กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมานานหลายเดือนนะครับ
ไม่ได้กลับมาเขียนนานแล้วเพราะช่วงนี้มันวุ่นๆ + เนื้อเรื่องช่วงนี้มันเนือยๆ ไม่มีอะไรไปหน่อย ก็เลยไม่ได้เขียนต่อเลย มาวันนี้ตอนนี้มีฉากเด็ด เลยนึกอยากจะกลับมาเขียนซะหน่อย
หลายท่านคงเห็นรูปไปแล้ว ท่านใดยังไม่เห็นก็มาอ่านกันได้จากกระทู้นี้นะครับ
ภาพเปิดตอนนี้
จะขอข้ามเนื้อหาตอนก่อนๆ ไปเลยนะครับ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ไม่มีอะไร นอกจากทำธุระในเมืองไปเรื่อยๆ กับอูมาร์นั่งปักธงเก็บธงเพิ่มค่าความชอบของปาริญาไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง
เกริ่นแค่ว่าปาริญาแวะมาทำธุระนอกเมือง โดยมีอูมาร์เป็นสารถีขับเกวียนให้ แล้วระหว่างทางเจอผู้หญิงล้มอยู่ข้างทางมีลูกชายตัวเล็กๆ ร้องไห้โฮอยู่ข้างๆ อูมาร์เลยรีบวิ่งไปตามคนในหมู่บ้านใกล้ๆ มาช่วย โดยให้ปาริญาเฝ้าผู้หญิงกับลูกไว้
ผ่านไปสักพัก อูมาร์ก็พาคนในหมู่บ้านใกล้ๆ มา จากนั้นก็ช่วยกันหามคนป่วยไปที่บ้านของคนป่วยเอง (คนป่วยเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเอง) ให้ญาติๆ ช่วยกันพยาบาลให้จนอาการดีขึ้น (หลังจากตรงนี้มีฉากอูมาร์คุยกับญาติของคนป่วยเรื่องอาการป่วยของคนป่วยด้วย พอได้รู้ว่าไม่ได้ล้มพับไปแบบนี้เป็นครั้งแรกก็ทำหน้ากังวล คิดว่าคงเป็นเพราะปมในใจของอูมาร์ที่แม่ป่วยเสียชีวิตไปแต่เด็กแฮะ)
หลังเสร็จเรื่อง ญาติๆ ของคนป่วยก็มาขอบคุณอูมาร์กับปาริญากันใหญ่ พร้อมชวนให้อยู่กินข้าวเย็นกับอยู่ค้างที่หมู่บ้านเป็นการตอบแทนด้วย ทีแรกอูมาร์ทำท่าจะปฏิเสธเพราะเกรงใจ แต่ปาริญาบอกว่านี่ก็เย็นมากแล้ว กลับไปตอนดึกจะอันตรายมากกว่า อูมาร์เลยต้องยอมอยู่ค้างที่บ้านญาติคนป่วยนั้น
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร แค่ปาริญากับอูมาร์นั่งกินข้าวเย็นกับญาติๆ คนป่วย นอนค้างคืนนึงที่บ้านญาติคนป่วย (มีฉากปาริญานอนไม่หลับออกมาข้างนอก แล้วเจออูมาร์กำลังเช็คสภาพเกวียน เลยได้คุยกันนิดหน่อยก่อนแยกย้ายกันไปนอน) รุ่งเช้าก็รีบออกจากหมู่บ้านโดยมีญาติๆ ของคนป่วยมาส่ง
ระหว่างทางนั่งเกวียนกลับ อูมาร์ก็เปรยๆ ถึงแม่ตัวเองที่ร่างกายอ่อนแอมาแต่เกิดเลยเสียไปตั้งแต่ยังสาว ปาริญาก็ถามว่าไม่มีแม่แล้วเหงาเหรอ อูมาร์ก็เงียบไปนิดนึงเหมือนทำท่าคิด แล้วบอกว่าก็เปล่าหรอก แค่คิดว่าอยากให้แม่ยังอยู่มากกว่าแค่นั้นแหละ
หลังจากนั้นก็นั่งเกวียนกันไปเงียบๆ พักหนึ่ง ก็มาเจอกังหันวิดน้ำระหว่างทางเข้า เลยแวะเข้าไปดูกัน อูมาร์ทำท่าตื่นตาตื่นใจกับกังหันวิดน้ำมาก ออกปากสาธยายรายละเอียดเกี่ยวกับกังหันวิดน้ำให้ปาริญาฟังเป็นชุดๆ
ฝ่ายปาริญาเห็นแบบนั้นก็คิดได้ว่านี่เป็นโอกาสดีแล้ว จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าถามสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในอกมานานกับอูมาร์ออกไป โดยบอกว่าตัวเธอเองนั้นแต่งงานกับอูมาร์ไม่ได้ทันที เพราะยังปักผ้าปักชุดใหม่ยังไม่เสร็จ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากแต่งงานกับอูมาร์
ว่าถึงตรงนี้ ปาริญาก็ออกปากตะกุกตะกักถามออกไปเสียงดังลั่นทั้งใบหน้าแดงซ่านว่า
"เพราะงั้นช่วยรอจนกว่าฉันจะปักผ้าเสร็จได้ไหมคะ"
ได้ยินปาริญาถามแบบนั้น อูมาร์ก็ตอบกลับแทบจะทันทีว่า
"เข้าใจแล้ว ได้สิ" ทำเอาปาริญาถึงกับอึ้งจนต้องถามย้ำๆ อยู่อีกรอบ อูมาร์ก็ยังคงตอบเหมือนเดิม
แต่ถึงอย่างไรปาริญาก็ยังคงไม่แน่ใจอยู่ดี ด้วยนิสัยคิดมากและขี้กลัวที่ติดตัวมาแต่เริ่มเป็นสาวเห็นว่าตัวเองต่างจากเด็กสาวคนอื่น เลยถามย้ำอยู่อีกสองสามรอบว่าจริงนะ แน่ใจนะว่าจะรอกันจริงๆ
เห็นอีหนูทำท่าเหมือนไม่เชื่อใจกันแบบนั้น อูมาร์ก็ชักฉิวขึ้นมาบ้าง เขาหันซ้ายหันขวามองรอบตัวรอบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ก็เดินตรงเข้าไปหาปาริญา รวบไหล่บางทั้งสองข้างไว้แน่น แล้วจูบปาริญาที่ปากในจังหวะที่ปาริญาไม่ทันตั้งตัว
ปาริญาถึงกับตาค้าง อูมาร์ก็บอกกับปาริญาด้วยสีหน้าจริงจังว่าเขาจะรับผิดชอบจูบนี้แน่
ได้ยินคำนั้นปุ๊บ ปาริญาก็เกิดอาการสมองลัดวงจรควันขึ้นหัวทันควัน ก่อนจะล้มปังลงกับพื้นด้วยสีหน้าเหมือนเห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้าก็ไม่ปาน
ก็จบกันไปแล้วแฮะสำหรับตอนนี้
คาดว่าเป็นตอนที่แฟนๆ คู่นี้กรี๊ดกันสนั่นเลยแฮะ ไอ้หนุ่มนิสัยจริงจังอุตส่าห์ฝากรักที่ริมฝีปากแถมประกาศจะรับผิดชอบถึงขนาดนี้ แทบทนรออ่านฉากแต่งงานของทั้งคู่ไม่ไหวเลยแฮะ ถึงจะต้องรอกันอีกนานก็เถอะ
ที่เหลือรอดูตอนหน้าละครับว่าจะมีฉากอะไรเด็ดๆ ของคู่นี้อีกมั้ย หรือว่าจะข้ามไปคู่อื่นกันบ้าง
SPOILER!!! เจ้าสาวแห่งทางสายไหม ตอนที่ 57 - ระหว่างทางกลับบ้าน
ไม่ได้กลับมาเขียนนานแล้วเพราะช่วงนี้มันวุ่นๆ + เนื้อเรื่องช่วงนี้มันเนือยๆ ไม่มีอะไรไปหน่อย ก็เลยไม่ได้เขียนต่อเลย มาวันนี้ตอนนี้มีฉากเด็ด เลยนึกอยากจะกลับมาเขียนซะหน่อย
หลายท่านคงเห็นรูปไปแล้ว ท่านใดยังไม่เห็นก็มาอ่านกันได้จากกระทู้นี้นะครับ
ภาพเปิดตอนนี้
จะขอข้ามเนื้อหาตอนก่อนๆ ไปเลยนะครับ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ไม่มีอะไร นอกจากทำธุระในเมืองไปเรื่อยๆ กับอูมาร์นั่งปักธงเก็บธงเพิ่มค่าความชอบของปาริญาไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง
เกริ่นแค่ว่าปาริญาแวะมาทำธุระนอกเมือง โดยมีอูมาร์เป็นสารถีขับเกวียนให้ แล้วระหว่างทางเจอผู้หญิงล้มอยู่ข้างทางมีลูกชายตัวเล็กๆ ร้องไห้โฮอยู่ข้างๆ อูมาร์เลยรีบวิ่งไปตามคนในหมู่บ้านใกล้ๆ มาช่วย โดยให้ปาริญาเฝ้าผู้หญิงกับลูกไว้
ผ่านไปสักพัก อูมาร์ก็พาคนในหมู่บ้านใกล้ๆ มา จากนั้นก็ช่วยกันหามคนป่วยไปที่บ้านของคนป่วยเอง (คนป่วยเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเอง) ให้ญาติๆ ช่วยกันพยาบาลให้จนอาการดีขึ้น (หลังจากตรงนี้มีฉากอูมาร์คุยกับญาติของคนป่วยเรื่องอาการป่วยของคนป่วยด้วย พอได้รู้ว่าไม่ได้ล้มพับไปแบบนี้เป็นครั้งแรกก็ทำหน้ากังวล คิดว่าคงเป็นเพราะปมในใจของอูมาร์ที่แม่ป่วยเสียชีวิตไปแต่เด็กแฮะ)
หลังเสร็จเรื่อง ญาติๆ ของคนป่วยก็มาขอบคุณอูมาร์กับปาริญากันใหญ่ พร้อมชวนให้อยู่กินข้าวเย็นกับอยู่ค้างที่หมู่บ้านเป็นการตอบแทนด้วย ทีแรกอูมาร์ทำท่าจะปฏิเสธเพราะเกรงใจ แต่ปาริญาบอกว่านี่ก็เย็นมากแล้ว กลับไปตอนดึกจะอันตรายมากกว่า อูมาร์เลยต้องยอมอยู่ค้างที่บ้านญาติคนป่วยนั้น
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร แค่ปาริญากับอูมาร์นั่งกินข้าวเย็นกับญาติๆ คนป่วย นอนค้างคืนนึงที่บ้านญาติคนป่วย (มีฉากปาริญานอนไม่หลับออกมาข้างนอก แล้วเจออูมาร์กำลังเช็คสภาพเกวียน เลยได้คุยกันนิดหน่อยก่อนแยกย้ายกันไปนอน) รุ่งเช้าก็รีบออกจากหมู่บ้านโดยมีญาติๆ ของคนป่วยมาส่ง
ระหว่างทางนั่งเกวียนกลับ อูมาร์ก็เปรยๆ ถึงแม่ตัวเองที่ร่างกายอ่อนแอมาแต่เกิดเลยเสียไปตั้งแต่ยังสาว ปาริญาก็ถามว่าไม่มีแม่แล้วเหงาเหรอ อูมาร์ก็เงียบไปนิดนึงเหมือนทำท่าคิด แล้วบอกว่าก็เปล่าหรอก แค่คิดว่าอยากให้แม่ยังอยู่มากกว่าแค่นั้นแหละ
หลังจากนั้นก็นั่งเกวียนกันไปเงียบๆ พักหนึ่ง ก็มาเจอกังหันวิดน้ำระหว่างทางเข้า เลยแวะเข้าไปดูกัน อูมาร์ทำท่าตื่นตาตื่นใจกับกังหันวิดน้ำมาก ออกปากสาธยายรายละเอียดเกี่ยวกับกังหันวิดน้ำให้ปาริญาฟังเป็นชุดๆ
ฝ่ายปาริญาเห็นแบบนั้นก็คิดได้ว่านี่เป็นโอกาสดีแล้ว จึงตัดสินใจรวบรวมความกล้าถามสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในอกมานานกับอูมาร์ออกไป โดยบอกว่าตัวเธอเองนั้นแต่งงานกับอูมาร์ไม่ได้ทันที เพราะยังปักผ้าปักชุดใหม่ยังไม่เสร็จ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากแต่งงานกับอูมาร์
ว่าถึงตรงนี้ ปาริญาก็ออกปากตะกุกตะกักถามออกไปเสียงดังลั่นทั้งใบหน้าแดงซ่านว่า "เพราะงั้นช่วยรอจนกว่าฉันจะปักผ้าเสร็จได้ไหมคะ"
ได้ยินปาริญาถามแบบนั้น อูมาร์ก็ตอบกลับแทบจะทันทีว่า "เข้าใจแล้ว ได้สิ" ทำเอาปาริญาถึงกับอึ้งจนต้องถามย้ำๆ อยู่อีกรอบ อูมาร์ก็ยังคงตอบเหมือนเดิม
แต่ถึงอย่างไรปาริญาก็ยังคงไม่แน่ใจอยู่ดี ด้วยนิสัยคิดมากและขี้กลัวที่ติดตัวมาแต่เริ่มเป็นสาวเห็นว่าตัวเองต่างจากเด็กสาวคนอื่น เลยถามย้ำอยู่อีกสองสามรอบว่าจริงนะ แน่ใจนะว่าจะรอกันจริงๆ
เห็นอีหนูทำท่าเหมือนไม่เชื่อใจกันแบบนั้น อูมาร์ก็ชักฉิวขึ้นมาบ้าง เขาหันซ้ายหันขวามองรอบตัวรอบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ก็เดินตรงเข้าไปหาปาริญา รวบไหล่บางทั้งสองข้างไว้แน่น แล้วจูบปาริญาที่ปากในจังหวะที่ปาริญาไม่ทันตั้งตัว
ปาริญาถึงกับตาค้าง อูมาร์ก็บอกกับปาริญาด้วยสีหน้าจริงจังว่าเขาจะรับผิดชอบจูบนี้แน่
ได้ยินคำนั้นปุ๊บ ปาริญาก็เกิดอาการสมองลัดวงจรควันขึ้นหัวทันควัน ก่อนจะล้มปังลงกับพื้นด้วยสีหน้าเหมือนเห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้าก็ไม่ปาน
ก็จบกันไปแล้วแฮะสำหรับตอนนี้
คาดว่าเป็นตอนที่แฟนๆ คู่นี้กรี๊ดกันสนั่นเลยแฮะ ไอ้หนุ่มนิสัยจริงจังอุตส่าห์ฝากรักที่ริมฝีปากแถมประกาศจะรับผิดชอบถึงขนาดนี้ แทบทนรออ่านฉากแต่งงานของทั้งคู่ไม่ไหวเลยแฮะ ถึงจะต้องรอกันอีกนานก็เถอะ
ที่เหลือรอดูตอนหน้าละครับว่าจะมีฉากอะไรเด็ดๆ ของคู่นี้อีกมั้ย หรือว่าจะข้ามไปคู่อื่นกันบ้าง