ทริปนี้เริ่มจากเราซื้อตั๋วโปรของการบินไทยไปกาฏมัณฑุ ทำวีซ่า หาข้อมูลของเนปาล กาฏมัณฑุ อ่านรีวิวโน่นนี่ จนพบว่ามีไปเทร๊กกิ้ง ABC เอย Poon hill เอย ต่อมนักผจญภัยก็เริ่มทำงาน แต่ด้วยเรามีเวลาจำกัด มีเวลาสี่วันกะสามคืน ถ้าไปเทรกกิ้ง ใช้เวลาอย่างน้อย 10 วัน ทำไงดี เอาหละอย่างน้อยเราไปเมืองหน้าด่านก็ได้ ขอให้ได้เห็นบรรยากาศ เราจึงตัดสินใจไปเมืองโพคารา จองที่พักจากในเวปไปสองคืน แล้วติดต่อโรงแรมให้คนมารับที่สนามบิน
พอลงเครื่อง ออกมานอกสนามบิน เราก็มองหาชื่อเรา มองแล้วมองเล่าก็ไม่เจอ เดินข้ามฝั่งไปดูรอบๆก็ไม่มี คนก็เข้ามาล้อมมาถามจะไปไหน เราก็รีบจ้ำอ้าวหาคนจากโรงแรมที่นัดมารับ ไม่เห็นมี พูดจากับคนที่เค้ามารอรับผู้โดยสารแถวนั้นอยู่พักใหญ่ มีช่วยติดต่อที่โรงแรมให้ ตามเบอร์ที่เราจดไว้ ได้ความว่าคนขับมารอรับแล้วที่สนามบิน แต่ไม่เห็นเราเลยเดินไปที่อื่น เดี๋ยวมา รอไปอีก เค้าก็โทรไปแล้วได้ความว่าอยู่ที่สนามบินแล้ว กำลังมา เป็นอย่างนี้ เราก็รอจนสุดท้าย เราโทรไปที่โรงแรมเอง จึงได้พบว่าคนละสนามบิน เค้าไปรอที่สนามบินโพคารา แต่เรารออยู่ที่สนามบินกาฎมัณฑุ อึ้งค่ะ ทำไงดี พวกแท๊กซี่คนขับที่โน่นรายล้อมมาเสนอจะจองตั๋วให้ 120$ เค้าจองให้ได้ 100$ บ้างก็เสนอขับรถไปให้ เรียกเรา 12,000 รูปี โอ้แม่เจ้า ดีที่เราติดต่อโรงแรมให้เค้าช่วยดู เราเดินออกมาจากตรงนั้นก็ยังมีคนเดินตามมา จะพาไปอาคารโดยสารในประเทศจองตั๋ว เราก็เออเดินไปดูสิ ปรากฏเดินไกลเหมือนกัน เห็นท่าไม่ไหว เลยบอกแกไม่เอา ก็เดินลากกระเป๋ามา คิดว่าเอาไงดี แหนะ ยังมีอีกคนเดินตามมาตอนไหนไม่รู้ แต่ก็อยู่กลุ่มแรกคือเค้ารู้ว่าเราจะไปโพคารา เสนอจะขับไปให้ เราตัดสินใจเข้าเมือง ยืนยันให้เค้าเปิดมิเตอร์เท่านั้น ถึงไป สักพักทางโรงแรมติดต่อมา บอกจะช่วยหาตั๋วให้ แต่สรุปไม่มีไฟล์ทวันนี้ เค้าให้เราไปที่สถานีรถบัสนั่งมาลงที่โพคารา เราก็ให้เค้าช่วยคุยกับคนขับไปส่งเราที่สถานีรถ พี่แท๊กซี่สีหน้าเปลี่ยนประมาณรู้ละว่าคงหากินกับเราไม่ได้ ยังมาเสนอขับไปให้เร็วแค่ห้าชั่วโมง ขอ 10,000 รูปี อีกแหนะ
แล้วคนขับก็พาเราไปส่งที่คิวรถตู้ ระหว่างทางเราติดต่อทางโรงแรมให้คุยกับคนขับตลอดเพื่อให้ชัวร์ว่าส่งเราถูกที่ ซึ่งมันช่วยได้มากๆ ที่คิวรถตู้เราถามเลย ไปโพคาราใช่มั้ย เค้าบอกใช่ โอเครเปลาะนึง คนขับก็คุยถามกับคนขับ ยืนยันมั่นเหมาะ เค้าก็ให้เราไปจ่ายตังค์ซื้อตั๋ว 500 รูปีจ้าาา เรานั่งแท๊กซี่มิเตอร์มาประมาณ 250 รูปี เราให้ไป 500 รูปี ไม่ต้องทอน เหอเหอ สรุป เวลานั่งแท๊กซี่ต้องให้เค้าเปิดมิเตอร์เท่านั้น และทุกข้อเสนอที่สนามบินใช้ไม่ได้ค่ะ เขาจะโขกราคาแบบขูดเลือดขูดเนื้อเป็น 10 เท่า
ตอนนั่งออกมาจากกาฏมัณฑุ จะเป็นถนนดินแดงลูกรังตลอด ฝุ่นคลุ้งตลบ ฝุ่นเยอะมาก คนที่โน่นเค้าก็ใส่ที่ปิดจมูกกันทั่วไป
นั่งรถข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า
ระหว่างทางรถก็จะจอดรับผู้โดยสารเป็นระยะ กับจอดให้เข้าห้องน้ำ
ตอนนั่งรถนี่ทรมานน่าดู รถเค้าไม่เปิดแอร์ ต้องเปิดหน้าต่าง แล้วเนื่องจากฝุ่นมันเยอะมาก ก็ต้องปิดหน้าต่าง มีแต่ฝั่งคนขับที่เปิด แล้วรถก็ขับเลี้ยวไปมาตามทางขึ้นลงเขา นั่งมาจนค่ำ พอเข้าเขตเมืองโพคาราก็ต้องนั่งไปต่ออีกชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางไม่มีไฟถนน มีแต่ไฟตามบ้านคนที่เปิดอยู่ และก็ไฟจากรถที่ขับสวนไปมา
เรามาถึงที่โรงแรมก็ประมาณสองสามทุ่ม
ตอนเช้าผู้จัดการมีโทรมาปลุกให้ดูยอดเขาด้วย
ที่พักกับผู้จัดการที่ดูแลอย่างดี และอาหารเช้าแบบ continental รสชาดใช้ได้อยู่
ห้องอีกแบบที่เค้าให้เราเลือกด้วย เผื่อเราอยากย้ายมาอยู่ แต่เราไม่ได้ย้ายค่ะ
กิจกรรมมากมายที่เราสามารถทำได้ในโพคารา ที่นี่เป็นแหล่ง paragliding ด้วย น่าเล่นมาก
แดดแรงมากที่นี่ และเค้าเจริญอย่างนึงคือเราจะเห็นแผงโซล่าเซลตามถนนและโรงแรมทั่วไป โรงแรมที่เราพักก็ติดโซล่าเซล...ที่เนปาลจะมีดับไฟฟ้าวันละประมาณสองครั้ง แต่เค้าจะมีเปิดไฟสำรองใช้ เราแค่อาจเปิดแอร์ไม่ได้
ขี่จักรยานไปเที่ยวเล่นในเมือง เจอแม่ค้าชวนซื้อฟักกินมั้ย ในตระกร้าข้างหลังจะเป็นฟักที่เค้าขาย จะปอกกินกันสดๆเลย แต่เราไม่ได้ลองอะ
จะพายเรือเล่นหรือเล่นอย่างอื่นก็ได้
อากาศร้อนจนเราต้องแวะมากินไอติมซะหน่อย ก่อนไปต่อ
นั่งชมวิว ลองชิมโมโม่ (โมโม่มีสองแบบ คือหน้าตาเหมือนเกี๊ยวซ่า หรือหน้าตาเหมือนเสี่ยวหลงเปา) ไส้ก็มีให้เลือกหลายไส้ เราเลือกลองไส้ผัก รสชาดเป็นเครื่องเทศแขกบวกรสเผ็ดเล็กน้อย เครื่องเคียงที่จิ้มกินด้วยกันรสชาดโอเค
สาวผมทองที่นั่งนางนี้ เห็นเธอลองกินฟักที่แม่ค้าท้องถิ่นขาย อย่างเอร็ดอร่อยเลย
ขากลับจากโพคาราเข้ากาฏมัณฑุ เราติดต่อเอเจนซี่ สรุปนั่งรถทัวร์นักท่องเที่ยว(Tourist bus) มีทีวีเปิดเพลงให้ฟัง เปิดหนังแขกให้ดู มีน้ำ1000 ml ให้ 1 ขวด ค่าตั๋วจ่ายไป 650 รูปี
รถมีพัดลมแต่ไม่เปิดจ้า ก็อากาศธรรมชาติเอา เหมือนรถทัวร์ทั่วไป จอดรถให้เข้าห้องน้ำเป็นระยะๆ มีจอดกินข้าวกลางวันที่ร้าน มีบุฟเฟ่ด้วย
เราเลือกกินอะไรที่ดูปลอดภัยสุดและน่าจะกินได้ ซึ่งมันก็คือข้าวผัด เค้าเอามาผัดใหม่ในกระทะให้ร้อนแล้วเสริฟกินพร้อมน้ำจิ้ม pickle ซึ่งมีส่วนผสมของมะขือเทศ มีรสออกเปรี้ยวเล็กน้อย พอกินกับข้าวผัดก็โอเคอยู่ เราขอเค้าเพิ่มมันฝรั่งมาด้วย
กินเสร็จข้างหน้าจะมีเพิงตายายขายผลไม้ ขายฟัก สัปปะรด ลูกแพร เนื่องจากอากาศร้อนมาก ความชื้นในอากาศอ่านดูพบว่า ประมาณ 80% แม้อยู่เฉยๆเหงื่อก็ออกพลั๊กๆ คนจึงมามุงที่ร้านตายาย เพราะกินผักผลไม้ คงทำให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง ฟักที่นี่เป็นฟักใหญ่ ผ่ากลาง แล้วใส่น้ำจิ้มสีเขียวๆราดข้างบนกินแบบนั้น ส่วนเราขอลองสัปปะรด แกปอกใส่จาน มีโรยเกลือข้างบนนิดหน่อย รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง ระหว่างทางมีฝนตกประปราย พอเราถึงกาฏมัณฑุ ฝนก็ตก มีเพื่อนร่วมทางคนนึงช่วยโบกแท๊กซี่ให้แล้วติดรถไปด้วย คนขับเรียก 350 รูปี แล้วฮีก็ติดรถมาลงกลางทาง ส่วนเราไปต่อเพื่อลงที่ทาเมล ไปนอนที่นั่นหนึ่งคืนแล้วกลับ อินเตอร์เนตก็ไม่ทำงาน ได้แค่ที่อยู่คร่าวๆของโรงแรมที่กะจะไปนอน ไม่มีเบอร์โทร สุดท้ายเราให้คนขับจอดรถ แล้วลงมาหาโรงแรม เลยได้มานอนที่นี่
ตื่นเช้ามา จัดการเก็บของกลับกทม ค่าแท๊กซี่มิเตอร์จากทาเมลมาสนามบิน ประมาณ 320 รูปี
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่าตั๋วโปรการบินไทย 11340 บาท
ค่าวีซ่าบวกบริการ 1500 บาท
ค่าที่พักสองคืนในโพคารา 1600 บาท
และทั้งหลายทั้งหมด รวมทริปนี้ ใช้ไปประมาณ 19,000 บาท
ขอจบรีวิวทริปเนปาลเพียงเท่านี้จ้า...
[CR] โพคารา (Pokhara) เนปาล...เพราะบังเอิญจึงเจอเธอ
ทริปนี้เริ่มจากเราซื้อตั๋วโปรของการบินไทยไปกาฏมัณฑุ ทำวีซ่า หาข้อมูลของเนปาล กาฏมัณฑุ อ่านรีวิวโน่นนี่ จนพบว่ามีไปเทร๊กกิ้ง ABC เอย Poon hill เอย ต่อมนักผจญภัยก็เริ่มทำงาน แต่ด้วยเรามีเวลาจำกัด มีเวลาสี่วันกะสามคืน ถ้าไปเทรกกิ้ง ใช้เวลาอย่างน้อย 10 วัน ทำไงดี เอาหละอย่างน้อยเราไปเมืองหน้าด่านก็ได้ ขอให้ได้เห็นบรรยากาศ เราจึงตัดสินใจไปเมืองโพคารา จองที่พักจากในเวปไปสองคืน แล้วติดต่อโรงแรมให้คนมารับที่สนามบิน
พอลงเครื่อง ออกมานอกสนามบิน เราก็มองหาชื่อเรา มองแล้วมองเล่าก็ไม่เจอ เดินข้ามฝั่งไปดูรอบๆก็ไม่มี คนก็เข้ามาล้อมมาถามจะไปไหน เราก็รีบจ้ำอ้าวหาคนจากโรงแรมที่นัดมารับ ไม่เห็นมี พูดจากับคนที่เค้ามารอรับผู้โดยสารแถวนั้นอยู่พักใหญ่ มีช่วยติดต่อที่โรงแรมให้ ตามเบอร์ที่เราจดไว้ ได้ความว่าคนขับมารอรับแล้วที่สนามบิน แต่ไม่เห็นเราเลยเดินไปที่อื่น เดี๋ยวมา รอไปอีก เค้าก็โทรไปแล้วได้ความว่าอยู่ที่สนามบินแล้ว กำลังมา เป็นอย่างนี้ เราก็รอจนสุดท้าย เราโทรไปที่โรงแรมเอง จึงได้พบว่าคนละสนามบิน เค้าไปรอที่สนามบินโพคารา แต่เรารออยู่ที่สนามบินกาฎมัณฑุ อึ้งค่ะ ทำไงดี พวกแท๊กซี่คนขับที่โน่นรายล้อมมาเสนอจะจองตั๋วให้ 120$ เค้าจองให้ได้ 100$ บ้างก็เสนอขับรถไปให้ เรียกเรา 12,000 รูปี โอ้แม่เจ้า ดีที่เราติดต่อโรงแรมให้เค้าช่วยดู เราเดินออกมาจากตรงนั้นก็ยังมีคนเดินตามมา จะพาไปอาคารโดยสารในประเทศจองตั๋ว เราก็เออเดินไปดูสิ ปรากฏเดินไกลเหมือนกัน เห็นท่าไม่ไหว เลยบอกแกไม่เอา ก็เดินลากกระเป๋ามา คิดว่าเอาไงดี แหนะ ยังมีอีกคนเดินตามมาตอนไหนไม่รู้ แต่ก็อยู่กลุ่มแรกคือเค้ารู้ว่าเราจะไปโพคารา เสนอจะขับไปให้ เราตัดสินใจเข้าเมือง ยืนยันให้เค้าเปิดมิเตอร์เท่านั้น ถึงไป สักพักทางโรงแรมติดต่อมา บอกจะช่วยหาตั๋วให้ แต่สรุปไม่มีไฟล์ทวันนี้ เค้าให้เราไปที่สถานีรถบัสนั่งมาลงที่โพคารา เราก็ให้เค้าช่วยคุยกับคนขับไปส่งเราที่สถานีรถ พี่แท๊กซี่สีหน้าเปลี่ยนประมาณรู้ละว่าคงหากินกับเราไม่ได้ ยังมาเสนอขับไปให้เร็วแค่ห้าชั่วโมง ขอ 10,000 รูปี อีกแหนะ
แล้วคนขับก็พาเราไปส่งที่คิวรถตู้ ระหว่างทางเราติดต่อทางโรงแรมให้คุยกับคนขับตลอดเพื่อให้ชัวร์ว่าส่งเราถูกที่ ซึ่งมันช่วยได้มากๆ ที่คิวรถตู้เราถามเลย ไปโพคาราใช่มั้ย เค้าบอกใช่ โอเครเปลาะนึง คนขับก็คุยถามกับคนขับ ยืนยันมั่นเหมาะ เค้าก็ให้เราไปจ่ายตังค์ซื้อตั๋ว 500 รูปีจ้าาา เรานั่งแท๊กซี่มิเตอร์มาประมาณ 250 รูปี เราให้ไป 500 รูปี ไม่ต้องทอน เหอเหอ สรุป เวลานั่งแท๊กซี่ต้องให้เค้าเปิดมิเตอร์เท่านั้น และทุกข้อเสนอที่สนามบินใช้ไม่ได้ค่ะ เขาจะโขกราคาแบบขูดเลือดขูดเนื้อเป็น 10 เท่า
ตอนนั่งออกมาจากกาฏมัณฑุ จะเป็นถนนดินแดงลูกรังตลอด ฝุ่นคลุ้งตลบ ฝุ่นเยอะมาก คนที่โน่นเค้าก็ใส่ที่ปิดจมูกกันทั่วไป
นั่งรถข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า
ระหว่างทางรถก็จะจอดรับผู้โดยสารเป็นระยะ กับจอดให้เข้าห้องน้ำ
ตอนนั่งรถนี่ทรมานน่าดู รถเค้าไม่เปิดแอร์ ต้องเปิดหน้าต่าง แล้วเนื่องจากฝุ่นมันเยอะมาก ก็ต้องปิดหน้าต่าง มีแต่ฝั่งคนขับที่เปิด แล้วรถก็ขับเลี้ยวไปมาตามทางขึ้นลงเขา นั่งมาจนค่ำ พอเข้าเขตเมืองโพคาราก็ต้องนั่งไปต่ออีกชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางไม่มีไฟถนน มีแต่ไฟตามบ้านคนที่เปิดอยู่ และก็ไฟจากรถที่ขับสวนไปมา
เรามาถึงที่โรงแรมก็ประมาณสองสามทุ่ม
ตอนเช้าผู้จัดการมีโทรมาปลุกให้ดูยอดเขาด้วย
ที่พักกับผู้จัดการที่ดูแลอย่างดี และอาหารเช้าแบบ continental รสชาดใช้ได้อยู่
ห้องอีกแบบที่เค้าให้เราเลือกด้วย เผื่อเราอยากย้ายมาอยู่ แต่เราไม่ได้ย้ายค่ะ
กิจกรรมมากมายที่เราสามารถทำได้ในโพคารา ที่นี่เป็นแหล่ง paragliding ด้วย น่าเล่นมาก
แดดแรงมากที่นี่ และเค้าเจริญอย่างนึงคือเราจะเห็นแผงโซล่าเซลตามถนนและโรงแรมทั่วไป โรงแรมที่เราพักก็ติดโซล่าเซล...ที่เนปาลจะมีดับไฟฟ้าวันละประมาณสองครั้ง แต่เค้าจะมีเปิดไฟสำรองใช้ เราแค่อาจเปิดแอร์ไม่ได้
ขี่จักรยานไปเที่ยวเล่นในเมือง เจอแม่ค้าชวนซื้อฟักกินมั้ย ในตระกร้าข้างหลังจะเป็นฟักที่เค้าขาย จะปอกกินกันสดๆเลย แต่เราไม่ได้ลองอะ
จะพายเรือเล่นหรือเล่นอย่างอื่นก็ได้
อากาศร้อนจนเราต้องแวะมากินไอติมซะหน่อย ก่อนไปต่อ
นั่งชมวิว ลองชิมโมโม่ (โมโม่มีสองแบบ คือหน้าตาเหมือนเกี๊ยวซ่า หรือหน้าตาเหมือนเสี่ยวหลงเปา) ไส้ก็มีให้เลือกหลายไส้ เราเลือกลองไส้ผัก รสชาดเป็นเครื่องเทศแขกบวกรสเผ็ดเล็กน้อย เครื่องเคียงที่จิ้มกินด้วยกันรสชาดโอเค
สาวผมทองที่นั่งนางนี้ เห็นเธอลองกินฟักที่แม่ค้าท้องถิ่นขาย อย่างเอร็ดอร่อยเลย
ขากลับจากโพคาราเข้ากาฏมัณฑุ เราติดต่อเอเจนซี่ สรุปนั่งรถทัวร์นักท่องเที่ยว(Tourist bus) มีทีวีเปิดเพลงให้ฟัง เปิดหนังแขกให้ดู มีน้ำ1000 ml ให้ 1 ขวด ค่าตั๋วจ่ายไป 650 รูปี
รถมีพัดลมแต่ไม่เปิดจ้า ก็อากาศธรรมชาติเอา เหมือนรถทัวร์ทั่วไป จอดรถให้เข้าห้องน้ำเป็นระยะๆ มีจอดกินข้าวกลางวันที่ร้าน มีบุฟเฟ่ด้วย
เราเลือกกินอะไรที่ดูปลอดภัยสุดและน่าจะกินได้ ซึ่งมันก็คือข้าวผัด เค้าเอามาผัดใหม่ในกระทะให้ร้อนแล้วเสริฟกินพร้อมน้ำจิ้ม pickle ซึ่งมีส่วนผสมของมะขือเทศ มีรสออกเปรี้ยวเล็กน้อย พอกินกับข้าวผัดก็โอเคอยู่ เราขอเค้าเพิ่มมันฝรั่งมาด้วย
กินเสร็จข้างหน้าจะมีเพิงตายายขายผลไม้ ขายฟัก สัปปะรด ลูกแพร เนื่องจากอากาศร้อนมาก ความชื้นในอากาศอ่านดูพบว่า ประมาณ 80% แม้อยู่เฉยๆเหงื่อก็ออกพลั๊กๆ คนจึงมามุงที่ร้านตายาย เพราะกินผักผลไม้ คงทำให้สดชื่นขึ้นมาบ้าง ฟักที่นี่เป็นฟักใหญ่ ผ่ากลาง แล้วใส่น้ำจิ้มสีเขียวๆราดข้างบนกินแบบนั้น ส่วนเราขอลองสัปปะรด แกปอกใส่จาน มีโรยเกลือข้างบนนิดหน่อย รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง ระหว่างทางมีฝนตกประปราย พอเราถึงกาฏมัณฑุ ฝนก็ตก มีเพื่อนร่วมทางคนนึงช่วยโบกแท๊กซี่ให้แล้วติดรถไปด้วย คนขับเรียก 350 รูปี แล้วฮีก็ติดรถมาลงกลางทาง ส่วนเราไปต่อเพื่อลงที่ทาเมล ไปนอนที่นั่นหนึ่งคืนแล้วกลับ อินเตอร์เนตก็ไม่ทำงาน ได้แค่ที่อยู่คร่าวๆของโรงแรมที่กะจะไปนอน ไม่มีเบอร์โทร สุดท้ายเราให้คนขับจอดรถ แล้วลงมาหาโรงแรม เลยได้มานอนที่นี่
ตื่นเช้ามา จัดการเก็บของกลับกทม ค่าแท๊กซี่มิเตอร์จากทาเมลมาสนามบิน ประมาณ 320 รูปี
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่าตั๋วโปรการบินไทย 11340 บาท
ค่าวีซ่าบวกบริการ 1500 บาท
ค่าที่พักสองคืนในโพคารา 1600 บาท
และทั้งหลายทั้งหมด รวมทริปนี้ ใช้ไปประมาณ 19,000 บาท
ขอจบรีวิวทริปเนปาลเพียงเท่านี้จ้า...