สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
1 โยมถวาย (เงิน) พระ ไม่รับ ได้ไหม ..ไม่มีเหตุ ไม่รับก็ อาบัติ
- เอ่อ.. ใช่เหรอครับ ?
ผมว่าในพระไตรปิฎก เขียนไว้ "ตรงกันข้าม" กับที่คุณว่ามานะครับ
2 โดยเฉพาะเมื่อ โยมถวายเป็นปัจจัย ส่วนกลาง มิใช่สมบัติส่วนตัว พระมีหน้า่ที่เป้นคนกลางในการรับมอบเท่านั้น ...ไม่ทำหน้าที่ได้อย่างไร
- กรณีนี้ นายศุภชัยจ่ายเช็คเข้า บัญชีพระธัมมชโย นะครับ
ไม่ใช่ เข้าบัญชีวัดหรือมูลนิธิ
ทาง DSI ถึงสงสัยเรื่องฟอกเงิน และความสัมพันธ์กับนายศุภชัย
ท่านก็ไปรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง ที่มา-ที่ไป ของเงินในบัญชีท่านก็หมดเรื่อง
ชี้แจงได้ก็จบ
3 พระจะรู้ได้อย่างไร ว่าอันไหนเป็นของโจร หรือ ไม่เป็น โจรจะบอกไหมว่า ผมเป็นโจรขอถวายเงินที่ปล้น ..???
- ถ้าพิสูจน์ได้ว่า พระธัมมชโยและนายศุภชัย ไม่ได้รู้จักกันแบบส่วนตัว
และพระธัมมชโย ไม่ได้รู้เห็นเรื่องที่มาของเงิน ก็จบครับ
4 เมือรู้ว่าเป็นของโจร ก็ คืนแล้ว ..แสดงเจตนาบริสุทธิ์
- ตอนนี้คืนไปแค่ครึ่งเดียว ยังขาดอีก 600 กว่าล้านครับ
และถึงคืนครบ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับคดีเลย
5 เงินก้อนเดียวกัน โยมคนเดียวกัน นำไปกระจายใช้ในหลายลักษณะ ทำไม เจาะจงมาเอาผิดเฉพาะพระ
- โดนหมดทุกคนครับ นอกจากกรณีธรรมกายแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ DSI อีก 7 คดี
ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ
https://www.dsi.go.th/view.aspx?tid=T0001172
- เอ่อ.. ใช่เหรอครับ ?
ผมว่าในพระไตรปิฎก เขียนไว้ "ตรงกันข้าม" กับที่คุณว่ามานะครับ
2 โดยเฉพาะเมื่อ โยมถวายเป็นปัจจัย ส่วนกลาง มิใช่สมบัติส่วนตัว พระมีหน้า่ที่เป้นคนกลางในการรับมอบเท่านั้น ...ไม่ทำหน้าที่ได้อย่างไร
- กรณีนี้ นายศุภชัยจ่ายเช็คเข้า บัญชีพระธัมมชโย นะครับ
ไม่ใช่ เข้าบัญชีวัดหรือมูลนิธิ
ทาง DSI ถึงสงสัยเรื่องฟอกเงิน และความสัมพันธ์กับนายศุภชัย
ท่านก็ไปรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจง ที่มา-ที่ไป ของเงินในบัญชีท่านก็หมดเรื่อง
ชี้แจงได้ก็จบ
3 พระจะรู้ได้อย่างไร ว่าอันไหนเป็นของโจร หรือ ไม่เป็น โจรจะบอกไหมว่า ผมเป็นโจรขอถวายเงินที่ปล้น ..???
- ถ้าพิสูจน์ได้ว่า พระธัมมชโยและนายศุภชัย ไม่ได้รู้จักกันแบบส่วนตัว
และพระธัมมชโย ไม่ได้รู้เห็นเรื่องที่มาของเงิน ก็จบครับ
4 เมือรู้ว่าเป็นของโจร ก็ คืนแล้ว ..แสดงเจตนาบริสุทธิ์
- ตอนนี้คืนไปแค่ครึ่งเดียว ยังขาดอีก 600 กว่าล้านครับ
และถึงคืนครบ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับคดีเลย
5 เงินก้อนเดียวกัน โยมคนเดียวกัน นำไปกระจายใช้ในหลายลักษณะ ทำไม เจาะจงมาเอาผิดเฉพาะพระ
- โดนหมดทุกคนครับ นอกจากกรณีธรรมกายแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ DSI อีก 7 คดี
ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ
https://www.dsi.go.th/view.aspx?tid=T0001172
ความคิดเห็นที่ 3
จ๊ะ ถ้าบริสุทธิ์ก็ไปศาลเลย
ธัมมชโยและเครือข่ายวัดพระธรรมกาย ได้รับเช็คจากศุภชัยรวม 21 ครั้ง เป็นเงิน 1,205,160,000 บาท โดยที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
ถือว่าเข้าข่ายฟอกเงินและรับของโจร
1. นายศุภชัย (ที่ถูกตัดสินเข้าคุกคดียักยอกเงินไปเรียบร้อยแล้ว) เคยเป็นถึง ระดับ "อัครสาวก" ลำดับต้นๆของธรรมกาย และเป็น 'ไวยาวัจกร' (ผู้ดูแลเงินของวัด) ให้ธรรมกายต่อเนื่องหลายปี อีกทั้งยังเป็นทั้งผู้ก่อตั้งสหกรณ์มงคลเศรษฐีซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตวัดพระธรรมกาย ที่จัดปล่อยกู้ทำบุญและโครงการต่างๆนาๆให้แก่วัดพระธรรมกาย
ดังนั้นบอกไปว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆเลย ต้องไปพิสูจน์กับทางศาลและ DSI
2. การรับบริจาคเป็นเช็คนั้นต่างกับเงินสดมาก เพราะเช็คมีชื่อผู้สั่งจ่าย และธัมมี่ต้องลงลายมือชื่อเอาเช็คเข้าบัญชีตนเอง หากไม่เซ็นธนาคารต้องให้เช็คใบนั้นเป็นโฆฆะไป ดังนั้นจะใส่ซองหรืออะไรมาก็ไม่มีทางที่จะปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นได้เพราะต้องเซ็น ยิ่งเอาเช็คหลายสิบใบยอดรวมเป็นพันล้านบาทเข้าบัญชีส่วนตัวของธัมมชโยเองได้แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เช่นเดียวกัน ต้องไปพิสูจน์กับทางศาลและ DSI
3. ความผิดฐานฟอกเงินเป็นคดีอาญา ไม่ต้องมีเจ้าทุกข์ และการฟอกเงินไม่จำเป็นต้องตอบแทบกลับไปเป็นตัวเงินสด ไม่ว่าจะเป็นโอน รับโอน เปลี่ยนสภาพ ให้ผลประโยชน์อื่นตอบแทน ถือว่าเป็นความผิดฐานฟอกเงินทั้งนั้น เช่นเดียวกัน ต้องไปพิสูจน์กับทางศาลและ DSI
ธัมมชโยและเครือข่ายวัดพระธรรมกาย ได้รับเช็คจากศุภชัยรวม 21 ครั้ง เป็นเงิน 1,205,160,000 บาท โดยที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกัน
ถือว่าเข้าข่ายฟอกเงินและรับของโจร
1. นายศุภชัย (ที่ถูกตัดสินเข้าคุกคดียักยอกเงินไปเรียบร้อยแล้ว) เคยเป็นถึง ระดับ "อัครสาวก" ลำดับต้นๆของธรรมกาย และเป็น 'ไวยาวัจกร' (ผู้ดูแลเงินของวัด) ให้ธรรมกายต่อเนื่องหลายปี อีกทั้งยังเป็นทั้งผู้ก่อตั้งสหกรณ์มงคลเศรษฐีซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตวัดพระธรรมกาย ที่จัดปล่อยกู้ทำบุญและโครงการต่างๆนาๆให้แก่วัดพระธรรมกาย
ดังนั้นบอกไปว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆเลย ต้องไปพิสูจน์กับทางศาลและ DSI
2. การรับบริจาคเป็นเช็คนั้นต่างกับเงินสดมาก เพราะเช็คมีชื่อผู้สั่งจ่าย และธัมมี่ต้องลงลายมือชื่อเอาเช็คเข้าบัญชีตนเอง หากไม่เซ็นธนาคารต้องให้เช็คใบนั้นเป็นโฆฆะไป ดังนั้นจะใส่ซองหรืออะไรมาก็ไม่มีทางที่จะปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็นได้เพราะต้องเซ็น ยิ่งเอาเช็คหลายสิบใบยอดรวมเป็นพันล้านบาทเข้าบัญชีส่วนตัวของธัมมชโยเองได้แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เช่นเดียวกัน ต้องไปพิสูจน์กับทางศาลและ DSI
3. ความผิดฐานฟอกเงินเป็นคดีอาญา ไม่ต้องมีเจ้าทุกข์ และการฟอกเงินไม่จำเป็นต้องตอบแทบกลับไปเป็นตัวเงินสด ไม่ว่าจะเป็นโอน รับโอน เปลี่ยนสภาพ ให้ผลประโยชน์อื่นตอบแทน ถือว่าเป็นความผิดฐานฟอกเงินทั้งนั้น เช่นเดียวกัน ต้องไปพิสูจน์กับทางศาลและ DSI
ความคิดเห็นที่ 10
ลัทธินี้มันเหมือนมะเร็งที่กำลังลุกลามสู่สังคมไทย เหมือเซลล์ในร่างกายที่ถูกแปลงเป็นก้อนเนื้อมะเร็งแล้ว ก็จะพยามแพร่เชื่อมะเร็งออกไปยังเซลล์อื่นๆข้างเคียง พยามให้เป็นก้อนเนื่องมะเร็งเหมือนๆกันไปด้วย โดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าทั้งตังเองและร่างกายจะตายไปพร้อมๆกัน
ถ้าเรายังไม่ร่วมกันหยุดลัทธินี้ แล้วปล่อยให้แพร่ขยายความเชื่ออันแสนวิบัติออกไปเรื่อยๆ ศาสนาพุทธเราวันนึงจะสูญสลายเสื่อมตกไปในที่สุด
ถ้าเรายังไม่ร่วมกันหยุดลัทธินี้ แล้วปล่อยให้แพร่ขยายความเชื่ออันแสนวิบัติออกไปเรื่อยๆ ศาสนาพุทธเราวันนึงจะสูญสลายเสื่อมตกไปในที่สุด
แสดงความคิดเห็น
**ข้อหารับของโจร **ฟอกเงิน** ฟังไม่ขึ้นนะครับ ???
ผมลองทบทวน ได้ความว่าที่จะจับ เพราะ ข้อหา" พระรับของโจร"
หากคิดต่อไปอีกนิด อื่ม มันก็ แปลก ๆ เกิดมาไม่เคยได้ยินว่าพระรับของโจร ...
พระมิใช่ โรงจำนำ ไม่ใช่ร้านรับซื้อของเก่า ธรรมกาย มิใช่ตลาดมืด
พระมิได้เหมือนบุคคลปกติ ที่จะ รับซื้อ ..รับขาย
มีแต่ต้องถวายเท่านั้น ..
เมื่อเป็นแบบนั้น ก็ มีเรื่องให้ต้องพิจารณา
1 โยมถวาย พระ ไม่รับ ได้ไหม ..ไม่มีเหตุ ไม่รับก็ อาบัติ
2 โดยเฉพาะเมื่อ โยมถวายเป็นปัจจัย ส่วนกลาง มิใช่สมบัติส่วนตัว พระมีหน้า่ที่เป้นคนกลางในการรับมอบเท่านั้น ...ไม่ทำหน้าที่ได้อย่างไร
3 พระจะรู้ได้อย่างไร ว่าอันไหนเป็นของโจร หรือ ไม่เป็น โจรจะบอกไหมว่า ผมเป็นโจรขอถวายเงินที่ปล้น ..???
4 เมือรู้ว่าเป็นของโจร ก็ คืนแล้ว ..แสดงเจตนาบริสุทธิ์
5 เงินก้อนเดียวกัน โยมคนเดียวกัน นำไปกระจายใช้ในหลายลักษณะ ทำไม เจาะจงมาเอาผิดเฉพาะพระ
คดีธรรมกาย เป็นคดี ไร้สาระแท้ ๆ ขึ้นศาลไปหากตาชั่งไม่เอียง ก็ มีโอกาสชนะ เสียเวลาทำงานของ ศาลเสียปล่าว ๆ
ความจริง ดีเอสไอไม่ควร เอามาเป็นเรื่องเสียด้วยซ้ำ ..
แต่ ดีเอสไอ โดยนาย ไพบูรณ์ ก็ ทำ ....
มันเห็นได้ชัดว่าทำเพราะ มีเป้าหมาย ...จำเพาะเจาะจง ..
ยามวิกาลก็มีรถทหารมา น่ากลัวมาก