นิยายแห่งความฝัน ตอน นกเชอรี่ ตอนที่2

กระทู้สนทนา
สวัสดีอีกครั้งนะครับ  ผมดีใจมากที่มีคนสนใจอ่านนิยายเรื่องราวที่ผมแต่งเรื่องนี้ ขอบคุณนะครับ  เรื่องราวเป็นยังไงบ้างครั้ง พอไหวเนาะ สนุกไหมครับ...  ผมหวังว่าจะถูกใจแฟนๆชาว Pantip ไม่มากก็น้อยนะครับ เรื่องราว กำลังจะค่อยๆเข็มข้นขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าท่านผู้อ่านจะร่วมผจญภัยไปต่อกับ คาราวานน้อยๆ ทั้งสามคน พร้อมแล้วหรือยัง ! ต่อไปนี้คือ  .... กับ นิยายแห่งความฝัน ตอน นกเชอรี่ ตอนที่ 2 ...... ฟิ้วๆๆ  ...  ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำ ฝนกรดอาจจะทำให้ท่านแสบหน้าก็อาจจะเป็นได้ หึหึหึ ......

  เรื่องราวมีอยู่ว่าสมัยที่มนุษย์ รบราฆ่าฟันกันอย่างบ้าเลือด เพื่อ แย่งชิงอำนาจ และ ทรัพยกรก็มีหญิงสาวคนหนึ่ง !
ซึ่งนามของเธอคือ แฟรนเชีย ลอร์เรียน่า และแน่นอนเธอเป็นคนสวยที่สุดในหมู่บ้าน บางที มีคนพูดถึง ว่าเธอนั้นคือนางฟ้า
แปลงกายลงมาบนโลกมนุษย์ เพื่อช่วยหมู่บ้านให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย ว่าด้วย เธอ ผู้นั้น ผิวพรรณนั้นขาวอมเหลืองนวลราวกับ
แสงอ่อนๆของเปลวเทียนแต่ซ่อนเร้นความร้อนแรงอยู่ภายใน ผมสีเหลืองทอง ยาวลงมาเหมือนผ้าไหม เฮสทอร์ลี่จากสวรรค์
ดวงตาสีฟ้าครามน้ำทะเล นัตย์ตาต้องสะกดจิตใจว่ากันว่าผู้ใดไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ที่จ้องมองตาเธอ จะตกอยู่ในผวังทันที

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  เธอได้หนีออกมาจากบ้านเกิดหลังจากที่หมู่บ้านของเธอถูกโจมตีด้วยกษัตริย์จอมโฉดแห่ง เพริส์แลนด์
หลังจากการโจมตีครั้งนั้นทำให้พ่อ แม่ของเธอถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยการใส่เจ้าตะขาบลงไปในคอแล้วให้มันกัดกินอวัยวะภายใน จน สิ้นใจ
ด้วยคำสั่งของผู้เป็นบิดา มารดา สั่งให้เธอวิ่งไป วิ่งไป ๆ หนีไปให้รอดพ้นจากพวกทหารเลวอย่างไร้จุดหมาย เธอวิ่งไป วิ่งไป จนมาถึงดินแดนแห่งนี้
และ บ้านหลังนี้ ถ้าข้าจำไม่ผิดนะ น่าจะเป็นหลังแรกเลยที่ถูกสร้างขึ้น  ณ ดินแดนที่น่ากลัวแห่งนี้ ถูกต้องนี่คือบ้านของเธอ แฟรนเชีย   ลอร์เรียน่า


แต่ก่อนมันดูสวยเหมือนบ้านบนสวรรค์ มากด้วยพรรณไม้ป่าสวยงาม นานาพรรณ ส่งกลิ่นหอมโชยตลอดเพลา ว่าด้วยเจ้าของของมันนั้นเป็นคนสวยและขยันทำงานเรือน ไม่แพ้ใคร มีจิตใจเมตตา อารีย์ยิ่งนัก  แต่ เดียวนี้ไร้คนดูแล ว่าด้วยแต่เจ้านายของมันเปลี่ยนไปกับ ได้ผูกใจแค้น จน ยอมแลก วิญญาณกัน ตัวอะไรนะ ที่เจ้าถามข้า วิสนี่ โอลลี่ ! เอ้า ๆ อย่างเพิ่งหลับสิ ! แหม่ เจ้าลูกศิษย์ขี้เซาของข้า ฮ่าๆๆ


: ค่ะ อาจารย์ ก็วันนี้ข้าทั้งวิ่งทั้งเดิน เจอฝนกรด สาดใส่หยั่งกับลูกธนูพันดอก ข้าก็เลยเพลียและเกือบจะเผลอหลับหน่ะค่ะ แต่ท่านไม่ต้องกังวลนะข้าไม่ยอมแลกเวลานอนกับเรื่องเล่าของบ้านหลังนี้เป็นแน่ถึงจะ ง้วงและเพลียแค่ไหนก็ตาม อ๊อ !ข้าจำได้แล้ว ! ตัวแทรมกิสค่ะอาจารย์ ข้ายังไม่ลืม !
: ฮ่าๆ ใช่ ๆ แทรมกิส !ที่เจ้าเรียกนี่ล่ะ คือ ตำนานของไฟที่ แฟรนเชีย ลอร์เรียน่า ยอมแลกวิญญาณ กับมัน
: แลกยังไงหรอครับ อาจารย์ โจเซฟฟิน เชนถามพร้อมกับทำหน้า งงๆ?


: เอาล่ะ !  เจ้าเห็นตรงที่เราสามคนนั่งอยู่รอบๆตะเกียงนี่ไหม วิสนี่ โอลลี่ ! ตรงนั้นล่ะ ที่เจ้านั่ง คือที่ๆ แฟรนเชีย ลอร์เรียน่า นั่งอธิฐาน
ขอแลกวิญญาณกับตัวแทรมกิส เพื่อที่จะให้วิญญาณของนางเป็นดวงไฟพวยพุงไปที่ อาณาจักรเพริสแลนด์ที่ชั่วร้ายซึ่งได้พรากชีวิต
ของ พ่อ และแม่ของ นางไป เธอหวังจะแก้แค้นให้พ่อแม่ของเธอ และมันก็สำเร็จดั่งเธอต้องการ เธอนั่งอธิฐานจนน้ำตากลายเป็นสีแดง
ไหลออกมาจนตัวแทรมกิสเห็นใจ จึงยกพลังไฟ ให้เธอ แปลกกายเป็นลูกไฟดาวตก มหึมา ดึ่งลงไปยังอาณาจักรเพริสแลนด์ที่ชั่วร้าย


เจ้าจำได้ไหม ที่มีคนเล่าว่า เคยมีดาวหางไฟ ตกลงบนดินแดนไกลออกไป หนึ่งพันไมล์ ในโลกของเรา
เขาว่ากันว่า นั้นล่ะ ! คือ วิญญาณที่อยากจะแก้แค้นให้กับพ่อแม่ของเธอแฟรนเชีย ลอร์เรียน่า เห็นเขาเล่ากันมาว่า
ตอนลูกไฟนี้ลงไปใส่ท้องพระโรงกษัตริย์ของเพริสแลนด์ ไฟได้เผาทำลายชุดฉลองพระองค์เต็มไปด้วยเลือดและความเคียดแค้น
ทันใดนั้น!  ก็ปรากฎตะขาบเป็นหมื่นๆตัวลุมกัดกินพระวรกายจนเป็นที่ตกใจแก่สามัญชนยิ่งนัก ก่อนจะสิ้นใจ กษัตริย์ชั่ว แห่งเพริสแลนด์
นั้นได้พูดประโยค หนึ่งประโยคออกมาว่า แฟรนเชีย ลอร์เรียน่า ! และนั้นก็เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาจนถึงปัจจุบัน  เป็นไง ฮ่า ฮ่า .. ยังไม่หลับใช่ไหม ลูกศิษย์ทั้งสองของข้า !


: ยังครับ อาจารย์ ข้าว่ามันเป็นเรื่องเล่าที่      มหัศจรรย์ยิ่งนัก !  วันหลังข้าขอฟังอีกนะ โจเซฟฟิน เชน พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าทึ่ง !
: ได้สิๆ ฮ่าๆเจ้าลูกศิษย์ของข้าทั้งสอง
: ว่าแต่ว่า อาจารย์ค่ะ เราจะไปทันช่วยนกเชอรี่ ที่ถูกสาปไหมนะ !
อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงที่กังวลว่า
: ฮึม ! ! เราต้องไปทันแน่นอนลูกศิษย์ข้า


หลังจากที่ทั้งสามคนพักผ่อนกันจนถึงยามเช้าแล้ว ณ ดินแดนแห่งนี่ ตอนเช้าก็เหมือนไม่เช้าเลยสักนิดเดียว
ยังคงมีเมฆหมอกสีดำ และควันพวกพุง ออกมาอยู่เหมือนเดิม และกลิ่นเหม็นสาปของอะไรสักอย่าง
ราวกับอยู่ใกล้ๆกับซากของกวางโฮเวนเดลที่เน่าเปื่อยอย่างไรอย่างนั้น หลังจากที่คาราวานน้อยๆเดินทางต่อไปได้อีกเกือบครึ่งไมล์
ก็ต้องตกใจอย่างสุดขีด เมื่อเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันขึ้น ! จบตอนที่(2)


.....   จบตอนสองแล้ว เหมี๊ยวๆ (อิอิ) เอาไว้ผมจะมาลงต่อให้ในตอนที่(3)นะครับ อย่าเล่นเน็ตแล้วอ่านกันเพลินจนลืมทานข้าวดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ  คาราวานน้อยๆทั้งสาม ... รอให้ท่านผู้อ่านมาร่วมผจญภัยกันต่อในตอนหน้าครับผม สวัสดีครับ  ... ฟิ้วๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่