พุทธวจน
ชนเหล่าใดมีความรู้ในธรรมอันหาสาระมิได้ว่าเป็นสาระ
และมีปกติเห็นในธรรมอันเป็นสาระ ว่าไม่เป็นสาระ
ชนเหล่านั้นมีความดำริผิดเป็นโคจร ย่อมไม่บรรลุธรรมอันเป็นสาระ
ชนเหล่าใดรู้ธรรมอันเป็นสาระ โดยความเป็นสาระ
และรู้ธรรมอันหาสาระมิได้ โดยความเป็นธรรมอันหาสาระมิได้
ชนเหล่านั้นมีความดำริชอบเป็นโคจร ย่อมบรรลุธรรมอันเป็นสาระ
บุคคลผู้ทำบาปนั้นย่อมเศร้าโศก
บุคคลผู้ทำบาปนั้นเห็นกรรมที่เศร้าหมองของตนย่อมเดือดร้อน
ผู้ทำบุญไว้แล้วย่อมบันเทิงในโลกนี้
ย่อมบันเทิงในโลกหน้า ย่อมบันเทิงในโลกทั้งสอง
ผู้ทำบุญไว้ แล้วนั้นย่อมบันเทิง
ผู้ทำบุญไว้แล้วนั้นเห็นความบริสุทธิ์แห่งกรรมของตนแล้ว ย่อมบันเทิงอย่างยิ่ง
ความไม่ประมาท เป็นทางเครื่องถึงอมตนิพพาน
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
ชนผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย
ชนเหล่าใดประมาทแล้วย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว
บัณฑิตทั้งหลายตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
ทราบเหตุนั่นโดยความ แปลกกันแล้ว ย่อมบันเทิงในความไม่ประมาท
ยินดีแล้วในธรรมอันเป็นโคจรของพระอริยเจ้าทั้งหลาย
ท่านเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ เพ่งพินิจ มีความเพียรเป็นไปติดต่อ
มีความบากบั่นมั่นเป็นนิตย์ ย่อมถูกต้องนิพพาน
อันเกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้
ยศย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความหมั่น มีสติ มีการงานอันสะอาด
ผู้ใคร่ครวญแล้วจึงทำผู้สำรวมระวัง ผู้เป็นอยู่โดยธรรม และผู้ไม่ประมาท
ผู้มีปัญญาพึงทำที่พึ่ง ที่ห้วงน้ำท่วมทับไม่ได้ ด้วยความหมั่น
ความไม่ประมาท ความสำรวมระวัง และความฝึกตน
ชนทั้งหลายผู้เป็นพาลมีปัญญาทราม
ย่อมประกอบตามความประมาท
ส่วนนักปราชญ์ย่อมรักษาความไม่ประมาท
เหมือนทรัพย์อันประเสริฐสุด
ท่านทั้งหลายอย่าประกอบตามความประมาท
พุทธวจน ชนเหล่าใดมีความรู้ในธรรมอันหาสาระมิได้ว่าเป็นสาระ และมีปกติเห็นในธรรมอันเป็นสาระว่าไม่เป็นสาระเขามีความดำริผิด
พุทธวจน
ชนเหล่าใดมีความรู้ในธรรมอันหาสาระมิได้ว่าเป็นสาระ
และมีปกติเห็นในธรรมอันเป็นสาระ ว่าไม่เป็นสาระ
ชนเหล่านั้นมีความดำริผิดเป็นโคจร ย่อมไม่บรรลุธรรมอันเป็นสาระ
ชนเหล่าใดรู้ธรรมอันเป็นสาระ โดยความเป็นสาระ
และรู้ธรรมอันหาสาระมิได้ โดยความเป็นธรรมอันหาสาระมิได้
ชนเหล่านั้นมีความดำริชอบเป็นโคจร ย่อมบรรลุธรรมอันเป็นสาระ
บุคคลผู้ทำบาปนั้นย่อมเศร้าโศก
บุคคลผู้ทำบาปนั้นเห็นกรรมที่เศร้าหมองของตนย่อมเดือดร้อน
ผู้ทำบุญไว้แล้วย่อมบันเทิงในโลกนี้
ย่อมบันเทิงในโลกหน้า ย่อมบันเทิงในโลกทั้งสอง
ผู้ทำบุญไว้ แล้วนั้นย่อมบันเทิง
ผู้ทำบุญไว้แล้วนั้นเห็นความบริสุทธิ์แห่งกรรมของตนแล้ว ย่อมบันเทิงอย่างยิ่ง
ความไม่ประมาท เป็นทางเครื่องถึงอมตนิพพาน
ความประมาท เป็นทางแห่งความตาย
ชนผู้ไม่ประมาทย่อมไม่ตาย
ชนเหล่าใดประมาทแล้วย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว
บัณฑิตทั้งหลายตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
ทราบเหตุนั่นโดยความ แปลกกันแล้ว ย่อมบันเทิงในความไม่ประมาท
ยินดีแล้วในธรรมอันเป็นโคจรของพระอริยเจ้าทั้งหลาย
ท่านเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์ เพ่งพินิจ มีความเพียรเป็นไปติดต่อ
มีความบากบั่นมั่นเป็นนิตย์ ย่อมถูกต้องนิพพาน
อันเกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้
ยศย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีความหมั่น มีสติ มีการงานอันสะอาด
ผู้ใคร่ครวญแล้วจึงทำผู้สำรวมระวัง ผู้เป็นอยู่โดยธรรม และผู้ไม่ประมาท
ผู้มีปัญญาพึงทำที่พึ่ง ที่ห้วงน้ำท่วมทับไม่ได้ ด้วยความหมั่น
ความไม่ประมาท ความสำรวมระวัง และความฝึกตน
ชนทั้งหลายผู้เป็นพาลมีปัญญาทราม
ย่อมประกอบตามความประมาท
ส่วนนักปราชญ์ย่อมรักษาความไม่ประมาท
เหมือนทรัพย์อันประเสริฐสุด
ท่านทั้งหลายอย่าประกอบตามความประมาท