ไขมันเป็นสารอาหารหลักอย่างหนึ่งที่เราทานกันอยู่ทุกมื้อทุกวัน
ส่วนใหญ่แล้วสื่อป้จจุบัน จะทำให้ภาพลักษณ์ของไขมัน ดูอันตราย เสี่ยงกับโรคไขมัน หลอดเลือดหัวใจ สมองตีบ และอะไรอีกมากมาย
ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถูกครับ เพราะไขมันส่วนใหญ่ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเรา เป็นไขมันที่ไม่ดี
แต่วันนี้ผมจะลงไปที่พื้นฐาน ที่หลายคนอาจลืมไป หรือไม่มีเวลาทำความเข้าใจ
ประเด็นสำคัญคือ ไขมันมีทั้งชนิดที่ดี ที่ควรทาน กับชนิดที่ไม่ดี ไม่ควรทานครับ
ไขมันที่ดี นอกจากจะไม่ก่อโรคแล้ว ยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคอีกด้วย
ไขมันที่ไม่ดี แม้เพียงปริมาณเล็กน้อย ก็ทำให้เกิดโรคได้ครับ
ไขมันที่ดี , ไขมันไม่อิ่มตัว , Unsaturated fat ทั้งหมดนี้คือสิ่งเดียวกัน คือไขมันที่ร่างกายต้องการครับ
ไขมันไม่อิ่มตัว ชื่อก็บอก เป็นพวกที่ปรับตัวได้ ทำปฏิกริยากับสิ่งอื่นได้ง่าย พวกนี้ได้รับงานวิจัยรับรอง ว่าช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้มากมาย ทั้งโรคเบาหวาน ที่ทราบกันอยู่แล้วว่าอันตรายมาก อีกทั้งหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขมัน
ดียิ่งกว่ายาเสียอีกครับ
ฉะนั้น กินอย่างสบายใจได้เลยนะครับ
จะหากินจากไหนล่ะ ?
ของดีๆมีประโยชน์ หาไม่ยาก ไม่แพงอย่างที่คิดครับ
-ปลา กินปลา 2-3 ครั้ง / สัปดาห์ ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง ก็นี่เลยครับ ทูนา แซลมอน คนชอบอาหารญี่ปุ่นได้ไปเต็มๆ
-ถั่วลิสง
-เมล็ดทานตะวัน
-ข้าวโพด
-ถั่วเหลือง
-อัลมอนด์
กลุ่มน้ำมันปรุงอาหาร เป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงเหมือนกัน เพราะอาหารที่เรากินส่วนใหญ่ก็ใช้น้ำมันอยู่แล้ว ราคาอาจจะสูงขึ้นมาหน่อย ร้านอาหารทั่วไปจึงไม่นิยมใช้ แต่เราซื้อมาใช้ที่บ้านได้เลยครับ กินอร่อย สบายใจ
-น้ำมันคาโนลา
-น้ำมันมะกอก
กินเท่าไรถึงจะเหมาะสม ?
องค์กรโรคหัวใจของประเทศอเมริกา ( American heart association ) แนะนำว่า
ควรมีไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนประกอบ 15% ของแคลอรี่ในแต่ละวัน
ในคนทั่วไปก็ตกประมาณ 30-40 กรัมต่อวัน
หรือเท่าเมล็ดทานตะวัน 1 ขีดครับ
มีหลักฐานรับรองว่าช่วยป้องกันโรคได้ชัดเจน
เห็นไหมครับว่าหาไม่ยากขนาดนั้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไขมันอิ่มตัว ( Saturated fat )
แม้งานวิจัยใหม่ๆ ได้ผลไปในทางว่า ไขมันอิ่มตัว ไม่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่า "ไม่เกี่ยวแน่นอน" เพราะฉะนั้น วงการแพทย์ ก็ยังแนะนำให้ควบคุมไขมันอิ่มตัวไปก่อนครับ
โดยปริมาณที่แนะนำคือ พลังงานที่ได้จากไขมันอิ่มตัว ควรน้อยกว่า 10% ของแคลอรี่ต่อวันครับ
หรือประมาณ 20 กรัม เทียบเท่าเนื้อหมู 4 ขีด
แหล่งที่มา
-เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น หมู เนื้อ แต่ไก่จะน้อยกว่าเพื่อนครับ
-นม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย โยเกิร์ต
-กะทิ ตัวดีของอาหารไทยเลยครับ ยิ่งกินยิ่งอร่อยมัน ผมนี่ชอบมาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไขมันทราน
มาถึงไขมันตัวแย่ที่สุดแล้วครับ ไขมันทราน หรือ Trans-Fat
ถ้าเทียบคนที่เสียชีวิตจากโรค ไขมันทรานอาจจะทำลายผู้คนมากกว่านิวเคลียร์เสียอีกครับ
ปกติน้ำมันพืชที่ใข้ทอดอาหารนั้น พอทอดไปสักพักจะเริ่มเหม็นหืนและเสียสภาพ
แต่น้ำมันพืชที่ผ่านการทำให้เสถียร จะกลายเป็นน้ำมันทราน ทำให้ทนทานต่อความร้อน ทอดได้นาน ไม่เสียสภาพและเหม็นหืน
ร้านอาหารที่ต้องทอดของบ่อยๆ ครั้งละมากๆ ก็เลยหันมาใช้น้ำมันทรานกัน
ซึ่งต่อมางานวิจัยก็ได้พบว่ามันเป็นปัจจัยที่ก่อโรคได้มากจริงๆ แม้ในปริมาณน้อย
( ไขมันทรานที่เพิ่มขึ้น 2% เพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจ 23% )
สิ่งที่จะตามมาคือ โรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมองตีบ โรคอ้วน เบาหวาน สารพัดโรคที่ลดอายุขัยของพวกเรา
แหล่งที่มา
น่าเสียดายว่าประเทศไทยยังไม่มีกฏหมายบังคับให้ผู้ผลิต ระบุประมาณไขมันทรานออกมาอย่างเป็นทางการ
การจะรู้ให้ชัดว่าอาหารไหนมีไขมันทรานจึงยังทำไม่ได้ครับ
แต่ว่าส่วนใหญ่ที่พบก็ประมาณนี้ครับ
ของทอดทั้งหลายครับ ขนมอบกรอบ มันฝรั่งทอด
ฟาสฟู้ด เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด
ขนมอบ เค้ก โดนัท
ปริมาณที่เหมาะสม
ด้วยความที่ก่อโรคได้มากมาย ไขมันทรานไม่จำเป็นสำหรับร่างกายเลยครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเป็นหมอครับ กำลังทำเพจเกี่ยวกับสุขภาพง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
Facebook :
https://www.facebook.com/qiniccom/
สำหรับใครที่มีคำถาม หรืออยากแชร์ประสบการณ์ในการดูแลรักษาโรคต่างๆ ผมยินดีครับ
ไขมัน กินเป็น ใช้เป็น มีชัยไปกว่าครึ่ง
ส่วนใหญ่แล้วสื่อป้จจุบัน จะทำให้ภาพลักษณ์ของไขมัน ดูอันตราย เสี่ยงกับโรคไขมัน หลอดเลือดหัวใจ สมองตีบ และอะไรอีกมากมาย
ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถูกครับ เพราะไขมันส่วนใหญ่ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเรา เป็นไขมันที่ไม่ดี
แต่วันนี้ผมจะลงไปที่พื้นฐาน ที่หลายคนอาจลืมไป หรือไม่มีเวลาทำความเข้าใจ
ประเด็นสำคัญคือ ไขมันมีทั้งชนิดที่ดี ที่ควรทาน กับชนิดที่ไม่ดี ไม่ควรทานครับ
ไขมันที่ดี นอกจากจะไม่ก่อโรคแล้ว ยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคอีกด้วย
ไขมันที่ไม่ดี แม้เพียงปริมาณเล็กน้อย ก็ทำให้เกิดโรคได้ครับ
ไขมันที่ดี , ไขมันไม่อิ่มตัว , Unsaturated fat ทั้งหมดนี้คือสิ่งเดียวกัน คือไขมันที่ร่างกายต้องการครับ
ไขมันไม่อิ่มตัว ชื่อก็บอก เป็นพวกที่ปรับตัวได้ ทำปฏิกริยากับสิ่งอื่นได้ง่าย พวกนี้ได้รับงานวิจัยรับรอง ว่าช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้มากมาย ทั้งโรคเบาหวาน ที่ทราบกันอยู่แล้วว่าอันตรายมาก อีกทั้งหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขมัน
ดียิ่งกว่ายาเสียอีกครับ
ฉะนั้น กินอย่างสบายใจได้เลยนะครับ
จะหากินจากไหนล่ะ ?
ของดีๆมีประโยชน์ หาไม่ยาก ไม่แพงอย่างที่คิดครับ
-ปลา กินปลา 2-3 ครั้ง / สัปดาห์ ที่มีไขมันไม่อิ่มตัวสูง ก็นี่เลยครับ ทูนา แซลมอน คนชอบอาหารญี่ปุ่นได้ไปเต็มๆ
-ถั่วลิสง
-เมล็ดทานตะวัน
-ข้าวโพด
-ถั่วเหลือง
-อัลมอนด์
กลุ่มน้ำมันปรุงอาหาร เป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงเหมือนกัน เพราะอาหารที่เรากินส่วนใหญ่ก็ใช้น้ำมันอยู่แล้ว ราคาอาจจะสูงขึ้นมาหน่อย ร้านอาหารทั่วไปจึงไม่นิยมใช้ แต่เราซื้อมาใช้ที่บ้านได้เลยครับ กินอร่อย สบายใจ
-น้ำมันคาโนลา
-น้ำมันมะกอก
กินเท่าไรถึงจะเหมาะสม ?
องค์กรโรคหัวใจของประเทศอเมริกา ( American heart association ) แนะนำว่า
ควรมีไขมันไม่อิ่มตัวเป็นส่วนประกอบ 15% ของแคลอรี่ในแต่ละวัน
ในคนทั่วไปก็ตกประมาณ 30-40 กรัมต่อวัน
หรือเท่าเมล็ดทานตะวัน 1 ขีดครับ
มีหลักฐานรับรองว่าช่วยป้องกันโรคได้ชัดเจน
เห็นไหมครับว่าหาไม่ยากขนาดนั้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไขมันอิ่มตัว ( Saturated fat )
แม้งานวิจัยใหม่ๆ ได้ผลไปในทางว่า ไขมันอิ่มตัว ไม่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่า "ไม่เกี่ยวแน่นอน" เพราะฉะนั้น วงการแพทย์ ก็ยังแนะนำให้ควบคุมไขมันอิ่มตัวไปก่อนครับ
โดยปริมาณที่แนะนำคือ พลังงานที่ได้จากไขมันอิ่มตัว ควรน้อยกว่า 10% ของแคลอรี่ต่อวันครับ
หรือประมาณ 20 กรัม เทียบเท่าเนื้อหมู 4 ขีด
แหล่งที่มา
-เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น หมู เนื้อ แต่ไก่จะน้อยกว่าเพื่อนครับ
-นม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย โยเกิร์ต
-กะทิ ตัวดีของอาหารไทยเลยครับ ยิ่งกินยิ่งอร่อยมัน ผมนี่ชอบมาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไขมันทราน
มาถึงไขมันตัวแย่ที่สุดแล้วครับ ไขมันทราน หรือ Trans-Fat
ถ้าเทียบคนที่เสียชีวิตจากโรค ไขมันทรานอาจจะทำลายผู้คนมากกว่านิวเคลียร์เสียอีกครับ
ปกติน้ำมันพืชที่ใข้ทอดอาหารนั้น พอทอดไปสักพักจะเริ่มเหม็นหืนและเสียสภาพ
แต่น้ำมันพืชที่ผ่านการทำให้เสถียร จะกลายเป็นน้ำมันทราน ทำให้ทนทานต่อความร้อน ทอดได้นาน ไม่เสียสภาพและเหม็นหืน
ร้านอาหารที่ต้องทอดของบ่อยๆ ครั้งละมากๆ ก็เลยหันมาใช้น้ำมันทรานกัน
ซึ่งต่อมางานวิจัยก็ได้พบว่ามันเป็นปัจจัยที่ก่อโรคได้มากจริงๆ แม้ในปริมาณน้อย
( ไขมันทรานที่เพิ่มขึ้น 2% เพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจ 23% )
สิ่งที่จะตามมาคือ โรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมองตีบ โรคอ้วน เบาหวาน สารพัดโรคที่ลดอายุขัยของพวกเรา
แหล่งที่มา
น่าเสียดายว่าประเทศไทยยังไม่มีกฏหมายบังคับให้ผู้ผลิต ระบุประมาณไขมันทรานออกมาอย่างเป็นทางการ
การจะรู้ให้ชัดว่าอาหารไหนมีไขมันทรานจึงยังทำไม่ได้ครับ
แต่ว่าส่วนใหญ่ที่พบก็ประมาณนี้ครับ
ของทอดทั้งหลายครับ ขนมอบกรอบ มันฝรั่งทอด
ฟาสฟู้ด เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด
ขนมอบ เค้ก โดนัท
ปริมาณที่เหมาะสม
ด้วยความที่ก่อโรคได้มากมาย ไขมันทรานไม่จำเป็นสำหรับร่างกายเลยครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมเป็นหมอครับ กำลังทำเพจเกี่ยวกับสุขภาพง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
Facebook : https://www.facebook.com/qiniccom/
สำหรับใครที่มีคำถาม หรืออยากแชร์ประสบการณ์ในการดูแลรักษาโรคต่างๆ ผมยินดีครับ