Merck อนุญาตให้ผลิตยาเลียนแบบยาต้านไวรัสเอชไอวีสำหรับเด็ก...เพื่อให้ราคาถูกลง

ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่ามีเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก แต่มีเพียงไม่ถึงหนึ่งในสามของเด็กติดเชื้อจำนวนทั้งหมดที่ได้รับยาต้านไวรัสเมื่อปีที่แล้ว

โครงการ Medicines Patent Pool ที่สหประชาชาติเป็นผู้สนับสนุน ประมาณว่ามีเด็กติดเชื้อรายใหม่วันละ 700 คนและมีเด็ก 500 คนเสียชีวิตทุกวันจากอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคเอดส์

ยาต้านไวรัส raltegravir ของบริษัท MERCK เป็นยาที่ได้รับการรับรองให้ใช้ได้กับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
นาย Greg Perry แห่ง Medicine Patent Pool กล่าวว่ายาต้านไวรัสเอดส์สำหรับเด็กเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ไม่ได้รับการเหลียวเเลแก้ไข เขากล่าวว่านี่ส่งผลให้เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีจำนวนมากต้องใช้ยาต้านไวรัสที่ผลิตสำหรับผู้ใหญ่ ที่เรียกว่า ARVs

นาย Perry กล่าวว่ายาต้านไวรัส ARVs สำหรับผู้ใหญ่มีรสชาดที่ไม่เหมาะกับเด็ก มีแอลกอฮอล์ผสมในปริมาณสูงและปริมาณยามากเกินไปแก่เด็ก เด็กๆจึงไม่ชอบกินยาตัวนี้ นอกจากนี้เขากล่าวว่าการแบ่งยาออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ได้ขนาดเหมาะกับวัยของผู้ป่วย ทำให้ยาไม่ได้ขนาดตามที่ต้องการและไม่ได้ผลอย่างที่ควร

คุณ Perry อธิบายถึงผลดีจากข้อตกลงอนุญาตให้ใช้สูตรยาต้านไวรัสเอชไอวี raltegravir สำหรับเด็กของบริษัท MERCK ไปผลิตเป็นยาต้านไวรัสฉบับสามัญนี้ว่า ข้อตกลงนี้อนุญาตให้ทำได้สองอย่าง อย่างแรกบริษัทผลิตยาสามัญสามารถพัฒนาและผลิตยาต้านไวรัส raltegravir ชนิดเลียนแบบที่มีราคาถูกกว่า นอกจากนี้ยังอนุญาตให้บริษัทยาสามัญทำการปรับปรุงผลิตภัณฑ์นี้ได้และใช้ผสมผสานกับตัวยาชนิดอื่นได้

ในปัจจุบัน วงการแพทย์ถือว่ายาต้านไวรัสตัวนี้เป็นยาป้องกันด่านที่สาม แต่มีการถกเถียงกันว่าควรปรับให้กลายเป็นยาต้านไวรัสเอชไอวีตัวแรกและตัวที่สองแทน

คุณ Perry กล่าวว่าจำเป็นต้องมียาต้านไวรัสให้เลือกใช้หลายๆชนิด เพราะเชื้อไวรัสเอชไอวีเริ่มต่อต้านต่อยาที่ใช้บำบัดในปัจจุบัน เขากล่าวว่าโครงการบำบัดเชื้อเอชไอวีในเด็ก (the Pediatric HIV Treatment Initiative) มุ่งพัฒนายาบำบัดขนานใหม่ๆเพื่อนำไปใช้ผสมผสานกัน เป้าหมายคือการพัฒนาให้ได้ยาบำบัดผสมผสานให้ได้ถึง 6 แบบภายใน 3 ปีข้างหน้า

Dr. Deborah Birx (berk) เจ้าหน้าที่ประสานงานแห่ง U.S. Global AIDS กล่าวว่าหากไม่ใช้การบำบัดด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี เด็กทารกที่ติดเชื้อเอชไอวีราว 50 เปอร์เซ็นต์จะเสียชีวิตก่อนอายุครบ 2 ขวบ และ 80 เปอร์เซ็นต์จะเสียชีวิตก่อนอายุครบ 5 ขวบ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก    m.voathai.com

Report by LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่