(มีคลิปเสียง ท้ายข้อความค่ะ)
อย่าเพิ่งรำคาญนะคะ เพราะถ้าคุณหยุด อ่าน ดูภาพและฟังคลิปเสียงให้จบ มันจะเป็นประโยนช์อย่างยิ่งในการซื้อบ้านของคุณ
วันนี้ยุ้ยได้พาแม่ไปดูบ้านที่ KC Natural City รามคำแหงเป็นครั้งที่ 2 เพื่อวางเงินจองบ้านมูลค่า 7,650,000 บาท เนื่องจาก พอใจในตัวบ้านและเห็นว่ากำลังมีโปรโมชั่นส่วนลด 850,000 บาท เหลือ 6,800,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ดูรายยละเอียดของบ้านหลังที่จะทำการจอง และหลังที่เป็นสแตนดาร์ดแล้วปรากฎว่ายังมีหลายจุดที่ต้องเก็บงาน
มาถึงขั้นตอนสำคัญมากที่สุดของวันนี้ค่ะ
ขั้นตอนการเขียนสัญญาการจอง และวางเงินจองส่วนแรก
เนื่องจากใบจองคือใบที่จะเป็นหลักฐานในการซื้อขายเบื้องต้นว่าโครงการมีเงื่อนไขกับลูกค้าอย่างไร ทางพนักงานขายของโครงการเค้าก็เขียนรายการของแถมตามสแตนดาร์ด และมีเงื่อนไขว่า วันนี้ต้องวางเงินจอง 10,000 บาท ภายในสิ้นเดือนนี้ ต้องวางเงินเพิ่มอีก 70,000 บาท และภายในเดือนตุลาคม 2559 จะต้องทำการโอนบ้านไม่ว่าจะเก็บงานเรียบร้อยหรือไม่ ไม่งั้นจะยึดเงินจองทั้งหมด ซึ่งตัวยุ้ยก็ยอมรับเงื่อนไข(เนื่องจากอยากได้บ้านมาก)
(ซึ่งยุ้ยจะซื้อเงินสด มูลค่า 6,800,000 บาท) แต่เมื่ออ่านใบจองแล้ว (เป็นเอกสารที่เขียนด้วยปากกา และข้อความผิดหลายจุด มีการขีดค่า และเขียนตกหล่น) ซึ่งเมื่อยุ้ยอ่านแล้ว พบข้อพกพร่องในเอกสารหลายจุด จึงทักท้วงพนักงานโดยสุภาพว่าให้ช่วยแก้ไขเอกสารให้เรียบร้อยกว่านี้ เพราะมันเป็นหลักฐานในการซื้อขายบ้านเบื้องต้น ไม่แน่ใจว่าพนักงานเกิดความไม่พอใจในการทักท้วงครั้งนี้อย่างไร ได้เดินหายไปข้างหลังออฟฟิศ แล้วให้เจ้าหน้าที่อีกท่าน เดินมาปฎิเสธการจอง โดยให้เหตุผลว่า บอสใหญ่กลัวว่าถ้าโอนบ้านไปแล้วจะมีปัญหาว่าบ้านไม่เรียบร้อยและไม่สามารถแก้ไขให้เรียบร้อยหลังโอนภายใน 2-3 เดือน เกรงว่าหลังจากที่ยุ้ยจ่ายเงินสดโอนบ้านไปแล้ว จะไม่สามารถทำให้บ้านเรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่ได้ .... รู้สึกผิดสังเกตและสะเทือนใจมาก ว่าทำไมการที่ยุ้ยทักท้วงเรื่องการเขียนเอกสารให้เรียบร้อย หรือแค่การเก็บงานบ้านเพื่อให้ตรงตามสแตนดาร์ดของโครางการที่โชว์ให้กับลูกค้า ถึงขนาดไม่มั่นใจโครงการตัวเองว่าทำได้หรือไม่ ถึงขนาดบอกเลิกการจองและปฎิเสธการซื้อขายกันในวันนี้ ....
ระวัง ก่อนที่คุณจะวางเงินซื้อบ้านกับโครงการ KC Natural City รามคำแหง
อย่าเพิ่งรำคาญนะคะ เพราะถ้าคุณหยุด อ่าน ดูภาพและฟังคลิปเสียงให้จบ มันจะเป็นประโยนช์อย่างยิ่งในการซื้อบ้านของคุณ
วันนี้ยุ้ยได้พาแม่ไปดูบ้านที่ KC Natural City รามคำแหงเป็นครั้งที่ 2 เพื่อวางเงินจองบ้านมูลค่า 7,650,000 บาท เนื่องจาก พอใจในตัวบ้านและเห็นว่ากำลังมีโปรโมชั่นส่วนลด 850,000 บาท เหลือ 6,800,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ดูรายยละเอียดของบ้านหลังที่จะทำการจอง และหลังที่เป็นสแตนดาร์ดแล้วปรากฎว่ายังมีหลายจุดที่ต้องเก็บงาน
มาถึงขั้นตอนสำคัญมากที่สุดของวันนี้ค่ะ
ขั้นตอนการเขียนสัญญาการจอง และวางเงินจองส่วนแรก
เนื่องจากใบจองคือใบที่จะเป็นหลักฐานในการซื้อขายเบื้องต้นว่าโครงการมีเงื่อนไขกับลูกค้าอย่างไร ทางพนักงานขายของโครงการเค้าก็เขียนรายการของแถมตามสแตนดาร์ด และมีเงื่อนไขว่า วันนี้ต้องวางเงินจอง 10,000 บาท ภายในสิ้นเดือนนี้ ต้องวางเงินเพิ่มอีก 70,000 บาท และภายในเดือนตุลาคม 2559 จะต้องทำการโอนบ้านไม่ว่าจะเก็บงานเรียบร้อยหรือไม่ ไม่งั้นจะยึดเงินจองทั้งหมด ซึ่งตัวยุ้ยก็ยอมรับเงื่อนไข(เนื่องจากอยากได้บ้านมาก)
(ซึ่งยุ้ยจะซื้อเงินสด มูลค่า 6,800,000 บาท) แต่เมื่ออ่านใบจองแล้ว (เป็นเอกสารที่เขียนด้วยปากกา และข้อความผิดหลายจุด มีการขีดค่า และเขียนตกหล่น) ซึ่งเมื่อยุ้ยอ่านแล้ว พบข้อพกพร่องในเอกสารหลายจุด จึงทักท้วงพนักงานโดยสุภาพว่าให้ช่วยแก้ไขเอกสารให้เรียบร้อยกว่านี้ เพราะมันเป็นหลักฐานในการซื้อขายบ้านเบื้องต้น ไม่แน่ใจว่าพนักงานเกิดความไม่พอใจในการทักท้วงครั้งนี้อย่างไร ได้เดินหายไปข้างหลังออฟฟิศ แล้วให้เจ้าหน้าที่อีกท่าน เดินมาปฎิเสธการจอง โดยให้เหตุผลว่า บอสใหญ่กลัวว่าถ้าโอนบ้านไปแล้วจะมีปัญหาว่าบ้านไม่เรียบร้อยและไม่สามารถแก้ไขให้เรียบร้อยหลังโอนภายใน 2-3 เดือน เกรงว่าหลังจากที่ยุ้ยจ่ายเงินสดโอนบ้านไปแล้ว จะไม่สามารถทำให้บ้านเรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่ได้ .... รู้สึกผิดสังเกตและสะเทือนใจมาก ว่าทำไมการที่ยุ้ยทักท้วงเรื่องการเขียนเอกสารให้เรียบร้อย หรือแค่การเก็บงานบ้านเพื่อให้ตรงตามสแตนดาร์ดของโครางการที่โชว์ให้กับลูกค้า ถึงขนาดไม่มั่นใจโครงการตัวเองว่าทำได้หรือไม่ ถึงขนาดบอกเลิกการจองและปฎิเสธการซื้อขายกันในวันนี้ ....