สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของการรีวิวในพันทิปของเรา หลังจากแอบอ่านกระทู้ดีๆของคนอื่นมานาน
จขกท.เพิ่งไปเที่ยวลอนดอนมาค่ะ ช่วงก่อนหน้าเงินปอนด์จะร่วง 555 (แบบว่า..เซ็งมาก) ก่อนไปก็เล็งๆติ่มซำร้านนี้เอาไว้ แต่พอดียังไม่เห็นใครรีวิวไว้ เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ ก็หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างนะคะ
เข้าเรื่องกันดีกว่า.. ร้าน Hakkasan เป็นร้านอาหารกวางตุ้งที่มีสาขาอยู่หลายประเทศ อย่าง USA (New York) แถบ Middle East หรือใกล้บ้านเราอย่างมุมไบ เซี่ยงไฮ้นี่เค้าก็มีสาขานะคะ สำหรับที่ลอนดอนซึ่งเป็นประเทศแม่ของร้านนี้ก็มี 2 สาขาด้วยกัน คือ Hanway Place กับ Mayfair สาขาที่จขกท.ไปคือที่ Hanway Place ถือเป็นสาขาแรกของร้านนี้ เปิดตั้งแต่ปี 2001 แล้วก็ได้ 1 ดาวมิชลินในปี 2003 และยังครองตำแหน่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเชฟหลักของที่นี่คือ Chef Tong Chee Hwee ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกร้านนี้มาตั้งแต่แรกเลยค่ะ ก็เลยเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้จขกท.เลือกสาขานี้แทนที่ Mayfair เพราะเป็นคนที่มีความเชื่อส่วนบุคคลว่าสาขาต้นตำรับย่อมอร่อยที่สุด 555 คหสต.ล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
และเท่าที่เข้าไปอ่านในเว็บไซต์ของร้าน เมนูบางอย่างจะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่าง 2 สาขาค่ะ
ที่ตัดสินใจไปทานติ่มซำมื้อเที่ยงเพราะว่าคุณสามีชอบทานติ่มซำค่ะ แล้วก็ถ้าดันไปดินเนอร์อาหารจีนกันแค่ 2 คนเกรงว่าจานจะใหญ่ ชิมได้ไม่หลากหลายเมนู เลยสรุปกันที่ติ่มซำมื้อเที่ยงนี่แหละ (แค่ไปกินติ่มซำยังสั่งได้ไม่กี่เมนูเองค่ะ คืออิ่มจริงจัง) จขกท.เลยจัดการจองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ของร้านก่อนออกจากกรุงเทพฯ เนื่องจากกลัวโต๊ะจะเต็ม เดี๋ยวอดกิน แหะๆๆ
วิธีเดินทางไปที่ร้านก็ไม่ยากเลยค่ะ นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Tottenham Court Road ค่ะ.. แต่สุดท้ายก็ยังหลงทางจนได้ 555 เพราะตรงนั้นกำลังมีงานก่อสร้างอยู่ สรุปว่าฉิวเฉียดกับเวลาที่จองโต๊ะไว้พอดี
หน้าร้านค่ะ ถ้าไม่สังเกตดีๆแทบจะไม่รู้ว่าเป็นร้านนี้ ฮ่า~
สำหรับเมนู สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของร้าน
http://hakkasan.com/ ได้ค่ะ อาหารก็จะมีทั้งอาหารกวางตุ้งแบบแท้ๆ และแบบ fusion ให้เลือกชิมกัน
บรรยากาศของร้านตอนเที่ยงกว่าๆของวันจันทร์ คือเงียบมาก จะบ้าจี้จองล่วงหน้าไปทำไม ฮ่า~ หรืออาจจะเพราะเป็นกลางวันวันธรรมดา ถ้ามื้อเย็นคนน่าจะเยอะกว่านี้มั้งคะ (เท่าที่อ่านในรีวิวของคน local ตอนเย็นคนแน่นเอาการ)
ติดอาวุธพร้อมสรรพ
ที่จริงร้านเค้ามี Dim Sum platter ให้สั่งนะคะ เห็นโต๊ะข้างๆสั่งอยู่ จะมีของนึ่งอยู่ประมาณ 4 อย่าง แต่จขกท.ไม่ได้สั่งเพราะอยากลองหลายๆเมนู สำหรับของนึ่งที่สั่งมาก็เป็นขนมจีบกุ้งและหมู (Pork and prawn shumai) สนนราคา ณ วันที่ไป (6/6/16) อยู่ที่ £5.50 ค่ะ เข่งนี้อร่อย เนื้อหมูกับกุ้งด้านในชุ่มฉ่ำ รสชาติกำลังพอดี จขกท.ไม่ได้จิ้มซีอิ๊วขาวที่เค้าให้มาเลย (ไม่แน่ใจว่ามีจิ๊กโฉ่วให้รึเปล่านะคะ ไม่ได้ขอ) ส่วนคุณสามีจิ้มกับน้ำพริกเผาของทางร้าน ปลาบปลื้มมาก
ต่อมาเป็นฮะเก๋า เข่งละ £6.00 กับขนมจีบหอยเชลล์โรยหน้าไข่ปลา (Scallop shumai with tobiko cavier) £7.50 ดีงามทั้ง 2 เข่งพอๆกับขนมจีบกุ้งและหมูค่ะ เห็นจากรูปนี่เหมือนแต่ละคำจะไม่ใหญ่ แต่จริงๆแล้วใหญ่กว่าติ่มซำที่บ้านเรานะคะ ไม่กี่เข่งก็อิ่มละ
ส่วนอันนี้เป็น Lobster noodle roll with Royal Supreme Stock with cloud ear and shiitake -- ชื่อยาวมาก (£9.80) อันนี้เฉยๆ จืดชืด ไม่คุ้มอย่างแรงค่ะ เนื้อลอบสเตอร์ข้างในสด เด้งดี แต่รสชาติไม่ผ่าน รู้งี้สั่ง Gold leaf lobster dumpling with lychee and mustard มาดีกว่า เป็นการตัดสินใจผิดพลาดจริงๆ
มาถึงของทอดกันมั่ง จานนี้คือ Crispy duck roll (£8.00) จานนี้เป็นแป้งแบบเดียวกับที่ทานกับเป็ดปักกิ่ง ห่อเนื้อเป็ดทอดที่เอามายีๆ แตงกวา และต้นหอม จิ้มกับน้ำจิ้มหวานๆแบบเดียวกับเป็ดปักกิ่ง จขกท.ไม่ปลื้มเมนูนี้ค่ะ เพราะไม่ชอบต้นหอมเป็นการส่วนตัว ส่วนคุณสามีก็บอกว่าเมนูนี้เฉยๆ ตัวจขกท.เองชอบเป็ดแนวนี้ของ Four Seasons กับ Gold Mine มากกว่า อันนั้นห่อเอง ไม่ใส่ต้นหอมก็ได้ 555
Golden fried Lobster and cheese roll (£8.80) จานนี้ดีกว่าเยอะค่ะ เป็นลอบสเตอร์สับผสมกับชีส ห่อด้วยเส้นหมี่แล้วเอาไปทอดจนเส้นกรอบเป็นสีเหลืองทอง รองด้วยผักอะไรซักอย่างทอด (ทำให้คิดถึงไก่มะนาว ฮ่า) ไม่ได้ถึงกับขั้นชีสเยิ้มๆแต่ก็มีกลิ่นหอมของชีสและลอบสเตอร์ดีค่ะ อร่อยโดยที่ไม่ต้องจิ้มอะไร ส่วนคุณสามีจิ้มน้ำพริกเผาตามฟอร์ม อิอิ
และสุดท้าย อันนี้ยกนิ้วโป้งให้ 4 นิ้วเลย (จากทั้งจขกท.และคุณสามี) มันคือ Grilled lamb dumpling with Szechuan pepper (£5.80) ตอนแรกที่สั่งก็ยังนึกภาพไม่ค่อยออก สรุปเป็นแนวเกี๊ยวซ่าไส้เนื้อแกะสับค่ะ แป้งด้านนอกบาง กรอบมาก ส่วนไส้ข้างในนี่ juicy แบบสุดๆ ไม่เหม็นสาบเนื้อแกะด้วย รสชาติก็ดี จะกินเปล่าๆหรือจะจิ้มกับน้ำพริกเผาก็ได้ เรียกว่าทำออกมาได้แหวกแนวและอร่อยมาก กัดเข้าไปคำแรกนี่ตาลุกวาวเลยค่ะ ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปด้านในของเกี๊ยวอันนี้มา คือมันหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ฮ่า..
สิริรวมมื้อนั้น 7 จานก็อิ่มกันซะแล้ว เลยไม่ได้สั่งเมนูอื่นกันต่อ เรียกเก็บค่าเสียหายรวม service charge 13.5% แล้ว ทั้งหมด £63.90 ค่ะ
สรุปมื้อนั้นอิ่มอร่อยสมคำร่ำลือ แต่ถ้าไม่มี 2 จานนั้น (lobster noodle roll กับ crispy duck roll) จะดีมากค่ะ ฮ่า~ ราคาโดยรวมก็ไม่ได้แรงอย่างที่คิด (มื้อเย็นราคาโหดกว่ามาก) ส่วนความอร่อยนั้นขนาดวันรุ่งขึ้นคุณสามียังรบเร้าอยากกลับไปกินอีก แต่จขกท.ยังมีภารกิจอื่นอีก ฮีเลยอดไป แหะๆ (ขอโทษนะคะที่รัก)
ถ้ามีโอกาสจขกท.จะมารีวิวร้านอื่นๆให้ชมกันนะคะ แต่วันนี้คงต้องขอตัวลาไปก่อน ยังไงก็ต้องขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ
[CR] *~Dine with kuma couple~* รีวิวติ่มซำจากร้าน 1 มิชลินสตาร์ Hakkasan Hanway Place, London
จขกท.เพิ่งไปเที่ยวลอนดอนมาค่ะ ช่วงก่อนหน้าเงินปอนด์จะร่วง 555 (แบบว่า..เซ็งมาก) ก่อนไปก็เล็งๆติ่มซำร้านนี้เอาไว้ แต่พอดียังไม่เห็นใครรีวิวไว้ เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ ก็หวังว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างนะคะ
เข้าเรื่องกันดีกว่า.. ร้าน Hakkasan เป็นร้านอาหารกวางตุ้งที่มีสาขาอยู่หลายประเทศ อย่าง USA (New York) แถบ Middle East หรือใกล้บ้านเราอย่างมุมไบ เซี่ยงไฮ้นี่เค้าก็มีสาขานะคะ สำหรับที่ลอนดอนซึ่งเป็นประเทศแม่ของร้านนี้ก็มี 2 สาขาด้วยกัน คือ Hanway Place กับ Mayfair สาขาที่จขกท.ไปคือที่ Hanway Place ถือเป็นสาขาแรกของร้านนี้ เปิดตั้งแต่ปี 2001 แล้วก็ได้ 1 ดาวมิชลินในปี 2003 และยังครองตำแหน่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเชฟหลักของที่นี่คือ Chef Tong Chee Hwee ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกร้านนี้มาตั้งแต่แรกเลยค่ะ ก็เลยเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้จขกท.เลือกสาขานี้แทนที่ Mayfair เพราะเป็นคนที่มีความเชื่อส่วนบุคคลว่าสาขาต้นตำรับย่อมอร่อยที่สุด 555 คหสต.ล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และเท่าที่เข้าไปอ่านในเว็บไซต์ของร้าน เมนูบางอย่างจะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่าง 2 สาขาค่ะ
ที่ตัดสินใจไปทานติ่มซำมื้อเที่ยงเพราะว่าคุณสามีชอบทานติ่มซำค่ะ แล้วก็ถ้าดันไปดินเนอร์อาหารจีนกันแค่ 2 คนเกรงว่าจานจะใหญ่ ชิมได้ไม่หลากหลายเมนู เลยสรุปกันที่ติ่มซำมื้อเที่ยงนี่แหละ (แค่ไปกินติ่มซำยังสั่งได้ไม่กี่เมนูเองค่ะ คืออิ่มจริงจัง) จขกท.เลยจัดการจองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ของร้านก่อนออกจากกรุงเทพฯ เนื่องจากกลัวโต๊ะจะเต็ม เดี๋ยวอดกิน แหะๆๆ
วิธีเดินทางไปที่ร้านก็ไม่ยากเลยค่ะ นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Tottenham Court Road ค่ะ.. แต่สุดท้ายก็ยังหลงทางจนได้ 555 เพราะตรงนั้นกำลังมีงานก่อสร้างอยู่ สรุปว่าฉิวเฉียดกับเวลาที่จองโต๊ะไว้พอดี
หน้าร้านค่ะ ถ้าไม่สังเกตดีๆแทบจะไม่รู้ว่าเป็นร้านนี้ ฮ่า~
สำหรับเมนู สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของร้าน http://hakkasan.com/ ได้ค่ะ อาหารก็จะมีทั้งอาหารกวางตุ้งแบบแท้ๆ และแบบ fusion ให้เลือกชิมกัน
บรรยากาศของร้านตอนเที่ยงกว่าๆของวันจันทร์ คือเงียบมาก จะบ้าจี้จองล่วงหน้าไปทำไม ฮ่า~ หรืออาจจะเพราะเป็นกลางวันวันธรรมดา ถ้ามื้อเย็นคนน่าจะเยอะกว่านี้มั้งคะ (เท่าที่อ่านในรีวิวของคน local ตอนเย็นคนแน่นเอาการ)
ติดอาวุธพร้อมสรรพ
ที่จริงร้านเค้ามี Dim Sum platter ให้สั่งนะคะ เห็นโต๊ะข้างๆสั่งอยู่ จะมีของนึ่งอยู่ประมาณ 4 อย่าง แต่จขกท.ไม่ได้สั่งเพราะอยากลองหลายๆเมนู สำหรับของนึ่งที่สั่งมาก็เป็นขนมจีบกุ้งและหมู (Pork and prawn shumai) สนนราคา ณ วันที่ไป (6/6/16) อยู่ที่ £5.50 ค่ะ เข่งนี้อร่อย เนื้อหมูกับกุ้งด้านในชุ่มฉ่ำ รสชาติกำลังพอดี จขกท.ไม่ได้จิ้มซีอิ๊วขาวที่เค้าให้มาเลย (ไม่แน่ใจว่ามีจิ๊กโฉ่วให้รึเปล่านะคะ ไม่ได้ขอ) ส่วนคุณสามีจิ้มกับน้ำพริกเผาของทางร้าน ปลาบปลื้มมาก
ต่อมาเป็นฮะเก๋า เข่งละ £6.00 กับขนมจีบหอยเชลล์โรยหน้าไข่ปลา (Scallop shumai with tobiko cavier) £7.50 ดีงามทั้ง 2 เข่งพอๆกับขนมจีบกุ้งและหมูค่ะ เห็นจากรูปนี่เหมือนแต่ละคำจะไม่ใหญ่ แต่จริงๆแล้วใหญ่กว่าติ่มซำที่บ้านเรานะคะ ไม่กี่เข่งก็อิ่มละ
ส่วนอันนี้เป็น Lobster noodle roll with Royal Supreme Stock with cloud ear and shiitake -- ชื่อยาวมาก (£9.80) อันนี้เฉยๆ จืดชืด ไม่คุ้มอย่างแรงค่ะ เนื้อลอบสเตอร์ข้างในสด เด้งดี แต่รสชาติไม่ผ่าน รู้งี้สั่ง Gold leaf lobster dumpling with lychee and mustard มาดีกว่า เป็นการตัดสินใจผิดพลาดจริงๆ
มาถึงของทอดกันมั่ง จานนี้คือ Crispy duck roll (£8.00) จานนี้เป็นแป้งแบบเดียวกับที่ทานกับเป็ดปักกิ่ง ห่อเนื้อเป็ดทอดที่เอามายีๆ แตงกวา และต้นหอม จิ้มกับน้ำจิ้มหวานๆแบบเดียวกับเป็ดปักกิ่ง จขกท.ไม่ปลื้มเมนูนี้ค่ะ เพราะไม่ชอบต้นหอมเป็นการส่วนตัว ส่วนคุณสามีก็บอกว่าเมนูนี้เฉยๆ ตัวจขกท.เองชอบเป็ดแนวนี้ของ Four Seasons กับ Gold Mine มากกว่า อันนั้นห่อเอง ไม่ใส่ต้นหอมก็ได้ 555
Golden fried Lobster and cheese roll (£8.80) จานนี้ดีกว่าเยอะค่ะ เป็นลอบสเตอร์สับผสมกับชีส ห่อด้วยเส้นหมี่แล้วเอาไปทอดจนเส้นกรอบเป็นสีเหลืองทอง รองด้วยผักอะไรซักอย่างทอด (ทำให้คิดถึงไก่มะนาว ฮ่า) ไม่ได้ถึงกับขั้นชีสเยิ้มๆแต่ก็มีกลิ่นหอมของชีสและลอบสเตอร์ดีค่ะ อร่อยโดยที่ไม่ต้องจิ้มอะไร ส่วนคุณสามีจิ้มน้ำพริกเผาตามฟอร์ม อิอิ
และสุดท้าย อันนี้ยกนิ้วโป้งให้ 4 นิ้วเลย (จากทั้งจขกท.และคุณสามี) มันคือ Grilled lamb dumpling with Szechuan pepper (£5.80) ตอนแรกที่สั่งก็ยังนึกภาพไม่ค่อยออก สรุปเป็นแนวเกี๊ยวซ่าไส้เนื้อแกะสับค่ะ แป้งด้านนอกบาง กรอบมาก ส่วนไส้ข้างในนี่ juicy แบบสุดๆ ไม่เหม็นสาบเนื้อแกะด้วย รสชาติก็ดี จะกินเปล่าๆหรือจะจิ้มกับน้ำพริกเผาก็ได้ เรียกว่าทำออกมาได้แหวกแนวและอร่อยมาก กัดเข้าไปคำแรกนี่ตาลุกวาวเลยค่ะ ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปด้านในของเกี๊ยวอันนี้มา คือมันหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ฮ่า..
สิริรวมมื้อนั้น 7 จานก็อิ่มกันซะแล้ว เลยไม่ได้สั่งเมนูอื่นกันต่อ เรียกเก็บค่าเสียหายรวม service charge 13.5% แล้ว ทั้งหมด £63.90 ค่ะ
สรุปมื้อนั้นอิ่มอร่อยสมคำร่ำลือ แต่ถ้าไม่มี 2 จานนั้น (lobster noodle roll กับ crispy duck roll) จะดีมากค่ะ ฮ่า~ ราคาโดยรวมก็ไม่ได้แรงอย่างที่คิด (มื้อเย็นราคาโหดกว่ามาก) ส่วนความอร่อยนั้นขนาดวันรุ่งขึ้นคุณสามียังรบเร้าอยากกลับไปกินอีก แต่จขกท.ยังมีภารกิจอื่นอีก ฮีเลยอดไป แหะๆ (ขอโทษนะคะที่รัก)
ถ้ามีโอกาสจขกท.จะมารีวิวร้านอื่นๆให้ชมกันนะคะ แต่วันนี้คงต้องขอตัวลาไปก่อน ยังไงก็ต้องขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น