***** (เเฉ คดี) พระธัมมชโย “ฟอกเงิน-รับของโจร” สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ***** ( by : อินทรีเเดง รีเทิร์น )

กระทู้สนทนา
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

จากกรณีสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกหมายเรียกไปยัง พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะกระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ในคดียักยอกทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ดังนั้น เมื่อค่ำวันที่ 30 มีนาคม รายการ คม ชัด ลึก จึงได้จัดเสวนาในหัวข้อ “ธัมมชโย” ฟอกเงิน-รับของโจร ?
            ดร.นพ.มโน เลาหวณิช กรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา กล่าวว่า การแถลงข่าวของทางวัดพระธรรมกาย เมื่อเย็นวันที่ 30 มีนาคม เข้าใจว่า ต้องการสื่อไปถึงสาธารณชน และเป็นการแก้ภาพลักษณ์ของวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าอาวาส ก็คือ ธัมมชโย ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
            การแถลงข่าวดังกล่าวไม่ผิดความคาดหมาย เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2542 ขณะนั้นวัดพระธรรมกายมีคดีความต่างๆ มากมาย ถึง 52 คดี จนกระทั่งนำมาสู่การคืนที่ดิน ซึ่งเอาเงินออกมาจากวัดพระธรรมกาย แล้วไปซื้อที่มาครอบครอง 7 ปี และต้องคืนให้ในปี 2549 ก็จะบอกเหมือนเดิมว่า ไม่รู้นะจ๊ะ เพราะเขาบริจาคให้ ไม่รู้ใครบริจาค
            คำให้การของ ธัมมชโย ตั้งแต่วันแรก บอกว่า ไม่รู้จักเลยว่า ศุภชัย ศรีศุภอักษร คือใคร ทั้งๆ ที่คำให้การและหลักฐาน ระบุชัดเจนว่า ศุภชัย คือ ไวยาวัจกร ของวัดพระธรรมกาย ถึง 15 ปี จู่ๆ เจ้าอาวาสจะไม่รู้จักได้อย่างไร
            และจากคำสารภาพของ ศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งให้การต่อหน้าศาล เขาบริจาคเงินตามคำบัญชาของธัมมชโย ดังนั้น คำพูดของธัมมชโย จึงขัดต่อความเป็นจริง แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไรว่าเงินเข้ามาวัดเป็นจำนวนมาก ทั้งเข้ามาทางมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ก็มี เข้ามาโดยตรงกับธัมมชโย หรือเข้ามาทางวัดพระธรรมกาย ก็มี เข้ามาเป็นจำนวนมากมายมหาศาล
            เงินที่วัดพระธรรมกายส่งคืนให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกว่า 600 ล้านบาท เกิดจากการต่อรองกับกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งกรรมการสหกรณ์ ไม่ได้ตรวจสอบว่า เงินที่เอาไปเข้าวัดพระธรรมกาย เป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจริงๆ แล้วเยอะมากเป็นเงินหลายพันล้านบาท
            ปัจจุบัน ผู้เสียหายของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยังไม่มีใครได้รับเงินคืนเลย
            อยากจะถามกับทางผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นว่า ในขณะที่ยังไม่ได้สืบ ไม่ได้ไถ่ถามกับดีเอสไอ ทำไมกรรมการสหกรณ์จึงรีบด่วนสรุป มีหนังสือกับทนายว่า จะไม่เอาเรื่อง ทั้งๆ ที่ยังไม่ทราบว่า เขาเอาเงินไปเท่าไหร่ แล้วพอเขายื่นมา 600 กว่าล้าน บาท ถึงรีบรับเลย พอตอนหลังมาทราบว่า มีมากกว่านั้น แล้วจะทำอย่างไร เพราะบอกว่า จะไม่ไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับเขาแล้ว
            การที่วัดพระธรรมกายบอกว่า นำเงินบริจาคไปสร้างศาสนสถานตามเจตนาของผู้บริจาคหมดแล้ว ทางวัดไม่สามารถนำเงินของผู้บริจาครายอื่นในวัตถุประสงค์อื่นมาคืนให้แก่สหกรณ์ ซึ่งการพูดเช่นนี้ก็ได้ตลอด เพราะวัดพระธรรมกายมีโครงการสร้างตลอดทั้งปี ทุกจังหวะ ทุกเดือน แม้แต่ตอนนี้ก็มีการบอกบุญ
            การนำเงินมาถวายวัด แล้วเจ้าอาวาสจะบอกว่า ไม่รู้ เป็นไปไม่ได้
            นายประกิต พิลังกาสา ประธานกรรมการบริหารลูกหนี้/ผู้ทำแผน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ได้คืนมาแล้วจากทางวัดพระธรรมกาย 684 ล้านบาท ได้รับมาเมื่อปลายปี 2558
            ล่าสุดวันนี้ได้รับแจ้งจากดีเอสไอว่า ยังมีเช็คจากทางวัดพระธรรมกายอีกจำนวนหนึ่ง ก็ติดต่อไปที่วัดเพื่อขอรับ เป็นจำนวนเงินประมาณกว่า 370 ล้านบาท
            สำหรับคำถามที่ว่า สหกรณ์หมดปัญหากับทางวัดพระธรรมกายหรือยัง ? ขอตอบว่า ขึ้นอยู่กับหลักฐาน คือ เราได้รับหลักฐานว่า ทางวัดเอาไปเท่าไหร่ เราก็ขอให้ชำระคืนมาเท่านั้น ซึ่งทางเราได้รับทราบข้อมูลเป็นระยะๆ แต่ไม่ทราบว่า หมดหรือยัง ก็ต้องพึ่งทางดีเอสไอว่าตรวจสอบหมดหรือยัง ?
            ความคืบหน้าแผนฟื้นฟู ขณะนี้เข้าสู่โหมดของการบริหารแผนตามที่ศาลเห็นชอบแผน
            การช่วยเหลือเยียวยา ผู้เสียหายทั้งหมด คงจะต้องใช้ระยะเวลานานตามแผน อาจจะถึง 20 ปี ระยะแรกในปี 2559 นี้ จะช่วยเหลือเยียวยาได้ประมาณ 7% เกือบ 8%
            ไพรัช ชมะฤกษ์ สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าทางวัดพระธรรมกายจะไม่รู้จัก ศุภชัย ศรีศุภอักษร เพราะศุภชัยเป็นไวยาวัจกรของวัดพระธรรมกาย ก่อนจะถูกปลด และการที่ศุภชัยบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก การที่จะบอกว่าไม่รู้จัก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จัก
            ขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินคืน เพราะยังเพิ่งเข้าอยู่ในแผนฟื้นฟู จะเริ่มคืนเงินให้ในปีนี้ โดยครั้งแรกจะคืนให้วันที่ 30 มิถุนายน 2559 และครั้งต่อไปในวันที่ 31 ธันวาคม 2559
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่