เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาศทานดินเนอร์สุดวิเศษ โดยพระเอกหลักในคืนนี้ รับรองว่าต้องถูกใจสาวกคนรักเนื้ออย่างแน่นอน เพราะวัตถุดิบหลักในวันนี้คือเนื้ออาคิตะ เนื้อระดับ A5 ที่เพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในวันนี้เราจะมาทานสุดยอดเนื้อกันที่ ห้องอาหาร The roof gastro ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม siam@siam ตรงถนนพระราม 1 กันนี่เอง
ซึ่งตอนนี้ สำหรับใครที่มาลิ้มรสเมนูเนื้ออาคิตะ ยังลุ้นรับคูปอง ชิงตั๋วรางวัลเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-ญี่ปุ่น แถมบัตร JR East สำหรับการเดินทาง 1 สัปดาห์ อีกด้วย กรี๊ดสุด อยากไปญี่ปุ่น นี่กรอกชื่อใส่คูปองรอลุ้นแล้ว เผื่อได้ไปชิมเนื้ออาคิตะถึงถิ่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/siamatsiambangkok/?fref=ts
เราขึ้นมากันที่ ชั้น 25 เป็นชั้นบนสุดของโรงแรมก็จะเจอ
The roof gastro บาร์เก๋ๆ
วิวกลางเมืองดูได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว
บรรยากาศดีเหมาะกับมาดินเนอร์แบบโรแมนติกหรือมานั่งคุยธุรกิจกันก็ดีไม่น้อย
เพราะได้อิ่มทั้งอาหารตาและอิ่มท้อง พร้อมจิบไวน์ ไปเพลินๆ
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม สยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล
ส่วนตัวเราคิดว่าน่าจะเป็นการตกแต่งที่สุดโต่งจริงๆ
ที่หยิบนู้นหยิบนี่มารวมกันแฝงความเป็นไทยใส่ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย
มาในส่วนของอาหารกันบ้างดีกว่า แน่นอนว่าถ้าอยากจะลิ้มรสชาติเนื้อ
ว่าอร่อยไม่อร่อยยังไงแน่นอนว่าต้องสั่ง ซาซิมิ มาเป็นตัวตัดสินรสชาติให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
สำหรับเมนูนี้มีชื่อว่า A5 Akita rump sashimi เสิร์ฟในขนาด 70กรัม/ราคา 800++
จานนี้จะเสริฟมาพร้อมน้ำจิ้มสองชนิด ได้แก่พอนซึและน้ำจิ้มงา
แต่ส่วนตัวขอลองชิมรสชาติแบบเพียวๆกันไปเลยดีกว่า
ว่าสุดยอดอาคิตะที่เขาเล่าอือเล่าอ้างนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง
รสชาติ
ไม่อยากจะพูดว่าอร่อยมากแต่ก็ต้องบอกว่าอร่อยมากจริงๆ เนื้อนุ่ม แทบละลายในลิ้น
ไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจ เนื้อรสชาติหวานด้วยตัวของมันเอง เคี้ยวเพลินออกมันๆ
รสชาติมันค้างอยู่ในปาก เนื้อสัมผัสดีทีเดียว แต่คิดว่าอาจจะเสริฟมาชิ้นใหญ่ไปหน่อย
สำหรับเราตัดแบ่ง 1 ชิ้นทานได้ 2 ครั้ง อีกครั้งลองจิ้มน้ำจิ้ม พอนซึ
ก็ตัดเลี่ยนได้ดีด้วยความเปรี้ยวของตัวน้ำจิ้ม เข้ากันได้ดีกับ ซาซิมิเนื้ออาคิตะ
จานนี้ให้ผ่าน (แต่ทานมากกว่านี้คงเลี่ยน เอาแบบ 1 จานกำลังดี)
มาต่อกันที่จานที่ 2 กันบ้าง
กับสตูว์เนื้ออาคิตะ เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดและน้ำซอสเข้มข้น
ตัวเนื้อถูกตุ๋นมาจนนุ่มทีเดียว ใช้ส้อมตัดผ่าครึ่งได้เลย ได้กลิ่นหอมๆที่เป็นเอกลักษณ์ของเนื้อ
จุ่มซอสชุ่มฉ่ำ ตัดความเข้มข้นด้วยมันบด (ส่วนตัวชอบกินมันบด มันบดถูกปากมากจริงๆ)
จานนี้ถ้าทานคู่กับข้าวสวยนี้ข้าวหมดไปได้หลายจานเลยนะ ด้วยความเข้นของชิ้นเนื้อกับซอสตัวนี้
และจานสุดท้ายสำหรับ เนื้ออาคิตะ แน่นอนว่า ก็ต้องเป็นสเต๊ก ย่างมาแบบ medium rare สินะ
สำหรับจานนี้เพิ่มเติมความพิเศษมาด้วย ตับห่านหรือ Foie Gras อีกด้วย
สำหรับตัวเนื้อย่างมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่สุกเกินไปไม่ดิบเกินไป
ความหอมของเนื้อคลุ้งไปทั่วทั้งปากจริงๆ แถมรสชาติยังคงค้างอยู่ในปากอีกเช่นกัน
ต้องบอกว่าสมแล้วกับที่ได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวด
เพราะด้วยคุณภาพเนื้อที่ดีจนเปรียบเทียบกับที่เคยทานมาอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งความนุ่ม เหนียว ของเนื้ออาคิตะ ที่อยากจะชวนให้มาลองชิมกันสักครั้ง
และนอกเหนือจากเมนูเนื้ออาคิตะแล้ว ที่โรงแรม siam@siam
ยังมีเมนูยอดนิยมที่ได้รับรางวัลมาแล้วเช่นกันอย่าง Mix grilled บนเตาหินร้อน ซึ่งทาง
พนักงานแนะนำว่า Scallops ของที่นี่ตัวใหญ่มาก เราเลยไม่พลาดที่จะจัดมาลิ้มลอง
มาเสิร์ฟแล้ว บนเตาหินร้อน ตัวใหญ่จริงๆ ดูเนื้อแน่น ขาว อวบ น่าทานมาก
ยิ่งตอนวางไปบนเตาหิน มีเสียงฉ่าๆ หอมกลิ่นหอมเตะเข้าจมูก ก็มัวแต่ใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะสุก
พลิกกลับไปกลับมา จนสุกทั่วถึงกันทั้งชิ้นแล้วก็จิ้มน้ำจิ้ม Seafood ในทันที
แซ่บมากกก น้ำจิ้มซีฟู๊ดเผ็ด เปรี้ยว จี๊ดจ๊าดมาก ชูให้ตัวหอยอร่อย
แซ่บถึงใจ จานนี้ให้ผ่านเช่นกัน ขอเติมน้ำจิ้มซีฟู๊ดไป 3 รอบ
มาที่จานสุดท้ายกันแล้วจริงๆ กับ Signature Roll ของที่นี่ ซึ่งเป็นโรลแบบฟิวชั่น
ผสมความเป็นไทยเข้าไปทั้งรสชาติกะเพรา พริกไทยดำ + แซลมอนและกุ้งเทมปุระ
จานนี้น่าจะถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่และถูกใจเรามากด้วยจริงๆ
รสชาติเผ็ดเล็กๆหอมใบกระเพราและพริกไทยสด แนะนำว่ามาที่นี่ต้องสั่งให้ได้เลยทีเดียว
และแล้วก็จบค่ำคืนนี้ด้วยความฟิน วิวบนเดอะ รู๊ฟ แกสโทร
ก็เป็นที่สถานที่นึงที่สวยและเดินทางมาไม่ยากอีกด้วย สำหรับตัวอาหารเชฟก็ทำออกมาได้ดี
การจัดจานสวยงาม น่าถ่ายรูปไปหมดเลย แต่แสงอาจจะน้อยไปนิดเลยต้องมีตัวช่วย
และทีมงานคุณภาพ 55555 ตามธรรมเนียมสมัยนี้สินะ กล้องได้กินก่อน เก็บภาพกันใหญ่
เอาไปอัพลงฟีดสวยๆ
สำหรับวันนี้ก็จบลงไปแบบฟินๆ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าที่นี่เหมาะกับการจะมาดินเนอร์ หรือแก๊งค์เพื่อนๆก็ได้นะ
หรือหากจะมาเลี้ยงรับรองลูกค้าก็มีโซนที่เป็นส่วนตัวอยู่เช่นกัน บวกกับอาหารพรีเมี่ยม น่าจะถูกปากถูกใจเซ็นสัญญากันได้ง่ายๆเลย
ใครไปทานแล้วได้รางวัลไปญี่ปุ่นก็มาอวดกันให้ช้ำใจกันด้วยนะ
[SR] [เอาใจคนรักเนื้อ] เทศกาลเนื้ออาคิตะ ณ โรงแรม Siam@Siam
ซึ่งตอนนี้ สำหรับใครที่มาลิ้มรสเมนูเนื้ออาคิตะ ยังลุ้นรับคูปอง ชิงตั๋วรางวัลเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ-ญี่ปุ่น แถมบัตร JR East สำหรับการเดินทาง 1 สัปดาห์ อีกด้วย กรี๊ดสุด อยากไปญี่ปุ่น นี่กรอกชื่อใส่คูปองรอลุ้นแล้ว เผื่อได้ไปชิมเนื้ออาคิตะถึงถิ่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราขึ้นมากันที่ ชั้น 25 เป็นชั้นบนสุดของโรงแรมก็จะเจอ The roof gastro บาร์เก๋ๆ
วิวกลางเมืองดูได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว
บรรยากาศดีเหมาะกับมาดินเนอร์แบบโรแมนติกหรือมานั่งคุยธุรกิจกันก็ดีไม่น้อย
เพราะได้อิ่มทั้งอาหารตาและอิ่มท้อง พร้อมจิบไวน์ ไปเพลินๆ
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม สยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล
ส่วนตัวเราคิดว่าน่าจะเป็นการตกแต่งที่สุดโต่งจริงๆ
ที่หยิบนู้นหยิบนี่มารวมกันแฝงความเป็นไทยใส่ให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย
มาในส่วนของอาหารกันบ้างดีกว่า แน่นอนว่าถ้าอยากจะลิ้มรสชาติเนื้อ
ว่าอร่อยไม่อร่อยยังไงแน่นอนว่าต้องสั่ง ซาซิมิ มาเป็นตัวตัดสินรสชาติให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
สำหรับเมนูนี้มีชื่อว่า A5 Akita rump sashimi เสิร์ฟในขนาด 70กรัม/ราคา 800++
จานนี้จะเสริฟมาพร้อมน้ำจิ้มสองชนิด ได้แก่พอนซึและน้ำจิ้มงา
แต่ส่วนตัวขอลองชิมรสชาติแบบเพียวๆกันไปเลยดีกว่า
ว่าสุดยอดอาคิตะที่เขาเล่าอือเล่าอ้างนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง
รสชาติ
ไม่อยากจะพูดว่าอร่อยมากแต่ก็ต้องบอกว่าอร่อยมากจริงๆ เนื้อนุ่ม แทบละลายในลิ้น
ไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจ เนื้อรสชาติหวานด้วยตัวของมันเอง เคี้ยวเพลินออกมันๆ
รสชาติมันค้างอยู่ในปาก เนื้อสัมผัสดีทีเดียว แต่คิดว่าอาจจะเสริฟมาชิ้นใหญ่ไปหน่อย
สำหรับเราตัดแบ่ง 1 ชิ้นทานได้ 2 ครั้ง อีกครั้งลองจิ้มน้ำจิ้ม พอนซึ
ก็ตัดเลี่ยนได้ดีด้วยความเปรี้ยวของตัวน้ำจิ้ม เข้ากันได้ดีกับ ซาซิมิเนื้ออาคิตะ
จานนี้ให้ผ่าน (แต่ทานมากกว่านี้คงเลี่ยน เอาแบบ 1 จานกำลังดี)
มาต่อกันที่จานที่ 2 กันบ้าง
กับสตูว์เนื้ออาคิตะ เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดและน้ำซอสเข้มข้น
ตัวเนื้อถูกตุ๋นมาจนนุ่มทีเดียว ใช้ส้อมตัดผ่าครึ่งได้เลย ได้กลิ่นหอมๆที่เป็นเอกลักษณ์ของเนื้อ
จุ่มซอสชุ่มฉ่ำ ตัดความเข้มข้นด้วยมันบด (ส่วนตัวชอบกินมันบด มันบดถูกปากมากจริงๆ)
จานนี้ถ้าทานคู่กับข้าวสวยนี้ข้าวหมดไปได้หลายจานเลยนะ ด้วยความเข้นของชิ้นเนื้อกับซอสตัวนี้
และจานสุดท้ายสำหรับ เนื้ออาคิตะ แน่นอนว่า ก็ต้องเป็นสเต๊ก ย่างมาแบบ medium rare สินะ
สำหรับจานนี้เพิ่มเติมความพิเศษมาด้วย ตับห่านหรือ Foie Gras อีกด้วย
สำหรับตัวเนื้อย่างมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่สุกเกินไปไม่ดิบเกินไป
ความหอมของเนื้อคลุ้งไปทั่วทั้งปากจริงๆ แถมรสชาติยังคงค้างอยู่ในปากอีกเช่นกัน
ต้องบอกว่าสมแล้วกับที่ได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวด
เพราะด้วยคุณภาพเนื้อที่ดีจนเปรียบเทียบกับที่เคยทานมาอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งความนุ่ม เหนียว ของเนื้ออาคิตะ ที่อยากจะชวนให้มาลองชิมกันสักครั้ง
และนอกเหนือจากเมนูเนื้ออาคิตะแล้ว ที่โรงแรม siam@siam
ยังมีเมนูยอดนิยมที่ได้รับรางวัลมาแล้วเช่นกันอย่าง Mix grilled บนเตาหินร้อน ซึ่งทาง
พนักงานแนะนำว่า Scallops ของที่นี่ตัวใหญ่มาก เราเลยไม่พลาดที่จะจัดมาลิ้มลอง
มาเสิร์ฟแล้ว บนเตาหินร้อน ตัวใหญ่จริงๆ ดูเนื้อแน่น ขาว อวบ น่าทานมาก
ยิ่งตอนวางไปบนเตาหิน มีเสียงฉ่าๆ หอมกลิ่นหอมเตะเข้าจมูก ก็มัวแต่ใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะสุก
พลิกกลับไปกลับมา จนสุกทั่วถึงกันทั้งชิ้นแล้วก็จิ้มน้ำจิ้ม Seafood ในทันที
แซ่บมากกก น้ำจิ้มซีฟู๊ดเผ็ด เปรี้ยว จี๊ดจ๊าดมาก ชูให้ตัวหอยอร่อย
แซ่บถึงใจ จานนี้ให้ผ่านเช่นกัน ขอเติมน้ำจิ้มซีฟู๊ดไป 3 รอบ
มาที่จานสุดท้ายกันแล้วจริงๆ กับ Signature Roll ของที่นี่ ซึ่งเป็นโรลแบบฟิวชั่น
ผสมความเป็นไทยเข้าไปทั้งรสชาติกะเพรา พริกไทยดำ + แซลมอนและกุ้งเทมปุระ
จานนี้น่าจะถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่และถูกใจเรามากด้วยจริงๆ
รสชาติเผ็ดเล็กๆหอมใบกระเพราและพริกไทยสด แนะนำว่ามาที่นี่ต้องสั่งให้ได้เลยทีเดียว
และแล้วก็จบค่ำคืนนี้ด้วยความฟิน วิวบนเดอะ รู๊ฟ แกสโทร
ก็เป็นที่สถานที่นึงที่สวยและเดินทางมาไม่ยากอีกด้วย สำหรับตัวอาหารเชฟก็ทำออกมาได้ดี
การจัดจานสวยงาม น่าถ่ายรูปไปหมดเลย แต่แสงอาจจะน้อยไปนิดเลยต้องมีตัวช่วย
และทีมงานคุณภาพ 55555 ตามธรรมเนียมสมัยนี้สินะ กล้องได้กินก่อน เก็บภาพกันใหญ่
เอาไปอัพลงฟีดสวยๆ
สำหรับวันนี้ก็จบลงไปแบบฟินๆ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าที่นี่เหมาะกับการจะมาดินเนอร์ หรือแก๊งค์เพื่อนๆก็ได้นะ
หรือหากจะมาเลี้ยงรับรองลูกค้าก็มีโซนที่เป็นส่วนตัวอยู่เช่นกัน บวกกับอาหารพรีเมี่ยม น่าจะถูกปากถูกใจเซ็นสัญญากันได้ง่ายๆเลย
ใครไปทานแล้วได้รางวัลไปญี่ปุ่นก็มาอวดกันให้ช้ำใจกันด้วยนะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น