คุณมีชัยคิดว่า ช่วงเด็กเล็ก เป็นช่วงที่มีพัฒนาการทางสมองสูงสุด
แต่คุณมีชัยคงลืมไป
เด็กที่จบ ม.3 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สําคัญของชีวิต
หากเด็กไม่มีปัญญาเรียนต่อ ไม่ว่าจะ ม.4- ม.6 หรือ สายอาชีพ
ก็จะมีความเป็นไปได้สองทางคือ
1. เข้าสู่ตลาดแรงงาน ( ซึ่งก็ยากที่พัฒนา เป็นแรงงานที่มีฝีมือ )
2. จับกลุ่มกันเอง หรือ ไม่ก็ไปเข้าพวกกับเด็กที่โตกว่า สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าสู่หนทางแห่งอบายมุข
ตะลึง! รวบเยาวชนวัย 16 ปี ขนยาบ้า 3 แสนเม็ดเข้ากรุง
http://www.newsconnect.co.th/newsdetail.php?typenews=3&idnews=7773
ที่จริง ส่วนตัวผมก็ไม่เห็นด้วย กับการบัญญัติเรื่องเหล่านี้ลงไปในรัฐธรรมนูญ
สมมุติ
ถ้าพรรคการเมืองหนึ่งมีนโยบาย ขยายการเรียนฟรีไปจนถึง ม.6
อย่างนี้ ไม่ทราบว่าผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ แล้วจะต้องถูกยื่นถอดถอนมั้ยครับ
และผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไป เยาวชนที่กระทําผิดกฏหมาย จะเพิ่มขึ้นมากมายขนาดไหน
ตลกดีเหมือนกัน
ทั้งที่เรื่องเหล่านี้
ควรปล่อยให้เป็นนโยบายของพรรคการเมือง ที่จะใช้ในการหาเสียง
แต่คณะท่าน กลับคิด และ นํามาใส่ไว้ให้ในรัฐธรรมนูญ เสร็จสรรพ
ดูไปแล้ว รัฐธรรมนูญไทย เลยไม่ต่างอะไรกับ บะหมี่-ม่าม่า
ประมาณว่า แค่พรรคการเมืองเอาไปลวกนํ้าร้อน แล้วก็ยื่นให้ประชาชนโซ๊ยกันได้เลย
ม่าม่า.....อาจ อร้อย....อร่อย.....สําหรับคนบางกลุ่ม
แต่ไม่มีประโยชน์อะไรกับ สมองของประชาชนเลยน่ะครับ...อิๆ
----------
🌟🌟...สิ่งหนึ่งที่คุณ มีชัย คงลืมไป เกี่ยวกับการเรียนฟรี
แต่คุณมีชัยคงลืมไป
เด็กที่จบ ม.3 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ สําคัญของชีวิต
หากเด็กไม่มีปัญญาเรียนต่อ ไม่ว่าจะ ม.4- ม.6 หรือ สายอาชีพ
ก็จะมีความเป็นไปได้สองทางคือ
1. เข้าสู่ตลาดแรงงาน ( ซึ่งก็ยากที่พัฒนา เป็นแรงงานที่มีฝีมือ )
2. จับกลุ่มกันเอง หรือ ไม่ก็ไปเข้าพวกกับเด็กที่โตกว่า สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าสู่หนทางแห่งอบายมุข
ตะลึง! รวบเยาวชนวัย 16 ปี ขนยาบ้า 3 แสนเม็ดเข้ากรุง
http://www.newsconnect.co.th/newsdetail.php?typenews=3&idnews=7773
ที่จริง ส่วนตัวผมก็ไม่เห็นด้วย กับการบัญญัติเรื่องเหล่านี้ลงไปในรัฐธรรมนูญ
สมมุติ
ถ้าพรรคการเมืองหนึ่งมีนโยบาย ขยายการเรียนฟรีไปจนถึง ม.6
อย่างนี้ ไม่ทราบว่าผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ แล้วจะต้องถูกยื่นถอดถอนมั้ยครับ
และผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไป เยาวชนที่กระทําผิดกฏหมาย จะเพิ่มขึ้นมากมายขนาดไหน
ตลกดีเหมือนกัน
ทั้งที่เรื่องเหล่านี้
ควรปล่อยให้เป็นนโยบายของพรรคการเมือง ที่จะใช้ในการหาเสียง
แต่คณะท่าน กลับคิด และ นํามาใส่ไว้ให้ในรัฐธรรมนูญ เสร็จสรรพ
ดูไปแล้ว รัฐธรรมนูญไทย เลยไม่ต่างอะไรกับ บะหมี่-ม่าม่า
ประมาณว่า แค่พรรคการเมืองเอาไปลวกนํ้าร้อน แล้วก็ยื่นให้ประชาชนโซ๊ยกันได้เลย
ม่าม่า.....อาจ อร้อย....อร่อย.....สําหรับคนบางกลุ่ม
แต่ไม่มีประโยชน์อะไรกับ สมองของประชาชนเลยน่ะครับ...อิๆ
----------