ผมเป็นลูกค้าที่ใช้บริการของทรูมาตลอด ทั้งมือถือตั้งแต่เริ่มต้นเป็น Orange จนเปลี่ยนมาเป็นทรู ดูเคเบิ้ลทรูวิชั่น แพลตินั่มแพ็กเกจ (เพราะไม่มีคู่แข่งที่ฝีมือเท่าเทียมกัน) และทรูอินเตอร์เน็ต ที่สุดท้ายอัพเกรดมาเป็น ultrahigh speed เพราะหวังว่าจะเข้าเน็ตได้ไวเป็น 3G 4G อย่างที่โฆษณา แต่ก็เป็นปีมาแล้วที่ต้องอดทนกับใช้เน็ตที่ช้าเป็นเต่า ติดๆดับๆ โทรไปก็มีช่างมาแก้บ้างและบอกว่าให้เปลี่ยนเป็น ultra high speed เริ่มต้นตอนนั้นบอก 5 GB เราก็คิดว่ามันต้องดีแน่ๆ แต่ก็ดีเป็นพักๆ ใช้ไปสักพัก 5-6 เดือน อยู่ดีๆก็เข้าเน็ตไม่ค่อยได้ โหลดช้า โทรไปศูนย์ก็บอกว่าสายไฟเบอร์แถวสุขุมวิทมีปัญหากำลังแก้ไข ตอนหัลงมาบอกอีกทีว่าเราท์เตอร์เสีย ก็ส่งคนมาเปลี่ยนเราท์เตอร์ ก้ดีอยู่พักนึง แล้วสักพักก็เป็นอีก ต้องใช้วิธีรีบูทด้วยการเปิดปิดสวิทซ์ (ช่างเขาแนะนำ) ก็ทำอยู่ประจำ จนหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้ใช้เพราะสัญญาณช้ามาก (หลังสุดเขาบอกอัพเป็น 10 หรือ 13 GB แล้ว) และใช้ GPRS บนมือถือแทน
จนสุดท้ายก็คิดว่า จะมาเสียเงินเดือนละ 700 กว่าบาทฟรีๆทำไม (ใช้ตัดผ่านบัตรเครดิต) ก็เลยเกิดความคิดว่าขอยกเลิกดีกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยใช้คอมที่บ้านอยู่แล้วใช้มือถือแทน ก็เลยให้ลูกสาวโทรไปยกเลิก (จดทะเบียนชื่อลูกสาว) ศูนย์บริการบอกจะยกเลิกได้ต้องเอาเราท์เตอร์ไปคืนด้วยตนเองที่ทรูช็อป เราฝังแล้วก็ไม่คิดว่าจริงจังอะไร เพราะเราท์เตอร์มันแทบไม่มีราคาอะไร ทำไมต้องถือไปคืน แต่อีก 2 เดือนทรูก็ยังไม่ยกเลิกให้เรา ผมก็เลยตัดใจถอดเราท์เตอร์และอุปกรณ์ทั้งชุดใส่ถุง เอาไปคืนที่ทรูช็อป สีลมคอมเพล็กซ์ เจ้าหน้าที่หญิงชื่อ ปัณณกัลย์ ??? รับเรื่องแต่บอกว่าคนจดทะเบียน (ลูกสาว) จะต้องมาเองพร้อมบัตรประชาชน หรือไม่ก็ทำมอบอำนาจมา ผมก็บอกว่าแค่แจ้งยกเลิกทำไมจะต้องยุ่งยาก ลูกสาวทำงานอยู่จะต้องเสียเวลามาด้วยตนเองทำไม่ ผมก้เอาของมาคืนตามที่บอกแล้วทำไมไม่จบ จนท.ก็ไม่ยอมบอกถ้างั้นก็ไม่รับของไว้ จนผมขอพบซูปเปอร์ไวเซอร เขามาอธิบายผมก็บอกยังไงขนของมาแล้วก็ทิ้งไว้นี่แหละไม่ขนกลับไปอีก เขาก็เลยยอมรับไว้ แต่บอกว่าจะไม่ยกเลิก แต่ให้ลูกสาวส่งเอกสารแจ้งมาทางเมล์ เราก็ทำให้ในวันรุ่งขึ้น 15/6/59
เนื่องจากค่าบริการตัดบัญชีบัตรเครดิตของผม ก็เห็นว่าในใบแจ้งเดือนกค. ยังมียอดเรียกเก็บเข้ามา 727 บาท ก็เลยโทรไปถามที่ศูนย์บริการ จนท.ชื่อเสริมศิริรับเรื่อง เช็คแล้วบอกว่าเป็ความผิดพลาดของทรูที่เก็บเงินเกิน ต้องให้ผู้จดทะเบียนเอาบัตรปชช.พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากไปติดต่อที่ช็อป เพื่อทำคืนเงินเข้าบัญชี ผมก็ระเบิดขึ้นมาทันทีว่า ทำไมคุณทำผิดแล้วลูกค้าจะต้องเดือดร้อนเดินทางเอาเอกสารต่างๆไปแสดงด้วยตนเองอีก ในเมื่อทรูเช็คแล้วว่าเก็บเงินผิดและแหล่งเงินที่ตัดบัญชีก็รู้ว่ามาจากไหน ทำไมไม่ส่งรายการคืนธนาคารไป ที่ธนาคารเขามีขั้นตอนที่จะปรับปรุงรายการให้ลูกค้าได้ จนทงก็บอกว่าเป็นขั้นตอนของบริษัท ผมก็เลยบอกว่าก็ไม่อยากจะเถียงเพราะรู้ว่าทรูทำงานกันอย่างนี้ก็บอกเขาว่า วิธีแก้ปัญหาของคุณมันแย่มาก เอาความสะดวกของบริษัทเป็นที่ตั้ง โดยไม่สนใจว่าลูกค้าจะลำบากหรือไม่ ผมก็เลยบอกลูกสาวว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ เงิน 700 กว่าไม่มีปัญหา แต่ก็เสียเวลาเขียนเรื่องมาแชร์กันให้คนอื่นๆได้ทราบ และเผื่อมีใครรู้จักทรูหรือผู้บริหารทรูบังเอิญผ่านมาเห็นอยากจะปรับปรุงก็จะได้ข้อมูลความเห็นจากลูกค้า (ผมบอกไปกับจนท.แล้วว่าให้ยกเรื่องแบบนี้เข้าที่ประชุมบริษัทบ้างเผื่อจะเอาเคสไปพิจารณาปรับปรุง)
สุดท้ายผมมีข้อสรุปกับตัวเองว่า 1. จะไม่ใช้บริการ ทรูอินเตอร์เน็ตอีก รวมถึง truemove H ด้วย (มีเจ้าอื่นที่น่าจะดีกว่า-อย่างน้อย AIS หรือ 3BB ก็น่าจะดีกว่า 2.อย่าเลือกชำระค่าบริการด้วยการตัดบัญชีเงินฝากหรือบัตรเครดิต แม้จะมีมาล่อด้วยการลดค่าบริการไปบ้างแต่เวลามีปัญหาคุณจะถูกตัดเงินไปก่อน และเวลาขอคืนจะขอยากมากกกกกก 3.ถ้าต่อไปบริการเคเบิลมีเจ้าอื่นที่น่าสนใจก็จะยกเลิก ทรูวิชั่น ไปด้วย เพราะรู้สึกว่าวิธีการบริหารของกลุ่มนี้มักจะเอาเปรียบลูกค้าอยู่เสมอ
ก็ฝากกระทู้นี้มาให้อ่านกัน ไม่ได้คิดจะดราม่าแต่ในฐานะผู้บริโภค ไม่ควรถูกข่มเหงกันง่ายๆ
เอาประสบการณ์การใช้บริการ True internet มาฝากกันครับ ไม่อยากดราม่าแต่แค่เอามาแชร์กัน
จนสุดท้ายก็คิดว่า จะมาเสียเงินเดือนละ 700 กว่าบาทฟรีๆทำไม (ใช้ตัดผ่านบัตรเครดิต) ก็เลยเกิดความคิดว่าขอยกเลิกดีกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยใช้คอมที่บ้านอยู่แล้วใช้มือถือแทน ก็เลยให้ลูกสาวโทรไปยกเลิก (จดทะเบียนชื่อลูกสาว) ศูนย์บริการบอกจะยกเลิกได้ต้องเอาเราท์เตอร์ไปคืนด้วยตนเองที่ทรูช็อป เราฝังแล้วก็ไม่คิดว่าจริงจังอะไร เพราะเราท์เตอร์มันแทบไม่มีราคาอะไร ทำไมต้องถือไปคืน แต่อีก 2 เดือนทรูก็ยังไม่ยกเลิกให้เรา ผมก็เลยตัดใจถอดเราท์เตอร์และอุปกรณ์ทั้งชุดใส่ถุง เอาไปคืนที่ทรูช็อป สีลมคอมเพล็กซ์ เจ้าหน้าที่หญิงชื่อ ปัณณกัลย์ ??? รับเรื่องแต่บอกว่าคนจดทะเบียน (ลูกสาว) จะต้องมาเองพร้อมบัตรประชาชน หรือไม่ก็ทำมอบอำนาจมา ผมก็บอกว่าแค่แจ้งยกเลิกทำไมจะต้องยุ่งยาก ลูกสาวทำงานอยู่จะต้องเสียเวลามาด้วยตนเองทำไม่ ผมก้เอาของมาคืนตามที่บอกแล้วทำไมไม่จบ จนท.ก็ไม่ยอมบอกถ้างั้นก็ไม่รับของไว้ จนผมขอพบซูปเปอร์ไวเซอร เขามาอธิบายผมก็บอกยังไงขนของมาแล้วก็ทิ้งไว้นี่แหละไม่ขนกลับไปอีก เขาก็เลยยอมรับไว้ แต่บอกว่าจะไม่ยกเลิก แต่ให้ลูกสาวส่งเอกสารแจ้งมาทางเมล์ เราก็ทำให้ในวันรุ่งขึ้น 15/6/59
เนื่องจากค่าบริการตัดบัญชีบัตรเครดิตของผม ก็เห็นว่าในใบแจ้งเดือนกค. ยังมียอดเรียกเก็บเข้ามา 727 บาท ก็เลยโทรไปถามที่ศูนย์บริการ จนท.ชื่อเสริมศิริรับเรื่อง เช็คแล้วบอกว่าเป็ความผิดพลาดของทรูที่เก็บเงินเกิน ต้องให้ผู้จดทะเบียนเอาบัตรปชช.พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากไปติดต่อที่ช็อป เพื่อทำคืนเงินเข้าบัญชี ผมก็ระเบิดขึ้นมาทันทีว่า ทำไมคุณทำผิดแล้วลูกค้าจะต้องเดือดร้อนเดินทางเอาเอกสารต่างๆไปแสดงด้วยตนเองอีก ในเมื่อทรูเช็คแล้วว่าเก็บเงินผิดและแหล่งเงินที่ตัดบัญชีก็รู้ว่ามาจากไหน ทำไมไม่ส่งรายการคืนธนาคารไป ที่ธนาคารเขามีขั้นตอนที่จะปรับปรุงรายการให้ลูกค้าได้ จนทงก็บอกว่าเป็นขั้นตอนของบริษัท ผมก็เลยบอกว่าก็ไม่อยากจะเถียงเพราะรู้ว่าทรูทำงานกันอย่างนี้ก็บอกเขาว่า วิธีแก้ปัญหาของคุณมันแย่มาก เอาความสะดวกของบริษัทเป็นที่ตั้ง โดยไม่สนใจว่าลูกค้าจะลำบากหรือไม่ ผมก็เลยบอกลูกสาวว่าจะทำหรือไม่ทำก็ได้ เงิน 700 กว่าไม่มีปัญหา แต่ก็เสียเวลาเขียนเรื่องมาแชร์กันให้คนอื่นๆได้ทราบ และเผื่อมีใครรู้จักทรูหรือผู้บริหารทรูบังเอิญผ่านมาเห็นอยากจะปรับปรุงก็จะได้ข้อมูลความเห็นจากลูกค้า (ผมบอกไปกับจนท.แล้วว่าให้ยกเรื่องแบบนี้เข้าที่ประชุมบริษัทบ้างเผื่อจะเอาเคสไปพิจารณาปรับปรุง)
สุดท้ายผมมีข้อสรุปกับตัวเองว่า 1. จะไม่ใช้บริการ ทรูอินเตอร์เน็ตอีก รวมถึง truemove H ด้วย (มีเจ้าอื่นที่น่าจะดีกว่า-อย่างน้อย AIS หรือ 3BB ก็น่าจะดีกว่า 2.อย่าเลือกชำระค่าบริการด้วยการตัดบัญชีเงินฝากหรือบัตรเครดิต แม้จะมีมาล่อด้วยการลดค่าบริการไปบ้างแต่เวลามีปัญหาคุณจะถูกตัดเงินไปก่อน และเวลาขอคืนจะขอยากมากกกกกก 3.ถ้าต่อไปบริการเคเบิลมีเจ้าอื่นที่น่าสนใจก็จะยกเลิก ทรูวิชั่น ไปด้วย เพราะรู้สึกว่าวิธีการบริหารของกลุ่มนี้มักจะเอาเปรียบลูกค้าอยู่เสมอ
ก็ฝากกระทู้นี้มาให้อ่านกัน ไม่ได้คิดจะดราม่าแต่ในฐานะผู้บริโภค ไม่ควรถูกข่มเหงกันง่ายๆ