เห็นกระทู้สมาชิกหมายเลข 3277879 แสดงข้อความแบบนี้มา มันจริงมั้ย?
มีที่มาที่ไปยังไง รบกวนผู้ที่มีความรู้มาตอบหน่อย ขอบคุณ
ไม่ต้องทะเลาะกันนะ
วัดพระธรรมกาย กับการตลาดแบบ MLM
วันนี้ดิฉันขอนำเรื่อง กลยุทธในการหาเงินของวัดนี้ตามที่ดิฉันได้พบเห็นมาเล่าให้ฟังนะคะ หวังว่าจะไม่มีใครตามมาลบเหมือน กระทู้ M181 นะคะ ที่วันนี้เลือกเรื่องนี้มาเล่าเพราะเผื่อว่า ท่านมีใครมาชักชวน จะได้รู้ทันกลยุทธเขาเสียก่อน
การแบ่งฝ่ายตามสายงานของวัดพระธรรมกาย ฝ่ายที่จะน่าสนใจและน่าทึ่งมากก็คือ ฝ่ายหารายได้ ฝ่ายหารายได้นี้ มีพระสมชายน้องเสี่ยสอง เป็นหัวแรงใหญ่ มีการแบ่งกันเป็นทีมโดยแบ่งออกเป็นสิบทีม ทุกทีมมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับ สัญลักษณ์สำคัญของวิชาธรรมกาย ได้แก่ ทีมแก้วกายสิทธิ์ แก้วภูธร แก้วดอยธรรม แก้วประสานใจ ฯลฯ
ในแต่ละทีมจะมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเป็นแกนนำและ มีอุบาสกอุบาสิกาเจ้าหน้าที่ที่เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการวิ่งหารายได้ ทุกทีมมีการแข่งขันกันทำเป้า ยิ่งถ้าท่านได้มีโอกาสก้าวเข้าไปในสำนักงานของแต่ละทีม ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของอาคารสำนักงานใหญ่ ท่านจะไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นว่าทุกทีม มี ไวท์บอร์ด เขียนเป้าของทีม ซึ่งรวมถึงยอดที่ทำได้แล้วและยอดที่ต้องทำให้ได้ ทำให้อดนึกไม่ได้ว่าช่างมีความชาญฉลาด ในการนำธุรกิจขายตรงมาประยุกต์ใช้ในการหาเงิน
ดิฉันเคยรู้สึกเสมอถึงความน่ากลัวของการขยายตัว อย่างรวดเร็วของธุรกิจการขายตรงแบบ MLM เพราะยิ่งใหญ่ยิ่งโตเท่าไร ก็ยิ่งน่ากลัวในเรื่องของการควบคุมโดยเฉพาะเรื่องของจรรยาบรรณของพนักงานขาย ในที่สุดก็มีการนำหลักการนี้เข้ามาใช้ในศาสนาพุทธจนได้
หากจะเรียกตัวแทนหาเงินของวัดว่า "พนักงานขายบุญ" ก็คงจะน่าเกลียดทำให้รู้สึกว่าเป็นการขายบุญชัดเจนไปหน่อย ที่นี่จึงเรียกตำแหน่งนี้ว่า "ผู้นำบุญ" ทั้งสิบทีมมีหน้าที่หารายได้โดยจะมีการรับสมัครผู้นำบุญ ผู้นำบุญทุกคนจะมีหมายเลขประตัว และบัตรประจำตัวของตนเอง
หน้าที่ของผู้นำบุญก็คือ หาคนเข้ามาทำบุญยิ่งหามากก็จะได้คะแนนมาก นอกจากนี้ก็ยังสามารถได้คะแนนอีกหากแนะนำพักพวกเพื่อนฝูงเข้ามาเป็นผู้นำบุญ โดยใส่หมายเลขสมาชิกของตนเป็นผู้ชักชวน เมื่อได้คะแนนมากก็หมายถึงได้บุญมาก เมื่อคะแนนมาถึงระดับต่างๆก็จะมีโบนัสของขวัญแจกแถมมากมายตั้งแต่ ลูกแก้วมณีโชติรส ขนาด 1ซม. 2ซม. จนถึงขนาดลูกเท่ากำปั้นเลยค่ะ ซึ่งนั้นก็หมายถึงการที่จะต้องทำเป้าหลายแสนบาท หรือถ้าเป็นล้านก็จะได้ของที่ระลึกเป็นอัญมณีที่นำมาทำเป็น พระ หรือ ที่เรียกว่า "รัตนะชาติ" ซึ่งดิฉันเคยเล่าไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้ ว่ารัตนะชาตินั้นถูกอ้างว่ามีมูลค่าถึงสามแสนบาท จัดทำโดยร้ายเพชรฝีมือดี (โดยร้านที่มีเอี่ยวกับท่านเจ้าอาวาสเองนั่นแหละ) แต่เมื่อพิสูจน์จริงๆ เพชรนิลจินดาที่ประดับนั้นปลอมหมดเลยค่ะ ของที่ระลึกต่างๆก็เหมือนสัญลักษณ์ ว่ามีบุญหรือสะสมบุญกันมาเท่าไรแล้ว (โปรดดูรายละเอียดในกระทู้ เรื่อง เครื่องราชฯของวัดพระธรรมกาย)
การจัดหาหรือรับสมัคร (Recruitment) นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับที่ ทางแอมเวย์ หรือ นูสกิน เขาทำกัน มีทั้งการจัดการบรรยายตามห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชั้นหนึ่ง การโทรศัพท์ การเคาะประตูบ้าน ฯลฯ มีการนำเสนอแผนงานขั้นบันไดสู่สวรรค์ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้นำบุญที่ประสบความสำเร็จ มีการแจกรางวัลของผู้นำบุญที่ทำเป้าสำเร็จในระดับต่างๆ
ดังที่กล่าวมาแล้วนะคะ ระบบ MLM เป็นระบบที่น่ากลัวเพราะจะมีการขยายตัว อย่างรวดเร็วยากที่จะคุม จึงอาจทำให้เกิดพนักงานขายที่ขาดจรรยาบรรณ เพราะมุ่งแต่จะ"ขาย" ให้ได้เป้า เช่นกันแหละค่ะ ผู้นำบุญก็มุงแต่จะเน้นขายบุญให้ได้เป้า ให้ถูกใจท่านเจ้าสำนัก จึงเกิดการระดมกำลังขายบุญจนขาดจรรยาบรรณ จนกระทั่งถึงขั้นทำพระวินัยให้วิปริต ดังที่พวกเราประจักษ์กันอยู่ในขณะนี้ น่ากลัวจริงๆค่ะ
คำถามจากคุณ: โง่งมงาย 10 มีนาคม 2542 เวลา 23:08:54:
ที่แอลเอมียายป้าคนหนึ่งเขียน อานุภาพบุญ ใว้หลอกคนให้มาทำบุญเยอะๆ เขาเขียนว่า มีผู้นำบุญ
ลาวคนหนึ่งชักชวนคนมาสร้างพระได้จนทะลุเป้า ผมยังงง ทำบุญต้องให้ได้ถึงทะลุเป้า คนเขียน
มีความรู้ระดับอาจารย์แก่แล้วด้วย แต่ยังไม่มีสติคิดอะไรชั่วหรือดี ผมเวทนาแต่ละคนจริงๆที่ทุ่มชีวิต
เพื่อพระชั่ว แต่ขอย้ำ ทุกคนที่ทำงานให้วัดมีเงินเดือน ล้วนทำไปเพราะมีผลพลอยได้เป็นเงิน
http://b2b2.tripod.com/other/mm191.htm
วัดพระธรรมกาย กับการตลาดแบบ MLM ?
มีที่มาที่ไปยังไง รบกวนผู้ที่มีความรู้มาตอบหน่อย ขอบคุณ
ไม่ต้องทะเลาะกันนะ
วัดพระธรรมกาย กับการตลาดแบบ MLM
วันนี้ดิฉันขอนำเรื่อง กลยุทธในการหาเงินของวัดนี้ตามที่ดิฉันได้พบเห็นมาเล่าให้ฟังนะคะ หวังว่าจะไม่มีใครตามมาลบเหมือน กระทู้ M181 นะคะ ที่วันนี้เลือกเรื่องนี้มาเล่าเพราะเผื่อว่า ท่านมีใครมาชักชวน จะได้รู้ทันกลยุทธเขาเสียก่อน
การแบ่งฝ่ายตามสายงานของวัดพระธรรมกาย ฝ่ายที่จะน่าสนใจและน่าทึ่งมากก็คือ ฝ่ายหารายได้ ฝ่ายหารายได้นี้ มีพระสมชายน้องเสี่ยสอง เป็นหัวแรงใหญ่ มีการแบ่งกันเป็นทีมโดยแบ่งออกเป็นสิบทีม ทุกทีมมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับ สัญลักษณ์สำคัญของวิชาธรรมกาย ได้แก่ ทีมแก้วกายสิทธิ์ แก้วภูธร แก้วดอยธรรม แก้วประสานใจ ฯลฯ
ในแต่ละทีมจะมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเป็นแกนนำและ มีอุบาสกอุบาสิกาเจ้าหน้าที่ที่เป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการวิ่งหารายได้ ทุกทีมมีการแข่งขันกันทำเป้า ยิ่งถ้าท่านได้มีโอกาสก้าวเข้าไปในสำนักงานของแต่ละทีม ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของอาคารสำนักงานใหญ่ ท่านจะไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นว่าทุกทีม มี ไวท์บอร์ด เขียนเป้าของทีม ซึ่งรวมถึงยอดที่ทำได้แล้วและยอดที่ต้องทำให้ได้ ทำให้อดนึกไม่ได้ว่าช่างมีความชาญฉลาด ในการนำธุรกิจขายตรงมาประยุกต์ใช้ในการหาเงิน
ดิฉันเคยรู้สึกเสมอถึงความน่ากลัวของการขยายตัว อย่างรวดเร็วของธุรกิจการขายตรงแบบ MLM เพราะยิ่งใหญ่ยิ่งโตเท่าไร ก็ยิ่งน่ากลัวในเรื่องของการควบคุมโดยเฉพาะเรื่องของจรรยาบรรณของพนักงานขาย ในที่สุดก็มีการนำหลักการนี้เข้ามาใช้ในศาสนาพุทธจนได้
หากจะเรียกตัวแทนหาเงินของวัดว่า "พนักงานขายบุญ" ก็คงจะน่าเกลียดทำให้รู้สึกว่าเป็นการขายบุญชัดเจนไปหน่อย ที่นี่จึงเรียกตำแหน่งนี้ว่า "ผู้นำบุญ" ทั้งสิบทีมมีหน้าที่หารายได้โดยจะมีการรับสมัครผู้นำบุญ ผู้นำบุญทุกคนจะมีหมายเลขประตัว และบัตรประจำตัวของตนเอง
หน้าที่ของผู้นำบุญก็คือ หาคนเข้ามาทำบุญยิ่งหามากก็จะได้คะแนนมาก นอกจากนี้ก็ยังสามารถได้คะแนนอีกหากแนะนำพักพวกเพื่อนฝูงเข้ามาเป็นผู้นำบุญ โดยใส่หมายเลขสมาชิกของตนเป็นผู้ชักชวน เมื่อได้คะแนนมากก็หมายถึงได้บุญมาก เมื่อคะแนนมาถึงระดับต่างๆก็จะมีโบนัสของขวัญแจกแถมมากมายตั้งแต่ ลูกแก้วมณีโชติรส ขนาด 1ซม. 2ซม. จนถึงขนาดลูกเท่ากำปั้นเลยค่ะ ซึ่งนั้นก็หมายถึงการที่จะต้องทำเป้าหลายแสนบาท หรือถ้าเป็นล้านก็จะได้ของที่ระลึกเป็นอัญมณีที่นำมาทำเป็น พระ หรือ ที่เรียกว่า "รัตนะชาติ" ซึ่งดิฉันเคยเล่าไปแล้วในกระทู้ก่อนหน้านี้ ว่ารัตนะชาตินั้นถูกอ้างว่ามีมูลค่าถึงสามแสนบาท จัดทำโดยร้ายเพชรฝีมือดี (โดยร้านที่มีเอี่ยวกับท่านเจ้าอาวาสเองนั่นแหละ) แต่เมื่อพิสูจน์จริงๆ เพชรนิลจินดาที่ประดับนั้นปลอมหมดเลยค่ะ ของที่ระลึกต่างๆก็เหมือนสัญลักษณ์ ว่ามีบุญหรือสะสมบุญกันมาเท่าไรแล้ว (โปรดดูรายละเอียดในกระทู้ เรื่อง เครื่องราชฯของวัดพระธรรมกาย)
การจัดหาหรือรับสมัคร (Recruitment) นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับที่ ทางแอมเวย์ หรือ นูสกิน เขาทำกัน มีทั้งการจัดการบรรยายตามห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชั้นหนึ่ง การโทรศัพท์ การเคาะประตูบ้าน ฯลฯ มีการนำเสนอแผนงานขั้นบันไดสู่สวรรค์ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้นำบุญที่ประสบความสำเร็จ มีการแจกรางวัลของผู้นำบุญที่ทำเป้าสำเร็จในระดับต่างๆ
ดังที่กล่าวมาแล้วนะคะ ระบบ MLM เป็นระบบที่น่ากลัวเพราะจะมีการขยายตัว อย่างรวดเร็วยากที่จะคุม จึงอาจทำให้เกิดพนักงานขายที่ขาดจรรยาบรรณ เพราะมุ่งแต่จะ"ขาย" ให้ได้เป้า เช่นกันแหละค่ะ ผู้นำบุญก็มุงแต่จะเน้นขายบุญให้ได้เป้า ให้ถูกใจท่านเจ้าสำนัก จึงเกิดการระดมกำลังขายบุญจนขาดจรรยาบรรณ จนกระทั่งถึงขั้นทำพระวินัยให้วิปริต ดังที่พวกเราประจักษ์กันอยู่ในขณะนี้ น่ากลัวจริงๆค่ะ
คำถามจากคุณ: โง่งมงาย 10 มีนาคม 2542 เวลา 23:08:54:
ที่แอลเอมียายป้าคนหนึ่งเขียน อานุภาพบุญ ใว้หลอกคนให้มาทำบุญเยอะๆ เขาเขียนว่า มีผู้นำบุญ
ลาวคนหนึ่งชักชวนคนมาสร้างพระได้จนทะลุเป้า ผมยังงง ทำบุญต้องให้ได้ถึงทะลุเป้า คนเขียน
มีความรู้ระดับอาจารย์แก่แล้วด้วย แต่ยังไม่มีสติคิดอะไรชั่วหรือดี ผมเวทนาแต่ละคนจริงๆที่ทุ่มชีวิต
เพื่อพระชั่ว แต่ขอย้ำ ทุกคนที่ทำงานให้วัดมีเงินเดือน ล้วนทำไปเพราะมีผลพลอยได้เป็นเงิน
http://b2b2.tripod.com/other/mm191.htm