เรื่องสั้น : เหยื่อ ( บทจบ)

กระทู้สนทนา



*** เรื่องสั้นชุดนี้ เป็นนิยายที่ผู้เขียน สมมุติเหตุการณ์ บุคคล และสถานที่ ขึ้นมาตามจินตนาการเท่านั้น
ผู้เขียนแต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลใดๆทั้งสิ้น โปรดอ่านอย่างใช้วิจารณญาณ ขอบคุณค่ะ ***




เหยื่อ.....บทแรก  http://ppantip.com/topic/34974023
เหยื่อ.....บทสอง  http://ppantip.com/topic/34990024



เสียงสวดพึมพำดังเป็นทำนองภาษาบาลีสลับเสียงสูงต่ำแว่วมาตามลม  ชวนน่าขนลุกยื่งนัก ในค่ำคืนดึกๆอย่างนี้  
เสียงหริ่งหรีดเรไร ที่เคยส่งเสียงกลับเงียบสนิท คงมีแต่เสียงพึมพำแทรกอยู่ในความมืด

ในกระท่อม ไฟสลัวจากเทียนไขเล่มใหญ่  ไหววูบวาบส่องให้เห็นร่างเปลือย ขาวโพลน ปราศจากอาภรณ์ของสตรีนางนิ่ง
ที่นอนนิ่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่

บุรุษที่ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าอวดรอยสักรอยสักเต็มพรืด กำลัง พึมพำบทสวดอยู่ในลำคอ มือที่ดำไปด้วยหมึกสัก
ถือขวดน้ำมันหยดใส่ร่างขาวโพลนนั้น ..เขาหยดมันลงบนใบหน้า และหยอดมายังคอ  หน้าอก และหน้าท้อง ตามลำดับ

มือที่เหลืออีกข้างลูบไล้ วนคลึงหยดน้ำมันให้แผ่กระจาย  จากใบหน้า มาสู่ลำคอ ลามเรื่อยเป็นวงกว้าง จนถึงเนินถันของหญิงสาว
น้ำมันมะเมื่อมฉาบซอกซอนไปตามแรงมือที่เคล้าคลึง แสงเทียนสะท้อนส่องให้เกิดเงาวาววับจากกายนาง  

หญิงสาวเริ่มส่งเสียงครางตามแรงมือที่ขยับลูบต่ำลงไปเรื่อยๆ จากอกเต่งตึง ไล้ลงไปจนถึง หน้าท้องที่เนียนแน่น เลื้อยลงมา
ตรง ต้นขาขาวละเอียด และไปหยุดที่เนินสาวที่ไม่มีอะไรปกปิด

หยดน้ำจากขวดใส ถูกเหยาะลงไปตรงเนินนูน  มือใหญ่หยาบเริ่มเคล้นคลึงอย่างเบาๆและเพิ่มแรงคลึงมากขึ้นเรื่อยๆ
แรงสัมผัสจากมือที่เน้นหน่วง ทำให้หญิงสาวต้องบิดกายอย่างเร่าร้อน เมื่อมือที่ชุ่มไปด้วยน้ำมันรุกล้ำไปในพื้นที่สงวน

อารมณ์ที่ร้อนระอุ เหมือนไฟที่กำลังปะทุขึ้นอย่างช้าๆ  และถาโถมแรงขึ้น.... แรงขึ้น ....จนยากห้ามอารมณ์ที่ปั่นป่วน


ลมหายใจของใครบางคน กำลังรดรินใส่ใบหน้าของเธอจนรู้สึกได้  เสียงหายใจ ฟืดฟาด และ หยดน้ำเหนียวหยดแหมะ
ลงบนใบหน้าเธอ จนชุ่ม ทำให้เธอต้องลืมตา มองขึ้นไป

พระเจ้า !!! เมื่อ ลืมตาขึ้น ระยะห่างที่ไม่เกินสิบเซ็นต์    ใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยน้ำเลือดน้ำหนองผมเผ้ารุงรัง
เนื้อตัวส่งกลิ่นเหม็นเน่า ที่รินรดลงมาบนปลายจมูกเธอ  กำลังก้มมองเธอด้วยดวงตาโปนแดงฉาน จนแทบถลน ออกมาจากเป้า
น้ำลายขุ่นคลั่กเหนียวหนืด ผสมน้ำเหลืองเน่าๆ  ยืดไหลลงมาเป็นสายโป๊ะ ลงที่ใบหน้าเธอเต็มไปหมด


หญิงสาวกรีดร้อง  ออกมาอย่างสุดเสียง.....กรี๊ดดดดดดดดดด

......................................

" สา ตื่น ตื่นสิ เป็นอะไร " ปรมัตถ์ ผู้เป็นสามี เขย่าตัวภรรยา เพื่อให้หล่อนรู้สึกตัว  สาวิตรีลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง

เธอฝันไปน่ะเอง  หลังจากกลับมาจากอาศรมคนทำเสน่ห์ เธอก็ฝันร้าย มันคงเป็นความฝันที่จะต้องคอยหลอกหลอน
เธออยู่ร่ำไป ตราบใดที่ภารกิจเธอยังคงไม่สำเร็จ

เธอยิ้มให้สามี แล้วบอก”  นอนต่อเถอะค่ะ สาแค่ฝันร้าย “


.............................


ยุวดี  สาวใหญ่ร่างอวบ กำลังลุกลี้ลุกลน ในการคอยใครคนหนึ่ง เมื่อร่างชายชุดขาว ก้าวเข้ามาในร้านอาหาร
เธอรู้สึกโล่งใจ ที่นัดครั้งนี้ไม่เป็นหมัน  อาจารย์สมภพมาตามนัด และมาคนเดียว ต่อไปก็เพียงรออีกคนที่จะตามมา

ข้อดีของการนัดเวลาล่วงหน้าก่อนอีกคน  คือทั้งสองคนจะได้ตกลงทำความเข้าใจกันนี่แหล่ะ


หมอเสน่ห์ นั่งลงข้างสาวใหญ่ มือก็มองนาฬิกาว่ามาตรงกับที่นัดไว้  เมื่อเจอกันแค่สองคน คำถามจึงเกิดขึ้นเพราะความสงสัย

“ ทำไม ไม่คุยทางโทรศัพท์เลยล่ะคุณยุ มาคุยที่นี่ทำไม ปรกติ หมอจะไม่ออกมาข้างนอกคนเดียวน่ะเนี่ย”
มีอะไร ด่วนมากเหรอ  ก็อีกสองวันจะทำพิธีแล้วนี่ “  
ใจก็ไพล่ไปนึกถึงใบหน้างามของสาวคนนั้น


“ ก็มีสิคะ จารย์ คราวนี้ ลาภก้อนใหญ่เลยล่ะ “ คนมาใหม่ขมวดคิ้ว แค่ ได้สาวคนนั้นมาเป็น “ เหยื่อ “ ก็คุ้มค่าแล้ว
นี่ยังจะมีลาภก้อนใหญ่อีกหรือ ?  ยิ่งคิดยิ่งสงสัย

“ ก็น้องสา น่ะสิคะ แกจะจ่ายให้อีกสามสี่เท่าน่ะค่ะ แกว่า แกจะให้ สองแสน ถ้าหากพาหมอไปทำพิธี ที่บ้านแก แถวปากช่อง”

“  แกอยากให้ อาจารย์ ไปดูที่ทางของแกด้วย แกจะขายน่ะ ...ที่ทางลูกสาวบ้านนี่เยอะนะ ถ้าปะเหมาะเคราะห์ดี อาจารย์ทำให้
น้องสา ยอมทุกอย่าง  รับรองงานนี้รวยแน่ๆคร่า ที่แถวนั้นขายได้ไม่ต่ำกว่า ห้า หกสิบล้านเชียวนะคะ  “



สาวใหญ่ ฝันหวานถึงเงินก้อนโต หมอพยักหน้ารับรู้ของเหตุผลที่มา แต่ก็ถามต่อเพราะยังลังเล “ จะไปวันนี้เลยเหรอ “

" โห..จารย์ขา คิดดูนะ กว่า ยุ จะติดต่อน้องสา ได้ก็ไม่ง่ายเลยนะ ที่เธอจะยอมคุยด้วย วันดีคืนดี เธอก็ติดต่อ ยุ  มาแล้ว
แถม ต้องการทำเสน่ห์อีก แบบนี้ไม่เรียกว่าฟลุ๊ค แบบประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แล้วจะให้เรียกอะไรล่ะคร้า"


" โอกาสแบบนี้ต้องคว้าค่ะ เผลอๆ ถ้าอาจารย์ทำให้คุณน้องสา เธอไว้ใจหรือตกหลุมรักได้
คราวนี้ ยิ่งกว่าหนูตกถังข้าวสารอีกน้า”


สาวใหญ่ยกกาแฟขึ้นดูด หลังจากพล่ามจนน้ำลายแตกฟอง เพื่อโน้มน้าว  
และแน่นอน เมื่อมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนแบ่งก็ต้องตามมา

“ ยุขอก่อน แสนนึงนะ แบ่งคนละครึ่ง  และถ้าปอกมาได้อีก  ยุค่อยมาหารที่ได้ ครั้งหลัง   “

หญิงอวบไม่ปล่อยให้ หมอสมภพ ออกความเห็นอะไรมาก เธอวางบทและกำกับจนเสร็จ
แน่นอน !  นายหน้าอย่างยุวดี หมอเสน่ห์ต้องทำตามอยู่แล้ว

“  งั้นก็ตามใจ ไปก็ไป ว่าแต่ขับตามกันไปเหรอ  “ แค่ปากช่อง สองชั่วโมงก็คงถึง”

  ยุวดี ตอบทันทีที่หมอพูดจบ “ขาไป  น้องสาจะไปกับเรา แต่ตอนกลับเห็นบอกจะค้างที่บ้าน นะ เราก็กลับกันสองคนล่ะค่ะ”

“   อืมส์.. ยังไงก็ได้ วันนี้ไม่มีนัดลูกค้าแล้วนี่” หมอเสน่ห์ ตัดบทเพราะไหนๆก็คงต้องไปอยู่แล้ว


สักพัก ร่างงามระหงส์ ก็เดินเปิดประตูเข้ามา เสื้อยืดรัดรูปสีขาวกับกางเกงยีนส์ฟอกสี ทำใหญิงสาว ดูน่ารักขึ้นไปอีก

หมอสมภพ รู้สึกพึงใจในเรือนร่างนั้น ภาพมโนในด้านมืดผุดขึ้นเมื่อคิดว่าถ้าเสื้อผ้าชุดนี้ถอดออก รูปร่างนางจะเป็นเช่นไร

สาวิตรี ยกมือไหว้ทั้งสองคน พร้อมเอ่ยถาม “ มานานยังคะ “

“  อุ้ย เพิ่งมานั่งแป๊ปเดียวเองคร่า ขุ่นน้อง ไม่นานเล้ย “ สาวอวบโกหกหน้าตาเฉย

“  งั้นไปเลยป่ะคะ เดี๋ยวขากลับจะค่ำซะ”  หล่อนถามต่อพร้อมปิดประเด็น เหมือนกลัวทั้งสองจะเปลี่ยนใจ

“ ไปคะไป”   .....แล้วทั้งสามก็เดินทางมุ่งหน้าไปยังปากช่อง จุดหมายปลายทาง...

ยังมีต่อค่ะ...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่