เรื่องมีอยู่ว่า
พ่อผมจะเกษียญ จึงอยากมาอยู่กับผมเพราะผมทำงานใน กทม พ่ออยู่ ตจว. จึงอยากจะซื้อบ้านเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน จึงได้ช่วยกันหาบ้านมือสองจนเจอที่ถูกใจหลังนึง จึงได้ไปดูบ้าน (เจ้าของพูดจาดีมาก) และตกลงว่าเอาหลังนี้แหละ
ผมได้วางเงินมัดจำในการซื้อบ้านมือสองหลังหนึ่ง โดยในวันที่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย และวางเงินมัดจำ ได้ตกลงด้วยคำพูดและเขียนในหนังสือสัญญากันไว้ว่า ในกรณีที่ทางผมกู้ไม่ผ่านทางผู้ขายบ้าน จะคืนเงินมัดจำให้จำนวน 20000 บาท (มัดจำ 30000) โดยมี ระยะเวลาให้ผมยื่นกู้ ประมาณ 1 เดือน
ผมก็ได้ทำการยื่นกู้กับทางธนาคาร โดยผมยื่นกู้ไปกว่า 5-6 ธนาคาร แต่ไม่ผ่าน (โดยผมกู้ร่วมกับพ่อ)
ผมจึงได้บอกกับผู้ขายบ้านว่ากู้ไม่ผ่าน จะไปรับเงินมัดจำคืนได้วันไหน
แต่ผู้ขายบอกว่า(พูดจาต่างจากตอนผมไปดูบ้าน อย่างฟ้ากับเหว) จะไม่คืนเงินมัดจำให้ หรือถ้าคืนก็ต้องรอให้เขาขายบ้านให้ได้ก่อนจะคืนให้ แต่คืนไม่เต็มจำนวนในสัญญา โดยเขาให้เหตุผลว่าผมทำผิดสัญญาบอกให้ผมกลับไปอ่านสัญญาให้ดีๆ
ในสัญญาเขียนประมาณนี้
- การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ผู้จะขายตกลงจะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวข้างต้น ให้แก่ผู้จัดซื้อในวันที่ผู้จัดซื้อชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยมีกำหนดวันที่ xx xxxx 2559 (ตามที่บอกไปข้างต้นคือประมาณ 1 เดือน หลังจาก ทำสัญญาวางมัดจำ เหตุผลที่ไม่ได้ไปจดทะเบียน เพราะ ยังกู้ธนาคารไม่ผ่าน ทางผู้ขายก็รับรู้ว่าผมกำลังยื่นกู้อยู่ ที่แรกไม่ผ่าน ผมก็ยื่นไปเรื่อยๆ)
- กรณีผิดสัญญา ในกรณีผู้จะซื้อผิดสัญญาไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือ และหรือไม่ไปจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิที่ดิน ตามสัญญา ก็ให้สัญญานี้เป็นอันเลิกกัน ผู้จะขายมีสิทธิริบเงินที่ได้รับไว้แล้วทั้งหมดได้
ทำนองเดียวกัน ถ้าผู้จะขายผิดสัญญา ไม่ยอมรับการชำระเงินส่วนที่เหลือไม่ยอมโอนกรรมสิทธิที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญา ผู้จะซื้อมีสิทธิฟ้องบังคับให้ปติบัติตามสัญญา และเรียกค่าปรับ 1 เท่าของเงินที่ได้ชำระแล้วรวมถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายประการอื่นได้
- หมายเหตุในกรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถกู้ได้ เนื่องจากธนาคารไม่อนุมัติตามที่ขอ ผู้ขายยินดีคืนเงินให้ผู้ซื้อ ในข้างต้น 20000 บาทถ้วน
อยากถามว่ากรณีนี้ ผมต้องเสียเงินมัดจำทั้งหมดไปเลยหรือเปล่าครับ และถ้าไม่ควรทำอย่างไรต่อครับ
ซื้อบ้านมือสอง ทำสัญญาคืนเงินมัดจำถ้ากู้ไม่ผ่าน แต่เจ้าของบ้านไม่ยอมคืน
พ่อผมจะเกษียญ จึงอยากมาอยู่กับผมเพราะผมทำงานใน กทม พ่ออยู่ ตจว. จึงอยากจะซื้อบ้านเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน จึงได้ช่วยกันหาบ้านมือสองจนเจอที่ถูกใจหลังนึง จึงได้ไปดูบ้าน (เจ้าของพูดจาดีมาก) และตกลงว่าเอาหลังนี้แหละ
ผมได้วางเงินมัดจำในการซื้อบ้านมือสองหลังหนึ่ง โดยในวันที่ทำสัญญาจะซื้อจะขาย และวางเงินมัดจำ ได้ตกลงด้วยคำพูดและเขียนในหนังสือสัญญากันไว้ว่า ในกรณีที่ทางผมกู้ไม่ผ่านทางผู้ขายบ้าน จะคืนเงินมัดจำให้จำนวน 20000 บาท (มัดจำ 30000) โดยมี ระยะเวลาให้ผมยื่นกู้ ประมาณ 1 เดือน
ผมก็ได้ทำการยื่นกู้กับทางธนาคาร โดยผมยื่นกู้ไปกว่า 5-6 ธนาคาร แต่ไม่ผ่าน (โดยผมกู้ร่วมกับพ่อ)
ผมจึงได้บอกกับผู้ขายบ้านว่ากู้ไม่ผ่าน จะไปรับเงินมัดจำคืนได้วันไหน
แต่ผู้ขายบอกว่า(พูดจาต่างจากตอนผมไปดูบ้าน อย่างฟ้ากับเหว) จะไม่คืนเงินมัดจำให้ หรือถ้าคืนก็ต้องรอให้เขาขายบ้านให้ได้ก่อนจะคืนให้ แต่คืนไม่เต็มจำนวนในสัญญา โดยเขาให้เหตุผลว่าผมทำผิดสัญญาบอกให้ผมกลับไปอ่านสัญญาให้ดีๆ
ในสัญญาเขียนประมาณนี้
- การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ผู้จะขายตกลงจะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวข้างต้น ให้แก่ผู้จัดซื้อในวันที่ผู้จัดซื้อชำระเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยมีกำหนดวันที่ xx xxxx 2559 (ตามที่บอกไปข้างต้นคือประมาณ 1 เดือน หลังจาก ทำสัญญาวางมัดจำ เหตุผลที่ไม่ได้ไปจดทะเบียน เพราะ ยังกู้ธนาคารไม่ผ่าน ทางผู้ขายก็รับรู้ว่าผมกำลังยื่นกู้อยู่ ที่แรกไม่ผ่าน ผมก็ยื่นไปเรื่อยๆ)
- กรณีผิดสัญญา ในกรณีผู้จะซื้อผิดสัญญาไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือ และหรือไม่ไปจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิที่ดิน ตามสัญญา ก็ให้สัญญานี้เป็นอันเลิกกัน ผู้จะขายมีสิทธิริบเงินที่ได้รับไว้แล้วทั้งหมดได้
ทำนองเดียวกัน ถ้าผู้จะขายผิดสัญญา ไม่ยอมรับการชำระเงินส่วนที่เหลือไม่ยอมโอนกรรมสิทธิที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญา ผู้จะซื้อมีสิทธิฟ้องบังคับให้ปติบัติตามสัญญา และเรียกค่าปรับ 1 เท่าของเงินที่ได้ชำระแล้วรวมถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายประการอื่นได้
- หมายเหตุในกรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถกู้ได้ เนื่องจากธนาคารไม่อนุมัติตามที่ขอ ผู้ขายยินดีคืนเงินให้ผู้ซื้อ ในข้างต้น 20000 บาทถ้วน
อยากถามว่ากรณีนี้ ผมต้องเสียเงินมัดจำทั้งหมดไปเลยหรือเปล่าครับ และถ้าไม่ควรทำอย่างไรต่อครับ