สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้ที่2ของเรา และเป็นครั้งแรกของการเที่ยวคนเดียวค่ะ ปกติไม่ชอบเที่ยวคนเดียว เพราะกลัวไม่สนุก กลัวเหงา และที่สำคัญที่สุดคือไม่มีคนถ่ายรูปให้ แต่วันนี้ไม่รู้อารมณ์ไหนทำให้เราไปไกลถึงเชียงดาว
ย้อนมาวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย 59
ขณะนั่งทำงานอยู่ อยู่ดีๆก็มีความคิดแวปเข้ามา "อาทิตย์นี้ไปไหนดี?" แต่ในใจเรามีบ้านระเบียงดาวที่อยากไป "เอ๊ะ หรือจะไปบ้านระเบียงดาว" คำถามคือ ไปกะใครหล่ะ? ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้ว ถ้าไปก็ต้องเย็นนี้เลิกงานไปเลย "แล้วเราจะไปคนเดียวจริงๆหรอ?" ตั้งคำถามให้กับตัวเอง จากนั้นเราก็พยายามหาที่พักที่เชียงดาว หลายที่เต็ม และก็มีบางที่ยังไม่คอนเฟิมกลับมา จนได้เวลาเลิกงาน
เรากลับบ้านไปเก็บกระเป๋า ด้วยเวลาอันรีบเร่ง แล้วเราก็มุ่งหน้าไปหมอชิต เราไม่รู้หรอกจะมีที่พักไหม แต่คิดว่ายังไงก็มีรถไปแน่นอน
"น้องค่ะ ไปไหนค่ะ" เสียงพนักงานขายตั๋วที่หมอชิตถาม
"ไปเชียงใหม่ค่ะ" เราตอบ
"มาๆทางนี้เลยค่ะ ซื้อตั๋วเลยค่ะ" พนักงานกล่าว
เอาไงดีเรา นึกขึ้นได้ไปลงเชียงดาวเลยดีกว่า "พี่ค่ะๆ มีรถไปเชียงดาวเลยไหมค่ะ" ในใจคิดว่าถ้าไม่มีคงกลับบ้าน แต่
"มีค่ะ ช่องนี้เลยค่ะ ซื้อตั๋วเลย" พนักงานกล่าว
จากนั้นหรอ อีกครึ่งชั่วโมงรถออก ปล.ถ้าเรานั่งรถไปลงเชียงใหม่ เราก็ต้องต่อรถไปเชียงดาวอีกทีนึงค่ะ เราก็เลยคิดว่า งั้นไปลงเชียงดาวเลยดีกว่าไหม แต่ค่ารถอาจจะแพงกว่ากันหน่อย
เราได้ตั๋วมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นของนิววิริยะ ไปแบบวีไอพีนิดนึง ราคา622บาท และหลังจากนั้นบ้านพักวิวดอยหลวงเชียงดาวก็โทรกลับมาคอนเฟิมที่พักกับเรา
เอาหล่ะ พร้อมแล้ว ลุยโลด (ในใจก็แอบหวิวๆกับการเดินทางคนเดียว แต่ปลอบตัวเองว่า ไม่เป็นไร ครั้งหนึ่งในชีวิตหน่า)
อย่างน้อยเรามีเป็ดมาเป็นเพื่อนนะ แต่เป็ดป่วยไปหน่อย แต่ก็ไหวอยู่ สู้ๆ
จากนั้นเราได้เดินทางมาถึงอำเภอเมืองเชียงดาวในเช้าวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย.59
"อำเภอเชียงดาวค่ะ ลงที่นี่เลยค่ะ"เสียงพนักงานบนรถกล่าว
เราหยิบสัมภาระ ก้าวท้าวลง ฝนก็ดันกำลังตกเลย เอาไงดีหล่ะ ไปทางไหนต่อ เราวิ่งไปหลบฝนในโรงเรียน ตั้งสติๆแล้วเปิดรีวิวที่เตรียมข้อมูลมา
"อ้อ ต้องหาโลตัสให้เจอก่อน จากนั้นเดินตรงไปจะเจอร้านข้าวขาหมู เลยร้านข้าวขาหมูจะเจอ4แยก จะมีรถชาวบ้านอยู่ตรง4แยกทางไปตลาด บอกว่าไปบ้านระเบียงดาว ชาวบ้านจะอ๋อ" อ่านรีวิวมาบอกแบบนี้ เราก็กางร่มเดินมา เจอแล้วโลตัส เดินตรงไปอีก ก็เจอร้านข้าวขาหมู
ร้านนี้ไง ร้านพรเพ็ญ ข้าวขาหมู
เราเดินข้ามฝั่งมาทางร้านข้าวขาหมู เดินเลยมานิดนึงจะเป็น4แยก มองกลับไปทางถนนที่ข้ามมาเจอคุณลุงคนนึงยืนอยู่ เขาเรียกเรา และถามเราว่า "น้องๆจะไปไหนก๊ะ" เราก็บอกไปว่า "หนูจะไปบ้านระเบียงดาวค่ะ" ตามจริงเราจะไปพักบ้านวิวดอยหลวง แต่อ่านในรีวิวมาเขาบอกใครๆก็รู้จักบ้านระเบียงดาว เราก็เลยบอกไปบ้านระเบียงดาว แล้วคุณลุงก็ขวักมือเรียก "น้องๆมาๆเอากระเป๋ามาเก็บก่อน แล้วไปกินข้าวนะ"
คุณลุงเดินนำมาที่รถ เราก็เอ๊ะ จะถูกหลอกไหม กล้าๆกลัวๆ ถามลุงไปว่า "คิดราคาเท่าไหร่ค่ะ" ลุงบอก 50 บาท "แล้วไปกี่คนค่ะ" เราถามต่ออีก
"ก็เดี๋ยวน้องกินข้าวเสร็จก็ไปเลย" เราก็คิดแปปนึงก็ตอบตกลง แต่ไม่ฝากกระเป๋าไว้นะค่ะ เอาเป็ดไปกินข้าวขาหมูด้วยค่ะ555
นี่เป็นข้าวมื้อแรกของเรา ลืมบอกไปว่าเรามาถึงเชียงดาวประมาณ เกือบ8โมงเช้า เราถามคุณลุงว่าด้านบนมีร้านค้าไหม คุณลุงบอกมีแต่ร้านค้าเล็กๆ ไม่มีร้านข้าวนะ เราก็เลยคิดว่าค่อยไปหาซื้อขนมไรกินกลางวันร้านค้าเล็กๆนั่นและกัน
"คุณลุงค่ะ พร้อมแล้วค่ะ" จากนั้นเราก็ออกเดินทางกัน
บรรยากาศระหว่างทางค่ะ
นี่ไงคุณลุงใจดีคนนี้เลยที่พาเราขึ้นมา ระหว่างทางเราก็ชวนคุณลุงคุย คุณลุงก็ชวนเราคุย พลัดกันไปมา ระยะทางก็ไกลอยู่ ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ทางค่อนข้างลาดชันเลยทีเดียว คุณลุงขับรถบีบแตรตลอดทาง
เราจะผ่านด่านเก็บค่าเข้าด้วย คนละ20บาท สำหรับคนนอกพื้นที่อย่างเรา
จากนั้นเราก็ขึ้นมาถึงบ้านระเบียงดาวจนได้ เฮ่ๆ
นี่ค่ะทางเข้าบ้านระเบียงดาว แต่บ้านที่เราจะพักคือบ้านวิวดอยหลวงเชียงดาวค่ะ เพราะบ้านระเบียงดาวเต็ม แต่อยู่ตรงข้ามกันเลยค่ะ ใกล้กันมากๆ
ถึงแล้วเราก็เดินเข้ามา "สวัสดีค่ะ มีใครอยู่ไหมค่ะ" ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
เอิ่ม!! ไปไหนกันหมดหล่ะเนี่ย เจอแต่เจ้าตัวนี้
แหม หลับสบายเชียวนะ
เดินไปเดินมา ไม่เจอใครก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร "สวัสดีค่ะบ้านพักวิวดอยหลวงเชียงดาวรึเปล่าค้ะ" ปลายสายตอบมาว่า "ใช่ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ"
จากนั้นเจ้าของบ้านพักก็เดินมาต้อนรับเรา แต่บังเอิญเรามาเช้าไปหน่อย ห้องพักยังทำไม่เสร็จ เราก็เลยต้องนั่งเล่นรอก่อน เรามาถึง9โมงได้ แต่เข้าพักเที่ยงค่ะ เย้ยๆ จะทำไรดี
พักรอตรงนี้ก่อนแล้วกัน
ไปเดินเล่นบ้านระเบียงดาวดีกว่า
เดินมาจากบ้านวิวดอยหลวงเชียงดาวนิดเดียวก็จะเจอบ้านระเบียงดาว
ทางลงไปร้านกาแฟค่ะ
มุมบ้านพักบ้านระเบียงดาวค่ะ
และนี่ไงมุมสุดฮิตของนักถ่ายภาพ
เรามาเช้าเลยไม่มีคนแย่งถ่ายรูปเลย
ทานกาแฟกันค่ะ
เดี๋ยวเราพาไปดูบรรยากาศภายในหมู่บ้านกันนะ
นี่ไง ซุปเปอร์มาเก็ตที่อากาศดีที่สุด
"ป้าค่ะๆ มีนมเย็นๆไหมค่ะ" "ไม่มีจ๊ะ ที่นี่ไม่มีตู้เย็น"
หนูนี่หงายเงิบเลย แฮะๆ
ระหว่างทางก็จะมีบ้านพักหลายที่เลย มีจุดชมวิวให้ถ่ายรูป
กลับมาที่บ้านพักเราดีกว่า เดินเล่นไปมานานแล้ว ที่พักน่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้วน๊า
บ้านหลังไหนของเรา
หลังนี้ไง
ข้างในมีที่นอน หมอน มุ้ง ปล.พัดลมไม่มี ตอนนี้หนูร้อนมากค่ะ ข้างในร้อน แต่ข้างนอกลมเย็น
ชมวิวไปก่อน
วิวนอกหน้าต่าง
ห้องน้ำอยู่ด้านนอก เป็นห้องน้ำรวม แต่สะอาดค่ะ
จุดชมวิวด้านบนค่ะ อยู่ใกล้ๆกับบ้านพักเราเลย
ตั้งกล้องถ่ายเอง แฮะๆ
ถ่ายรูปเล่นรอเวลาทานข้าวเย็น จะบอกว่าการมาเที่ยวคนเดียวถ้าไม่มีอะไรทำก็เหงาเหมือนกัน เราเดินๆนั่งๆ วนไปวนมาหลายรอบเลย 555
ได้กลิ่นหอมๆเดินลงมาดูเจ้าของบ้านกำลังทำกับข้าวค่ะ
แล้วนี่หน้าตาอาหารเย็นของเรา เรียบง่ายแต่อร่อยมากค่ะ
ค่าที่พักเรารวมค่าอาหารเย็นและอาหารเช้าจ่ายค่าเสียหายไป 400 บาทค่ะ ราคาเบาๆมากสำหรับการมาพักผ่อน
[CR] แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวเชียงดาว
ย้อนมาวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย 59
ขณะนั่งทำงานอยู่ อยู่ดีๆก็มีความคิดแวปเข้ามา "อาทิตย์นี้ไปไหนดี?" แต่ในใจเรามีบ้านระเบียงดาวที่อยากไป "เอ๊ะ หรือจะไปบ้านระเบียงดาว" คำถามคือ ไปกะใครหล่ะ? ตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้ว ถ้าไปก็ต้องเย็นนี้เลิกงานไปเลย "แล้วเราจะไปคนเดียวจริงๆหรอ?" ตั้งคำถามให้กับตัวเอง จากนั้นเราก็พยายามหาที่พักที่เชียงดาว หลายที่เต็ม และก็มีบางที่ยังไม่คอนเฟิมกลับมา จนได้เวลาเลิกงาน
เรากลับบ้านไปเก็บกระเป๋า ด้วยเวลาอันรีบเร่ง แล้วเราก็มุ่งหน้าไปหมอชิต เราไม่รู้หรอกจะมีที่พักไหม แต่คิดว่ายังไงก็มีรถไปแน่นอน
"น้องค่ะ ไปไหนค่ะ" เสียงพนักงานขายตั๋วที่หมอชิตถาม
"ไปเชียงใหม่ค่ะ" เราตอบ
"มาๆทางนี้เลยค่ะ ซื้อตั๋วเลยค่ะ" พนักงานกล่าว
เอาไงดีเรา นึกขึ้นได้ไปลงเชียงดาวเลยดีกว่า "พี่ค่ะๆ มีรถไปเชียงดาวเลยไหมค่ะ" ในใจคิดว่าถ้าไม่มีคงกลับบ้าน แต่
"มีค่ะ ช่องนี้เลยค่ะ ซื้อตั๋วเลย" พนักงานกล่าว
จากนั้นหรอ อีกครึ่งชั่วโมงรถออก ปล.ถ้าเรานั่งรถไปลงเชียงใหม่ เราก็ต้องต่อรถไปเชียงดาวอีกทีนึงค่ะ เราก็เลยคิดว่า งั้นไปลงเชียงดาวเลยดีกว่าไหม แต่ค่ารถอาจจะแพงกว่ากันหน่อย
เราได้ตั๋วมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นของนิววิริยะ ไปแบบวีไอพีนิดนึง ราคา622บาท และหลังจากนั้นบ้านพักวิวดอยหลวงเชียงดาวก็โทรกลับมาคอนเฟิมที่พักกับเรา
เอาหล่ะ พร้อมแล้ว ลุยโลด (ในใจก็แอบหวิวๆกับการเดินทางคนเดียว แต่ปลอบตัวเองว่า ไม่เป็นไร ครั้งหนึ่งในชีวิตหน่า)
อย่างน้อยเรามีเป็ดมาเป็นเพื่อนนะ แต่เป็ดป่วยไปหน่อย แต่ก็ไหวอยู่ สู้ๆ
จากนั้นเราได้เดินทางมาถึงอำเภอเมืองเชียงดาวในเช้าวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย.59
"อำเภอเชียงดาวค่ะ ลงที่นี่เลยค่ะ"เสียงพนักงานบนรถกล่าว
เราหยิบสัมภาระ ก้าวท้าวลง ฝนก็ดันกำลังตกเลย เอาไงดีหล่ะ ไปทางไหนต่อ เราวิ่งไปหลบฝนในโรงเรียน ตั้งสติๆแล้วเปิดรีวิวที่เตรียมข้อมูลมา
"อ้อ ต้องหาโลตัสให้เจอก่อน จากนั้นเดินตรงไปจะเจอร้านข้าวขาหมู เลยร้านข้าวขาหมูจะเจอ4แยก จะมีรถชาวบ้านอยู่ตรง4แยกทางไปตลาด บอกว่าไปบ้านระเบียงดาว ชาวบ้านจะอ๋อ" อ่านรีวิวมาบอกแบบนี้ เราก็กางร่มเดินมา เจอแล้วโลตัส เดินตรงไปอีก ก็เจอร้านข้าวขาหมู
ร้านนี้ไง ร้านพรเพ็ญ ข้าวขาหมู
เราเดินข้ามฝั่งมาทางร้านข้าวขาหมู เดินเลยมานิดนึงจะเป็น4แยก มองกลับไปทางถนนที่ข้ามมาเจอคุณลุงคนนึงยืนอยู่ เขาเรียกเรา และถามเราว่า "น้องๆจะไปไหนก๊ะ" เราก็บอกไปว่า "หนูจะไปบ้านระเบียงดาวค่ะ" ตามจริงเราจะไปพักบ้านวิวดอยหลวง แต่อ่านในรีวิวมาเขาบอกใครๆก็รู้จักบ้านระเบียงดาว เราก็เลยบอกไปบ้านระเบียงดาว แล้วคุณลุงก็ขวักมือเรียก "น้องๆมาๆเอากระเป๋ามาเก็บก่อน แล้วไปกินข้าวนะ"
คุณลุงเดินนำมาที่รถ เราก็เอ๊ะ จะถูกหลอกไหม กล้าๆกลัวๆ ถามลุงไปว่า "คิดราคาเท่าไหร่ค่ะ" ลุงบอก 50 บาท "แล้วไปกี่คนค่ะ" เราถามต่ออีก
"ก็เดี๋ยวน้องกินข้าวเสร็จก็ไปเลย" เราก็คิดแปปนึงก็ตอบตกลง แต่ไม่ฝากกระเป๋าไว้นะค่ะ เอาเป็ดไปกินข้าวขาหมูด้วยค่ะ555
นี่เป็นข้าวมื้อแรกของเรา ลืมบอกไปว่าเรามาถึงเชียงดาวประมาณ เกือบ8โมงเช้า เราถามคุณลุงว่าด้านบนมีร้านค้าไหม คุณลุงบอกมีแต่ร้านค้าเล็กๆ ไม่มีร้านข้าวนะ เราก็เลยคิดว่าค่อยไปหาซื้อขนมไรกินกลางวันร้านค้าเล็กๆนั่นและกัน
"คุณลุงค่ะ พร้อมแล้วค่ะ" จากนั้นเราก็ออกเดินทางกัน
บรรยากาศระหว่างทางค่ะ
นี่ไงคุณลุงใจดีคนนี้เลยที่พาเราขึ้นมา ระหว่างทางเราก็ชวนคุณลุงคุย คุณลุงก็ชวนเราคุย พลัดกันไปมา ระยะทางก็ไกลอยู่ ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ทางค่อนข้างลาดชันเลยทีเดียว คุณลุงขับรถบีบแตรตลอดทาง
เราจะผ่านด่านเก็บค่าเข้าด้วย คนละ20บาท สำหรับคนนอกพื้นที่อย่างเรา
จากนั้นเราก็ขึ้นมาถึงบ้านระเบียงดาวจนได้ เฮ่ๆ
นี่ค่ะทางเข้าบ้านระเบียงดาว แต่บ้านที่เราจะพักคือบ้านวิวดอยหลวงเชียงดาวค่ะ เพราะบ้านระเบียงดาวเต็ม แต่อยู่ตรงข้ามกันเลยค่ะ ใกล้กันมากๆ
ถึงแล้วเราก็เดินเข้ามา "สวัสดีค่ะ มีใครอยู่ไหมค่ะ" ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
เอิ่ม!! ไปไหนกันหมดหล่ะเนี่ย เจอแต่เจ้าตัวนี้
แหม หลับสบายเชียวนะ
เดินไปเดินมา ไม่เจอใครก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร "สวัสดีค่ะบ้านพักวิวดอยหลวงเชียงดาวรึเปล่าค้ะ" ปลายสายตอบมาว่า "ใช่ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ"
จากนั้นเจ้าของบ้านพักก็เดินมาต้อนรับเรา แต่บังเอิญเรามาเช้าไปหน่อย ห้องพักยังทำไม่เสร็จ เราก็เลยต้องนั่งเล่นรอก่อน เรามาถึง9โมงได้ แต่เข้าพักเที่ยงค่ะ เย้ยๆ จะทำไรดี
พักรอตรงนี้ก่อนแล้วกัน
ไปเดินเล่นบ้านระเบียงดาวดีกว่า
เดินมาจากบ้านวิวดอยหลวงเชียงดาวนิดเดียวก็จะเจอบ้านระเบียงดาว
ทางลงไปร้านกาแฟค่ะ
มุมบ้านพักบ้านระเบียงดาวค่ะ
และนี่ไงมุมสุดฮิตของนักถ่ายภาพ
เรามาเช้าเลยไม่มีคนแย่งถ่ายรูปเลย
ทานกาแฟกันค่ะ
เดี๋ยวเราพาไปดูบรรยากาศภายในหมู่บ้านกันนะ
นี่ไง ซุปเปอร์มาเก็ตที่อากาศดีที่สุด
"ป้าค่ะๆ มีนมเย็นๆไหมค่ะ" "ไม่มีจ๊ะ ที่นี่ไม่มีตู้เย็น"
หนูนี่หงายเงิบเลย แฮะๆ
ระหว่างทางก็จะมีบ้านพักหลายที่เลย มีจุดชมวิวให้ถ่ายรูป
กลับมาที่บ้านพักเราดีกว่า เดินเล่นไปมานานแล้ว ที่พักน่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้วน๊า
บ้านหลังไหนของเรา
หลังนี้ไง
ข้างในมีที่นอน หมอน มุ้ง ปล.พัดลมไม่มี ตอนนี้หนูร้อนมากค่ะ ข้างในร้อน แต่ข้างนอกลมเย็น
ชมวิวไปก่อน
วิวนอกหน้าต่าง
ห้องน้ำอยู่ด้านนอก เป็นห้องน้ำรวม แต่สะอาดค่ะ
จุดชมวิวด้านบนค่ะ อยู่ใกล้ๆกับบ้านพักเราเลย
ตั้งกล้องถ่ายเอง แฮะๆ
ถ่ายรูปเล่นรอเวลาทานข้าวเย็น จะบอกว่าการมาเที่ยวคนเดียวถ้าไม่มีอะไรทำก็เหงาเหมือนกัน เราเดินๆนั่งๆ วนไปวนมาหลายรอบเลย 555
ได้กลิ่นหอมๆเดินลงมาดูเจ้าของบ้านกำลังทำกับข้าวค่ะ
แล้วนี่หน้าตาอาหารเย็นของเรา เรียบง่ายแต่อร่อยมากค่ะ
ค่าที่พักเรารวมค่าอาหารเย็นและอาหารเช้าจ่ายค่าเสียหายไป 400 บาทค่ะ ราคาเบาๆมากสำหรับการมาพักผ่อน