สารานุกรมปืนตอนที่ 931 ปืนแข่งสั้นชนวนกลางจากสวิส ซิก-แฮมเมอร์ลี พี 240

***ต้นฉบับลงในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2556***

ขอร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของ จักร กฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติยี่สิบเหรียญทอง ที่เคยเป็นกำลังสำคัญของทีมยิงปืนไทย ตามรอย มานพ พณิชย์ผาติกรรม ผู้พ่อ เจ้าของสามเหรียญทองจากเอเชี่ยนเกมส์ที่กรุงโซล ปืนที่นำเสนอสัปดาห์นี้ ไม่ใช่ปืนต่อสู้ แต่เป็นปืนแข่งขันเต็มตัวในระบบสากล “ปืนสั้นชนวนกลาง” ซึ่งเป็นประเภทการยิงที่ มานพ คว้าเหรียญทองบุคคลมาได้จากเกาหลีใต้
กติกาของปืนสั้นชนวนกลางที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1947 สมัยที่สหพันธ์ยิงปืนนานาชาติยังใช้ชื่อ ISU (International Shooting Union) ก่อนเปลี่ยนมาเป็น ISSF (International Shooting Sports Federation) แบ่งการยิงออกเป็นภาคยิงประณีต เป้าละ 5 นัดในเวลา 5 นาทีรวม 6 เป้า 30 นัด และภาคยิงเป้าพลิกแบบ “สามพักเจ็ด” คือเป้าหันมาให้ยิง 3 วินาที แล้วหันข้างห้ามยิง 7 วินาทีต้องลดปืนลง ยิงชุดละ 5 นัด 6 ชุด รวม 30 นัด นับคะแนนรวมทั้งสองภาค 60 นัด เต็ม 600 คะแนน กล่าวได้ว่า เป็นระบบการยิงที่เอื้อต่อปืนลูกโม่ คือยิงแบบง้างนกทีละนัดได้ ไม่ต้องยิงต่อเนื่อง 5 นัดรวดเหมือนปืนสั้นยิงเร็วกับปืนสั้นมาตรฐาน ในยุคแรกของปืนสั้นชนวนกลาง ปืนที่นิยมใช้กันมากคือ ลูกโม่ สมิธฯ โมเดล 14 ขนาด .38 สเปเชียล กับลูกโม่ ตอซ 36 ขนาด 7.62 ของรัสเซีย

แม้ว่ากติกาจะเหมาะกับปืนลูกโม่ แต่ก็มีนักกีฬาเลือกใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติอยู่บ้าง จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือเมื่อ T.D. Smith ของทีมสหรัฐใช้ปืน 1911 แต่งให้ยิงกระสุน .38 ทำสถิติโลกด้วยคะแนน 597 ในการแข่งขัน แพน-อเมริกันเกมส์ ปี 1963 ที่บราซิล สถิตินี้จะไม่มีใครลบได้ตลอดกาล เพราะ ISSF เปลี่ยนขนาดเป้า เริ่มนับสถิติใหม่



แฮมเมอร์ลี สัญชาติสวิส ผลิตปืนยิงเป้าระดับโลก มีปืนสั้นยาวสำหรับทุกประเภทการแข่งขัน แต่นับถึงทศวรรษ 1970 ไม่มีปืนสั้นชนวนกลาง เมื่อ ซิก เข้าควบรวมกิจการ จึงนำแบบปืน ซิก 210 มาปรับเป็นปืนแข่งเต็มตัว ติดยี่ห้อ SIG-Hammerli เรียกชื่อรุ่นว่า P240 สอดคล้องกับแนวโน้มที่นักกีฬายิงปืนประเภทนี้หันมาใช้ปืนระบบกึ่งอัตโนมัติกันมากขึ้นซิก-แฮมเมอร์ลี P240 ใช้กระสุน .38 สเปเชียล เฉพาะแบบหัวตัดเสมอปลอก (Wad Cutter) มิติต่าง ๆ ของตัวปืน สอดคล้องกับกติกาของ ISSF การทำงาน เป็นระบบรีคอยล์ ลำกล้องกระดก ควบคุมด้วยห่วงลูกเบี้ยวใต้รังเพลิง โครงปืนหุ้มลำเลื่อน ไกแบบซิงเกิล ปรับได้ทั้งระยะลากไก, น้ำหนักไกช่วงเหนี่ยวนำและช่วงลั่น, ระยะขบเซียร์ และตำแหน่งหยุดไก โดยต้องถอดลำเลื่อนออกจึงจะปรับได้ วิธีถอดคือ ขยับลำเลื่อนถอยหลังเล็กน้อย สอดตัวล็อกที่สลักขวางแกนสปริงลำเลื่อนด้านหน้า ขยับลำเลื่อนให้ด้านหลังเสมอโครง ถอดคันค้างลำเลื่อนจากขวามาซ้าย ถอดตัวล็อกแกนสปริง เลื่อนชุดลำเลื่อนออกด้านหน้า น้ำหนักไกของปืนนายแบบ ชั่งได้เพียง 2.5 ปอนด์ เบาไปหน่อยถ้าเป็นปืนใช้งาน แต่ยังไม่ผิดกติกาสำหรับปืนยิงเป้า

จุดสังเกตพิเศษ ที่สองข้างลำเลื่อนบริเวณใต้ศูนย์หน้า มีรอยยุบกลมจากโรงงาน เป็นการบังคับให้ลำกล้องคืนตำแหน่งเดิมไม่หลวมคลอน และจากคู่มือทางช่างเทคนิค ระบุรูลำกล้องวัดที่สันเกลียวคือ .343-.345 นิ้ว วัดที่ร่องเกลียว .352-.354 นิ้ว จัดว่าแน่นเป็นพิเศษสำหรับหัวกระสุน .38 สเปเชียล ที่หน้าตัดจริงคือ .357 นิ้ว ถ้ากระสุนไม่ดี หรือยิงมากไม่ทำความสะอาด ลำกล้องอาจบวมได้
โดยรวม ซิก-แฮมเมอร์ลี P240 กระบอกนี้ เป็นปืนแข่งยิงเป้าขนานแท้ ผลงานจากสวิส จัดว่าเป็นปืนหายากระดับสะสม แต่ยังใช้ลงแข่งได้ไม่ด้อยกว่าปืนรุ่นหลัง จุดเด่นคือไกที่นุ่มนวลปรับแต่งได้เต็มที่ แรงรีคอยล์ต่ำมาก และได้เปรียบที่ระยะศูนย์ยาวเล็งได้ประณีต ข้อควรระวังคือ ต้องใช้กระสุนใหม่คุณภาพได้มาตรฐานเท่านั้น ถ้าเป็นกระสุนที่นำปลอกยิงแล้วมาอัดใหม่อาจมีปัญหา.



ข้อมูลสรุป SIG-Hammerli P240

ขนาดกระสุน .38 Special WC ซองกระสุน 5 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 260x140x40 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 150 มิลลิเมตร (6 นิ้ว)
น้ำหนัก 1,350 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 1,100 กรัม (2.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กรมดำ
อื่น ๆ ศูนย์ปรับได้ละเอียดแบบยิงเป้า
ลักษณะใช้งาน ยิงเป้าแข่งขัน
ตัวเลือกอื่น Smith M.52, Colt Gold Cup.

https://www.dailynews.co.th/article/191819/
.................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช





สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่