++++ ความยุติธรรมที่ล่าช้า = ความอยุติธรรม ++++

http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000049216

เหนื่อยใจ ท้อแท้กับการทำหน้าที่ ที่ล่าช้าของกระบวนการยุติธรรมไทย
คดีพันธมิตร ปิดโน่นปิดนี่ ตั้งแต่ปี 51  จนถึงตอนนี้ผ่านมาจะครบ 10 ปีแล้ว
คนพวกนี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการ ยังคงอยู่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง นัดสือบพยาน
ซึ่งการนัดแต่ละที นัดกันเป็นปีปี ผมก็เพิ่งเคยเจอ ว่ามันมีอะไรให้ต้องลากยาว
ถูลู่ถูกัง ช่วยกันขนาดนั้น  ผิดกับอีกฟากฝั่งหนึ่ง  คือคดีของคนเสื้อแดง ที่เกิดขึ้นทีหลัง

คนพวกนี้ใช้กระบวนการยุติธรรม อันเดียวกันนี้แหละ ลากคอคนเสื้อแดง เข้าคุกจนจะหมดแล้ว
บางรายเข้าไปติดในคุกจนได้ออกมาจากคุกแล้วก็มี มันทำให้ประชาชนตาดำๆ อดคิดไม่ได้ว่า
พลเมืองกลุ่มหนึ่ง เป็นพลเมืองที่มีเจ้าของ มีเส้นสาย อาศัยกระบวนการยุติธรรมคอยช่วยเหลือ
มาโดยตลอด  แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง คือพวกที่ไม่มีเส้น และยืนอยู่คนละฝั่ง  คนพวกนี้หายใจดังก็ไม่ได้
ผิดไปเสียหมด  อันนั้นก็ไม่ใช่ อันนี้ก็ไม่ดี ด้วยเหตุที่คนพวกนี้ไม่ยอมไปก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง
ที่คนมีอำนาจพวกนี้ถือหางอยู่  

สุดท้ายก็ต้องพานพบกับชะตากรรมที่เห็น คือการบังคับใช้กฏหมาย
อย่างเฉียบขาด รวดเร็ว ปานฟ้าผ่า  ส่วนอีกฝั่งที่เป็นพวกเดียวกัน กระบวนการยุติธรรม ก็เดินเป็นเต่าป่วย
เดินไปบ้าง พักไปบ้าง พอมีคนท้วง คนเอาไม้มาแหย่ก็ลุกขึ้นเดินที  แล้วแบบนี้ยังอยากจะร้องหา
ความปรองดอง ความสามัคคีของคนในชาติ กันอยู่อีกหรือ

ร้องไปก็เท่านั้นครับ เพราะกระบวนการ ปรองดอง สามัคคี ต่าง ๆ ถูกทำลายสิ้นด้วยกระบวนการยุติธรรม
หรือที่เรียกกันว่า ตุลาการภิวัฒน์ คือใช้กฏหมายปฏิรุปทุกอย่างที่ใจตัวเองอยากจะให้เป็น
ตัวอย่างก็เห็นชัด ๆ หลายกรณี  ที่คนของตัวเอง ถูกกระบวรการพิณาคดีอย่างล่าช้า มีเสศนัย
ถ้าไม่หูหนวก ตาบอด หรืออคติจนเกินเหตุ   คงรู้คงทราบได้ไม่อยากเย็นอะไร

กระบวนยุติธรรมที่ล่าช้า  ความหมายก็คือ ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมนี้นี่เอง
หลายสิ่งหลายอย่าง เอียงกระเท่เร่  เอียงจนประชาชนสัมผัสได้  ความแตกแยกของประชาชนในประเทศ
ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนมาจากการบังคับใช้กฏหมาย ที่ไม่สุจริต เที่ยงธรรม มีการช่วยเหลือ
ประวิงเวลา แก่จำเลยในหลาย ๆ คดีที่เป็นพวกพ้องของตัวเอง  หรือพวกที่ตัวเองสนับสนุน

หากอยากเห็น ประเทศสงบสุข  ประชาชนรักใคร่กลมเกลียว สมัคร สมานสามัคคี
สิ่งที่จะต้องกระทำเป็นอันดับแรกเลย คือการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม  ขอให้พิจารณา
หรือตัดสินตามข้อกฏหมาย  สุจริต  เที่ยงธรรม ตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติว่าฝ่ายใหนเป็นฝ่ายใหน
หากกระทำผิด ก็ต้องรับโทษตามกกหมาย ไม่มีพวกฉัน พวกเธอ

ประชามติที่จะมาถึง ก็เช่นกัน  ประชาชน ไม่ได้มีความวิตก หรือเกรงกลัวว่า ประชามติจะผ่านหรือไม่
แต่สิ่งที่เขาวิตก และเกรงกลัวเป้นที่สุด  ก็คือ  การทำหน้าที่ของ กกต ว่าได้กระทำการโดยสุจริต เที่ยงธรรม
ตรวจสอบได้ หรือเปล่า  ส่วนผลประชามติออกมาเช่นไร  นั่นย่อมสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน
ได้เป็นอย่างดี  ไม่ใช่ใช้กลดกงอย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อให้ประชามติเป็นไปตามที่ใจตัวเองต้องการ

เราจะตั้งกลุ่มก๊วนอย่างไร เพื่อตรวจสอบ ถ่วงดูลย์ การทำหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการลงประชามติ ว่า
ได้ทำหน้าที่สุจริตเที่ยงธรรม ตรงไปตรงมาหรือเปล่า  ผลออกมาเป็นอย่างไร  ก็คงจะมีทั้งผู้ผิดหวัง
และสมหวังอยู่ดี  แต่อยากได้ยิน ได้รู้จากปากประชาชนว่า ประชามติ ครั้งนี้ สุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้
เพื่อเป็นหนทางทอดสะพาน ความปรองดอง ความสมัครสมานสามัคคีกลับสู่ประเทศอีกครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่