เทรนด์การรับประทานวิตามินซีมาแรงตลอดทุกฤดูกาล และมีผู้นิยมทานเรื่อยๆ ด้วยมีเสียงกระซิบต่อๆ กันว่า ประโยชน์ของวิตามินซีนั้นมีมากมาย ขณะที่หลายคนต่างก็คิดว่าดีจริงหรือไม่
เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ จึงได้ไขความกระจ่างว่า วิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องรับประทานเข้าไป และสามารถเสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับความร้อนและความชื้น ซึ่งหากรับประทานเป็นประจำก็จะช่วยเรื่องสุขภาพได้อย่างมาก
ภกญ.วิชชุลดากล่าวอีกว่า สิ่งที่เห็นง่ายๆ เช่น กินแล้วป้องกันหวัดได้ จากงานวิจัยของ ดร.ไลนัส พอลิง นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ปี 1970 ศึกษาไว้ว่า การทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะสามารถป้องกันหวัดได้และหวัดจะหายได้เร็วขึ้น 40% เพราะในวิตามินซีมีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ เพราะช่วยลดการหลั่งสารก่อภูมิแพ้หรือฮีสตามีนในร่างกายได้ ทำให้ความรุนแรงของอาการแพ้ หอบหืด และไซนัสลดลง และยังช่วยบำรุงเลือดได้เพราะมีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก
กับความเชื่อที่ว่า วิตามินรักษามะเร็งได้นั้น ภกญ.วิชชุลดายืนยันว่า "ไม่เป็นความจริง" วิตามินซีได้แค่ป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ให้สารพิษไปกินส่วนเกินต่างๆ ของร่างกายได้เท่านั้น แต่อาจจะช่วยลดอาการข้างเคียงของการใช้ยาเคมีบำบัดและการฉายแสงอย่างคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารได้
"นอกจากจะแก้หวัดแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซี ยังช่วยชะลอการเสื่อมและแก่ของตัวเซลล์ หากทานในปริมาณที่สูงพอและต่อเนื่อง ร่างกายจะเก็บวิตามินซีไว้ในเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่เสื่อมไปก่อนวัยอันควร ยังมีส่วนสำคัญต่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตของผิว ให้ผิวสุขภาพดี มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิวให้มีสุขภาพดี และช่วยเสริมสร้างเอ็นกระดูกอ่อนในร่างกายด้วย"
"ทั้งนี้วิตามินซียังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์สร้างเม็ดสี จึงช่วยลดรอยดำและผิวหมองคล้ำได้ ป้องกันไม่ให้เกิดขบวนการสร้างเม็ดสีผิวขึ้นมาอย่างปกติ จึงช่วยผิวที่คล้ำจากแสงแดดกลับมาเป็นสีผิวปกติได้ แต่หากผิวคล้ำจากพันธุกรรมอยู่แล้วก็คงเป็นไปได้ยาก"
เภสัชกรหญิงยังแนะนำว่า วิตามินซีนั้นสามารถขับออกได้ปกติกับปัสสาวะ คนปกติสามารถทานได้สูงถึง 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ทาน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หากมีอาการหวัดร่างกายอ่อนแอ แนะนำให้ทานวันละ 2,000 มิลลิกรัม
ทั้งนี้หากกินวิตามินซีแต่ยังมีพฤติกรรมทำร้ายเซลล์อย่าง สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า นอนดึก และกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ก็คงหนีไม่พ้นความแก่ก่อนวัยที่จะยังถามหาอยู่ดี
ผู้เชี่ยวชาญเฟิร์ม! "วิตามินซี" ไม่รักษามะเร็ง
เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ จึงได้ไขความกระจ่างว่า วิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ต้องรับประทานเข้าไป และสามารถเสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับความร้อนและความชื้น ซึ่งหากรับประทานเป็นประจำก็จะช่วยเรื่องสุขภาพได้อย่างมาก
ภกญ.วิชชุลดากล่าวอีกว่า สิ่งที่เห็นง่ายๆ เช่น กินแล้วป้องกันหวัดได้ จากงานวิจัยของ ดร.ไลนัส พอลิง นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ปี 1970 ศึกษาไว้ว่า การทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะสามารถป้องกันหวัดได้และหวัดจะหายได้เร็วขึ้น 40% เพราะในวิตามินซีมีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ เพราะช่วยลดการหลั่งสารก่อภูมิแพ้หรือฮีสตามีนในร่างกายได้ ทำให้ความรุนแรงของอาการแพ้ หอบหืด และไซนัสลดลง และยังช่วยบำรุงเลือดได้เพราะมีส่วนช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก
กับความเชื่อที่ว่า วิตามินรักษามะเร็งได้นั้น ภกญ.วิชชุลดายืนยันว่า "ไม่เป็นความจริง" วิตามินซีได้แค่ป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่ให้สารพิษไปกินส่วนเกินต่างๆ ของร่างกายได้เท่านั้น แต่อาจจะช่วยลดอาการข้างเคียงของการใช้ยาเคมีบำบัดและการฉายแสงอย่างคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารได้
"นอกจากจะแก้หวัดแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินซี ยังช่วยชะลอการเสื่อมและแก่ของตัวเซลล์ หากทานในปริมาณที่สูงพอและต่อเนื่อง ร่างกายจะเก็บวิตามินซีไว้ในเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่เสื่อมไปก่อนวัยอันควร ยังมีส่วนสำคัญต่อกระบวนการสร้างคอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตของผิว ให้ผิวสุขภาพดี มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิวให้มีสุขภาพดี และช่วยเสริมสร้างเอ็นกระดูกอ่อนในร่างกายด้วย"
"ทั้งนี้วิตามินซียังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์สร้างเม็ดสี จึงช่วยลดรอยดำและผิวหมองคล้ำได้ ป้องกันไม่ให้เกิดขบวนการสร้างเม็ดสีผิวขึ้นมาอย่างปกติ จึงช่วยผิวที่คล้ำจากแสงแดดกลับมาเป็นสีผิวปกติได้ แต่หากผิวคล้ำจากพันธุกรรมอยู่แล้วก็คงเป็นไปได้ยาก"
เภสัชกรหญิงยังแนะนำว่า วิตามินซีนั้นสามารถขับออกได้ปกติกับปัสสาวะ คนปกติสามารถทานได้สูงถึง 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ทาน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หากมีอาการหวัดร่างกายอ่อนแอ แนะนำให้ทานวันละ 2,000 มิลลิกรัม
ทั้งนี้หากกินวิตามินซีแต่ยังมีพฤติกรรมทำร้ายเซลล์อย่าง สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า นอนดึก และกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ก็คงหนีไม่พ้นความแก่ก่อนวัยที่จะยังถามหาอยู่ดี