รีวิวการเตรียมตัว Trekking ABC Nepal ช่วยสงกรานต์เดือนเมษายน 2566
พวกเราเดินทางไปเนปาลอีกครั้งหลังจากเคยไปเยือน Poon Hill มาเมื่อเดือนเมษายน 2558 หรือปีที่เกิดแผ่นดินไหวที่เนปาลนั่นเอง
โดยสิ่งที่แตกต่างไปสำหรับปีนี้คือ จองตั๋วเครื่องบินผ่านสายการบินไทยสไมล์ จากที่เคยบินการบินไทยเมื่อแปดปีที่แล้ว และค่าตั๋วก็แพงเอาเรื่อง
โดยให้เลือกที่นั่งขาไปฝั่งขวา ขากลับฝั่งซ้ายเพื่อจะได้เห็นวิวเทือกเขาหิมาลัย และยอดเขาเอเวอเรส
จากนั้นเราก็เริ่มวางแผนการเดินทางในประเทศเนปาล จากกาฐมานฑุไปโพคราจากเดิมที่ไปรถบัสกลับเครื่อง โดยจองผ่านเอเย่นต์
คราวนี้ลองจองตั๋วเครื่องบินเองแบบไปกลับผ่านเว็บไซต์ของสายการบิน Buddha :
https://www.buddhaair.com/
โดยจ่ายผ่านบัตรเครดิต ไม่มีชาร์จเพิ่ม ค่าตั๋วไปกลับตีซะเที่ยวละ 100 US
เมื่อตั๋วพร้อมเราก็จองที่พักผ่าน Booking.com ย่านทาเมล เป็นหลัก และประสานที่พักโพคราที่ชื่อ Kiwi backpacker hostel ผ่าน WhatsApp
เพื่อขอราคาไกด์หรือพอตเตอร์ สำหรับพาเราไปปีนเขาในคราวนี้ แต่ทว่าราคาโรงแรมให้ผันผวนมาก แถมยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้
เราจึงเลือกไกด์จากบริษัท Friendly Trekkers Adventure โดยติดต่อผ่าน Facebook คุณ
Chandra Bahadur Bhujel ซึ่งระหว่างที่เรากำลังคิด ๆ ว่าจะใช้ไกด์ที่ไหนดี คุณ Chandra ก็เมล์ทัก แอดเฟสทักเพื่อนมาอย่างสม่ำเสมอ จนในที่สุดเราก็คิดว่าราคาน่าคบและยังติดต่อง่ายไม่ขาดสาย
โดยไกด์ที่ได้ชื่อว่า
Arjun Bhujel ติดต่อเค้าผ่าน Facebook ตามชื่อได้เลย โดยบริษัทคิดค่าใช้จ่าย ดังนี้ jeep 75$ permit and tims คนละ 42$ guide/ porter service =24$×7=168$ nayapool to pokhara by jeep 8000 Rupee ซึ่งบางคนอาจได้รถขากลับเพียง 5000 Rupee เท่านั้น
และควรทำประกันและแจ้งบริษัท ซึ่งบริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่รับปีนเขาเนปาล ก็ลองเลือกดูหลาย ๆ แห่ง แนะนำ World trip ก็ดีค่ะ จะบอกว่าทริปเราไพรเวทมาก เพราะไปแค่ 2 คน เลยคุยกับไกด์ได้ตลอด Arjun น่ารัก สุภาพมาก แถมหล่อและโสดด้วย
หลายคนเลือกที่จะไปแลกเงินไทยที่ทาเมล แต่ขอบอกเลยว่าบางร้านเขาก็ไม่รับอ่า เราแลกดอลล่าร์ไปจาก siam exchange ที่แยกมาบุญครอง แล้วไปแลกที่ทาเมล เพราะพ่อคุณแท็กซี่ไม่รับเงินดอลลาร์ เมื่อถึงทาเมลรีบแลกเงินเนปาลรูปีไว้โดยด่วนเพราะส่วนใหญ่ต้องใช้เงินรูปีจ้า
หลังจากนั้นก็ถึงเวลาเตรียมอุปกรณ์เดินเขา จัดไปแบบจัดหนักจัดเต็ม เพราะยอดเขาหนาวมาก แถมหิมะตกอีกต่างหาก
เราเลือกแวะยูนิโคล่เป็นร้านแรก โดยยิ่งสูงยิ่งหนาว แต่ละวันจึงเตรียมเสื้อที่เหมาะสม เช้าเย็นหนาว กลางวันนี่ร้อนมาก เราเลยจัดเสื้อ Airslim ไป และวันที่เดินสูงขึ้นก็สวมฮีทเท็คอีกชั้น ยิ่งสูงขึ้นก็เพิ่มลองจอน เสื้อกันลม จนหนาวขีดสุดบนยอดเขา ABC เราต้องจัดเต็มทุกชุดที่มี ฮีตเท็ค ลองจอน เสื้อดาวน์ เสื้อกันลม เพราะหิมะตก และอากาศหนาวมาก ถุงมือ หมวก ผ้าบลัฟ รองเท้า ต้องพร้อมลุยเต็มที่ แว่นกันแดดก็สำคัญนะจ๊ะ หนาวแค่ไหนดูเถอะ แถมก่อนถึงหิมะตกอีกต่างหาก
และเมื่อถึงทาเมล ย่อมไม่พลาดที่จะช้อปปิ้งอุปกรณ์เพิ่มเติม บอกก่อนว่าแท๊กซี่นอกสนามบิน ราคาไปทาเมลอยู่ที่ 600-700 รูปีเท่านั้น
แต่เราก็โดนแท็กซี่หลอกไปหลายบาท และสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ ซื้อซิม เส้น Amerit ที่ขนานกับ Tamel มีร้านซิมราคาถูก 7 วันเพียง 200 รูปีเท่านั้น แถมยังอยู่ใกล้กับร้านเช่าอุปกรณ์เทรคกิ้ง ที่เราแทบจะกราบขอบพระคุณคุณพี่เจ้าของร้านมาก เพราะตอนแรกไปเผลอเช่าร้านข้าง ๆ
ที่คุณภาพถุงนอนไม่ดีงามเท่า เราเลยยอมเสียค่าเช่าฟรีไป 1 วัน เพื่อเอาถุงนอนไปคืน และไปเช่าถุงนอน Northface -20 องศา ร้านพี่เค้าแทน
โดยร้านมีชื่อว่า Nepal Trekkers Equipment Services เซิร์ทกูเกิลได้เลย จ่ายค่ามัดจำไป 5000 รูปี โดยมีค่าเช่าวันละ 100 รูปีเท่านั้น แนะนำเลยว่าดีงามมาก รอดตายเพราะถุงนอนร้านนี้เลยขอบอก
ส่วนอุปกรณ์สำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือสติ๊ก หรือไม้เท้าเดินเขา จะเลือกเช่าหรือซื้อก็ตามสะดวก แต่เราเลือกซื้อเพราะราคา 2500 รูปี แถมยังมีธงเนปาลน่ารัก เอาไว้มาปีนเขาต่อที่เมืองไทยได้ ส่วนถุงมือ เสื้อ อุปกรณ์อื่น ๆ ก็ซื้อร้านเช่าถุงนอนได้ ราคาถูกที่สุด แต่ของออกจะน้อยหน่อย ที่จริงบริษัทท้วร์ก็มีถุงนอน ไม้เท้าและ Crampons ให้เหมือนกันนะ
ส่วนเรื่องยาต้องเตรียมไว้เลยไม่ว่าจะยาแพ้ความสูงที่ต้องกินล่วงหน้า และหลังลงเขา 2 วัน ซื้อแถวหน้ารพ.จุฬาฯ ก็มี และยาแก้ไข้ แก้หวัด แก้อักเสบ แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย คลายกล้ามเนื้อ ยาหม่อง น้ำมันเหลือง ผ้ารัดเข่า เอาไปแบบจัดเต็ม เราทาน้ำมันเหลืองทุกวัน และรัดขาด้วยผ้ารัดเข่าแบบแน่น ทั้งขาเลย พร้อมสวมซิลิโคนนิ้วเท้าป้องกันการเสียดสี ช่วยได้มาก เพราะคราวที่แล้วนิ้วพองมาก และกินยากันไว้ก่อนทุกวันจนคนเนปาลถึงกับถาม
ที่พลาดไม่ได้ ควรซื้อครีมหิมาลายาที่ทาเมลไว้ เพราะช่วยดูแลผิวไม่ให้แห้งหรือไหม้ได้ เราจัดหมด ทั้งครีม ทั้งใต้ตา ทั้งลิปมัน ทาลิปจมูกช่วยกันจมูกลอกได้ด้วยนา
และผ้าพันคอแคชเมียร์ก็ไปซื้อแยก Asan ร้านขายราคา 2200 รูปี ไม่รู้ถูกหรือแพง แต่ใช้ดีโคตร ผ้านิ่มเบา แต่อุ่นมาก
ส่วนสาว ๆ ก็พลาดเส้นทาเมลไม่ได้ เพราะร้านขายเสื้อกางเกง กระโปรง เสื้อ Silk 70% ผสม Viscose 30% ราคา 1200 รูปี++ ราคาดีงามและสวยมาก เราซื้อร้านนี้อยู่ถนนทาเมล เรียกได้ว่าวันกลับมาดักรอจนร้านเปิดเลยทีเดียว
สำหรับของฝากก็มากมายไม่ว่าจะฮิมาลายา สบู่ออแกนิค ของที่ระลึกต่าง ๆ กระเป๋าปัก ไพ่ ธงมนต์ เราเอาไปผูกที่ ABC ด้วย และที่เพื่อนแนะนำว่าพระธิเบตให้ซื้อคือเหรียญยันต์ 8 ทิศ 12 นักษัตรไว้ป้องกันปีศาจและสิ่งชั่วร้าย น่ารักนะ แถมราคาถูกด้วย 350 รูปี อย่าลืมซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกนะคะ


สำหรับขาบินไปโพคราเที่ยวบินดีเลย์ถึง 1 ชั่วโมง เราเลยบอกไกด์ไว้แต่เขาก็มารอแต่เนิ่น ๆ จากนั้นก็กรอกน้ำที่สนามบินใส่ขวดน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ ต้องพกทุกวันที่ปีนเขาน้า แล้วขึ้นรถจีฟ กว่า 2 ชั่วโมง กว่าจะถึงจุดเริ่มต้นของการเทรคกิ้ง ABC โดยเป้าหมายวันแรกของเราคือ Chomrung 2170m ซึ่งต้องผ่าน Jhinu ไปก่อน ซึ่งก็ขึ้นลงกว่าจะถึง วันที่สองต้องเดินผ่าน Sinuwa 2300m Bamboo 2310m ไปนอน upper Dovan 2505m เรียกได้ว่าขึ้นอย่างเดียวครับพี่น้อง คืนต่อมาก็นอน Deurali 3230m ยิ่งสูงยิ่งหนาวเครื่องนอนมาเต็มครับ และไต่เขาต่อผ่าน MBC 3700m เพื่อไป ABC4130m จุดหมายของเรา ขอบอกว่าเหนื่อยหอบมากแทบจะร้องขอชีวิต อากาศก็น้อย ตกบ่ายพระอาทิตย์ตกหนาวโคตร เจอหิมะอีกต่างหาก กว่าจะถึงที่พัก บันไดแค่ 5 ขั้นแต่เหมือนกับตึกสิบชั้นเลยครับพี่น้อง ส่วนขากลับก็ลงอย่างเดียว ลงยาวมานอน Bamboo แต่ด้วยอาการเดินไปอ้วกไปของเรา เลยไปไม่ถึงเป้าหมาย ต้องนอน Upper Dovan แบบเหมา รร. เลยทีเดียว ไกด์ไม่อยากให้เดินกลางคืนเพราะกลัวหมีบุก เลยเดินเช้าแทน แต่ก็ไปถึงจินนุได้ก่อนห้าโมง เลยไปแช่น้ำร้อนต่อได้ แต่ขึ้นมาพ่อคุณหนาวโคตร เดินขึ้นอีกครึ่งชั่วโมง แล้วก็ปาร์ตี้คืนสุดท้ายฉลองก่อนปีใหม่เนปาล วันที่ 14 เม.ย. รุ่งขึ้นอีกวันก็เดินลงไปขึ้นรถแค่ 1 ชั่วโมง นั่งรถ 2 ชั่วโมงถึงโพคราไม่เกินเที่ยง ฉลองปีใหม่กับคนโพคราต่อน่ารักนะ เมืองเล็ก ๆ แต่เปิดเวทีให้ผู้คนสนุกกันได้เต็มที่ เรียกได้ว่าดนตรีพร้อมแค่เธอมีใจ
ปีใหม่ในโพครา 
สำหรับอาหารบนเขาแพงกว่าค่าโรงแรมสมชื่อ โดยค่ารร.จะตกอยู่ที่ประมาณคืนละ 500 รูปี ส่วนอาหารก็ 350 รูปี++จนถึงหลักพัน แต่บอกได้ว่า Korean Ramen อร่อยที่สุด ซดร้อน ๆ ชื่นใจ ส่วนโค้กก็ดื่มทุกครั้งที่แวะพักกลางทาง ตกขวดละ 300 รูปี++ และที่จินนุเท่านั้นที่มีไก่ทอดแสนอร่อยจ้า
มีเรื่องน่าตื่นเต้นอีกแล้ว เมื่อไฟล์ทบินจากโพครากลับกาฐมานฑุบินไม่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศ จึงทำให้เราตัดสินใจเหมาแท๊กซี่จากสนามบิน
กลับกาฐมานฑุพร้อมกับญี่ปุ่นและออสเตรเลียในราคาคนละ 5000 รูปี ใช้เวลา 7 ชั่วโมง ทำให้มีเวลาเที่ยวเจดีย์โพธินาภ และดูบาร์สแควร์ได้ เรียกได้ว่า
ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และพี่แท็กซี่ก็ขับปาน Fast 9 เลยทีเดียว เล่นเอาหัวใจจะวาย ถนน 8 ปีก่อน ยังสมบุกสมบันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ทว่าเน็ตหมดครับพี่น้อง คนเนปาลชี้โรงแรมแต่หาไม่เจอ กระเป๋าก็หนัก ร้านเน็ตก็ไม่มี ดีที่ได้พ่อหนุ่มออสซี่ช่วยชีวิต เปิดกูเกิลแมปให้เจอโรงแรม รอดตายไปได้ เช็คอินเสร็จรีบเติมเน็ตทันที แล้วบึ่งแท็กซี่ไปเที่ยวต่อ แอบบอกว่าเรทดอลลาร์ทาเมลดีกว่าโพครา
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเดินทาง กลับมาอาการขาไม่เป็นอะไร เพราะเตรียมตัวไปดี แต่จมูกบี้มาก ผิวหนังที่ไม่ได้ใส่ถุงมือตลอดก็ไหม้ เกรียม เจอความร้อนเมืองไทยก็เกิดน้ำพอง แล้วลอกไปตามกาลเวลา แต่ลงรูปไปก็ยังประทับใจไม่รู้ลืม แม้ว่าเส้นทางจะทรหด ระหว่างเดินลงเขายังคิดว่าขึ้นมาได้ยังไง อ๊อกซิเจนก็น้อย ไม่ได้พกอ๊อกซิเจนเหมือนคนอื่นเขา แต่สุดท้ายก็รอดกลับมาได้ ออ ขอบอกว่าขากลับจาก ABC ก่อนจะไปแบมบู
มีอาการคลื่นไส้อาเจียน น่าจะเป็นเพราะแพ้ความสูง แต่ Archun ก็บอกว่าเมื่อลงมาแล้ว จนถึง Himalaya อาการก็จะดีขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่พูดจริง ๆ
สำหรับเพื่อนก็มีอาการไข้หวัดเจ็บคอ จนกลับมาตรวจเจอโควิดซะงั้น อยากให้ทุกคนเตรียมยาไปให้พร้อม และให้เดินช้า ๆ ชื่นชมธรรมชาติ
ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ ซึมซับกับความสุขช้า ๆ เพราะกว่าถึง ABC มันไม่ง่ายเลย เก็บความประทับใจให้เต็มปอดแล้วเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยทุกคนนะคะ ดูภาพความประทับใจได้ที่
TREKKING ABC NEPAL
วันเดินทางกลับสนามบินขอให้เผื่อเวลาเช็คอิน 2 ชั่วโมงนะคะ เพราะตม.สนามบินตรีภูวันมีช่องน้อยมาก ใช้เวลานานกว่าจะได้เข้า อย่าตกเครื่องน้า บายจ้า NAMASTE NEPAL
รีวิวการเตรียมตัว Trekking ABC Nepal เดือนเมษายน 2566
โดยสิ่งที่แตกต่างไปสำหรับปีนี้คือ จองตั๋วเครื่องบินผ่านสายการบินไทยสไมล์ จากที่เคยบินการบินไทยเมื่อแปดปีที่แล้ว และค่าตั๋วก็แพงเอาเรื่อง
โดยให้เลือกที่นั่งขาไปฝั่งขวา ขากลับฝั่งซ้ายเพื่อจะได้เห็นวิวเทือกเขาหิมาลัย และยอดเขาเอเวอเรส
จากนั้นเราก็เริ่มวางแผนการเดินทางในประเทศเนปาล จากกาฐมานฑุไปโพคราจากเดิมที่ไปรถบัสกลับเครื่อง โดยจองผ่านเอเย่นต์
คราวนี้ลองจองตั๋วเครื่องบินเองแบบไปกลับผ่านเว็บไซต์ของสายการบิน Buddha : https://www.buddhaair.com/
โดยจ่ายผ่านบัตรเครดิต ไม่มีชาร์จเพิ่ม ค่าตั๋วไปกลับตีซะเที่ยวละ 100 US
เพื่อขอราคาไกด์หรือพอตเตอร์ สำหรับพาเราไปปีนเขาในคราวนี้ แต่ทว่าราคาโรงแรมให้ผันผวนมาก แถมยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้
เราจึงเลือกไกด์จากบริษัท Friendly Trekkers Adventure โดยติดต่อผ่าน Facebook คุณ Chandra Bahadur Bhujel ซึ่งระหว่างที่เรากำลังคิด ๆ ว่าจะใช้ไกด์ที่ไหนดี คุณ Chandra ก็เมล์ทัก แอดเฟสทักเพื่อนมาอย่างสม่ำเสมอ จนในที่สุดเราก็คิดว่าราคาน่าคบและยังติดต่อง่ายไม่ขาดสาย
โดยไกด์ที่ได้ชื่อว่า Arjun Bhujel ติดต่อเค้าผ่าน Facebook ตามชื่อได้เลย โดยบริษัทคิดค่าใช้จ่าย ดังนี้ jeep 75$ permit and tims คนละ 42$ guide/ porter service =24$×7=168$ nayapool to pokhara by jeep 8000 Rupee ซึ่งบางคนอาจได้รถขากลับเพียง 5000 Rupee เท่านั้น
และควรทำประกันและแจ้งบริษัท ซึ่งบริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่รับปีนเขาเนปาล ก็ลองเลือกดูหลาย ๆ แห่ง แนะนำ World trip ก็ดีค่ะ จะบอกว่าทริปเราไพรเวทมาก เพราะไปแค่ 2 คน เลยคุยกับไกด์ได้ตลอด Arjun น่ารัก สุภาพมาก แถมหล่อและโสดด้วย
เราเลือกแวะยูนิโคล่เป็นร้านแรก โดยยิ่งสูงยิ่งหนาว แต่ละวันจึงเตรียมเสื้อที่เหมาะสม เช้าเย็นหนาว กลางวันนี่ร้อนมาก เราเลยจัดเสื้อ Airslim ไป และวันที่เดินสูงขึ้นก็สวมฮีทเท็คอีกชั้น ยิ่งสูงขึ้นก็เพิ่มลองจอน เสื้อกันลม จนหนาวขีดสุดบนยอดเขา ABC เราต้องจัดเต็มทุกชุดที่มี ฮีตเท็ค ลองจอน เสื้อดาวน์ เสื้อกันลม เพราะหิมะตก และอากาศหนาวมาก ถุงมือ หมวก ผ้าบลัฟ รองเท้า ต้องพร้อมลุยเต็มที่ แว่นกันแดดก็สำคัญนะจ๊ะ หนาวแค่ไหนดูเถอะ แถมก่อนถึงหิมะตกอีกต่างหาก
แต่เราก็โดนแท็กซี่หลอกไปหลายบาท และสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ ซื้อซิม เส้น Amerit ที่ขนานกับ Tamel มีร้านซิมราคาถูก 7 วันเพียง 200 รูปีเท่านั้น แถมยังอยู่ใกล้กับร้านเช่าอุปกรณ์เทรคกิ้ง ที่เราแทบจะกราบขอบพระคุณคุณพี่เจ้าของร้านมาก เพราะตอนแรกไปเผลอเช่าร้านข้าง ๆ
ที่คุณภาพถุงนอนไม่ดีงามเท่า เราเลยยอมเสียค่าเช่าฟรีไป 1 วัน เพื่อเอาถุงนอนไปคืน และไปเช่าถุงนอน Northface -20 องศา ร้านพี่เค้าแทน
โดยร้านมีชื่อว่า Nepal Trekkers Equipment Services เซิร์ทกูเกิลได้เลย จ่ายค่ามัดจำไป 5000 รูปี โดยมีค่าเช่าวันละ 100 รูปีเท่านั้น แนะนำเลยว่าดีงามมาก รอดตายเพราะถุงนอนร้านนี้เลยขอบอก
ที่พลาดไม่ได้ ควรซื้อครีมหิมาลายาที่ทาเมลไว้ เพราะช่วยดูแลผิวไม่ให้แห้งหรือไหม้ได้ เราจัดหมด ทั้งครีม ทั้งใต้ตา ทั้งลิปมัน ทาลิปจมูกช่วยกันจมูกลอกได้ด้วยนา
ส่วนสาว ๆ ก็พลาดเส้นทาเมลไม่ได้ เพราะร้านขายเสื้อกางเกง กระโปรง เสื้อ Silk 70% ผสม Viscose 30% ราคา 1200 รูปี++ ราคาดีงามและสวยมาก เราซื้อร้านนี้อยู่ถนนทาเมล เรียกได้ว่าวันกลับมาดักรอจนร้านเปิดเลยทีเดียว
กลับกาฐมานฑุพร้อมกับญี่ปุ่นและออสเตรเลียในราคาคนละ 5000 รูปี ใช้เวลา 7 ชั่วโมง ทำให้มีเวลาเที่ยวเจดีย์โพธินาภ และดูบาร์สแควร์ได้ เรียกได้ว่า
ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และพี่แท็กซี่ก็ขับปาน Fast 9 เลยทีเดียว เล่นเอาหัวใจจะวาย ถนน 8 ปีก่อน ยังสมบุกสมบันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง