บางทีความรักมันไม่ได้ใช้สมองมากนัก
แต่เราเป็นคนหนึ่งเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มี ตรรกะอะไรมากมาย
ก็ขอแค่ได้รักไป แค่ได้รักได้ทุ่มเทให้กับความรัก แค่นั้น..
แต่พอโตขึ้น รักเรากลับจบลงจบแบบไม่มีวันกลับมาแล้ว
เราเลิกสร้างกำแพงขึ้นมาบังทุกๆอย่างไม่ให้เข้ามา
เรากลายเป็นคนที่มีตรรกะมากมายในหัวพยายามมีข้อยกเว้น
ไม่ใช่กับใครแต่เป็นกับตัวเรา
อาจจะงงที่เราพิมพ์ไปแต่เชื่อเถอะเราก็ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของเราเหมือนกัน
ในช่วงชีวิตของเราเราไม่ได้มีแฟนเยอะแยะ แค่3คนเท่านั้นจริงๆ
และคนที่ 3 คือคนที่เรารักมากที่สุดเราเลยจมอยู่กับอดีตไม่มีวันไปไหน
มีคนเข้ามาจีบเรามาคุยกับเรามาให้คำปรึกษาเราทุกๆอย่าง
พวกเขาเป็นคนดีคนหนึ่งถึงเค้าไม่ได้จะมาเพื่อเป็นคนให้คำปรึกษา
แต่เราบอกเค้าไปแล้วว่า "เรายังไม่ยอมรับใครเข้ามาเพราะอดีตของเรา"
พวกเค้าเองรู้ และค่อยๆหายไป จนเหลือแค่บางคนที่เค้ารักเราเหมือนน้อง
เราโอเคมากๆที่รู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรเราสบายใจเราร้องไห้บ่อยๆกับเรื่องอดีต
เค้าก็คอยปลอบเรา เราใช้สมองเราใช้ความคิดของเราในการตัดสินใจอะไร
หลายๆอย่างในเรื่องของความรัก
"ใช่" เรามันคนมีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลที่ฟังแล้วไม่ค่อยขึ้น
เราเป็นคนอารมณ์ดีแต่อารมณ์เสียง่าย (แปลกไหม)
ทุกคนเลยคิดว่าเราไม่เป็นอะไรไม่มีอะไรที่เราเสียใจ
แม้ข้างในเราจะยับเยินหมดแล้วก็ตาม
คนที่อยู่ข้างๆเราเค้าจะรู้ว่าเรา ไม่ไหวแล้ว
ก็ยังดีที่มีคนเข้าใจอย่างน้อยเราก็ไม่ต้องอธิบายให้ใครเข้าใจ
เราอยากมีความรักใหม่แต่ไม่ได้หมายความว่าเราลืมคนรักเก่า
แต่เราไม่อยากจมอยู่กับอดีตเราเคยคิดแบบนั้น..
แต่ตอนนี้ ไม่สิ เมื่อคืนนี้เราคิดได้ว่า เราจะไม่พยายามหาใครแล้ว
เราจะอยู่กับตัวเองเราไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามาถึงเค้าเข้ามา
เราก็รักเค้าไม่ได้เราก็ดีกับเค้าเท่าอดีตไม่ได้
เราเลยสร้างกำแพงขึ้นมาตลอด
จนตอนนี้ คนข้างๆมักจะหดหู่ตามเรา
เพราะเรามัวแต่เศร้า
เรารู้นะ
ไม่ต้องด่า
แต่เราทำไม่ได้
ตกดึกทีไรใจเราอ่อนแอทุกที
ปล.เราแค่อยากมาบ่นเราชอบในการเล่าเรื่องแบบ พิมพ์
รู้สึกอะไรก็พิมพ์ไปมันดีกว่าพูด มั้ง..
หรือเราจะใช้สมองมากกว่าความรู้สึก
แต่เราเป็นคนหนึ่งเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มี ตรรกะอะไรมากมาย
ก็ขอแค่ได้รักไป แค่ได้รักได้ทุ่มเทให้กับความรัก แค่นั้น..
แต่พอโตขึ้น รักเรากลับจบลงจบแบบไม่มีวันกลับมาแล้ว
เราเลิกสร้างกำแพงขึ้นมาบังทุกๆอย่างไม่ให้เข้ามา
เรากลายเป็นคนที่มีตรรกะมากมายในหัวพยายามมีข้อยกเว้น
ไม่ใช่กับใครแต่เป็นกับตัวเรา
อาจจะงงที่เราพิมพ์ไปแต่เชื่อเถอะเราก็ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของเราเหมือนกัน
ในช่วงชีวิตของเราเราไม่ได้มีแฟนเยอะแยะ แค่3คนเท่านั้นจริงๆ
และคนที่ 3 คือคนที่เรารักมากที่สุดเราเลยจมอยู่กับอดีตไม่มีวันไปไหน
มีคนเข้ามาจีบเรามาคุยกับเรามาให้คำปรึกษาเราทุกๆอย่าง
พวกเขาเป็นคนดีคนหนึ่งถึงเค้าไม่ได้จะมาเพื่อเป็นคนให้คำปรึกษา
แต่เราบอกเค้าไปแล้วว่า "เรายังไม่ยอมรับใครเข้ามาเพราะอดีตของเรา"
พวกเค้าเองรู้ และค่อยๆหายไป จนเหลือแค่บางคนที่เค้ารักเราเหมือนน้อง
เราโอเคมากๆที่รู้ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรเราสบายใจเราร้องไห้บ่อยๆกับเรื่องอดีต
เค้าก็คอยปลอบเรา เราใช้สมองเราใช้ความคิดของเราในการตัดสินใจอะไร
หลายๆอย่างในเรื่องของความรัก
"ใช่" เรามันคนมีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลที่ฟังแล้วไม่ค่อยขึ้น
เราเป็นคนอารมณ์ดีแต่อารมณ์เสียง่าย (แปลกไหม)
ทุกคนเลยคิดว่าเราไม่เป็นอะไรไม่มีอะไรที่เราเสียใจ
แม้ข้างในเราจะยับเยินหมดแล้วก็ตาม
คนที่อยู่ข้างๆเราเค้าจะรู้ว่าเรา ไม่ไหวแล้ว
ก็ยังดีที่มีคนเข้าใจอย่างน้อยเราก็ไม่ต้องอธิบายให้ใครเข้าใจ
เราอยากมีความรักใหม่แต่ไม่ได้หมายความว่าเราลืมคนรักเก่า
แต่เราไม่อยากจมอยู่กับอดีตเราเคยคิดแบบนั้น..
แต่ตอนนี้ ไม่สิ เมื่อคืนนี้เราคิดได้ว่า เราจะไม่พยายามหาใครแล้ว
เราจะอยู่กับตัวเองเราไม่พร้อมจะเปิดรับใครเข้ามาถึงเค้าเข้ามา
เราก็รักเค้าไม่ได้เราก็ดีกับเค้าเท่าอดีตไม่ได้
เราเลยสร้างกำแพงขึ้นมาตลอด
จนตอนนี้ คนข้างๆมักจะหดหู่ตามเรา
เพราะเรามัวแต่เศร้า
เรารู้นะ
ไม่ต้องด่า
แต่เราทำไม่ได้
ตกดึกทีไรใจเราอ่อนแอทุกที
ปล.เราแค่อยากมาบ่นเราชอบในการเล่าเรื่องแบบ พิมพ์
รู้สึกอะไรก็พิมพ์ไปมันดีกว่าพูด มั้ง..