีมาดามท่าทางประหลาดที่ขึ้นมานั่งหลังคนขับ ร่วมทางไปด้วย เมื่อคืน เธอถูกคนขับดุ ก่อนออกเดินทาง เพราะเธอเอาถุงสมบัติวางบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง เขาบอกแล้วบอกอีก เธอก็ยังวาง แล้วเธอก็ถ่ายวิดีโอ บันทึกสิ่งที่เธอไม่พอใจ พูดอยู่คนเดียว ก่อนรถออก 5 นาที มีคู่สามี ภรรยา หนุ่มสาวผิวสี ขึ้นมา สาวโวยวายว่า ซื้อตั๋ว 2 ที่ ทำไมไม่ได้นั่งติดกัน แสดงว่า เธอไม่เคยใช้บริการรถบัสทางไกล มีเลขที่นั่ง แต่ใครขึ้นก่อน เลือกที่นั่งก่อน เผื่อว่า จะไม่มีใครมานั่งด้วยจะได้ถือโอกาสนอน
ตอนรอต่อรถที่ออร์ลันโด มาดามประหลาด ถ่ายวิดีโอ บ่นอยู่คนเดียว ถ่ายกวาดคนเมา เหมือนอาบเหล้าที่ยืนหน้าป้า เขาออกอาการไม่พอใจ และต่อว่า เธอบอกว่า ไม่เกี่ยวกับคนอื่น แต่เธอไม่พอใจในบริการของเกรย์ฮาวน์ พอขึ้นรถเธอก็อุ้มถึงสมบัติไว้บนตัก ถุงของเธอท่าทางหนักมาก เพราะขวดแยมก็หนัก ขวดเนยก็หนัก มีแต่อาหาร ตอนรถไปจอดที่ปั๊ม Pilot คนอื่นๆ ลงกันเกือบหมด แต่เธอทำเฉย ลุงกับป้ กลับมาแล้ว เธอยังนั่งกิน นั่งบ่นอยู่คนเดียว คนเมาเดินมาขอเงิน เธอให้ใบละ 1 ดอล 1 ใบ เขาขออีก เธอให้เหรียญไปจนหมด เขาล้วงขนมเธอ เธอกระตุก และดุ พอเขาลงไปแล้ว คนขับยังไม่มา เธออุ้มถุงของเธอเดินลงไป หลังจากรถออกแล้วเธอเดินไปเข้าห้องน้ำท้ายรถ ตอนเดินกลับมา ได้ยินเธอพูดว่า ไม่เข้าใจ ตอนแรกมีคนมาขอเงิน ให้ไปแล้ว $ 3.78 นี่มีอีกคนหนึ่งขออีก เขาเป็นคนที่ท่าทางเมาน้อยแต่หนุ่มมากกว่า คนเมาคนแรก. ศุกร์ 17 มิ.ย. ต่อรถ
ที่ทาลาฮาสซี่ เมืองหลวงของ ฟลอริดา รถออก 13.37 น. ก่อนเวลา 13 นาที เวลา 15.45 น. ถึง Panama City เมืองใหญ่เมืองหนึ่ง บ้านเรือนที่มองเห็นส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว สร้างด้วยไม้ บ้าง ปูนบ้าง หลังคาป้าน หรือ ราบ เป็นส่วนใหญ่ บ้านสองชั้น หรือ หลังคายกเหลี่ยมสูงก็มีให้เห็นอยู่บ้าง เป็นเมืองเกษตรกรรม ป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าฝน ต้นไม้บางต้นออกอาการเฉาเพราะถูกเคราฤาษีคลุมจนขาวโพลน รถวิ่งไปตามถนนที่มีสะพานข้ามปากแม่น้ำที่ติดทะเล กว้างใหญ่สุดสายตา เชิงสะพานด้านหนึ่งน้ำตื้นจนเห็นพื้นดินปนทราย มีสะพานท่าน้ำหลังโรงแรมใหญ่
ต่อจากปานามาซิตี้ เป็นเมืองชายทะเล และเมืองตากอากาศ เราพยายามมองหาชื่อเมือง แต่หาไม่เจอ รู้ว่าเข้าเขตเมืองตอนรถติด และออกเขตเมืองตอนที่เห็นรถติดฝั่งตรงข้าม มีสนามบิน และมีที่พักมากมาย ร้านขายที่นอนเต็มไปหมด มีสนสนุก กับห้าง Sunsation และสวนน้ำ สวนสนุกอื่นๆ มากมาย รวมทั้ง Summer Place สนามกอล์ฟ ตอนหลังเห็นคำว่า Destin's....เลยเดาเอาว่า น่าจะชื่อเมือง Destin ข้ามสะพานไปที่เกาะ Okaloosa มีทรายขาวละเอียด แต่มีชายหาดแคบๆ เป็นทะเลน้ำตื้น มีคนเล่นว่าว
รถติดอีกครั้ง ตอนข้ามสะพานออกจากเกาะ ฝั่งตรงข้ามก็ติดด้วย มองลงไปจากสะพาน เห็นเหมือนเรือเช่าแบบครอบครัวลำเล็กๆ
เวลา 16.00 น. รถเข้าสถานีเล็ก ชื่อ Pensacola A จึงรู้ว่า ยังอยู่ในเมือง Panama City แสดงว่า Destin เป็นแค่เขต ในเมืองปานามาซิตี้ ป้าเดินไปข้างหลังสถานี โชคดีเจอเขาต้มไส้กรอกเนื้อยัดไส้ขนมปังขาย ตอนกำลังหิวพอดี อันเล็กๆ แค่อิ่มเบาๆ อันละ 2 ดอล ขณะนั่งกิน มีเด็กอ้วนเดินมาดู แล้วถามว่าได้มาจากไหน แม่ถามว่าราคาเท่าไร ดูเหมือนทำหน้าว่าแพง แต่ก็ควักเงินให้ลูกไปซื้อ เด็กชาย 2 คนดีใจ วิ่งปร๋อออกไป
ตอนออกจากท่ารถ มีลานจอดเรือสารพัดมีไว้ให้เช่า ผ่านค่ายทหารที่มีกำแพงเตี้ยๆ ต่างจากอาคาร บ้านเรือนทั่วไปที่ไม่มีรั้ว ความจริงรถวิ่งอยู่บนถนนเลียบชายทะเล หลายสิบกม. แต่นานๆ ทะเลจะโผล่มาให้เห็น เพราะมีป่าสนบัง ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมต้นสนจึงยอดด้วน ยืนตาย ต่อมาเห็นมันแช่น้ำ ยังคุยกันว่า ต้นสนที่แช่อยู่ในน้ำในประเทศฟินแลนด์ ต้นอวบอ้วน ทำไมตรงนั้นจึงผอม และตาย พอเห็นทะเลจึงรู้ว่า เพราะมันแช่น้ำเค็มนั่นเอง
เวลา 18.25 น. ตามเวลาที่ปรับช้าลงในเขตรัฐตะวันตก รถเข้าสู่สถานี Pensacola, FL อีกสถานีหนึ่ง สาวผิวสีที่นั่งเยื้องคนขับ คุยโทรศัพท์มาตลอดทาง จัดผมเปียที่ถักแน่นเต็มหัวให้เข้าที่ เพื่อนเธอเป็นสาวผิวขาว โบกมืออยู่ที่ลานจอดรถสำหรับคนรับ ส่ง ห้ามล้ำเข้าไปในลานจอดรถเกรย์ฮาวน์ เธอลงไปเมื่อรถจอด ฟลอริดา ช่างยาวเหลือเกิน รถวิ่งเกือบเต็มคืน กับวันเต็มๆ เข้าสู่คืนที่ 2 แล้ว ยังไม่ออกจากฟลอริด้าเลย
เวลา 18.40 น. รถออกจาก Pensacola ป้าต้องหมุนนาฬิกา คืนไป 1 ชม. เวลาที่เมืองไทย 6 โมงเช้า แต่ที่เพนซาโคล่า 6 โมงเย็น รัฐเดียวกัน แต่เวลาไม่เท่ากัน ตามเส้นแวงที่เป็นเส้นแบ่งเวลา แต่ก็เป็นไปได้ว่า เราออกจากฟลอริด้า เข้าสู่อะลาบาม่า ซึ่งเป็นรัฐที่เลียบไปทางตะวันตกเฉียงใต้แล้ว เพราะไอโฟนตั้งเวลาอัตโนมัติตามเส้นแบ่งเวลาไว้ บังเอิญตอนที่ดูเวลามันเปลี่ยนรัฐพอดี....เดาเอาค่ะ 🙂
เวลา 19.10 น. รถข้ามสะพานที่กลางสะพานมีป้าย Battleship นาน 20 นาที ฝนตกหนัก มีนกตัวใหญ่สีขาวนอนชักตุกอยู่กลางถนน คนขับขับคร่อม ผ่านไป สงสัยว่า ถูกรถคันอื่นชนก่อนหน้านั้น ( ก่อนลงจากสะพานมีป้ายถนน Government St. อีกป้ายเป็น Convention Hall/ City Center พอลงจากสะพานก็เข้าอุโมงค์ ยาว ออกจากอุโมงค์ มีชื่อถนนมากมาย และมีชื่อ Dolphin Island ด้วย ฝนยังคงตกตกหนักต่อเนื่อง รถเลี้ยวขวา เข้าถนน Governtment East ผ่าน Hollywood Theater เข้าสู่ใจกลางเมืองโมบิล. เวลา 19.45 น.ถึง สถานี Mobile คนขับประกาศให้ทุกคนลงจากรถ เพื่อทำความสะอาด เมืองโมบิล อยู่ในรัฐอะลาบาม่า ที่ตั้งชื่อตามแม่น้ำ
Alabama เป็น มลรัฐแห่งนกฮัมมิ่งเหลือง Yellow Humming State มีพื้นที่ 135,775 ตร.กม. ประชากร 4.5 ล้านคน เมืองหลวง คือ Mont Gomery คนส่วนใหญ่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำ อะลาบาม่า
ลงจากรถก็รีบเข้าสถานี เพราะฝนตกหนัก เดินเข้าไปร้านค้าในสถานี อาหารแพงเกินเหตุ ทำใจไม่ได้ ของที่ที่อื่นขายไม่เกิน 2 ดอล ที่นั่นขายเกือบ 3 ดอล ค้ากำไรมากไปหน่อย ดีที่ได้รองท้องไปแล้วบ้าง ครอบครัวตุ้ยนุ้ยก็ตัดใจซื้ออะไรให้ลูกแค่รองท้องเหมือนกัน น่าเห็นใจ ยิ่งน้ำหนักมากก็ยิ่งต้องกินเยอะ ของก็แพง เด็กๆ เลยต้องดื่มน้ำหวานรองท้องไปก่อน
รถจอดนาน โชคดีมี wifi ให้ใช้ เลยไม่เครียด เวลา 21.20 น. รถออกจากโมบิล อะลาบามา วิ่งยาวไปจอดที่ Baton Rouge/ Berton Rouge เวลา 00.25 น. ออกจาก Berton Rouge
เวลา 00.50 น. เมืองบาตัน รูจ หรือ แบร์ตัน รูจ เป็นเมืองหลวงของ มลรัฐ Louisiana คนที่มาตั้งรกรากและพัฒนาเป็นชาวฝรั่งเศส เป็นมลรัฐแห่งนกกระทุง Pelegan State รัฐนี้มีพื้นที่ 51,885 ตร.กม. ประชากร 4.5 ล้านคน มีเทศกาลฝรั่งเศสที่สำคัญ ชื่อ Mardi Gras. วันเสาร์ที่ 18 มิ.ย. เวลา 04.30 น. เวลาที่เมืองไทย 16.30 น. ห้างกัน 12 ชม. ถึง Beaumont Texas เราเคยผ่านตอนเหนือของเท็กซัส ตอนเดินทางจาก
ลาสเวกัส สู่ นิวยอร์ค คราวนี้ ผ่านทางใต้ ลียบชายฝั่ง เลาะตะเข็บชายแดนสู่เม็กซิโก ตามเวลาจะถึง Houston ซึ่งเป็นเมืองหลวงของ Texas เวลา 05.50 น. ห่างจากโบม็องต์ 1 ชม.
รถจอดที่มินิมาร์ท มีของขายในราคาที่นักเดินทางรับได้ ผู้โดยสารรวมทั้งเราด้วยซื้อกันคนละเป็นหอบ กันเหนียวเผื่อไปเจอร้านค้าโหดในสถานีอีก ร้านค้าแบบนี้มีของว่าง หรือ อาหารฟรีให้คนขับด้วย ต่อให้เรารักษาเวลาอย่างไร คนขับต้องอิ่มก่อนที่รถจะรถออก
เวลา 06.10 น. ถึงสถานี Houston เราลงรอเปลี่ยนรถ ตามเวลาจะมีเวลาพัก 3.10 ชม. รถคันใหม่จะออกในเวลา 09.10 น. ป้าเอาตั๋วให้รปภ. ดู บอกว่า เรามีเวลา 3 ชม. ในการรอต่อรถ ถามว่า แถวๆ สถานีมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้างที่เราพอจะเดินออกไปถ่ายรูปได้
รปภ.ทำหน้าเคร่งแบบงานเข้า เขาบอกว่า อย่าออกไปข้างนอกสถานีเลย มันอันตรายมาก มีพวกฉกชิงวิ่งราวอยู่เต็มไปหมด แต่คนอย่างลุง ถ้าตั้งใจจะทำอะไร ต้องทำให้ได้ คือ เราต้องออกไป ป้าบอกว่า ป้าเห็นว่า มีโบสถ์ใหญ่ใกล้ๆ สถานี ถ้าจะออกไปให้ได้ ขอแค่ตรงนั้นก็พอ พอออกจากตัวสถานี ก็เห็นคนไร้บ้านยืนเกะกะอยู่ทั่วไป มีคนเดินมาเสนอขายตั๊กแตนสานด้วยใบปาล์ม คนเดินมาขอเงิน เราระวังสุดฤทธิ์ พวกเขาไม่ใส่รองเท้า มีทุกวัย ส่วนมากเป็นชาย
เราเดินข้ามถนน เลี้ยวขวา แล้วก็ซ้าย มีโบสถ์เป็นเป้าหมาย ใต้สะพานข้ามแยก มีคนไร้บ้านนั่งอยู่ ป้าต้องทำเสียงดังเผื่อจะทำให้พวกเขาไม่กล้ามายุ่งกับเรา มองเยื้องไปที่มุมถนนฝั่งตรงข้าม ที่บันไดโบสถ์ มีคนนอนอยู่ โบสถ์ดูสง่าสูงเด่น ต้องถ่ายจากที่ไกล เราจึงถ่ายรูปจากตรงนั้น มองตามถนนตรงหน้า มี Houston House ตระหง่านขวางอยู่ แต่ข้างถนนเต็มไปด้วยคนไร้บ้าน เมืองใหญ่ที่สวยงาม มีตึกรามฝหญ่โต โอ่อ่า แต่เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวั่น พวกเขาอาจไม่มีอันตราย แต่เราขอปลอดภัยไว้ก่อน
ตอนเดินกลับมีชายคนหนึ่งยืนดักเคาะกระจกขอเงินคนที่ชะลอรถเข้าปั๊ม ลุงเกิดอยากได้ภาพตรงนั้น ที่มองเห็น ป้าย Central Plaza ได้ชัดเจน แต่ป้าไม่อยากยุ่งกับชายคนนั้น แล้วเขาก็เดินตรงมาหาเรา ทำท่าว่า ห้ามถ่ายรูป ป้าเสียงดังใส่ลุง ลุงก็เสียงดังใส่ป้า ชายคนนั้นหัวเราะ แล้วก็ถอยไปพร้อมกับพูดว่า เชิญถ่ายได้....อ้าว! เขากลัวเสียงดังแฮะ....แต่ไม่น่าจะเอามุกนี้มาใช้บ่อย...ลุงบอกว่า จะไปกลัวทำไม ลองเข้ามาสิ ได้เจออาวุธ แม่ไม้มวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอกแน่....ว่าไปโน่น ป้ารู้ว่า ลุงอาศัยว่า ตัวเล็ก เสียงดัง ทำให้พวกนักเลงบ้านนอกกลัวตอนเป็นวัยรุ่น แต่ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ยังไม่เคยเห็นลาย เพื่อความมั่นใจกลับสถานีดีกว่า...เดินเข้าสถานีเจอสแกนเป้...ก็ดีนะ เพื่อความปลอดภัย
ที่สถานีฮูสตัน มีความสะดวกใช้ได้เลย แม้ห้องน้ำจะมีน้อย แต่ป้าก็ได้อาบน้ำ สระผม สบายตัว ลุงได้ใช้ wifi นิดนึง แต่ป้าเชื่อมต่อไม่ได้เพราะติดปัญหาใช้เครื่องไม่ได้
เวลา 09.20 น. ออกจากสถานีฮูสตัน ผ่าน Sacred Heart School มีโบสถ์ถี่ยิบ แต่มีคนยากไร้ที่อาจก่ออาชญากรรมได้ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ? งั้นศาสนาก็ไม่ช่วยอะไรเลยสิ รถขึ้นสะพานข้ามแยก ผ่านชิงช้าสวรรค์ ดวงตาของเมือง อยู่ข้าง Aquarium มีบ้านบนเนินล้อมรอบด้วยต้นไม้
รถออกยังไม่ถึง 10 นาที ได้ยินเสียงกรนสนั่นอยู่ข้างหลังป้า แต่ละคนจองที่นั่งคนเดียวโดยนั่งชิดทางเดิน เอากระเป๋าวางไว้อีกเบาะหนึ่ง ความรู้สึกเกี่ยวกับการเหยียดผิวผ่อนคลาย ตั้งแต่ก่อนถึงไมอามี่
บนรถคันนี้ดูเหมือนจะมีคนหลายเชื้อชาติ อาซิ้มที่นั่งเยื้องซ้ายหน้าใช้เครื่องประดับเป็นหยก ด้าย กับ กระเป๋า ซองแว่น สีแดง อ่านนสพ.จีน พูดโทรศัพท์ด้วยภาษาจีน คนผิวสีทางด้านนี้ดูไม่บึ้บบั้บ
เหตุสลดในออร์ลันโด ผ่านไปเป็นสัปดาห์แล้ว แต่การลดธงครึ่งเสา ยังคงมีให้เห็นอยู่ทุกที่ ในไทยถ้าเห็นเสาธง เราจะนึกถึงสถานที่ราชการ แต่ในสหรัฐ เสาธงมักอยู่หน้าโรงแรม หรือ สถานที่ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่
ฮูสตัน มีโครงข่ายถนนใหญ่โต และมากมาย ถนนในสหรัฐเป็นคอนกรีตหนา แข็งแรง มีด่านชั่งน้ำหนักที่คนขับไม่ต้องลงรถไปแอบจ่ายส่วย เพราะจนท.นั่งบันทึกข้อมูลนั่งอยู่กับกล้องวงจรปิด
รถคันที่เรานั่งจากฮูสตัน ไปซาน อันโตนิโอ ไม่มีคอกกระจก ขังคนขับ ไม่มีปลั๊กให้ช่าร์จไฟ เราจะไปถ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น