.อันตรายทีไม่เคยรู้มาก่อน ..
ที่ไต้หวัน หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการชันสูตรศพเบื้องต้น ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน "ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า"ศาสตราจารย์ฟันธงผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ"มันฆ่า" แล้วสารหนูมาจากไหน ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ผู้ตาย กินวิตามินซีพร้อมกันด้วย ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรอกไซด์ซึ่งมีพิษ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั้นเองพิษสารหนูจะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง เกิดอาการเลือดคั่งใน หัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี(รวมถึงผลไม้ที่มีสารตามินซีสูง) ต้องงดกินอาหารประเภท กุ้ง
เพื่อความไม่ประมาท เมื่ออ่านจบ
โปรดบอกต่อไปยังญาติโยมเพื่อนฝูงให้ระวังด้วย
อย่าตื่นตระหนกมาก ทานได้ อย่าทานพร้อมกัน เว้นระยะเวลาสัก3-4 ช.ม. ปลอดภัย
****บางท่านก็บอกต้มยำกุ้งก็ใส่มะนาว จะเป็นไรหรือไม่ เท่าที่สอบถามมาไม่เป็นไร ข้อมุลเพื่อเติม เพราะมะนาวกับวิตามินซี กับ ยาสังเคราะห์มีความต่างกัน คำว่ายา คือการผลิตจากสารเคมี
วิตามินซี
วิตามินซี (Vitamin C) มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย, ป้องกันอนุมูลอิสระ, ต่อต้านโรคหัวใจ, ช่วยให้สุขภาพเหงือกแข็งแรง ทั้งยังโด่งดังเรื่องบรรเทาอาการหวัด โดยการศึกษาเมื่อปีคศ. 1995 พบว่า หากรับประทานวิตามินซี 1,000 ถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการของโรคหวัด จะช่วยให้หายหวัดได้เร็วขึ้น 21% (แต่ยังไม่มีรายงานว่า วิตามินซีสามารถช่วยป้องกันโรคหวัดได้นะคะ)
วิตามินซีมีข้อดีคือ สามารถละลายน้ำได้ นั่นหมายความว่า หากคุณรับประทานวิตามินซีมากเกินไป ร่างกายของคุณก็จะขับวิตามินซี ที่เป็นส่วนเกินออกมาได้ โดยไม่เป็นอันตราย
แต่อย่างไรก็ตาม Gerard Mullin บอกว่า “การได้รับปริมาณวิตามินซีมากเกินไป..มากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวันต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน สามารถทำให้เกิดนิ่วในไตได้”
นอกจากนี้หากรับประทานวิตามินซีมากเกิน 1,000 มิลลิกรัม ยังอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย และหากทานตอนท้องว่างก็อาจเกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหาร เนื่องจากความเป็นกรดของวิตามินซี ทั้งยังอาจเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือถึงขั้น คลื่นไส้ อาเจียน ได้ด้วย
ด้าน Dee Sandquist นักโภชนาการ และโฆษกสมาคมนักโภชนาการ แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวสรุปถึงเรื่องการรับประทานวิตามินว่า การรับประทานวิตามินโดยเฉพาะที่เป็นอาหารเสริมมากเกินไป มีแนวโน้มที่ร่างกายจะเสียสมดุล จนอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะ หรือ ท้องร่วง ได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับประทานอย่างมีสติ เลือกที่จะทานวิตามินจากอาหารสดที่มาจากธรรมชาติ
“หากคุณรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมครบ 5 หมู่ อย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณก็ไม่ต้องกังวลที่จะหาวิตามินเสริมมารับประทานแล้ว เว้นแต่แพทย์จะแนะนำ คุณค่อยหามารับประทาน”
เรียบเรียงจากยาฮูเฮลธ์
โทษของวิตามินซี
การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุอื่นๆ เช่น Copper Selenium
การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการผิดพลาดของผลตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้
วิตามินซีทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีจึงอาจจะเกิดภาวะได้รับธาตุเหล็กเกิน
บทความนี้จริงมั้ยคับ
ที่ไต้หวัน หญิงคนหนึ่งเลือดออกทางทวารทั้ง 7 โดยไม่รู้สาเหตุ เสียชีวิตในข้ามคืนเดียว จากการชันสูตรศพเบื้องต้น ลงความเห็นว่าตายเพราะพิษสารหนู แล้วสารหนูมาจากไหนล่ะ ตำรวจเริ่มสืบสวนในวงกว้าง และเชิญศาสตราจารย์นิติเวชมาร่วมคลี่คลายคดี ศาสตราจารย์ตรวจวิเคราะห์สิ่งตกค้างในกระเพาะ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เปิดโปงสาเหตุการตายฉับพลัน "ผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกลอบสังหาร แต่ตายเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ถูกมันฆ่า"ศาสตราจารย์ฟันธงผู้คนงงเป็นไก่ตาแตก อะไรคือ"มันฆ่า" แล้วสารหนูมาจากไหน ศาสตราจารย์กล่าวว่า สารหนูเกิดในกระเพาะผู้ตาย ผู้ตายกินวิตามินซีทุกวัน นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่ เธอกินกุ้งจำนวนมากในมื้อเย็น กินกุ้งโดยลำพังก็ไม่มีปัญหา คนในบ้านกินกันก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ผู้ตาย กินวิตามินซีพร้อมกันด้วย ปัญหาจึงเกิดตรงนี้แหละ นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทำการทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่นกุ้งมีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O 3 หรืออาเซนิกไตรอกไซด์ซึ่งมีพิษ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั้นเองพิษสารหนูจะทำให้การทำงานของเส้นโลหิตฝอยและเอนไซม์ของซัลฟีดรีลขัดข้อง เกิดอาการเลือดคั่งใน หัวใจ ตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้น ผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด เพราะฉะนั้น ในระยะที่รับประทานวิตามินซี(รวมถึงผลไม้ที่มีสารตามินซีสูง) ต้องงดกินอาหารประเภท กุ้ง
เพื่อความไม่ประมาท เมื่ออ่านจบ
โปรดบอกต่อไปยังญาติโยมเพื่อนฝูงให้ระวังด้วย
อย่าตื่นตระหนกมาก ทานได้ อย่าทานพร้อมกัน เว้นระยะเวลาสัก3-4 ช.ม. ปลอดภัย
****บางท่านก็บอกต้มยำกุ้งก็ใส่มะนาว จะเป็นไรหรือไม่ เท่าที่สอบถามมาไม่เป็นไร ข้อมุลเพื่อเติม เพราะมะนาวกับวิตามินซี กับ ยาสังเคราะห์มีความต่างกัน คำว่ายา คือการผลิตจากสารเคมี
วิตามินซี
วิตามินซี (Vitamin C) มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย, ป้องกันอนุมูลอิสระ, ต่อต้านโรคหัวใจ, ช่วยให้สุขภาพเหงือกแข็งแรง ทั้งยังโด่งดังเรื่องบรรเทาอาการหวัด โดยการศึกษาเมื่อปีคศ. 1995 พบว่า หากรับประทานวิตามินซี 1,000 ถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน ตั้งแต่เริ่มมีอาการของโรคหวัด จะช่วยให้หายหวัดได้เร็วขึ้น 21% (แต่ยังไม่มีรายงานว่า วิตามินซีสามารถช่วยป้องกันโรคหวัดได้นะคะ)
วิตามินซีมีข้อดีคือ สามารถละลายน้ำได้ นั่นหมายความว่า หากคุณรับประทานวิตามินซีมากเกินไป ร่างกายของคุณก็จะขับวิตามินซี ที่เป็นส่วนเกินออกมาได้ โดยไม่เป็นอันตราย
แต่อย่างไรก็ตาม Gerard Mullin บอกว่า “การได้รับปริมาณวิตามินซีมากเกินไป..มากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวันต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน สามารถทำให้เกิดนิ่วในไตได้”
นอกจากนี้หากรับประทานวิตามินซีมากเกิน 1,000 มิลลิกรัม ยังอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย และหากทานตอนท้องว่างก็อาจเกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหาร เนื่องจากความเป็นกรดของวิตามินซี ทั้งยังอาจเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือถึงขั้น คลื่นไส้ อาเจียน ได้ด้วย
ด้าน Dee Sandquist นักโภชนาการ และโฆษกสมาคมนักโภชนาการ แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวสรุปถึงเรื่องการรับประทานวิตามินว่า การรับประทานวิตามินโดยเฉพาะที่เป็นอาหารเสริมมากเกินไป มีแนวโน้มที่ร่างกายจะเสียสมดุล จนอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะ หรือ ท้องร่วง ได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับประทานอย่างมีสติ เลือกที่จะทานวิตามินจากอาหารสดที่มาจากธรรมชาติ
“หากคุณรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมครบ 5 หมู่ อย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณก็ไม่ต้องกังวลที่จะหาวิตามินเสริมมารับประทานแล้ว เว้นแต่แพทย์จะแนะนำ คุณค่อยหามารับประทาน”
เรียบเรียงจากยาฮูเฮลธ์
โทษของวิตามินซี
การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุอื่นๆ เช่น Copper Selenium
การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการผิดพลาดของผลตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้
วิตามินซีทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีจึงอาจจะเกิดภาวะได้รับธาตุเหล็กเกิน