มติ 153 : 2 เสียง ขึ้นภาษีน้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้

153 : 2 เสียงสปท. โหวตดัน ขึ้นภาษีน้ำอัดลม-ชาเขียว ลดความเสี่ยง “โรคอ้วน-ความดัน” พร้อม เสนอ มท.คุม พ่อค้าทำตลาดแบบเสี่ยงโชค

วันที่ 26 เมษายน เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สปท. เรื่อง “การป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพด้านอาหารและโภชนาการ ในประเด็นการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพ” โดยมีสาระสำคัญคือ เสนอให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องดื่ม อาทิ น้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้ ที่มีปริมาณน้ำตาลเกินมาตรฐานที่กำหนด โดยเสนอให้จัดเก็บภาษี 2 อัตรา ตามความเข้มข้นของน้ำตาลคือ ปริมาณน้ำตาลมากกว่า 6-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ทุกชนิด ในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 20% ของราคาขายปลีก และปริมาณน้ำตาลมากกว่า 10 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ให้จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 25% ของราคาขายปลีก เพื่อให้ประชาชนลดการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และโรคมะเร็ง ที่สร้างภาระให้ประเทศเสียค่าใช้จ่ายจากโรคเหล่านี้จำนวนมาก เพราะเครื่องดื่มในท้องตลาดเกือบทั้งหมดมีน้ำตาลมากกว่า 6 กรัมต่อมิลลิลิตร อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังเสนอให้กระทรวงมหาดไทยควบคุมการทำการตลาดแบบเสี่ยงโชคของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เพื่อควบคุมการกระตุ้นการบริโภคที่มีน้ำตาลควบคู่ไปด้วย

ขณะที่ พญ.พรพันธุ์ บุญยรัตพันธุ์ ประธาน กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนมาตรการที่จำเป็นต่อภาวะที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยบริโภคน้ำตาล 100 กรัม/คน/วัน ถือว่าเกินมาตรฐานสุขภาพที่กำหนดให้บริโภคน้ำตาลไม่เกิน 50 กรัมต่อคนต่อวัน ถือเป็นอันดับ 9 ของโลกที่บริโภคน้ำตาลสูงสุด เป็นการบริโภคมากเกินความจำเป็น ทั้งนี้ ปริมาณเครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ ที่วางจำหน่ายมีปริมาณน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 9-19 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ทั้งที่ค่าน้ำตาลเหมาะสมอยู่ที่ 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จึงควรเพิ่มภาษีในเครื่องดื่มที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่มีความเสี่ยงให้เกิดโรคอ้วน และโรคที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกินมาตรฐานในอัตรา 20% เป็นสิ่งที่องค์การอนามัยโลกได้ศึกษาไว้ว่า มีผลช่วยลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลได้ หลายประเทศที่มีการเก็บภาษีดังกล่าวเช่น เม็กซิโก ฮังการี ก็ช่วยลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลได้

จากนั้น สมาชิก สปท.หลายคนได้อภิปรายแสดงความเห็น อาทิ นายกษิต ภิรมย์ เห็นว่า ควรใช้วิธีรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเกินมาตรฐานแทนการขึ้นภาษี เพราะเป็นการผลักดันภาระให้ผู้บริโภค ขณะที่นายคุรุจิต นาครทรรพ สปท. กล่าวว่า การขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในลักษณะเช่นเดียวกับบุหรี่ สุรา เชื่อว่าคนไทยคงรับไม่ได้ และข้อมูลที่ระบุว่า ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันนั้น ขอถามว่า เป็นผลวิจัยที่มีความครอบคลุมหรือไม่ เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้ไม่ได้มีผลมาจากการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วย เช่น อาหาร กรรมพันธุ์ ควรมีการวิจัยให้ลงลึกไปกว่านี้ เพราะถึงอย่างไรน้ำตาลยังมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ทั้งนี้ หลังจากสมาชิก สปท.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุม สปท.ลงมติเห็นชอบรายงานดังกล่าวด้วยคะแนน 153 ต่อ 2 งดออกเสียง 6 โดยให้ส่งรายงานต่อ ครม. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
http://www.matichon.co.th/news/118039
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เอาแบบลวกๆ รีบๆ นะครับ ไม่มีเวลามาก
__________________________________________________
รายงานรวบรวมการศึกษาเรื่องภาษีกับการลดอัตราความอ้วนในประชากรในปี 2013
รวบรวมการศึกษาในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก บราซิล และฝรั่งเศส
สรุปว่า
- ราคาที่สูงขึ้นของเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมีความสัมพันธ์กับความต้องการเครื่องดื่มที่ต่ำลง
- 6 ใน 9 ของรายงานยืนยันว่าการเพิ่มขึ้นของราคาทำให้ดัชนีมวลกาย (BMI) ของประชากรลดลงและลดความชุกของประชากรที่มีน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนได้
- การเพิ่มภาษีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลลดโรคอ้วนได้
แต่รายงานก็ยังแนะนำให้มีการวิจัยในประเทศ low และ middle income ให้เพิ่มมาขึ้นครับ

อ้างอิง: Cabrera Escobar MA, Veerman JL, Tollman SM, Bertram MY, Hofman KJ. Evidence that a tax on sugar sweetened beverages reduces the obesity rate: a meta-analysis. BMC Public Health. 2013;13:1072.
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3840583/pdf/1471-2458-13-1072.pdf
ความคิดเห็นที่ 7
ภาษี กะ สุขภาพ  ... เลือก เอา มาทำ ทีละอย่างเถิด ... เอามารวมกัน มันดูมั่วนิ่ม พิลึก

ถ้าเรื่องสุขภาพ ก็จำกัด ปริมาณ น้ำตาล ในผลิตภัณฑ์ ... ใครเกิน ก็ต้องมีฉลาก คำเตือน แบบบุหรี่ ก็ได้

ห่วงประชาชน หรือ จะเอา ภาษีเพิ่ม เอาให้ตรงๆประเด็น ...   ผักชี อย่าเยอะ

อมยิ้ม19
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่