ถ้าคุณกำลังมีรูปร่างเป็นแบบนี้
และกำลังต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เป็นแบบนี้
มาอ่านบทความนี้กัน
Skinny Fat คืออะไร
ตามปกติแล้วคำว่า “Skinny” จะหมายถึงคนที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย และคำว่า “Fat” ก็หมายถึงคนที่มีมวลไขมันในร่างกายสูง ดังนั้นพอเอาสองคำนี้มารวมกันก็เลยกลายเป็น แย่+แย่ ทั้งกล้ามเนื้อน้อยและไขมันสูง Oh! GOD!
สาเหตุของ Skinny Fat
1. จำกัดแคลอรี่หรือปริมาณในการทานมากเกินไป พูดง่ายๆ ก็คือกินน้อยเกินจนไม่เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการ (อย่างน้อยใน 1 วันเราต้องกินให้ได้มากกว่าค่า BMR และถ้าไม่อยากน้ำหนักขึ้นก็ต้องกินไม่เกิน TDEE ปล. Search ค่าพวกนี้ได้ในเนตนะคะ เป็นค่าประมาณคร่าวๆ) เนื่องจากเมื่อเรากินไม่เพียงพอต่อแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการเพื่อมีชีวิตในแต่ละวัน ร่างกายอันแสนจะชาญฉลาดของเราก็จะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานหรือที่เรียกว่า Safe Mode เป็นโหมดที่ปรับเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด โดยการลดปริมาณการเผาผลาญของตนเองลง ทำให้ต่อให้เราพยายามกินน้อย และออกกำลังกายหนักแค่ไหน ร่างกายก็จะยังคงสะสมไขมันอยู่ตามเดิม
2. ออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอมากจนเกินไป ตัวอย่างการคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิก โดยการคาร์ดิโอมากเกินไปจะทำให้ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อ ซึ่งกล้ามเนื้อคือสิ่งที่ดีที่จะทำให้เราสามารถเผาผลาญไขมันได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้กำลังออกกำลังกายอยู่ก็ตาม
3. ไม่มีการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน หรือที่เรียกกันว่าเวทเทรนนิ่ง เนื่องจากการออกกำลังกายแบบ Weight Training เป็นการกระทำเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งข้อดีของมันก็อย่างที่บอกไปในข้อก่อนหน้า
4. กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ โปรตีนต่ำ ไขมันสูง ยกตัวอย่างเช่น Junk Food ต่างๆ ทั้งพิซซ่า โดนัท ไอศกรีม หรืออื่นๆ อีกบลาๆๆ แน่นอนว่าอาหารพวกนี้นอกจากจะไม่มีประโยชน์และยังมีโทษมหันต์อีกด้วย แล้วยิ่งเราเป็นตาม 3 ข้อด้านบน และอาหารที่ชอบกินดันเป็นจั๊งค์ฟู้ดอีกก็ยิ่งสะสมไขมันกันใหญ่
นี่เองถึงเป็นสาเหตุให้ผอม เพราะกินน้อย และลงพุง เพราะกินแต่อาหารไม่มีประโยชน์
วิธีแก้ปัญหาสำหรับคนที่เป็น Skinny Fat
1. เลิกกินน้อย ให้กลับมาทานให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต ตามด้านบนนะคะ ไปคำนวณค่า BMR และ TDEE ของตัวเอง หรือหากใครไม่เน้นสนใจการนับแคลอรี่ อย่างน้อยก็คิดว่าไว้ว่าแต่ละมื้อนั้นควรจะไขมันต่ำ โปรตีนสูง และมีไฟเบอร์ค่ะ
2. ลดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพราะคนที่เป็น Skinny Fat จะค่อนข้างผอมอยู่แล้ว ดังนั้นในแต่ละวันจึงควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแค่ 20-30 นาทีเท่านั้นห้ามเกิน และใน 1 อาทิตย์ต้องไม่คาร์ดิโอมากกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง
3. เพิ่มการออกกำลังกายเป็นการเล่นเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่มีข้อแม้ว่าควรเน้นการเล่นแบบใส่น้ำหนัก ไม่ควรจะ Body Weight เนื่องจากร่างกายมีน้ำหนักน้อยอาจทำให้เพิ่มกล้ามเนื้อได้ยาก โดยการเล่นเวทเริ่มต้นต้องเริ่มจากการเวททุกส่วนของร่างกายก่อนแล้วจึงแบ่งออกเป็นส่วนๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงนะคะ
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยอาจแบ่งปริมาณสารอาหารเป็น คาร์โบไฮเดรต-โปรตีน-ไขมัน เป็น 50-30-20 หรือใครฟิตจะเพิ่มโปรตีนและลดไขมันมากกว่านี้ก็ได้ แต่ยังไงก็อย่าลืมว่าไขมันยังคงมีความจำเป็นสำหรับการดูดซึมแร่ธาตุในร่างกายนะคะ
จบแล้วค่ะสำหรับบทความนี้ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมเรื่องไหนบอกได้ค่ะ เอมจะไปหาข้อมูลมาให้ค่า มาเปลี่ยนร่างกันดีกว่าเนอะ
ที่สำคัญนอกจากผอมแล้วต้องฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยค่า
อ่านบทความเพิ่มเติม และพูดคุยกันต่อได้ที่
Ig : aim.healthygirl (สำหรับสอบถามและดูเมนูในแต่ละวัน+บทความสั้นๆ)
FB : Female Fit
ผอมแต่ลงพุง (Skinny Fat) คืออะไร และมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
และกำลังต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้เป็นแบบนี้
มาอ่านบทความนี้กัน
Skinny Fat คืออะไร
ตามปกติแล้วคำว่า “Skinny” จะหมายถึงคนที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย และคำว่า “Fat” ก็หมายถึงคนที่มีมวลไขมันในร่างกายสูง ดังนั้นพอเอาสองคำนี้มารวมกันก็เลยกลายเป็น แย่+แย่ ทั้งกล้ามเนื้อน้อยและไขมันสูง Oh! GOD!
สาเหตุของ Skinny Fat
1. จำกัดแคลอรี่หรือปริมาณในการทานมากเกินไป พูดง่ายๆ ก็คือกินน้อยเกินจนไม่เพียงพอกับปริมาณที่ร่างกายต้องการ (อย่างน้อยใน 1 วันเราต้องกินให้ได้มากกว่าค่า BMR และถ้าไม่อยากน้ำหนักขึ้นก็ต้องกินไม่เกิน TDEE ปล. Search ค่าพวกนี้ได้ในเนตนะคะ เป็นค่าประมาณคร่าวๆ) เนื่องจากเมื่อเรากินไม่เพียงพอต่อแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการเพื่อมีชีวิตในแต่ละวัน ร่างกายอันแสนจะชาญฉลาดของเราก็จะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานหรือที่เรียกว่า Safe Mode เป็นโหมดที่ปรับเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด โดยการลดปริมาณการเผาผลาญของตนเองลง ทำให้ต่อให้เราพยายามกินน้อย และออกกำลังกายหนักแค่ไหน ร่างกายก็จะยังคงสะสมไขมันอยู่ตามเดิม
2. ออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอมากจนเกินไป ตัวอย่างการคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิก โดยการคาร์ดิโอมากเกินไปจะทำให้ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อ ซึ่งกล้ามเนื้อคือสิ่งที่ดีที่จะทำให้เราสามารถเผาผลาญไขมันได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้กำลังออกกำลังกายอยู่ก็ตาม
3. ไม่มีการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน หรือที่เรียกกันว่าเวทเทรนนิ่ง เนื่องจากการออกกำลังกายแบบ Weight Training เป็นการกระทำเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งข้อดีของมันก็อย่างที่บอกไปในข้อก่อนหน้า
4. กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ โปรตีนต่ำ ไขมันสูง ยกตัวอย่างเช่น Junk Food ต่างๆ ทั้งพิซซ่า โดนัท ไอศกรีม หรืออื่นๆ อีกบลาๆๆ แน่นอนว่าอาหารพวกนี้นอกจากจะไม่มีประโยชน์และยังมีโทษมหันต์อีกด้วย แล้วยิ่งเราเป็นตาม 3 ข้อด้านบน และอาหารที่ชอบกินดันเป็นจั๊งค์ฟู้ดอีกก็ยิ่งสะสมไขมันกันใหญ่
นี่เองถึงเป็นสาเหตุให้ผอม เพราะกินน้อย และลงพุง เพราะกินแต่อาหารไม่มีประโยชน์
วิธีแก้ปัญหาสำหรับคนที่เป็น Skinny Fat
1. เลิกกินน้อย ให้กลับมาทานให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิต ตามด้านบนนะคะ ไปคำนวณค่า BMR และ TDEE ของตัวเอง หรือหากใครไม่เน้นสนใจการนับแคลอรี่ อย่างน้อยก็คิดว่าไว้ว่าแต่ละมื้อนั้นควรจะไขมันต่ำ โปรตีนสูง และมีไฟเบอร์ค่ะ
2. ลดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เพราะคนที่เป็น Skinny Fat จะค่อนข้างผอมอยู่แล้ว ดังนั้นในแต่ละวันจึงควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแค่ 20-30 นาทีเท่านั้นห้ามเกิน และใน 1 อาทิตย์ต้องไม่คาร์ดิโอมากกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง
3. เพิ่มการออกกำลังกายเป็นการเล่นเวทเทรนนิ่งเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ แต่มีข้อแม้ว่าควรเน้นการเล่นแบบใส่น้ำหนัก ไม่ควรจะ Body Weight เนื่องจากร่างกายมีน้ำหนักน้อยอาจทำให้เพิ่มกล้ามเนื้อได้ยาก โดยการเล่นเวทเริ่มต้นต้องเริ่มจากการเวททุกส่วนของร่างกายก่อนแล้วจึงแบ่งออกเป็นส่วนๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงนะคะ
4. ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยอาจแบ่งปริมาณสารอาหารเป็น คาร์โบไฮเดรต-โปรตีน-ไขมัน เป็น 50-30-20 หรือใครฟิตจะเพิ่มโปรตีนและลดไขมันมากกว่านี้ก็ได้ แต่ยังไงก็อย่าลืมว่าไขมันยังคงมีความจำเป็นสำหรับการดูดซึมแร่ธาตุในร่างกายนะคะ
จบแล้วค่ะสำหรับบทความนี้ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมเรื่องไหนบอกได้ค่ะ เอมจะไปหาข้อมูลมาให้ค่า มาเปลี่ยนร่างกันดีกว่าเนอะ
ที่สำคัญนอกจากผอมแล้วต้องฟิตแอนด์เฟิร์มด้วยค่า
อ่านบทความเพิ่มเติม และพูดคุยกันต่อได้ที่
Ig : aim.healthygirl (สำหรับสอบถามและดูเมนูในแต่ละวัน+บทความสั้นๆ)
FB : Female Fit