ปล. มีคนสอบถามเรื่องการจองที่พักเข้ามา เรามีข้อมูลการจองที่พักไว้ข้างล่างนะคะ ข้อ 12.
สวัสดีค่ะ เราเพิ่งกลับจากไปเดิน(ปีนเขา)คินาบาลูมาค่ะ เราไปวันที่ 1-4เม.ย. เดินขึ้นวันที่ 2 ลงวันที่3 เม.ย.
อยากเอาข้อมูลมาแชร์ สำหรับคนที่คิดอยากจะไป กำลังจะไป หรือคนไม่เคยคิดจะไป อาจอยากไปขึ้นมาก็ได้นะ
1. ภูเขา Kinabalu อยู่ในเมือง Kota Kinabalu รัฐ Sabah ประเทศมาเลเซียฝั่งตะวันออก เป็นภูเขาที่สูงที่สุดบนเกาะบอร์เนียว สูง อันดับที่20 ของโลก คือ 4,095ม. สูงกว่าดอยอินทนนท์ 1,530ม.
2. ระยะทางเดินขึ้นเขารวม 9กม. คนส่วนใหญ่ใช้เวลาเดิน 2 วัน วันแรกเริ่มแต่เช้า เดินขึ้นเขา 6กม. ใช้เวลา 4-6ชม. เพื่อไปให้ถึงที่พักบนเขา รีบเข้านอนตอนหัวค่ำ เพราะวันที่2 ต้องตื่นตี2 เพื่อเริ่มออกเดินตอน 2:30 เดินขึ้นไปในความมืดอีก 3 กม. ให้ถึงยอดเขาช่วงพระอาทิตย์ขึ้น แล้วรีบเดินลงกลับที่พัก ทานข้าวและต้องcheck out ก่อน10:30 และเดินลงเขาอีก 6กม. กลับทางเดิม สรุปวันที่2 เดินขึ้นลงเขารวม 12 กม. ใช้เวลาเดินรวม 9-11ชม.
3. สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุด แม้ว่าบางคนจะเดินขึ้นไม่ถึงยอดเขา คือ การที่ได้หยุดพักนอนเล่นบนลานหินแกรนิตอันกว้างใหญ่ มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว และได้เห็นทางช้างเผือกชัดๆ ด้วยตาเปล่า ในอากาศหนาวประมาณเกือบ 0 องศา
4. การเดินลงเขา 6กม. หลังสุด เจ็บปวด และทรมานมากกว่าการเดินขึ้นเขา 6 กม. แรกซะอีก ถ้าขาของคุณไม่แข็งแรงพอ ที่สำคัญอย่าลืมตัดเล็บเท้าให้สั้นเข้าไว้ และไม่ควรจองไฟล์ขากลับในวันเดียวกัน เพราะโอกาสที่จะตกเครื่องบินมีสูงมาก
5. ทางเดินไปจุดสูงสุดของเขาKinabalu จะผ่าน ยอดเขาเด่นๆ 3ยอด ยอดแรกคือ South Peak สวยที่สุด ยอด2 St.John's peak ขี้เหร่สุด ยอด3 คือ Low's peak สูงที่สุด 4095.2 m. แม้ชื่อจะแปลว่าต่ำ แต่มันคือชื่อของคนที่ไปถึงลานหินกว้างๆ ข้างบนเป็นคนแรก
6. ที่พักข้างบนเป็น base camp ชื่อ Laban Rata อยู่สูงกว่าดอยอินทนนท์ เป็นเจ้าเดียวที่จัดการที่พักบนนี้ ที่พักเป็นแบบ dorm ห้องน้ำรวมอยู่บนชั้น2 ของห้องอาหาร ที่เป็ศูนย์รวมของทุกคนที่มาเดินขึ้นเขา ราคาน้ำขวดลิตรบนนั้นคือ 150 บาท มีห้องเดี่ยวเป็นหลังกระจายอยู่บริเวณใกล้เคียง อากาศหนาวประมาณ 10องศา ไม่มีน้ำอุ่น แถมในฤดูแล้งจะไม่ค่อยมีน้ำใช้
ห้องพักทั้งหมดส่วนใหญ่จะเต็ม ถ้าให้ชัวร์ต้องจองก่อน1เดือน ค่าที่พัก 1คืน รวมอาหารเบสิค 5 มื้อ ประมาณ 7000 บาทเศษ ต่อคน
7. การมาปีนเขา kinabalu ทุกคนต้องจ้างไกด์ของอุทยาน ซึ่งจะแชร์ได้ 1ไกด์ต่อนักปีนเขา 5คน ค่าไกด์ 1คน ราคา 230 ริงกิต เขาจะอยู่กะเราตั้งแต่ต้นจนจบ คอยดูเรื่องsafety ให้ ส่วนใครที่ชอบท้าทาย อยากลงเขาแบบเสียวๆ ให้ลงแบบ Via Ferrata คือการไต่บันไดเกาะลงไปตามหน้าผาและแขวนชีวิตไว้กับเชือก1 เส้น งานนี้ต้องจ้างไกด์เพิ่มเฉพาะกับทัวร์ของเอกชน และแน่นอนว่าจะต้องจ่ายแพงกว่าปรกติ
8. สถานที่มรดกโลกแห่งนี้ เปิดให้คนเข้าได้วันละ 135 คน เท่านั้น ชาวต่างชาติที่มาขึ้นเขาต้องจ่ายค่าอุทยาน 200 ริงกิต (1800฿) ราคานี้เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2015 ที่ต้องจ่าย 100ริงกิต และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี นอกจากนี้ทุกคนต้องจ่ายค่าประกันชีวิตอีก 7 ริงกิต
9. ใครอยากปีนเขาKinabalu ภายใน1วัน ก็ทำได้ แต่ต้องจ่ายค่า permit เฉพาะ และต้องฟิตมากๆ ถ้าอยากไปถึงยอดเขา เพราะขึ้นลงรวม 18 กม. ไกด์จะไม่ให้เราไปต่อถ้าไปถึงcheck point ไม่ทันเวลาที่กำหนด
10. จาก กทม ไม่มีบินตรงไปที่ เมืองKota Kinabalu ต้องไปtransfer ตามเมืองใหญ่ๆ ในมาเลเซีย เช่น KL ใช้เวลาจาก กทม. รวมต่อเครื่อง อย่างน้อย 7 ชม. บินไปญี่ปุ่นถึงก่อนอีก
11. ค่าใช้จ่ายรวมที่พัก1คืน ในการปีนเขา Kinabalu มากกว่าการไปปีนภูเขาฟูจิ (ที่เตี้ยกว่าเพียง300ม.) ประมาณ 2-3 เท่าตัว
12. เมื่อวางแผนจะไป และได้กำหนดวันที่เราจะไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ
12.1 จองที่พัก - เมลล์ไปจองที่พัก ตามอีเมล์นี้ค่ะ reservations.hq@suterasanctuarylodges.com.my
ต้องใจเย็นๆ หน่อยค่ะ เพราะเค้าจะตอบช้า ของเรารอประมาณ 2 วัน หรือจะเพิ่มอีเมลไปอีกก็ได้ตามนี้ เพราะที่เราหาข้อมูลมามีคนเมลไปหลาย address มาก เราเลย cc ไปทุกอันข้างล่างนี้เลย
ssl.reservation@suterasanctuarylodges.com.my; info@suterasanctuarylodges.com.my; reservations@suterasanctuarylodges.com.my
*การเลือกที่พัก*
ค่าที่พัก 1 คืน คนละ 781 ริงกิต เป็นแบบ dorm นอนเตียง 2 ชั้นรวมอย่างน้อยห้องละ 4 คน ที่บ้านพัก Laban Rata เรทนี้ถูกสุดแล้ว และจะมาเป็นแพคพร้อมอาหาร basic 5 มื้อราคาปี 2016 นะคะ
ค่าที่พัก 2 คืน คนละ 974 ริงกิต รวมอาหารเย็นวันแรก และอาหารทั้งหมด2วัน ตอนปีนเขา โดยคืนแรกพักอยู่ที่พักตรงตีนเขา ก่อนตื่นเช้าปีนขึ้นไป ก็สะดวกดี ไม่ต้องหาที่พักที่อื่นค่ะ หรือถ้าอยากได้ห้องส่วนตัว Private lodges ก็เพิ่มเป้น 1190 ริงกิต ต่อคน
ส่วนของเราไปหาที่พักคืนก่อนปีนเขาเอาเอง 1 คืนราคาประมาณ 1000 บาท จองใน Agoda อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานที่เป็นทางขึ้นเขาไม่ไกล ประมาณ เดิน 5-10 นาที ราคารวมแล้วถูกกว่าจองแพค 2คืนเกือบคนละ 1000 บาท ถ้าไปมากกว่า 2 คนค่ะ ส่วนอาหารเย็นก็หาทานเองนะ เราไปทานร้านตรงข้ามทางขึ้นอุทยาน รสชาติธรรมดาแบบว่าแค่กันหิว
12.2 จองตั๋วเครื่องบิน - ถ้าช่วง peak ที่พักวันที่เราเลือกอาจจะเต็ม เราควรจองที่พักให้ได้ก่อน แล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบินค่ะ จะได้ไม่เก้อ แต่ควรทำในเวลาไล่เลี่ยวกัน เราจองแยกขานะคะ DMK-KUL ไปกลับ / KUL-BKI ไปกลับ จะได้ราคาถูกกว่าจอง DMK-BKI นะคะ ยังไงก็ต้องไปพักต่อเครื่องที่ KUL เหมือนกัน เราจองก่อนไป 1 เดือน ราคารวมไม่เกิน 5พันกว่าบาทค่ะ
12.3 เตรียมเงินไปจ่ายค่าอุทยาน - ทุกคนต้องจ่ายจำนวนนี้ค่ะ ราคาปี 2016 นะคะ
- ค่าเข้าอุทยาน 15 ริงกิต (10 ริงกิต ถ้าอายุต่ำกว่า 18ปี)/ climbing permit 200 ริงกิต (80 ริงกิต ถ้าอายุต่ำกว่า 18ปี)/ ประกันชีวิต 7 ริงกิต รวม 15+200+7 = 222 ริงกิต จ่ายให้ทางอุทยาน
- ค่า mountain guide 1 คน 230 ริงกิต ราคานี้ผู้ใหญ่แชร์ไปกันได้ 5 คนนะคะ ใครที่อยากจ่ายถูกหน่อยให้ไปเช้าๆ ไปนั่งรอคนมาแชร์ไกด์ได้ โดยเวลาไปจ่ายเงินก็บอกพนักงานว่าอยากแชร์ ส่วนถ้าไปสายก็โอกาสหาคนแชร์ไกด์ก็จะน้อยลงค่ะ แนะนำให้ไปประมาณ 8 โมงเช้านะคะ จะได้รีบขึ้นก่อนด้วย
- ค่ารถตู้ นั่งจากที่ทำการอุทยานขึ้นไปที่ Timpohon gate (จุดเริ่มเดินจริงๆ ) นั่งประมาณ 10นาที ราคา 17 ริงกิต แต่ถ้า 5 คนขึ้นไป เสียแค่ 4.50 ริงกิต ใครฟิตก็เดินขึ้นเองได้ค่ะ แต่ตรงนี้เป็นทางชันมาก
- ค่า porter – 65 ริงกิต ได้ 10 กก. อันนี้เราว่าไม่ค่อยจำเป็น เราจัดกระเป๋าให้ของน้อยที่สุดแล้วแบกเองได้ค่ะ
- Climbing certificate 10.60 ริงกิต อันนี้เค้าจะถามเราข้างบนตอนขาลง ว่าอยากได้ใบประกาศว่าไปถึงยอด Kinabalu ไหม ไม่เอาก็ได้ เราขอทำมาเก็บเป็นที่ระลึก เอาไว้ขำๆ 55
12.4 เตรียมความพร้อมของร่างกาย - ใครที่ออกกำลังทุกวัน มีความฟิตอยู่แล้วก็ไม่ต้องห่วง แต่คนที่ไม่ได้ออกกำลังเป็นประจำ ก็อาจเสียงต่อการขึ้นไม่ถึง (ไม่นับอาการแพ้ความสูงนะคะ) ตัวเราความฟิตระดับวิ่งมาราธอนได้ 21 กม ก็เกือบตายเหมือนกันขาลง เราแนะนำให้ทำท่า Squat วันละ 50-100 ครั้ง จะช่วยให้การปีนป่ายหินขึ้นลงบนภูเขาคินาบาลูไม่ลำบากเกินไป ใครบอกว่าร่างกายไม่พร้อมก็เตรียมใจไปก่อน เด๋วว่ากัน555
12.5 เตรียมจัดของปีนเขา - สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรองเท้า ไม่ต้องเป็นรองเท้า trekking ก็ได้นะ ขออย่างเดียวเอาให้ใส่สบาย และพื้นยางไม่ลื่น อย่างของเราใช้รองเท้าวิ่งธรรมดาเลย เราชอบเพราะเบา และเป็นคู่ที่เราใส่สบายเท้าสุด ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ถ้าไม่อยากไปเช่เสียเงิน ก็เตรียมไปเองได้ค่ะ ที่สำคัญก็ trekking pole กะ head light เอาไว้ใส่ตอนตี2 ที่เดินขึ้นยอดค่ะ แล้วก็เตรียม jacket กันหนาวไปแบบหนา 1 ตัว แบบบาง 1ตัว เพราะตอนอยู่บนยอดหนาว อุณหภูมิ0-5 องศา ส่วนที่ Laban Rata ก็ 10-15 องศา แล้วก็เตรียมขนมเจลลี่ haribo เอาไว้กินเพิ่มพลังระหว่างทางได้ค่ะ
ดูภาพเพิ่มเติมและไปคุยสอบถามกันได้ที่นี่ค่า
https://www.facebook.com/cloudislandwander/photos/?tab=album&album_id=262058410798318
** 11 things about climbing Mt.Kinabalu **
ปล. มีคนสอบถามเรื่องการจองที่พักเข้ามา เรามีข้อมูลการจองที่พักไว้ข้างล่างนะคะ ข้อ 12.
สวัสดีค่ะ เราเพิ่งกลับจากไปเดิน(ปีนเขา)คินาบาลูมาค่ะ เราไปวันที่ 1-4เม.ย. เดินขึ้นวันที่ 2 ลงวันที่3 เม.ย.
อยากเอาข้อมูลมาแชร์ สำหรับคนที่คิดอยากจะไป กำลังจะไป หรือคนไม่เคยคิดจะไป อาจอยากไปขึ้นมาก็ได้นะ
1. ภูเขา Kinabalu อยู่ในเมือง Kota Kinabalu รัฐ Sabah ประเทศมาเลเซียฝั่งตะวันออก เป็นภูเขาที่สูงที่สุดบนเกาะบอร์เนียว สูง อันดับที่20 ของโลก คือ 4,095ม. สูงกว่าดอยอินทนนท์ 1,530ม.
2. ระยะทางเดินขึ้นเขารวม 9กม. คนส่วนใหญ่ใช้เวลาเดิน 2 วัน วันแรกเริ่มแต่เช้า เดินขึ้นเขา 6กม. ใช้เวลา 4-6ชม. เพื่อไปให้ถึงที่พักบนเขา รีบเข้านอนตอนหัวค่ำ เพราะวันที่2 ต้องตื่นตี2 เพื่อเริ่มออกเดินตอน 2:30 เดินขึ้นไปในความมืดอีก 3 กม. ให้ถึงยอดเขาช่วงพระอาทิตย์ขึ้น แล้วรีบเดินลงกลับที่พัก ทานข้าวและต้องcheck out ก่อน10:30 และเดินลงเขาอีก 6กม. กลับทางเดิม สรุปวันที่2 เดินขึ้นลงเขารวม 12 กม. ใช้เวลาเดินรวม 9-11ชม.
3. สิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุด แม้ว่าบางคนจะเดินขึ้นไม่ถึงยอดเขา คือ การที่ได้หยุดพักนอนเล่นบนลานหินแกรนิตอันกว้างใหญ่ มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว และได้เห็นทางช้างเผือกชัดๆ ด้วยตาเปล่า ในอากาศหนาวประมาณเกือบ 0 องศา
4. การเดินลงเขา 6กม. หลังสุด เจ็บปวด และทรมานมากกว่าการเดินขึ้นเขา 6 กม. แรกซะอีก ถ้าขาของคุณไม่แข็งแรงพอ ที่สำคัญอย่าลืมตัดเล็บเท้าให้สั้นเข้าไว้ และไม่ควรจองไฟล์ขากลับในวันเดียวกัน เพราะโอกาสที่จะตกเครื่องบินมีสูงมาก
5. ทางเดินไปจุดสูงสุดของเขาKinabalu จะผ่าน ยอดเขาเด่นๆ 3ยอด ยอดแรกคือ South Peak สวยที่สุด ยอด2 St.John's peak ขี้เหร่สุด ยอด3 คือ Low's peak สูงที่สุด 4095.2 m. แม้ชื่อจะแปลว่าต่ำ แต่มันคือชื่อของคนที่ไปถึงลานหินกว้างๆ ข้างบนเป็นคนแรก
6. ที่พักข้างบนเป็น base camp ชื่อ Laban Rata อยู่สูงกว่าดอยอินทนนท์ เป็นเจ้าเดียวที่จัดการที่พักบนนี้ ที่พักเป็นแบบ dorm ห้องน้ำรวมอยู่บนชั้น2 ของห้องอาหาร ที่เป็ศูนย์รวมของทุกคนที่มาเดินขึ้นเขา ราคาน้ำขวดลิตรบนนั้นคือ 150 บาท มีห้องเดี่ยวเป็นหลังกระจายอยู่บริเวณใกล้เคียง อากาศหนาวประมาณ 10องศา ไม่มีน้ำอุ่น แถมในฤดูแล้งจะไม่ค่อยมีน้ำใช้
ห้องพักทั้งหมดส่วนใหญ่จะเต็ม ถ้าให้ชัวร์ต้องจองก่อน1เดือน ค่าที่พัก 1คืน รวมอาหารเบสิค 5 มื้อ ประมาณ 7000 บาทเศษ ต่อคน
7. การมาปีนเขา kinabalu ทุกคนต้องจ้างไกด์ของอุทยาน ซึ่งจะแชร์ได้ 1ไกด์ต่อนักปีนเขา 5คน ค่าไกด์ 1คน ราคา 230 ริงกิต เขาจะอยู่กะเราตั้งแต่ต้นจนจบ คอยดูเรื่องsafety ให้ ส่วนใครที่ชอบท้าทาย อยากลงเขาแบบเสียวๆ ให้ลงแบบ Via Ferrata คือการไต่บันไดเกาะลงไปตามหน้าผาและแขวนชีวิตไว้กับเชือก1 เส้น งานนี้ต้องจ้างไกด์เพิ่มเฉพาะกับทัวร์ของเอกชน และแน่นอนว่าจะต้องจ่ายแพงกว่าปรกติ
8. สถานที่มรดกโลกแห่งนี้ เปิดให้คนเข้าได้วันละ 135 คน เท่านั้น ชาวต่างชาติที่มาขึ้นเขาต้องจ่ายค่าอุทยาน 200 ริงกิต (1800฿) ราคานี้เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2015 ที่ต้องจ่าย 100ริงกิต และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี นอกจากนี้ทุกคนต้องจ่ายค่าประกันชีวิตอีก 7 ริงกิต
9. ใครอยากปีนเขาKinabalu ภายใน1วัน ก็ทำได้ แต่ต้องจ่ายค่า permit เฉพาะ และต้องฟิตมากๆ ถ้าอยากไปถึงยอดเขา เพราะขึ้นลงรวม 18 กม. ไกด์จะไม่ให้เราไปต่อถ้าไปถึงcheck point ไม่ทันเวลาที่กำหนด
10. จาก กทม ไม่มีบินตรงไปที่ เมืองKota Kinabalu ต้องไปtransfer ตามเมืองใหญ่ๆ ในมาเลเซีย เช่น KL ใช้เวลาจาก กทม. รวมต่อเครื่อง อย่างน้อย 7 ชม. บินไปญี่ปุ่นถึงก่อนอีก
11. ค่าใช้จ่ายรวมที่พัก1คืน ในการปีนเขา Kinabalu มากกว่าการไปปีนภูเขาฟูจิ (ที่เตี้ยกว่าเพียง300ม.) ประมาณ 2-3 เท่าตัว
12. เมื่อวางแผนจะไป และได้กำหนดวันที่เราจะไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ
12.1 จองที่พัก - เมลล์ไปจองที่พัก ตามอีเมล์นี้ค่ะ reservations.hq@suterasanctuarylodges.com.my
ต้องใจเย็นๆ หน่อยค่ะ เพราะเค้าจะตอบช้า ของเรารอประมาณ 2 วัน หรือจะเพิ่มอีเมลไปอีกก็ได้ตามนี้ เพราะที่เราหาข้อมูลมามีคนเมลไปหลาย address มาก เราเลย cc ไปทุกอันข้างล่างนี้เลย
ssl.reservation@suterasanctuarylodges.com.my; info@suterasanctuarylodges.com.my; reservations@suterasanctuarylodges.com.my
*การเลือกที่พัก*
ค่าที่พัก 1 คืน คนละ 781 ริงกิต เป็นแบบ dorm นอนเตียง 2 ชั้นรวมอย่างน้อยห้องละ 4 คน ที่บ้านพัก Laban Rata เรทนี้ถูกสุดแล้ว และจะมาเป็นแพคพร้อมอาหาร basic 5 มื้อราคาปี 2016 นะคะ
ค่าที่พัก 2 คืน คนละ 974 ริงกิต รวมอาหารเย็นวันแรก และอาหารทั้งหมด2วัน ตอนปีนเขา โดยคืนแรกพักอยู่ที่พักตรงตีนเขา ก่อนตื่นเช้าปีนขึ้นไป ก็สะดวกดี ไม่ต้องหาที่พักที่อื่นค่ะ หรือถ้าอยากได้ห้องส่วนตัว Private lodges ก็เพิ่มเป้น 1190 ริงกิต ต่อคน
ส่วนของเราไปหาที่พักคืนก่อนปีนเขาเอาเอง 1 คืนราคาประมาณ 1000 บาท จองใน Agoda อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานที่เป็นทางขึ้นเขาไม่ไกล ประมาณ เดิน 5-10 นาที ราคารวมแล้วถูกกว่าจองแพค 2คืนเกือบคนละ 1000 บาท ถ้าไปมากกว่า 2 คนค่ะ ส่วนอาหารเย็นก็หาทานเองนะ เราไปทานร้านตรงข้ามทางขึ้นอุทยาน รสชาติธรรมดาแบบว่าแค่กันหิว
12.2 จองตั๋วเครื่องบิน - ถ้าช่วง peak ที่พักวันที่เราเลือกอาจจะเต็ม เราควรจองที่พักให้ได้ก่อน แล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบินค่ะ จะได้ไม่เก้อ แต่ควรทำในเวลาไล่เลี่ยวกัน เราจองแยกขานะคะ DMK-KUL ไปกลับ / KUL-BKI ไปกลับ จะได้ราคาถูกกว่าจอง DMK-BKI นะคะ ยังไงก็ต้องไปพักต่อเครื่องที่ KUL เหมือนกัน เราจองก่อนไป 1 เดือน ราคารวมไม่เกิน 5พันกว่าบาทค่ะ
12.3 เตรียมเงินไปจ่ายค่าอุทยาน - ทุกคนต้องจ่ายจำนวนนี้ค่ะ ราคาปี 2016 นะคะ
- ค่าเข้าอุทยาน 15 ริงกิต (10 ริงกิต ถ้าอายุต่ำกว่า 18ปี)/ climbing permit 200 ริงกิต (80 ริงกิต ถ้าอายุต่ำกว่า 18ปี)/ ประกันชีวิต 7 ริงกิต รวม 15+200+7 = 222 ริงกิต จ่ายให้ทางอุทยาน
- ค่า mountain guide 1 คน 230 ริงกิต ราคานี้ผู้ใหญ่แชร์ไปกันได้ 5 คนนะคะ ใครที่อยากจ่ายถูกหน่อยให้ไปเช้าๆ ไปนั่งรอคนมาแชร์ไกด์ได้ โดยเวลาไปจ่ายเงินก็บอกพนักงานว่าอยากแชร์ ส่วนถ้าไปสายก็โอกาสหาคนแชร์ไกด์ก็จะน้อยลงค่ะ แนะนำให้ไปประมาณ 8 โมงเช้านะคะ จะได้รีบขึ้นก่อนด้วย
- ค่ารถตู้ นั่งจากที่ทำการอุทยานขึ้นไปที่ Timpohon gate (จุดเริ่มเดินจริงๆ ) นั่งประมาณ 10นาที ราคา 17 ริงกิต แต่ถ้า 5 คนขึ้นไป เสียแค่ 4.50 ริงกิต ใครฟิตก็เดินขึ้นเองได้ค่ะ แต่ตรงนี้เป็นทางชันมาก
- ค่า porter – 65 ริงกิต ได้ 10 กก. อันนี้เราว่าไม่ค่อยจำเป็น เราจัดกระเป๋าให้ของน้อยที่สุดแล้วแบกเองได้ค่ะ
- Climbing certificate 10.60 ริงกิต อันนี้เค้าจะถามเราข้างบนตอนขาลง ว่าอยากได้ใบประกาศว่าไปถึงยอด Kinabalu ไหม ไม่เอาก็ได้ เราขอทำมาเก็บเป็นที่ระลึก เอาไว้ขำๆ 55
12.4 เตรียมความพร้อมของร่างกาย - ใครที่ออกกำลังทุกวัน มีความฟิตอยู่แล้วก็ไม่ต้องห่วง แต่คนที่ไม่ได้ออกกำลังเป็นประจำ ก็อาจเสียงต่อการขึ้นไม่ถึง (ไม่นับอาการแพ้ความสูงนะคะ) ตัวเราความฟิตระดับวิ่งมาราธอนได้ 21 กม ก็เกือบตายเหมือนกันขาลง เราแนะนำให้ทำท่า Squat วันละ 50-100 ครั้ง จะช่วยให้การปีนป่ายหินขึ้นลงบนภูเขาคินาบาลูไม่ลำบากเกินไป ใครบอกว่าร่างกายไม่พร้อมก็เตรียมใจไปก่อน เด๋วว่ากัน555
12.5 เตรียมจัดของปีนเขา - สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรองเท้า ไม่ต้องเป็นรองเท้า trekking ก็ได้นะ ขออย่างเดียวเอาให้ใส่สบาย และพื้นยางไม่ลื่น อย่างของเราใช้รองเท้าวิ่งธรรมดาเลย เราชอบเพราะเบา และเป็นคู่ที่เราใส่สบายเท้าสุด ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ถ้าไม่อยากไปเช่เสียเงิน ก็เตรียมไปเองได้ค่ะ ที่สำคัญก็ trekking pole กะ head light เอาไว้ใส่ตอนตี2 ที่เดินขึ้นยอดค่ะ แล้วก็เตรียม jacket กันหนาวไปแบบหนา 1 ตัว แบบบาง 1ตัว เพราะตอนอยู่บนยอดหนาว อุณหภูมิ0-5 องศา ส่วนที่ Laban Rata ก็ 10-15 องศา แล้วก็เตรียมขนมเจลลี่ haribo เอาไว้กินเพิ่มพลังระหว่างทางได้ค่ะ
ดูภาพเพิ่มเติมและไปคุยสอบถามกันได้ที่นี่ค่า
https://www.facebook.com/cloudislandwander/photos/?tab=album&album_id=262058410798318