ร้านตั้งอยู่ภายในซอยทองหล่อ 9 เข้าซอยประมาณ 200 เมตร ร้านค่อนข้างโดดเด่น เพราะอยู่หัวมุม และสังเกตเห็นง่าย ร้านค่อนข้างใหญ่ค่ะ การเดินทาง: ถ้านำรถส่วนตัวมาเอง สามารถนำมาจอดบริเวณร้านได้เลยค่ะ ที่จอดรถค่อนข้างเยอะ แต่หากนั่งรถไฟฟ้า BTS มา และต่อพิ่วิน หรือ Taxi เข้ามาสะดวกดีค่ะ บรรยากาศร้าน: ร้านมีหลากหลายมุมให้เลือกนั่งค่ะ และจะเน้นตกแต่งแบบเรียบ ๆ สบาย ๆ ร้านโปร่งโล่งดีค่ะ
การบริการ: เจ้าของร้านน่ารัก เป็นการเอง ใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดี พนักงานให้คำแนะนำในเรื่องของเมนูเป็นอย่างดี ยิ้มแย้ม แจ่มใสดีค่ะ
เวลาเปิดให้บริการ: จ - ศ ช่วง 11:30 - 14:30 น. และช่วง 17:30 - 22:30 น.
ส - อา 11:30 น. ถึง 23:00 น. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ 02-712-9991
คอพิซซ่าห้ามพลาด... ยิ่งถ้าชอบซีฟู้ดและพาสต้า ต้องมาให้ได้! กับ เมนู แบบ Real-Italian ที่ร้าน Limoncello
Tags ต้นตำรับ,อาหารอิตาเลียน,บรรยากาศดี
ด้วยความที่คุณ Roberto Ugolini (เจ้าของร้าน) อยากจะนำเสนออาหารและบรรยากาศสไตล์อิตาเลียนแท้ๆในประเทศไทย จึงเป็นต้นกำนิดของร้าน"Limoncello" สาขาแรกที่ภูเก็ต
การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ทัสคานีร่วมสมัยที่สามารถรวมกลิ่นอายความเป็นอิตาเลียนต้นตำรับ แต่ก็ยังมีความเป็นมิตรต่อลูกค้าทุกๆ ชีวิต
มุม Outdoor
Menu
แต่ถึงบรรยากาศ ที่ร้าน"Limoncello" จะเป็นมิตรและดีงามแค่ไหน เมนูอาหารก็ต้องจัดเต็ม! ซึ่งทางทีมเชฟภูมิใจนำเสนอว่าเป็น “Real Italian” เน้นใช้วัตถุดิบนำเข้าจากยุโรปซึ่งแต่ละอย่างๆ นี้ไม่ธรรมดาเลย!
ประเดิมกันแบบ Healthy สดชื่นๆ กับ “Trio of Fish Carpaccio” (470 บาท) ทางเชฟได้บอกเราว่า “เราใช้ปลา 3 ชนิด ทั้ง แซลมอน, ทูน่า และ ปลาหิมะ เพื่อสร้างความหลากหลาย” เสิร์ฟพร้อมผักร็อคเกต, ชิสพาร์เมซาน, และน้ำสลัดเบาๆ และขนมปังสไลซ์ ตามสูตรคาร์ปาชีโอ้แบบดั้งเดิม
สำหรับใครที่เป็นคอพิซซ่า... มาถึงร้าน"Limoncello" ทั้งที ควรจัดสักชุด!
“Pizza Venezia” (470 บาท) เป็นการรวมตัวระหว่าง แป้งพิซซ่าที่ทาซอสสูตรเฉพาะอบจนได้ที่ แล้วค่อยโรยชีสมาสกาโปน, ชีสมอสซาเรลล่า, ปาร์ม่าแฮม และมะเขือเทศเชอร์รี ทางเชฟบอกเราว่าของทุกอย่างล้วนนำเข้ามาจากอิตาลี ตั้งแต่ตัวชีสมอสซาเรลล่า ไปยันแป้งพิซซ่า!
รีซอตโต ของร้าน "Limoncello" ก็น่าลิ้มลอง! สำหรับตัว “Risotto with Truffle & Porcini Mushrooms” (490 บาท) ทางทีมเชฟจะใช้ข้าวพันธุ์พิเศษอย่าง Acquerello ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากเชฟอิตาเลียนมือฉมังทั่วโลกว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดสำหรับการทำรีซอตโต
ทีเด็ดยังไม่จบแค่นี้! เพราะ ร้าน "Limoncello" ก็เอาจริงเอาจังกับเมนูซีฟู้ด! ทีมเชฟบอกกับพวกเราว่า จะใช้แต่ปลาและวัตถุดิบจากท้องทะเลนำเข้าที่สดที่สุด!
“Pan Fried imported Seabass with Scallops in Livornese Style” (1520 บาท) ก็จัดเต็มสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นปลากะพงนำเข้าจากฝรั่งเศสเนื้อแน่น ชุ่มฉ่ำ รสชาติสะอาดสะอ้าน ราดซอสมะเขือเทศสไตล์ Livornese รสชาติจัดจ้านสะใจวัยรุ่น เข้ากันได้ดีกับ หอยเชลล์จากอเมริการสหวานฉ่ำ เนื้อเด้งสุดๆ
“Linguini with Canadian Lobster in White wine sauce” (1300 บาท) เมนูนี้เรียบง่ายก็จริงแต่อลังการสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น Canadian Lobster เป็นๆ (ย้ำทางร้านจะใช้ กุ้งที่มีชีวิตเท่านั้น!) ผัดคลุกเคล้ากับเส้นพาสต้าและซอสไวน์ขาวเสิร์ฟมาทั้งตัวแบบบิ๊กๆ คุ้มราคาสุดๆ! (จะให้ดีควรหาคู่มารับประทานด้วย
)
ล้างปากล้างคอกันด้วย ของหวานแสนสดชื่นอย่าง “Panna Cotta” (230 บาท) เสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล
แกล้มด้วย ซิกเนเจอร์ Mocktail อย่าง "On the Beach" (190 บาท) ก็สดชื่นใช่ย่อย
การเดินทาง
วันนี้ขอบอกเลยว่าอิ่ม! ฟิน! และคุ้มค่าสุดๆ กับอาหารแบบ “Real Italian” ที่จัดเต็มในทุกๆรายละเอียด อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็ให้มาโดนสักรอบที่ร้าน" Limoncello" ทองหล่อซอย 9 ตัวร้านจะอยู่ตรงฝั่งขวาเลย สี่แยกมานิดหน่อย สำหรับใครที่ต้องการจัดเลี้ยงทางร้านก็มีพื้นที่บนชั้น 2
[CR] Limoncello Ristorante Pizzeria ทองหล่อ 9
การบริการ: เจ้าของร้านน่ารัก เป็นการเอง ใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดี พนักงานให้คำแนะนำในเรื่องของเมนูเป็นอย่างดี ยิ้มแย้ม แจ่มใสดีค่ะ
เวลาเปิดให้บริการ: จ - ศ ช่วง 11:30 - 14:30 น. และช่วง 17:30 - 22:30 น.
ส - อา 11:30 น. ถึง 23:00 น. สามารถติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ 02-712-9991
คอพิซซ่าห้ามพลาด... ยิ่งถ้าชอบซีฟู้ดและพาสต้า ต้องมาให้ได้! กับ เมนู แบบ Real-Italian ที่ร้าน Limoncello
Tags ต้นตำรับ,อาหารอิตาเลียน,บรรยากาศดี
ด้วยความที่คุณ Roberto Ugolini (เจ้าของร้าน) อยากจะนำเสนออาหารและบรรยากาศสไตล์อิตาเลียนแท้ๆในประเทศไทย จึงเป็นต้นกำนิดของร้าน"Limoncello" สาขาแรกที่ภูเก็ต
การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ทัสคานีร่วมสมัยที่สามารถรวมกลิ่นอายความเป็นอิตาเลียนต้นตำรับ แต่ก็ยังมีความเป็นมิตรต่อลูกค้าทุกๆ ชีวิต
มุม Outdoor
Menu
แต่ถึงบรรยากาศ ที่ร้าน"Limoncello" จะเป็นมิตรและดีงามแค่ไหน เมนูอาหารก็ต้องจัดเต็ม! ซึ่งทางทีมเชฟภูมิใจนำเสนอว่าเป็น “Real Italian” เน้นใช้วัตถุดิบนำเข้าจากยุโรปซึ่งแต่ละอย่างๆ นี้ไม่ธรรมดาเลย!
ประเดิมกันแบบ Healthy สดชื่นๆ กับ “Trio of Fish Carpaccio” (470 บาท) ทางเชฟได้บอกเราว่า “เราใช้ปลา 3 ชนิด ทั้ง แซลมอน, ทูน่า และ ปลาหิมะ เพื่อสร้างความหลากหลาย” เสิร์ฟพร้อมผักร็อคเกต, ชิสพาร์เมซาน, และน้ำสลัดเบาๆ และขนมปังสไลซ์ ตามสูตรคาร์ปาชีโอ้แบบดั้งเดิม
สำหรับใครที่เป็นคอพิซซ่า... มาถึงร้าน"Limoncello" ทั้งที ควรจัดสักชุด!
“Pizza Venezia” (470 บาท) เป็นการรวมตัวระหว่าง แป้งพิซซ่าที่ทาซอสสูตรเฉพาะอบจนได้ที่ แล้วค่อยโรยชีสมาสกาโปน, ชีสมอสซาเรลล่า, ปาร์ม่าแฮม และมะเขือเทศเชอร์รี ทางเชฟบอกเราว่าของทุกอย่างล้วนนำเข้ามาจากอิตาลี ตั้งแต่ตัวชีสมอสซาเรลล่า ไปยันแป้งพิซซ่า!
รีซอตโต ของร้าน "Limoncello" ก็น่าลิ้มลอง! สำหรับตัว “Risotto with Truffle & Porcini Mushrooms” (490 บาท) ทางทีมเชฟจะใช้ข้าวพันธุ์พิเศษอย่าง Acquerello ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากเชฟอิตาเลียนมือฉมังทั่วโลกว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุดสำหรับการทำรีซอตโต
ทีเด็ดยังไม่จบแค่นี้! เพราะ ร้าน "Limoncello" ก็เอาจริงเอาจังกับเมนูซีฟู้ด! ทีมเชฟบอกกับพวกเราว่า จะใช้แต่ปลาและวัตถุดิบจากท้องทะเลนำเข้าที่สดที่สุด!
“Pan Fried imported Seabass with Scallops in Livornese Style” (1520 บาท) ก็จัดเต็มสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นปลากะพงนำเข้าจากฝรั่งเศสเนื้อแน่น ชุ่มฉ่ำ รสชาติสะอาดสะอ้าน ราดซอสมะเขือเทศสไตล์ Livornese รสชาติจัดจ้านสะใจวัยรุ่น เข้ากันได้ดีกับ หอยเชลล์จากอเมริการสหวานฉ่ำ เนื้อเด้งสุดๆ
“Linguini with Canadian Lobster in White wine sauce” (1300 บาท) เมนูนี้เรียบง่ายก็จริงแต่อลังการสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น Canadian Lobster เป็นๆ (ย้ำทางร้านจะใช้ กุ้งที่มีชีวิตเท่านั้น!) ผัดคลุกเคล้ากับเส้นพาสต้าและซอสไวน์ขาวเสิร์ฟมาทั้งตัวแบบบิ๊กๆ คุ้มราคาสุดๆ! (จะให้ดีควรหาคู่มารับประทานด้วย )
ล้างปากล้างคอกันด้วย ของหวานแสนสดชื่นอย่าง “Panna Cotta” (230 บาท) เสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล
แกล้มด้วย ซิกเนเจอร์ Mocktail อย่าง "On the Beach" (190 บาท) ก็สดชื่นใช่ย่อย
การเดินทาง
วันนี้ขอบอกเลยว่าอิ่ม! ฟิน! และคุ้มค่าสุดๆ กับอาหารแบบ “Real Italian” ที่จัดเต็มในทุกๆรายละเอียด อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ก็ให้มาโดนสักรอบที่ร้าน" Limoncello" ทองหล่อซอย 9 ตัวร้านจะอยู่ตรงฝั่งขวาเลย สี่แยกมานิดหน่อย สำหรับใครที่ต้องการจัดเลี้ยงทางร้านก็มีพื้นที่บนชั้น 2
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น