เหตุมา :
“ที่นี่เป็นร้านทงคัตสึที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นนะ คุณภาพดีไฮเอน”
“ชื่ออะไรนะคะ”
“ไมเซน”

ปิ๊งแว่บขึ้นมาสมัยทำงานเมื่อ 2 ปีก่อน
“ทรายกินแซนวิชนี่ดิ อร่อยมาก”
“ไปทำงานก่อนนะคะ”
“เฮ้ยย กินเลย หยิบ! ไม่กินจะเสียใจ”
นึกในหัว : แซนวิชที่ไหนก็เหมือนกัน จะอร่อยขึ้นมาด้วยวิธีไหนอีก
“ง่า ค่ะๆ”
กัดไปคำแรก…(คิ้วขมวด)….. รีบหันจะมาหยิบอีกชิ้น แต่!หมดค่ะ!

เรื่องจึงเกิด :
ไลน์ไป : พี่ๆ 18 นี้ว่างมั้ยยย ไปกินหมูกันนน

    -- ฉุกคิดก่อนถึงวันกินหมู
    อยู่ๆก็หวนระลึกถึงสมัยตอนไปใช้ชีวิตกับเพื่อนๆที่ญี่ปุ่น อาหารมื้อหนึ่งที่ติดใจเลย คือ ทงคัตสึ  ทรายจังรู้สึกอร่อยมาก แต่ก่อนจะอร่อยเพื่อนๆต้องสอนทรายจังทาน ว่ากินอะไรก่อน ใส่ซอสยังไง …สนุก
    ส่วน ทงคัตสึ ของญี่ปุ่นนี่มายังไง ต้นกำเนิดมาแบบไหน ทรายจังทราบว่าคนญี่ปุ่นออริจินัลชอบทำอาหารด้วยการนึ่ง ต้ม หรือปลายังกินดิบๆ แต่หมูทอดทงคัตสึเนี่ยมีความแปลกออกไปคือรับวิวัฒนาการการทำอาหารของชาติยุโรปที่เริ่มแทรกซึมเข้ามาตั้งแต่สมัยเมจิ จนมีการพลิกแพลงไปมาจนได้หมูทอดทงคัตสึจานนี้ มักทานคู่กับซุปมิโซะ กะหล่ำฝอยและข้าว หน่าก้ะ
   ชัดเจนเลยในชื่อของเค้า ที่มาจาก... ทง คือหมูในภาษาญี่ปุ่น และ... คัตสึ คือ Cutlet ในภาษาอังกฤษ ผสมรวมกันเป็นลูกครึ่งไง เย่
ที่น่าสนใจคือ คัตสึ ภาษาญี่ปุ่นนั้น จริงๆมีความหมายว่าชัยชนะขอรับท่าน ดังนั้นชาวญี่ปุ่นจึงมักให้ทงคัตสึแก่กัน เพื่ออวยพรให้ได้ชัยชนะอย่างไรล่ะ!

ต่อไปจำไว้นะ ให้ทงคัตสึ = Win

    ดังนั้นทรายก็ถือเคล็ดเหมือนกันว่าการชวนพี่ๆมาทานทงคัตสึก็คืออวยพรให้ชนะเหมือนกัน ฮ่าาาา
    วันนี้เป็นวันน้ำตาไหลที่ทางร้านไมเซนก็เชิญชวนทรายจังมาเยี่ยมเยียนเจ้าหมูทอดทงคัตสึถึงที่สาขาฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต... หมายความว่า!! เค้ากำลังอวยพรทรายให้ประสบความสำเร็จในชัยชนะสินะ!! ซึ้งมากๆเลยก้ะ