สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิปทุกๆคน ก่อนอื่นขอออกตัวเลยว่าเป็นคนที่เขียน พิมพ์หรือเรียบเรียงกระทู้ หรือบทความใดๆไม่เก่งเลยค่ะ ขอเริ่มเรื่องเลยน๊ะคะ
เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ไปทำการรีไฟแนนซ์รถกับธนาคารแห่งหนึ่ง(รถมียอดค้างประมาณ 120,000) ก่อนหน้านี้เราได้หาข้อมูลมาจากเว็บของธนาคารแห่งหนึ่งว่าธาคารจะสามารถจัดการปิดค่ารถงวดที่เหลือโดยตรงกับบริษัทที่เราผ่อนรถอยู่ได้เลยค่ะ เมื่อปิดค่างวดที่เหลือจะสามารถโอนเล่มทะเบียนมาให้ธนาคารภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ต่อจากนั้นเราก็จะได้รับเงินก้อนที่เหลือจากธนาคารค่ะ ซึ่งได้มีการดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับเอกสารและผ่านการพิจารณาให้เรียบร้อยแล้ว อนุมัติยอดเงินให้กู้ 370,000 แต่ยังไม่ได้รับเงินน๊ะคะ มาติดตรงที่ ผู้จัดการธนาคาร ติต่อคนกลางมาให้ ในที่นี้ขอเรียกว่า บริษัท ก. ค่ะเป็นเต๊นท์รถ และบริการให้กู้ปิดค่างวดรถ บริษัทนี้จะปิดค่างวดที่เหลือให้เราในอัดตราคิดดอกเบี้ย 8 เปอร์เซ็นต์ของยอดที่จะปิด(จ่ายดอกประมาหมื่นนิดๆ) แล้วรถจะต้องถูกโอนไปเป็นชื่อของบริษัทนี้ก่อนจะไปถึงมือธนาคาร นอกจากนี้ บริษัท ก. ยังได้บอกอีกว่า หลังจากปิดค่างวดหมดแล้ว จะใช้เวลาในการโอนเล่มทะเบียน 1 เดือน ถ้าอยากให้เร็วขึ้น ต้องจ่ายค่าดำเนินการพิเศษอีก 500 บาท จะร่นระยะเวลาเหลือเพียง 2 สัปดาห์ มีค่าตรวจสภาพรถอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ยังไม่ได้แจ้งว่าเท่าไหร่ แต่ทางบริษัท ก. บอกว่าต้องตรวจกับร้านที่บริษัท ก. กำหนดมาแล้วเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีค่าดำเนินการ อีก 2,000 บาท ..
เราจึงได้เกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก มึนติ๊บ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดีค่ะ เลยตัดสินใจ ในใจคิดสงสัยว่าผู้จัดการธนาคารสาขาที่เรายื่นกู้ไปกับบริษัท ก. มีนอกมีในยังไงกันรึปล่าว ถึงเราจะไม่เก่งไม่ฉลาดแต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบค่ะ
จากที่สงสัยจึงได้ไปลองถามธนาคารเดิมแต่ต่างสาขา
เรา: ธนาคารปิดค่ารถให้โดยตรงแล้วหลังจากปิดแล้วมีการโอนเล่มทะเบียนให้ธนาคารแล้วนั้นเราจะได้รับเงินส่วนที่เหลือ ทำได้หรือ ไม่ค่ะ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
พนักงานสาขา 2: ถ้าเอกสารผานการพิจารณาแล้ว สามารถทำได้ค่ะ (ตรงตามที่ได้หาข้อมูลโดยตรงมาจากเว็บไซน์ของธนาคารเลยค่ะ)
เรา: เอ่อคือพอดีเอกสารพี่ผ่านแล้วค่ะ ทำไว้ที่สาขา 1 แต่ที่สาขา 1 บอกว่าได้ติดต่อ บริษัทนึงเพื่อมาเคลียร์ค่างวดที่เหลือให้พี่
พนักงานสาขา2: ลองติดต่อผู้จัดการธนาคารสาขานั้นดูค่ะ พนักงานเค้าอาจจะขี้เกียจก็ได้ค่ะพี่ จริงๆแล้วธนาคารสามารถทำได้เลย
เรา: (จึงได้ตัดสินใจบอกเค้าไปว่า) ผู้จัดการสาขานั่นแหละค่ะแนะนำบริษัท ก. ให้พี่ค่ะ
พนักงานสาขา 2 : (อึ้ง.... ออกอาการอึ้งอย่างเห็นได้ชัด)
เรา: พี่คงมีปัญหาแล้วแหละค่ะ แล้วถ้าพี่จะขอเดินเรื่องใหม่ที่สาขาอื่นจะได้มั้ยค่ะ
พนักงานสาขา2: ไม่ได้ค่ะพี่ ดำเนินเรื่องกู้ต่างสาขาในเวลาเดียวกันไม่สามารถทำได้ เอางี้ค่ะพี่ลองติดต่อฝ่ายเงินกู้ของธนาคารดูค่ะ เบอร์สำนักงานใหญ่ภาคใต้ XXXXXXX
เรื่องนี้ขอยกให้เป็นกรณีศึกษาน๊ะค่ะ เผื่อใครจะนำรถไปรีไฟแนนซ์กับธนาคาร จะได้รู้เท่าทัน
เรื่องนี้ไม่ได้โทษระบบธนาคารน๊ะค่ะ ถ้าจะมีปัญาหาก็มาจากตัวบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
พรุ่งนี้จะลองโทรไปคุยกับสาขาใหญ่ดูค่ะ ได้ความยังไงจะมาบอกกล่าว
แต่ตอนนี้...รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ใครเคยเจอกรณีคล้ายๆกันหรือมีคำแนะนำอะไร จะทำยังไงดีค่ะทุกคน .......
ขออภัยหากแท็กผิดห้องค่ะ...
ไปยื่นกู้ธนาคาร แต่สงสัยว่าผุ้จัดการเล่นไม่ซื่อ
เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ไปทำการรีไฟแนนซ์รถกับธนาคารแห่งหนึ่ง(รถมียอดค้างประมาณ 120,000) ก่อนหน้านี้เราได้หาข้อมูลมาจากเว็บของธนาคารแห่งหนึ่งว่าธาคารจะสามารถจัดการปิดค่ารถงวดที่เหลือโดยตรงกับบริษัทที่เราผ่อนรถอยู่ได้เลยค่ะ เมื่อปิดค่างวดที่เหลือจะสามารถโอนเล่มทะเบียนมาให้ธนาคารภายในหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ต่อจากนั้นเราก็จะได้รับเงินก้อนที่เหลือจากธนาคารค่ะ ซึ่งได้มีการดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับเอกสารและผ่านการพิจารณาให้เรียบร้อยแล้ว อนุมัติยอดเงินให้กู้ 370,000 แต่ยังไม่ได้รับเงินน๊ะคะ มาติดตรงที่ ผู้จัดการธนาคาร ติต่อคนกลางมาให้ ในที่นี้ขอเรียกว่า บริษัท ก. ค่ะเป็นเต๊นท์รถ และบริการให้กู้ปิดค่างวดรถ บริษัทนี้จะปิดค่างวดที่เหลือให้เราในอัดตราคิดดอกเบี้ย 8 เปอร์เซ็นต์ของยอดที่จะปิด(จ่ายดอกประมาหมื่นนิดๆ) แล้วรถจะต้องถูกโอนไปเป็นชื่อของบริษัทนี้ก่อนจะไปถึงมือธนาคาร นอกจากนี้ บริษัท ก. ยังได้บอกอีกว่า หลังจากปิดค่างวดหมดแล้ว จะใช้เวลาในการโอนเล่มทะเบียน 1 เดือน ถ้าอยากให้เร็วขึ้น ต้องจ่ายค่าดำเนินการพิเศษอีก 500 บาท จะร่นระยะเวลาเหลือเพียง 2 สัปดาห์ มีค่าตรวจสภาพรถอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ยังไม่ได้แจ้งว่าเท่าไหร่ แต่ทางบริษัท ก. บอกว่าต้องตรวจกับร้านที่บริษัท ก. กำหนดมาแล้วเท่านั้น และนอกจากนี้ยังมีค่าดำเนินการ อีก 2,000 บาท ..
เราจึงได้เกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก มึนติ๊บ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดีค่ะ เลยตัดสินใจ ในใจคิดสงสัยว่าผู้จัดการธนาคารสาขาที่เรายื่นกู้ไปกับบริษัท ก. มีนอกมีในยังไงกันรึปล่าว ถึงเราจะไม่เก่งไม่ฉลาดแต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบค่ะ
จากที่สงสัยจึงได้ไปลองถามธนาคารเดิมแต่ต่างสาขา
เรา: ธนาคารปิดค่ารถให้โดยตรงแล้วหลังจากปิดแล้วมีการโอนเล่มทะเบียนให้ธนาคารแล้วนั้นเราจะได้รับเงินส่วนที่เหลือ ทำได้หรือ ไม่ค่ะ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
พนักงานสาขา 2: ถ้าเอกสารผานการพิจารณาแล้ว สามารถทำได้ค่ะ (ตรงตามที่ได้หาข้อมูลโดยตรงมาจากเว็บไซน์ของธนาคารเลยค่ะ)
เรา: เอ่อคือพอดีเอกสารพี่ผ่านแล้วค่ะ ทำไว้ที่สาขา 1 แต่ที่สาขา 1 บอกว่าได้ติดต่อ บริษัทนึงเพื่อมาเคลียร์ค่างวดที่เหลือให้พี่
พนักงานสาขา2: ลองติดต่อผู้จัดการธนาคารสาขานั้นดูค่ะ พนักงานเค้าอาจจะขี้เกียจก็ได้ค่ะพี่ จริงๆแล้วธนาคารสามารถทำได้เลย
เรา: (จึงได้ตัดสินใจบอกเค้าไปว่า) ผู้จัดการสาขานั่นแหละค่ะแนะนำบริษัท ก. ให้พี่ค่ะ
พนักงานสาขา 2 : (อึ้ง.... ออกอาการอึ้งอย่างเห็นได้ชัด)
เรา: พี่คงมีปัญหาแล้วแหละค่ะ แล้วถ้าพี่จะขอเดินเรื่องใหม่ที่สาขาอื่นจะได้มั้ยค่ะ
พนักงานสาขา2: ไม่ได้ค่ะพี่ ดำเนินเรื่องกู้ต่างสาขาในเวลาเดียวกันไม่สามารถทำได้ เอางี้ค่ะพี่ลองติดต่อฝ่ายเงินกู้ของธนาคารดูค่ะ เบอร์สำนักงานใหญ่ภาคใต้ XXXXXXX
เรื่องนี้ขอยกให้เป็นกรณีศึกษาน๊ะค่ะ เผื่อใครจะนำรถไปรีไฟแนนซ์กับธนาคาร จะได้รู้เท่าทัน
เรื่องนี้ไม่ได้โทษระบบธนาคารน๊ะค่ะ ถ้าจะมีปัญาหาก็มาจากตัวบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
พรุ่งนี้จะลองโทรไปคุยกับสาขาใหญ่ดูค่ะ ได้ความยังไงจะมาบอกกล่าว
แต่ตอนนี้...รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ใครเคยเจอกรณีคล้ายๆกันหรือมีคำแนะนำอะไร จะทำยังไงดีค่ะทุกคน .......
ขออภัยหากแท็กผิดห้องค่ะ...