ไม่รู้จัก...แต่ตกคลั่กอยู่ธรรมกาย! เปลว สีเงิน

กระทู้สนทนา
อ่านบทความนี้ แล้วอยากแชร์ให้เพื่อนๆทั้งธรรมกลายและไม่ใช่ ลองอ่านและหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะครับ แล้วค่อยนำไปพิจารณาว่าจะเชื่อหนือไม่ เอกสารหลักฐานทาง ปปง และ ดีเอสไอ ก็มีพร้อมอยู่แล้ว พุทธศาสนาจะอยู่ได้นานแค่ไหนก็อยู่ที่พวกเราช่วยกัน เหมือนยุคพระเจ้าอโศกมหาราขที่ทรงทำสังคายนาและสึกนักบวชที่อ้างตัวและทำพรุพุทธศาสนาให้คลาดเคลื่อนและเสื่อมไป อย่างเด็ดขาด รวดเร็ว เราถึงได้มีบุญวาสนาได้เห็นได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธองค์ท่าน
............................................................................................................................................................
    คดี "พล.ต.ท.พงศ์พัศ ฉายาพันธุ์" ตำรวจจับเร็ว  สอบสวนเร็ว ส่งฟ้องเร็ว ไม่ถึงครึ่งปี ศาลก็พิพากษาไปแล้วหลายคดี
    เมื่อวาน (๑๗ ก.พ.๕๘) ในคดีร่วมกันฟอกเงิน ศาลตัดสินจำคุกไปอีก ๒๐ ปี!
    ตรงข้ามกับคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ศิษย์เอกธรรมกาย ที่ยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น มูลค่านับหมื่นล้าน
    อายุความมี ๓ ปี แต่ผ่านไปเกือบ ๒ ปี
    ดีเอสไอ ตั้งแต่ยุคนายธาริต เพ็งดิษฐ์ จนมาถึงวันนี้....!
    นอกจากอายัดโน่น-นี่เป็นพิธีแล้ว ทางด้านคดีอาญา แทบไม่มีอะไรคืบหน้า จนกระทั่งปลายเดือนที่แล้ว ผู้เสียหายต้องรวมตัวกันไปร้องปลัดยุติธรรมและอธิบดีคนใหม่
    ให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน!
    คดีนี้ มัน "ลมพัดใบไม้ไหว" แต่ต้นแล้ว ก็ขนาด "รองปลัดยุติธรรม" ใช้ตำแหน่งตัวเองประกันผู้ต้องหา คือนายศุภชัย แล้วจะไปหวังเอาความจริงจัง-ตรงไปตรงมาจากการทำคดีได้แค่ไหนกัน
    ก็คงต้องเอี้ยวๆ เลี่ยงชน "ยอดจานบิน" นั่นแหละ!
    และยอดจานบินกับระบอบทักษิณ มันก็ "คอหอยกับลูกกระเดือก" ประจักษ์ทางพฤตินัย แต่ถ้าอยากประจักษ์ทางนิตินัย
    สตง.ลองไปตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในยุคทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ดูว่า...
     งบประมาณจัดอีเวนต์ เกณฑ์ข้าราชการมาอบรม จ้างเดียรถีย์มาเข้าฉากงาน จัดพิธีกรรมตามท้องถนน มันตกปีละเท่าไหร่?
    ก็เห็น พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดยุติธรรมบอกว่า  คดีนายศุภชัยยักยอกสหกรณ์ฯ ไม่ซับซ้อน ผมก็ว่า.....นั่นน่ะซี  
    คดีไม่ซับซ้อน แต่ดีเอสไอผู้ทำคดี ทำไมพฤติกรรมดูมัน "ซับซ้อน" เหลือเกิน?
    ปปง.ก็ด้วย!
    สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดีเอสไอ "ผู้ทำคดี" ไปให้ข้อมูลกับอนุกรรมาธิการด้านการธนาคารฯ วุฒิสภา
    อนุกรรมาธิการถามว่า ดีเอสไอดำเนินคดีนายศุภชัยกี่คดี?
    ดีเอสไอบอก ...คดียักยอกทรัพย์คดีเดียว เพราะไม่มีเจตนาฉ้อโกงประชาชนแต่แรก และว่าเป็นข้อกล่าวหาส่วนตัว มีบทลงโทษไม่หนัก        
    ในส่วนเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ทางอนุกรรมาธิการฯ ถาม "ได้เห็นเอกสารการโอนเงินของสหกรณ์ฯ บริจาคให้วัดพระธรรมกายหรือไม่"?
    ดีเอสไอตอบว่า ในกรณีนี้ ทาง ปปง.ได้มีการสอบสวนกับทนายความของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มีการสั่งจ่ายเช็คจริง ทางวัดพระธรรมกายถือว่าเป็นเงินบริจาค
    ดีเอสไอ ก็พิจารณาเจตนาในการรับเงินของวัดพระธรรมกายแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีเจตนาทุจริต จึงไม่มีการติดตามเอาเงินจำนวนดังกล่าวคืน และดีเอสไอดำเนินการเฉพาะคดีอาญาเท่านั้น
    อนุกรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตว่า.......
    "กรณีนายศุภชัย นำเงินสหกรณ์ไปบริจาคให้วัดพระธรรมกาย เนื่องจากการบริจาคเงินให้วัดพระธรรมกายเป็นการยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯ ไปบริจาค ตามกฎหมายจะถือว่า 'วัดพระธรรมกายรับของโจร' ดีเอสไอควรประสานกับทางวัดว่าเงินดังกล่าวเป็นของสหกรณ์ฯ และควรติดตามเอาคืนมาให้สหกรณ์ฯ"
    ครับ....ก็ชัดแล้ว!
    ยักยอกเป็นหมื่นล้าน ดีเอสไอตั้งข้อหาแค่ยักยอกทรัพย์  แก้ต่างให้เสร็จสรรพว่านายศุภชัยทำคนเดียว ไม่มีเจตนาโกงประชาชน
    ดังนั้น นายศุภชัยจึงไม่ถูกสอบไปสู่ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ไม่ถูกสอบข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ไม่ถูกข้อหาฟอกเงิน มีพฤติกรรมอั้งยี่ ซ่องโจร
    ทั้ง ดีเอสไอ และ ปปง.ก็ซื่อและแสนดี มีสวรรค์ชั้นใด-ชั้นหนึ่งอยู่ฟรีแน่นอน ธัมมชโยบอก เงินที่เขายักยอกมาถวาย ๙๐๐ กว่าล้านนี่ เป็นเงินบริจาค ก็เชื่อทันทีทันใด
    ไม่มีการตั้งข้อหารับของโจร.....
    ไม่มีการอายัดบัญชีเงินวัดพระธรรมกายและเงินบัญชีธัมมชโย ตรวจสอบที่มา-ที่ไป แต่อย่างใด
    และเป็นดีเอสไอ-ปปง.ในระบอบทักษิณที่แสนดี ไม่เฉลียวอย่างที่ตำรวจ หรือดีเอสไอ หรือ ปปง.ทั่วโลกเขาต้องเฉลียว เมื่อเจอลักษณะนี้ รูปการณ์มีความน่าจะเป็นว่า
    วัดพระธรรมกาย ธัมมชโย กับนายศุภชัย.....
    พฤติกรรมส่อ มีส่วนรู้เห็น มีส่วนได้-ส่วนเสีย ในการยักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น กว่า ๙๐๐  ล้าน
    โดยอาศัยคำว่า "เงินบริจาค" ให้วัด ให้พระ เป็นการ "ฟอกเงินโจร"!
    ทำไมผมจึงตั้งข้อสงสัยว่า..........
    การยักยอกเงินสหกรณ์ของนายศุภชัย มีส่วนเกี่ยวพันวัดธรรมกายและธัมมชโย?
    ผมไม่ได้สงสัยเอาเอง แต่เป็นการสงสัย "ตามทางสอบสวน" ที่ควรจะเป็น ตามหลักฐานทั่วไป และที่ "ไทย พับลิก้า" รวบรวมไว้
    นายศุภชัยบริจาคด้วยเช็คสหกรณ์ฯ คลองจั่น ให้วัดพระธรรมกายและธัมมชโยในชื่อ "พระราชภาวนาวิสุทธิ์" โดยตรงกว่า ๙๐๐ ล้าน ช่วงปี พ.ศ.๒๕๕๒ ที่นายศุภชัยเป็นประธานสหกรณ์ฯ
    ช่วง ๑ ม.ค.๕๒ - ๓๑ พ.ค.๕๕ เงินทดรองจ่ายนายศุภชัย ที่สั่งจ่ายจากบัญชีธนาคารสหกรณ์ฯ คลองจั่น ให้กับวัดพระธรรมกายและธัมมชโย
    เช็ค ๑๕ ใบ เป็นเงิน ๘๑๔.๗๘ ล้าน!
    เงินทดรองจ่ายนายศุภชัย ที่เป็นการจ่ายโอนเข้าบัญชีธนาคาร ปรากฏบัญชีเลขที่ 114-0-10317-2 เจ้าของบัญชีชื่อพระครูปลัดวิจารย์ ธีรังกุโร (พระวัดพระธรรมกาย)      
    ๒๒ รายการ คิดเป็นเงิน ๑๑๙.๗๒ ล้าน!
    ถามกันตรงๆ ไม่นายศุภชัยที่บริจาคบ้า คนรับบริจาค คือวัดธรรมกายและธัมมชโยก็บ้า
    คนไม่รู้จักกันเลย และเอาเงินที่ไหนมา ศรัทธาอะไรกันนัก-กันหนา ฝ่ายให้ ก็ตั้งหน้าตั้งตาให้ ฝ่ายรับก็หลับหู-หลับตารับ ไม่สงสัย ไม่ไต่ถาม ไม่เอะใจอะไรกันเลย...ซักคำ
    ถามว่า...มันเป็นอย่างนั้นได้หรือ?
    ดีเอสไอ ปปง.เชื่อง่ายๆ เดียรถีย์บอกยังไง ก็เชื่อหมดตามนั่น อย่างนั้นหรือ?
    ด้วยวิสัยเจ้าพนักงานสอบสวน ต้องไม่เชื่อทันที-ทันใดแน่ ต้องตั้งประเด็นสอบทันทีว่า...
    นายศุภชัยกับวัดธรรมกายและธัมมชโย
    น่าจะเป็นแก๊งร่วมกันยักยอกเงินสหกรณ์ฯ มา แล้วเอามาซุกวัด-ซุกพระ เป็นการฟอกเงิน!?
    ซึ่งวัดและธัมมชโยก็ยอมรับว่าเงินนี้มาจากนายศุภชัยอยู่แล้ว  ดีเอสไอก็น่าจะทำตามข้อสังเกตอนุกรรมาธิการฯ คือตั้งข้อหา "รับของโจร" และอายัดบัญชีทั้งหมดไว้ตรวจสอบ
    แต่ ทั้งดีเอสไอ และ ปปง.ไม่ทำเลย เชื่อคำพูดเดียรถีย์ว่า...รับบริจาคโดยสุจริต?
    เชื่อนายไชยบูลย์ ในคราบเหลืองได้อย่างไร..............?
     เพราะมีหลักฐานยืนยันชัดว่า นายไชยบูลย์หรือธัมมชโยคนนี้ โกหก กะล่อน-ปล้อนปลิ้น "ระดับโลก" โดยสันดาน
    ขนาดต่อหน้าศาล ธัมมชโยยังให้การ "โกหก" แบบหน้าด้านๆ!
    คิดดูแล้วกัน......
    กับคนอื่น อย่างดีเอสไอหรือ ปปง.ซึ่งก็ส่อว่า "ไม่เต็มร้อย" ในการทำคดีอยู่แล้ว ธัมมชโยแทบไม่ต้องโกหกก็พร้อมเชื่อ จึงเป็นไปได้หรือที่ "เจ้าโล้นวิปริต" มันจะ นะจ๊ะตามเป็นจริง?
    วันนี้ จะยังไม่พูดถึง "ความเชื่อมโยง" แนบแน่น "เส้นทางการเงิน" จากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น โดยนายศุภชัย สู่เส้นทางการเงินธรรมกายและ "โล้นกะล่อนโลก"
    เพียงอยาก "ขับเน้น" ให้เห็นถึงความเป็นโล้นกะล่อนโลก ที่เชื่อถือวาจาคำพูดใดๆ ไม่ได้
    แต่คณะสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคม ยังประคบ-ประหงม เลี้ยงให้เป็นตัวหนอน ๒ เพศใน ๑ ร่าง กัดไชรากแก้ว-รากฝอยพระพุทธศาสนาให้ฝ่อตาย เพื่อมันจะขยายเผ่าพันธุ์ยึดครอง
    คนพูดโกหกที่ไม่ทำชั่วไม่มีในโลก เป็นฉันใด โล้นกะล่อน "ธัมมชโย" ก็เป็นฉันนั้น!
    ฉะนั้น เมื่อธัมมชโย กล้าพูดโกหกต่อหน้าศาลได้ว่า "....
    ไม่เคยรู้จักนายศุภชัยเป็นการส่วนตัวมาก่อน เขาถวายเงินก็รับโดยสุจริต"!    
    ทั้งที่เป็นที่รู้-ที่ประจักษ์ทั่วไปว่า....
    นายศุภชัยนั้น เป็นหนึ่งในหัวขบวนพุทธพาณิชย์ของธรรมกายมาเป็นสิบๆ ปี พฤติกรรมเป็นแขน-เป็นขาขบวนการธรรมกายด้านการเงินประสานเป้าหมายองค์การสัญลักษณ์พีระมิด อย่างที่เห็นในธนบัตรใบละ ๑ ดอลลาร์
    ทั้งเป็นผู้ดูแลเงินวัดพระธรรมกาย ทั้งทำไร่ปลูกดอกดาวเรืองเรียกว่าดาวรวย เรียกพ่อจ๊ะ..พ่อจ๋า เอาดาวรวยไปถวายโรยรองตีนแก๊งธุดงค์ลวงโลก
    คนเอาเงินเป็นพันล้านมาให้ บอกไม่รู้จักกัน คนรู้นอก-รู้ในอยู่ด้วยกันเป็นสิบปี พอมีเรื่องบอกไม่รู้จักกัน
    แล้ว "สหกรณ์เครดิตยูเนียนมงคลเศรษฐี" เจ้าของโครงการสินเชื่อคูปองเงินทำบุญเททองหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อวัดปากน้ำ ธุรกิจเครือข่ายธรรมกายนั่นล่ะ
    นายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นคนก่อตั้งและคนบริหารจัดการใช่มั้ย?
    แล้วอย่างนี้ ธัมมชโยโกหกหัวโล้นๆ ว่า "ไม่เคยรู้จักนายศุภชัย"...ใครจะเชื่อ
    เหมือนกับโกหกว่า.....
    "บริษัท มงคลเศรษฐีเอสเตท จำกัด" อีกหนึ่งธุรกิจธรรมกาย ไม่มีเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น "ไหลเข้ามา" ชนิดถูกต้องโดยไม่สุจริต
    แล้วอย่างนี้ ดีเอสไอ และ ปปง.ไม่สงสัย ไม่อายัด ไม่ตรวจสอบ ในความเป็นขบวนการยักยอก-ฟอกเงิน ระหว่างนายศุภชัยกับธรรมกายและธัมมชโย
    ก็น่าสงสัย ปปง.และดีเอสไอ นะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่