Annapurna Base Camp via Poon Hill 4130 m | นมัสเต เนปาล เมื่อใจเป็นนาย...กายหยาบเลยต้องตามไปใน 8 วัน 04.2023


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ  กระทู้นี้จะพาลัดเลาะไปที่เนปาลเพื่อ Trekking จ้า
สืบเนื่องจากปี 2019 เราและเพื่อนๆ ทั้ง 15 หน่วย ได้ทำการจองทุกอย่าง
วางแผนใดๆ ดีลโปรแกรมกับบริษัททัวร์ ที่เนปาล
ซื้อตั๋วเครื่องบิน ทำวีซ่า เพื่อเตรียมตัวไป Trekking แล้วเรียบร้อย
แต่เพราะพี่ Covid มาถึงไทย ในเดือน มีนาคม 2020 ก่อนเราจะเดินทางแค่ 1 เดือนเท่านั้นเอง  > . <  
ทำให้โปรแกรมเดิมนั้นถูกพับไว้อย่างสงบและรอเวลาอย่างใจจด ใจจ่อ 
 
ผ่านไป 3 ปี เมื่อเหตุการณ์สู่สภาวะที่ดีขึ้น เราเลยเรียกรวมพลอีกครั้ง 
รอบนี้มีสมาชิกที่พร้อมเดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 18 หน่วย  

เรายังใช้บริการทัวร์เนปาลเจ้าเดิม เพราะมีเงินที่จ่ายมัดจำกันค้างไว้อยู่
ระหว่างนั้นเราก็ติดต่อกันเรื่อยๆ  " พี่จ๋า อย่าลืมฉันนะ  ฉันพร้อมแล้ว เดี๋ยวฉันไปหาพี่แน่นอน 555 "
ก่อนการเดินทาง6 เดือน เราก็เตรียมตัวกันสุดฤทธิ์  เนื่องจาก 3 ปีที่ผ่านมา น้ำหนักขึ้นเยอะเลยจ้า 555 เพี้ยนแข็งแรง


เอาล่ะ ,, ต่อไปจะเป็นการแนะนำ การวางแผน การเตรียมตัว
สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อที่จะไปที่นี่ แบบฉบับเล่าสู่กันฟังโดยย่อและรวบลัดนะคะ 
 
1.การหาบริษัททัวร์ที่เนปาลเพื่อพาไป : ที่เนปาลมีบริษัททัวร์ มากมาย ที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวพาเดินเขาที่เนปาลในหลากหลายเส้นทาง แค่เพียงพิมพ์ค้นหา google ก็มีเว็บไซส์ให้เลือกเยอะแยะไปหมด เราสามารถส่งเมล์เพื่อขอราคา และโปรแกรมการเดินทางก่อนตัดสินใจได้ค่ะ แนะนำว่าควรส่งถามหลายๆเจ้าเพื่อเปรียบเทียบราคา จนกว่าเราจะรู้สึกพอใจในแผนแล้ว (หากไม่มั่นใจว่าเจ้านี้ดีไหม แนะนำให้ดูการบริการจากทัวร์ที่มีเว็บไซต์ หรือมีข้อมูลใน Tripadvisor เพื่อประกอบการตัดสินใจนะคะ)

 
2.การเตรียมตัว  : สำหรับใครที่เป็นนักกีฬา นักวิ่งหรือออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ไปเดินบันได เดินเขาที่นู่นน่าจะสนุกกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายเลย  อยากแนะนำว่าก่อนไป 3 เดือน - 6 เดือน ควรอย่างมากที่จะออกกำลังกายนะคะ 
เช่น วิ่ง สควอซ เข้ายิมเล่นขา ว่ายน้ำ ตามสะดวก  ไม่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกายเลยแล้วไปเดิน เพราะน่าจะเกิดปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คุณจะเดินแล้วเหนื่อย เหนื่อยมากก  เพราะเดินทุกวัน วันละมากกว่า 10 โล

ผลที่ตามมาคือคุณจะเดินช้ามาก หายใจไม่ทัน ร่างกายปรับไม่ได้ และอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
ถ้าคิดว่าอาจจะเดินไม่ไหว ควรมีแผนสำรองเลย คือ เตรียมเงินค่าฮอไปด้วยเลยค่ะ  
ราวๆ 300$-500$ ต่อคน (ราคาแล้วแต่ว่า จะมีคนหารนั่งกลับลงมาด้วยไม๊ ฮอ 1 ลำ ราคา 1500$ นั่งได้ 5 คน ราคาก็หารตามจำนวนคนที่นั่งมาค่ะ)
 

 
2.การเตรียมอุปกรณ์ : ทำเช็คลิสรายการเลย ว่าอะไรที่ควรต้องมี เช่น ถุงเท้า รองเท้าเดินป่า/รองเท้าไฮกิ้ง เสื้อ down jacket เสื้อขนเป็ด ไม้โพล แว่นตา หมวกไหมพรม ถุงมือ ถุงนอนที่ใช้ในอุณหูมิติดลบได้ เสื้อกันลมกันฝน ลองจอน ฮีทเทค เสื้อผ้าใส่นอน เสื้อกางเกงที่จะใส่เดินแต่ละวัน ยาทุกขนานสำคัญมาก เป้เดย์แพค กระเป๋าduffle bag (เอาไว้ให้ลูกหาบแบก)  อุปกรณ์อาบน้ำ  Power Bank  กล้อง ขนมที่จะให้พลังงานและ ของใช้ที่จำเป็นอื่นๆ  ฯลฯ
 

3.การเตรียมพร้อมเดินทาง : Passpoert , จองตั๋วเครื่องบิน , ประกันการเดินทาง , ถ่ายรูปทำวีซ่า , ยื่นวีซ่า , ใบรับรองการฉีดวัคซีน , เงินดอลล่า 

4. เมื่อพร้อมแล้วมาดูแผนการเดินทางของเรากันค่ะ  เราเดินทางกันในวันที่ 6-17 เมษายน 2566

 

แผนการเดินทางสำหรับ ABC ผ่าน Poonhill  :  6-17 เมษายน 2566  (4 วันเดินทาง 8 วัน Trekking นะคะ)

วันที่ (6) 01 : เดินทางถึงกาฐมาณฑุ
วันที่ (7) 02 : นั่งรถบัสไปโพคารา (เวลาขับ: 7-8 ชม.)
วันที่ (8) 03 : นั่งรถบัสไปที่ Birethati (เวลา 2.5 ชม.)และเริ่มเดินวันแรกจนถึง Ulleri (2070m) (เวลาเดิน : 3 ชม.) 
วันที่ (9) 04 : เดินไปยัง Ghorepani (2750m) (เวลาเดิน: 6 ชม.) 
วันที่ (10) 05 : เดินไปยัง Poonhill (สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น) เดินต่อไปยัง Tadapani (2700m) หรือ Chiule (2200m) (เวลาเดิน: 6 ชม.)
วันที่ (11) 06 : เดินไปยัง Sinuwa (2340m) (เวลาเดิน:5-6 ชม.)
วันที่ (12) 07 : เดินไป  Deurali (3230m) (เวลาเดิน:5-6 ชม.)
วันที่ (13) 08 : เดินไป  Annapurna Base Camp (4130m) (เวลาเดิน:5-6 ชม.)
วันที่ (14) 09 : เดินไป Sinuwa (2340m) (เวลาเดิน:6 ชม.)
วันที่ (15) 10 : เดินไปจนถึง Jhinu (เวลาเดิน:6 ชม.)  และนั่งรถบัสกลับโพคารา (เวลา 2.5 ชม.)
วันที่ (16) 11 : นั่งรถบัสกลับเมืองกาฐมาณฑุ  (เวลาขับ 7-8 ชม.)
วันที่ (17) 12 : ออกเดินทางกลับ กทม

สำหรับค่าใช้จ่ายของทริปนี้ของกลุ่มเรานั้น  ราคาเท่าไหร่ รวม และ ไม่รวมอะไรบ้างขอ ต่อให้ในคอมเม้นนะคะ ^^

 

เอาล่ะ  คิดว่าข้อมูลน่าจะครบถ้วนแล้ว เราไปลุยกันเลยดีกว่าจ้า  

รูปส่วนใหญ่มาจากโทรศัพท์มือถือนะคะ  รูปค่อนข้างเยอะมาก อยากลงให้เห็นหลายๆมุม
เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับใครที่เตรียมตัวในการเดินทางจ้า

 
 เพี้ยนออกทริปเพี้ยนปูเสื่อรอออกทะเล


--------------------------------------------------------------------


วันที่ 1 : จาก สุวรรณภูมิ กทม. - สนามบิน Kathmanthu KTM

กระเป๋าที่เตรียมไป เราเลือกใช้ทรง duffle bag ใบใหญ่ + เป้ Day pack ประมาน 24ลิตร
ใครที่ไม่มีประเป๋าแบบนี้จะใช้ล้อลาก แล้วไปขอยืม duffle bag จากไกด์ได้ค่ะ


ครั้งนี้จองสายการบินไทยสมายล์ รอบ 10.15-12.25 น. ฟรีน้ำหนักกระเป๋าให้ 30 กก.

ใครสายหิ้ว สายหอบก็ขนของจากเนปาล มาขายได้เลย อิอิ

สมาชิกของเราทะยอยมากันแล้ว นัดกัน 7 โมงเช้า


ขาไปนั่งขวา - ขากลับ นั่งซ้าย จะเห็นวิวเขา Everest จ้า 

 
มาถึงสนามบิน ตรีภูวัน ที่เนปาลแล้ว 

ที่สนามบินจะมีร้านแลกเงินอยู่ 1 ร้านถ้วน เช็คเรทก่อนได้ค่ะ ค่อยไปแลกในเมือง

เรทเงินวันนี้ 6.04.66 

1 ดอลล่า = 128.10 npr
1 บาท = 3.72 npr


บริษัททัวร์จากเนปาล มารอรับเราแล้วจ้า สมาชิกพร้อมหน้า 

เนื่องจากสมาชิกเราวันนี้ มี 18 คน ก็มีทั้งรถตู้ รถเก๋งมารับ สัมภาระยกขึ้น ก็เดินทางไปที่พักกันเลยทันที

ที่พักของเรา คืนที่ 1 ใน KTM คือ Kathmanthu gardent home 

ราวๆ บ่าย 2 ทุกคนก็มานั่งฟังบรีฟแผนการเดินทางในแต่ละวัน จากทางบริษัทค่ะ

คุณนาบิน กำลังบรีฟแผนการเดินทาง ทุกคนก็ตั้งใจฟังกันเป็นอย่างดี 


 เสร็จเรียบร้อย ยังมีเวลาว่างอีกราวๆ 4-5 ชม.
พวกเราก็พากันเดินไปที่ วัดลิง หรือ วัดสวะยัมภูนาถ (Swayambhunath) ต่อค่ะ

 
ดูจาก GPS แล้ว จากที่พักเดินไปอีก ราวๆ 3 km. สบายๆ


เดินจ้าา ซ้อมเดินไป

มีโปรแกรมทัวร์จากเอเจนซี่หลายเจ้าเลยค่ะ


 
 
ก็มีแวะถ่ายรูปบ้าง

 
ถึงแล้วจ้าา มีงานอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน คนเยอะมากกกก มีเวทีร้องเพลงด้วย

คนเต็มวัดเลย มีนักท่องเที่ยวเหมือนเป็นนักเรียน
เราเลยรีบเดินตามน้องๆเขาขึ้นไปด้วย 



มาวัดลิง ต้องมีลิงนะ ฮ่าๆ



คนเยอะมากจริงๆ มาช่วงเทศกาลเค้าพอดี  ใส่แมสให้ไวเลย 

เดินขึ้นบันไดไปเลยค่า

เดินขึ้นไปก่อนถึงจะมีจุดขายตั๋วสำหรับ

ราคา 200 npr (55บาท)

วิวเมืองจากจุดที่ซื้อตั๋ว

เดินต่ออีกนิดเดียวจะถึงแล้วค่ะ

เย้.. ถึงแล้ว เล่นเอาหอบเลยนะ 5555

 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่